ตอนที่ 749 มีส่วนร่วม
บนโลกใบนี้ ผู้ที่แข็งแกร่งเป็นผู้ที่เหนือกว่า หลักการนี้มีมานานเป็นพัน ๆ ปีไม่เคยแปรเปลี่ยน และจะเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ
โดยเฉพาะโลกของยุทธภพหรือผู้ฝึกพลังวิชา กฎเกณฑ์ของโลกมนุษย์ไม่อาจนำมาใช้กับพวกเขาได้ ฝีมือเป็นมาตรฐานเดียวที่ชี้วัดความจริง
เยี่ยเทียนรู้ดีว่าเหมืองทองคำตรงนั้นจะต้องมีของดี และมันก็เป็นของเขา เยี่ยเทียนไม่กล้าละเลยแม้แต่ก้าวเดียว และไม่กล้าทำในสิ่งที่อาจทำให้ติงหงโกรธเคืองเขาได้
“ว่าแต่ลุงเฉินครับ เหมืองทองคำนั่นอยู่ตรงไหนของไซบีเรียเหรอครับ ? ” เยี่ยเทียนเงียบไปครู่หนึ่งแล้วถามออกไป ตอนนี้ตัวเขาเองก็อยู่ไซบีเรีย ถ้ามีโอกาส แวะไปดูซะหน่อยก็ดีเหมือนกัน
“อยู่ทางภาคเหนือของอีร์คุตสค์ ห่างจากสาธารณรัฐซาคาไม่ไกลมากนัก แต่เหมืองแร่จะอยู่ในเขตเทือกเขา เวลาขุดเจาะอาจจะลำบากหน่อย ต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะ”
เฉินสี่ฉวนไม่รู้ว่าเยี่ยเทียนอยู่ไซบีเรียแล้ว เขาบอกตำแหน่งคร่าว ๆ ของเหมืองทองคำให้กับเยี่ยเทียน ที่ตรงนั้นเป็นที่ราบหนาวเย็น ความยากในการขุดเจาะค่อนข้างมาก
“ภาคเหนือของอีร์คุตสค์ ? ไปอยู่ตรงนั้นได้ยังไงครับ ? ”
เยี่ยเทียนตกใจ เพราะค่ายฝึกมวยบนแผนที่ของอันเดรวิช อยู่ตำแหน่งเดียวกันกับที่เฉินสี่ฉวนพูด ระยะห่างของทั้งสองตำแหน่งไม่น่าจะเกิน 100 กิโล
“ทำไมเหรอ ? เยี่ยเทียน มีปัญหาอะไรหรือเปล่า ? ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอวางสายก่อน ! ”
เสียงของเฉินสี่ฉวนทำให้เยี่ยเทียนดึงสติกลับมา เขาคิดไปครู่หนึ่งแล้วพูดต่อว่า “ไม่มีอะไรแล้วครับลุงเฉิน เหมืองทองคำนั่นพวกเราจะขุดเจาะเองนะครับ ส่วนทางบ้านอวิ๋น ถ่วงเวลาไปก่อน ! ”
ถ้าเป็นไปตามที่เยี่ยเทียนคิด ติงหงเป็นพวกกินเนื้อ อย่างไรแล้วก็ต้องเหลือซุปไว้ให้ตนเองบ้าง ตราบเท่าที่สิ่งดีๆ เล็ก ๆ น้อย ๆ ยังเหลืออยู่ในเหมืองทองคำ มันก็คุ้มค่าแล้วกับการลงทุนหลายพันล้าน
หลังจากวางสาย เยี่ยเทียนไม่ได้กลับที่พักของอันเดรวิชทันที การอยู่กับภรรยาอันเดรวิชเพียงลำพัง ยังไงก็รู้สึกอึดอัดใจ
ยังดีที่ทะเลสาบไบคัลสกีกว้างขวาง คนน้อย ปราณวิเศษอุดมสมบูรณ์ เยี่ยเทียนนั่งปรับลมหายใจตรงที่ไม่มีคน เวลาหนึ่งวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว
“พวกเขากลับมาแล้วเหรอ ? ”
เยี่ยเทียนปล่อยความคิดออกมา พบว่า มาลาไกย์กับอันเดรวิชกลับมาถึงบ้านแล้ว ส่วนคุณผู้หญิงกำลังเตรียมอาหารเย็นอยู่ในครัว
“เยี่ยเทียน คุณไปไหนมา ? ”
เยี่ยเทียนเปิดประตูบ้านออก อันเดรวิชกับมาลาไกย์รีบเข้ามาหา สีหน้าของทั้งสองคนแปลก ๆ
“ไม่มีอะไร ผมไปดูเขาตกปลาแถวทะเลสาบมา” เยี่ยเทียนโบกมือ และเข้าสู่ประเด็นหลักทันที “เป็นยังไงบ้าง ? เหล่าหม่า คุณพูดก่อน ! ”
“บอสส์ คุณแทงตะกร้ารูใหญ่มาก ตอนนี้มอสโควคุมเข้มทั้งเมือง ได้ข่าวว่าท่านประธานาธิบดีโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ…”
มาลาไกย์มีสีหน้ายุ่ง ๆ หลังจากได้ยินคำถามของเยี่ยเทียน ปัจจุบันด้วยการสื่อสารแบบสมัยใหม่ นับประสาอะไรกับกิจการของประเทศ ข่าวสารในมุมที่ห่างไกลที่สุดของโลกก็สามารถแพร่กระจายไปทั่วโลกในเวลาอันสั้น
ตอนแรกมาลาไกย์กะจะไปสืบข้อมูลเกี่ยวกับต่งต้าจ้วง แต่พอไปถึงเมืองนั้นไม่ทันไร ก็เห็นข่าวเกี่ยวกับมาเฟียมอสโคว
มีคนตาย 238 คนในวันเดียว ทางรัฐบาลไม่สามารถใช้คำว่าเป็นการปะทะกันของมาเฟียมาอธิบายเหตุการณ์นี้ได้ ตอนนี้ประชาชนในมอสโควต่างวิตกกังวลกันไปหมด
ปัญหาระหว่างต่งเซิงไห่กับแก๊งค์มาเฟีย ข้อมูลถูกส่งไปยังห้องทำงานของประธานาธิบดีเรียบร้อย ท่านนั้นเป็นคนเด็ดขาดมากทีเดียว ทันทีที่ทราบเรื่อง ก็ออกคำสั่งออกหมายจับทั้งฝ่ายสมาคมหงเหมินและมาเฟีย
โชคดีมากที่เยี่ยเทียนเตือนให้จางซานหลินสั่งให้สมาชิกสมาคมหงเหมินกระจายตัวไปเมื่อวาน มิฉะนั้นเมืองที่ถูกคุ้มกันไว้ ยากมากที่จะหนีรอดไปได้
มาลาไกย์ไม่คิดเลยว่า การท่องราตรีในมอสโควของเยี่ยเทียนเมื่อคืน จะทำเรื่องสะท้านฟ้าสะท้านดินได้ถึงเพียงนี้ ซึ่งทำให้ความกลัวของเขาที่มีต่อเยี่ยเทียนเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า
อันเดรวิชที่ฟังมาลาไกย์เล่าเรื่อง ก็ตะลึงอ้าปากตาค้างไปตามกัน เมื่อก่อนเขาเป็นครูฝึกของทหารหน่วยพิเศษ การซุ่มโจมตีเป็นเรื่องที่คุ้นเคยมาก
แต่การสังหารคนเป็นร้อยคนด้วยคน ๆ เดียว แค่ได้ยินก็ยังไม่เคยเลย ถ้าไม่ใช่เพราะมาลาไกย์ยังพูดไม่จบ เขาจะหันไปถามเยี่ยเทียนเลยว่าเป็นฝีมือของเขาใช่มั้ย
เยี่ยเทียนโบกมือ และพูดแทรกมาลาไกย์ว่า “เหล่าหม่า ผมให้คุณไปสืบข้อมูลของต่งต้าจ้วง ไม่ได้ให้คุณสนใจเรื่องพวกนี้”
เยี่ยเทียนรู้ดีว่าผลที่ตามมาของเรื่องนี้เป็นยังไง แต่มันเกี่ยวกับเขายังไงล่ะ ? คนที่ฆ่าคนเมื่อวานคือรูดอล์ฟ คาดเดาได้เลยว่าน่าจะมีสามสิบคนขึ้นไปที่มองเห็นหน้ารูดอล์ฟอย่างชัดเจนจากกล้องวงจรปิด
“บอสส์ ทางนั้นยังไม่มีข้อมูลเลยครับ น่าจะต้องรออีกวันสองวัน”
มาลาไกย์มองเยี่ยเทียนอย่างระวังและพูดว่า “แต่ผมได้ข่าวอีกอันหนึ่งมาครับ ไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องกับต่งต้าจ้วงมั้ย”
“ข่าวอะไร ว่ามา”
เยี่ยเทียนเห็นสายตาของมาลาไกย์ที่มองตน เขาหยักไหล่และพูดต่อว่า “ทำไมต้องมองผมด้วยสายตาแบบนั้น พวกเราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ ? ”
“ใช่ ๆ พวกเราเป็นเพื่อนกัน เพื่อนกัน ! ”
มาลาไกย์ลงน้ำหนักเสียง ทำให้รู้สึกสบายใจขึ้นมาเล็กน้อย ไม่ใช่เพราะคุณภาพทางสภาพจิตใจของเขาแย่ แต่สิ่งที่เยี่ยเทียนทำ มันน่ากลัวเกินไป
มาลาไกย์สูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อให้ใจสงบนิ่ง พูดต่อว่า “ข้อมูลที่แพร่กระจายในมอสโคว เขาบอกกันว่าทางกองบัญชาการเคลมลินส่งผู้บัญชาการทหารลอฟสกี้จากตะวันออกไกลไปไซบีเรีย ผมคิดว่า พวกเขาต้องได้รับข้อมูลบางอย่างแน่ ๆ ”
มาลาไกย์เดาไม่ผิด สำหรับกองบัญชาการเคลมลิน ถ้าต้องการสืบหาสาเหตุของปัญหาต่งเซิงไห่กับอำนาจทั่วทิศ ง่ายยิ่งกว่าปอกเปลือกกล้วย
ถึงแม้ในกล้องวงจรปิดจะมีใบหน้าของรูดอล์ฟโผล่ออกมาหลายภาพ แต่ก็มีอีกหลายคนที่คิดว่านี่เป็นการแก้แค้นจากสมาคมหงเหมิน
เพราะรูดอล์ฟยังอยู่ลาสเวกัสเมื่อวาน เขาไม่มีทางมาโผล่ที่มอสโคว และไม่สามารถทำเรื่องแบบนี้ได้แน่ ๆ สิ่งที่เยี่ยเทียนทำลงไป ก็เพื่อเล่นงานเขาก็เท่านั้น
หลังจากวิเคราะห์เพิ่มเติมผู้เกี่ยวข้องเชื่อกันว่า ต่งต้าจ้วงที่ถูกจับตัว อาจจะเป็นชนวนที่ทำให้เรื่องนี้บานปลาย ถ้าต้องการทราบสาเหตุของเรื่องนี้ทั้งหมด จะต้องเริ่มต้นจากต่งต้าจ้วง
ด้วยเหตุนี้กองบัญชาการเคลมลินจึงสั่งให้ผู้บัญชาการทหารลอฟสกี้จากตะวันออกไกลเป็นผู้สืบหาข้อเท็จจริงของเรื่องนี้
ทางกองบัญชาการเคลมลินเองก็ทราบดีอยู่แล้ว เขตบางเขต ตำรวจไม่สามารถทำอะไรได้เลย มีเพียงทหารเท่านั้นที่จะจัดการมาเฟียไม่มีขื่อไม่มีแปพวกนั้นได้
ประธานาธิบดีซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ข่าวกรองได้แสดงท่าทีแข็งกร้าวในครั้งนี้ ด้วยการระดมกองกำลังพิเศษที่ยอดเยี่ยม ที่สุดในรัสเซีย เพื่อกำจัดแก๊งค์มาเฟียทั้งหมดที่อยู่ในไซบีเรีย ขณะเดียวกันก็ตัดหญ้าแล้วต้องฆ่ากระต่ายทิ้งด้วย เท่ากับว่าค่ายฝึกไซบีเรียจะถูกกำจัดด้วยเช่นกัน
แน่นอนว่า การตัดสินใจของทางกองบัญชาการเคลมลิน คนนอกไม่รู้เรื่อง แต่เพราะการมาของลอฟสกี้ ทำให้คาดเดาเรื่องบางเรื่องได้นิดหน่อย
“อย่าให้ต่งต้าจ้วงหลุดไปถึงมือของทหารรัสเซียนะ มิฉะนั้นจะยิ่งลำบาก ! ”
เยี่ยเทียนขมวดคิ้วต่อสิ่งที่ได้ยินจากมาลาไกย์ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน การเผชิญหน้ากับรัฐเป็นสิ่งที่โง่เขลามาก ถ้าเป็นเช่นนั้นจะต้องช่วยต่งต้าจ้วงออกมาก่อนที่ทหารรัสเซียจะเข้าไป
“เพื่อน แล้วทางคุณได้ข้อมูลอะไรมาบ้าง ? ” เยี่ยเทียนหันไปหาอันเดรวิชต่อ บางครั้งการจัดการของเจ้าถิ่น เป็นสิ่งที่คนนอกถิ่นอย่างมาลาไกย์เทียบไม่ได้
“เยี่ยเทียน ฟรุสเป็นนายทุนที่ใหญ่ที่สุดของค่ายฝึกมวยใต้ดิน เขาพูดจาหว่านล้อมจนผู้ดูแลค่ายคนปัจจุบันยอมเข้าร่วมกระบวนการจัดการสมาคมหงเหมินในครั้งนี้”
อันเดรวิชยิ้มอย่างขมขื่น แต่เขาก็อยากจะบอกทุกอย่างให้เยี่ยเทียนรู้ในสิ่งที่ได้ยินมาทั้งหมด “หลานของคุณต่ง อยู่ในค่ายฝึก แต่ผมได้ยินมาว่าพวกมันจะจัดการเขาทิ้ง”
ค่ายฝึกมวยใต้ดินเป็นค่ายฝึกกองกำลังพิเศษของอดีตสหภาพโซเวียต มีความสัมพันธ์สลับซับซ้อนกับทหารรัสเซีย ข้อมูลที่มาลาไกย์สืบมาได้ ไม่สามารถปิดบังพวกเขาได้อยู่แล้ว
ส่วนต่งต้าจ้วง เขาไม่มีประโยชน์อะไรอีกต่อไป เหลือเขาไว้เป็นตัวเสี่ยงโดนทหารจับ สู้ทำให้เขาหายไปอย่างไร้ร่องรอยน่าจะปลอดภัยกว่า ซึ่งฟรุสได้แสดงท่าทีแบบนั้นออกมาแล้ว
“ถ้าผมยังอยู่ ต่งไม่มีวันตาย” เยี่ยเทียนนวดหว่างคิ้ว การเข้ามายุ่งของทหารรัสเซีย ทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับค่ายฝึกมวยใต้ดินจริงจัง
“เหล่าหม่า คุณเตรียมตัวไว้ คอยรับผมที่ตรงนี้”
เยี่ยเทียนกางแผนที่ออกมา ชี้ไปจุดหนึ่งและพูดว่า “ช้าที่สุดสามชั่วโมง ผมจะพาต่งต้าจ้วงไปตรงนั้น โอเคมั้ย ? ”
“โอเค” มาลาไกย์มองแผนที่และพูดว่า “แต่ว่าบอสส์ครับ คุณจะเข้าไปในค่ายนั้นยังไง ? ค่ายฝึกห่างจากตรงนี้เกือบสามร้อยกว่ากิโลเลยนะ ? ”
“เรื่องนี้ไม่ต้องสนใจ”
เยี่ยเทียนจำจุดต่าง ๆ ในแผนที่ได้ขึ้นใจ เขาหันไปหาอันเดรวิชและพูดว่า “เพื่อน ขอบคุณมากสำหรับความช่วยเหลือ ถ้ามีโอกาสเราจะได้เจอกันอีก ! ”
อันเดรวิชกัดฟันพูด “เยี่ยเทียน หรือ…ผมให้ผมไปกับคุณด้วย ผมคุ้นชินกับที่นั่นมาก”
“ไม่เป็นไร สิ่งที่คุณควรทำคืออยู่กับภรรยาแสนสวยของคุณ”
เยี่ยเทียนปฏิเสธ และตบที่ไหล่ของอันเดรวิช เขาหันหลังและหายไปในความมืดทันที
“บอสส์เป็นคนที่มหัศจรรย์จริง ๆ คุณเชื่อใจเขาได้ ! ” มาลาไกย์ทิ้งท้ายไว้ และเดินออกไป แต่เขาพบว่าเยี่ยเทียนหายไปแล้ว เมืองที่อ้างว่างไม่มีมีแม้แต่เงาของคน
เยี่ยเทียนที่ใช้ปราณแท้ห่อหุ้มร่างเอาไว้ ตอนนี้เขาได้ออกจากเมืองไปไกลกว่าสิบกิโลแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาใช้ปราณแท้ในการเร่งการเดินทาง ปราณแท้ที่ปั่นป่วน เมื่ออากาศภายนอกถูกกั้นไว้ด้านนอก
“ค่ำคืนแห่งจันทร์และสายลม ช่างเหมาะแก่การก่ออาชญากรรม” กลุ่มเมฆอันมืดมิดลอยต่ำ ไซบีเรียในเดือนมีนาคม อาจนำมหาภัยแห่งหิมะมาสู่ที่แห่งนี้อีกครั้ง