ตอนที่ 746 พายุ
ไม่รู้ว่าฝนเริ่มตกเมื่อไหร่
ถนนหนทางที่เงียบเหงา ผู้คนเดินเท้าที่น้อยลง มีเพียงหัวมุมอันมืดมิดในซอย ที่กำลังทำกิจกรรมบางอย่างที่เปิดเผยสู่สาธารณะไม่ได้ บางทีจะมีเสียงชกต่อยกับเสียงปืนออกมาบ้าง
ที่นี่คือเขตทางเหนือของมอสโควที่วุ่นวายที่สุด ที่แห่งนี้ เต็มไปด้วยความรุนแรง การฆ่าฟัน ค้าประเวณีและยาเสพติด มาเฟียเล็กใหญ่ทำให้ที่นี่กลายเป็นสวรรค์แห่งการทำความผิด
อลิมจัน ท็อกทาโฮโนฟ เริ่มมีชื่อเสียงจากที่แห่งนี้ ด้วยความกล้าที่เหนือกว่าคนทั่วไปกับความโหดเหี้ยมของเขา ในตอนที่เขาออกจากมอสโคว เขาสามารถคุมมาเฟียเขตทางเหนือได้แล้ว
พูดได้เลยว่า อาชญกรรมที่เกิดขึ้นในมอสโคว อย่างน้อยครึ่งหนึ่ง ล้วนมีความเกี่ยวข้องทางตรงและทางอ้อมกับ อลิมจัน ท็อกทาโฮโนฟแน่นอน แต่ตำรวจยังไม่มีหลักฐานที่หนาแน่นมากพอเท่านั้น
อาหวาชี้ไปที่ซอยหนึ่งและพูดว่า “ท่านเยี่ย เดินเข้าไปในซอยนั้นประมาณ 50 เมตร ก็คือบ่อนพนันของท็อกทาโฮโนฟแล้วครับ คนที่อยู่ในนั้นไม่มีใครดีกว่าใครเลยครับ…”
ไม่ว่าจะอยู่เมืองไหน บ่อนพนันเป็นสถานที่ขาดไม่ได้ สนามมวยใต้ดินที่มีระดับล้วนถูกต่งเซิงไห่ครอบครองไว้หมดแล้ว ทำให้เหลือแต่บ่อนระดับล่างให้ท็อกนาโฮโนฟบริหาร แต่ก็เพียงพอให้เขาสร้างรายได้ได้ทุกวัน
แต่ด้วยหน้าตาของท็อกนาโฮโนฟค่อนข้างแย่ หลังจากที่ใช้เงินทองซื้อตำรวจเขตทางเหนือเสร็จ เขามักจะหาคนไปหลอกล่อนักท่องเที่ยวมาที่บ่อน และหลอกให้พวกเขาลงพนันจำนวนมหาศาล และปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยสูง
ยังไม่พอ พวกสวะในบ่อน เมื่อเห็นว่านักท่องเที่ยวเป็นผู้หญิงและเดินทางมาคนเดียว พวกมันจะหลอกให้ผู้หญิงเข้าไปในห้องนอน และห้าปีที่ผ่านมา มีข่าวนักท่องเที่ยวที่เป็นหญิงสาวหายตัวไปอย่างน้อยสามสิบคดี
นักท่องเที่ยวสาวหายตัวไปพวกนี้ หลังจากถูกทุบตีและสั่งสอนเสร็จ พวกเธอจะถูกส่งไปอยู่กับผู้หญิงรัสเซีย และถูกส่งไปสถานที่ค้าประเวณต่าง ๆ ในอเมริกาหรือยุโรป
จนถึงทุกวันนี้ ธุรกิจค้าประเวณีกลายเป็นธุรกิจหลักของท็อกนาโฮโนฟไปแล้ว แน่นอนว่า คนที่ส่งออกมาจากบ่อน เป็นเพียงการคิดขึ้นมาจากพวกเฝ้าประตูเท่านั้น
เพื่อนอาหวาเคยโดนหลอกมาที่นี่คนหนึ่ง เป็นหนี้ห้าแสนรูเบิลดอกเบี้ยสูงลิ่ว สุดท้ายไปขอให้ต่งเซิงไห่ช่วยเจรจาให้ปล่อยคน มือข้างขวาของคน ๆ นั้นถูกตัดขาดไปสามนิ้ว เพราะเรื่องนี้ อาหวาจึงเกลียดบ่อนพนันนี้เข้าไส้
เยี่ยเทียนผลักประตูลงจากรถ และหันกลับมาพูดว่า “อาหวา คำว่าตำรวจมาแล้วในภาษารัสเซียพูดยังไง ? ”
“พะลิไบล่า โพลิสซิย่า……” อาหวาพูดประโยคหนึ่งออกมา เขาเคยอยู่รัสเซียสี่ห้าปี จึงพูดภาษารัสเซียได้
เยี่ยเทียนพยักหน้า และจำประโยคเมื่อครู่ขึ้นใจ หลังจากลงจากรถ เขาก็เดินเข้าซอยมืดนั่น
เขาเคาะประตูเหล็กที่ไม่มีความเด่นอะไรเลยไปสองที หน้าต่างบานนึงเปิดออกมา ดวงตาหนึ่งคู่จ้องมองที่เยี่ยเทียนและปล่อยเขาเข้าไป
ซอยด้านนอกเงียบงัน แต่พอเดินเข้าบ่อนสภาพการณ์ก็เปลี่ยนไปทันที โต๊ะพนันสิบกว่าโต๊ะถูกล้อมรอบไปด้วยผู้คน นอกจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพวกนั้นแล้ว ยังมีนายหน้าปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยสูงเดินป้วนเปี้ยนอยู่ด้วย
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของที่นี่ การระวังตัวค่อนข้างเข้มงวดกว่าสนามมวยใต้ดินมาก
เยี่ยเทียนเพิ่งเข้ามา สายตาเจ็ดแปดคู่จ้องมองมาด้วยความไม่เป็นมิตร พอเยี่ยเทียนชูเงินรูเบิลสี่ห้าพันปึกหนึ่งออกมา สายตาเหล่านั้นถึงได้ดึงกลับไป
“ตำรวจมา ! ” เยี่ยเทียนไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่า พอเบียดเข้าโต๊ะพนันโต๊ะหนึ่งเสร็จ เสียงดังเหมือนฟ้าผ่าก็ดังขึ้น
เยี่ยเทียนไม่ได้ใช้ลำคอเปล่งเสียงนั้นออกมา แต่เป็นเสียงที่เกิดจากการบีบอัดอากาศ และดังขึ้นพร้อมกันในหลายจุด ขณะเดียวกัน ประตูเหล็กบานนั้นมีเสียงบางอย่างพุ่งชนดังสนั่น
อันธพาลยังไงก็เป็นอันธพาล นอกจากเจ้าแห่งยาเสพติดของเม็กซิโกแล้ว น้อยมากที่จะเลือกปะทะกับทางรัฐบาลโดยตรง ตอนที่มีเสียงตะโกนดังขึ้น จู่ ๆ ในบ่อนก็เกิดโกลาหล
แต่เหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพวกนั้นพร้อมที่จะตะครุบดั่งพญาเสือ ไม่มีใครฉวยโอกาสจับปลาในน้ำขุ่นได้ แต่กลับระบายแขกออกจากประตูหลังอย่างเป็นระเบียบ
“เกิดอะไรขึ้น ? ”
ผู้ชายรูปร่างแข็งแกร่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเครา เดินออกมาจากห้องที่อยู่ด้านซ้ายของบ่อน และพูดด้วยความโมโหว่า “เบเรเคิฟ ไล่แขกออกไปทำไม ? ”
“ยันเคิฟ ตำรวจมา นี่แกไม่ได้ดูกล้องในห้องเลยเหรอ ? ” คนที่ถูกโมโหใส่ถามด้วยความไม่พอใจออกไป จนถึงตอนนี้ ก็ยังมีเสียงบางอย่างพุ่งชนประตูดังขึ้นจากด้านนอก
“เห็นกะผีนะสิ ด้านนอกไม่มีคนเลย ! ” ยันเคิฟตะลึง และเริ่มด่าทอเสียงดัง เพราะเขาดูหน้าจอในห้องบันทึกภาพอยู่ตลอดเวลา
“หรือมีผีจริง ? ” หลังจากได้ยินยันเคิฟพูดแบบนั้น ประกอบกับเสียง “แก๊ง ๆ ” ที่เหมือนมีบางอย่างพุ่งชนตรงประตู ทำให้ทุกคนเกิดความรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นในใจ
“ผี” ไม่ได้มีแค่ในประเทศจีน ในต่างประเทศ คำว่าผีก็เหมือนกับซาตาน และยังมีศาสนาที่กราบไว้ “ซาตาน” โดยเฉพาะด้วย แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ยินดีต้อนรับการมาของซาตาน
เสียงพุ่งชนประตูแปลก ๆ นั่น ทำให้ทุกคนถึงกับหน้าซีด ทันใดนั้น ยันเคิฟที่เพิ่งออกมาจากตรงนั้น ก็ล้มลงไปกับพื้นเฉย ๆ
ส่วนเบเรเคิฟที่เพิ่งสนทนากับยันเคิฟ ก็ล้มลงไปกับพื้นแทบจะพร้อม ๆ กัน ตาของพวกเขายังไม่ทันปิดลงด้วยซ้ำ
“มี…มีซาตานจริงเหรอ ? ” บ่อนพนันอันกว้างใหญ่กำลังอบอวลไปด้วยความหวาดกลัว บางคนเริ่มถือปืนเอาไว้ในมือ
ไม่มีใครสามารถมองเห็นพลังพิฆาตจาง ๆ ที่ลอยอยู่กลางอากาศ กำลังกัดกร่อนประสาทของคนเหล่านี้อย่างช้า ๆ ให้พวกเขายิ่งอยู่ยิ่งตื่นเต้น
“ปัง ! ”
มีคน ๆ หนึ่งยิงปืนไปตรงข้าง ๆ เสียงปืนกับเสียงเจ็บปวดทำให้สติแตกกระเจิงอย่างที่สุด ทันใดนั้นเสียงปืนทั้งห้องก็ดังขึ้นสนั่น
สามนาทีสั้น ๆ ผ่านไป ไม่มีคนเป็นยืนอยู่อีกต่อไป มีแต่เสียงโอดโอยเจ็บปวดเต็มไปหมด แต่เวลาผ่านไปไม่นาน ทั้งบ่อนก็เงียบสงบ
ร่างของเยี่ยเทียนปรากฏขึ้นจากมุมหนึ่งอย่างช้า ๆ หลังจากมั่นใจแล้วว่าไม่มีผู้รอดชีวิตแล้ว เขาก็เปิดประตูออกไปอย่างมั่นใจ
“ท่านเยี่ย ท่าน…”
อาหวารอเยี่ยเทียนขึ้นรถเสร็จ กำลังจะอ้าปากถามไถ่ แต่เขาก็เลือกปิดปาก เพราะเสื้อผ้าที่ไม่มีรอยยับเลยแม้แต่น้อยของเยี่ยเทียน ทำให้เขารู้ว่าเยี่ยเทียนไม่ได้เป็นอะไร
แต่เสียงปืนที่ดังเมื่อครู่ ก็ทำให้อาหวาตื่นเต้นเล็กน้อย ครั้งนี้เขาไม่รอให้เยี่ยเทียนสั่ง แต่เขาออกรถไปเป้าหมายต่อไปในทันที
ตั้งแต่หกโมงเย็นจนถึงกลางดึกห้าทุ่ม ห้าชั่วโมงเต็ม ๆ ที่อาหวาขับรถพาเยี่ยเทียนไปวนมอสโควหนึ่งรอบ
“ท่านเยี่ยครับ ให้ไปส่งที่สนามบินเลยมั้ยครับ ? ”
หลังจากที่ขับไปตามจุดที่วงสีแดงเอาไว้ในแผนที่จนหมด อาหวารู้สึกโล่งใจ เพราะทุกครั้งที่เยี่ยเทียนลงรถและขึ้นรถอีกครั้ง เวลาที่อาหวามองหน้าไร้ความรู้สึกของเยี่ยเทียน มันทำให้เขารู้สึกขนลุกจากข้างใน
ถ้าเป็นไปตามกำหนดการเดินทางของเยี่ยเทียน ในสนามบินนานาชาติมอสโคว จะมีเครื่องบินส่วนตัวของถังเหวินหย่วนจอดอยู่ และเตรียมพร้อมที่จะส่งเขาไปยังไซบีเรีย
“ใช่ ไปสนามบิน ! ” เยี่ยเทียนพยักหน้า ตรงกลางระหว่างคิ้วเป็นสีดำจาง ๆ มีความรู้สึกไม่สบายใจที่บอกไม่ถูก
“เกิดอะไรขึ้น ? ตั้งแต่เข้าสู่ระดับขั้นสูงแล้ว พวกของขลังน่าจะไม่เข้าตัวแล้วสิ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ ? ”
เยี่ยเทียนรู้สึกได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกาย เขาขยับกระดิ่งซานซิง แตะอย่างเบา ๆ ปราณแท้พุ่งเข้าไปที่กระดิ่งนั้น
“แก็ง ! ” คลื่นสั่นสะเทือนถูกส่งเข้าไปยังสมองของเยี่ยเทียน ความไม่สบายใจเมื่อครู่ถูกกดทับลงไป สีหน้าของเยี่ยเทียนจึงดีขึ้นมานิดหน่อย
“ถ้าจัดการเรื่องต่งต้าจ้วงเสร็จ คงต้องพักฟื้นกันสักหน่อย ห้ามทิ้งอาการไว้เด็ดขาด ! ”
เยี่ยเทียนเก็บกระดิ่งซานซิงเสร็จ เขาก็หลับตาลงอย่างช้า ๆ พลังวิชายิ่งสูง พลังพื้นฐานยิ่งลดลง การฝึกพลังวิชาเป็นเรื่องที่ฝืนธรรมชาติอยู่แล้ว ถ้าทุกอย่างราบรื่น ใคร ๆ ก็เป็นผู้มีวิชาได้ทั้งนั้น
สิ่งที่เยี่ยเทียนคิดนั้นถูกต้อง ถึงแม้พลังพิฆาตที่เกิดจากคนตาย จะไม่มีผลกระทบอะไรกับเขา แต่สวรรค์นั้นมีเมตตาและไร้เมตตา การที่ชีวิต ๆ หนึ่งหายไป ผลของการกระทำก็ต้องตกที่เยี่ยเทียนอยู่ดี
ก็เหมือนกับคนสมัยก่อนแค่ยกมือขึ้นก็สามารถพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินได้พวกนั้น เช่นจางเจี่ยว กับพระหยวนม่อเผิงยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันออกปลาย พลังวิชาของพวกเขาสูงกว่าเยี่ยเทียนปัจจุบัน แต่ก็ตายลงอย่างอนาถ
“อาหวา คุณกลับไปเถอะ ทิ้งรถไว้ตรงที่ไม่มีกล้องวงจรปิด แล้วเรียกรถกลับที่พัก ระวังตัวด้วยนะ ! ”
เมื่อเห็นป้ายบอกทางเขียนไว้ว่าอีกสิบกว่ากิโลเมตรจะถึงสนามบิน เยี่ยเทียนบอกให้หยุดรถ และพูดออกไปอีกว่า “พรุ่งนี้คุณกลับไปฮ่องกงเลยดีกว่า เดี๋ยวผมให้เหล่าถังจัดการให้
ถึงแม้คนที่ตายในวันนี้เกือบจะเป็นพวกมาเฟียทั้งหมด แต่คนตายในคืนเดียวกว่า 200 คน ถ้าถูกแพร่งพรายออกไปจะเป็นเรื่องใหญ่ รัฐบาลของรัสเซียจะต้องสืบจนถึงที่สุดแน่ ๆ
“ท่านเยี่ย สบายใจได้ครับ ผมรู้ว่าต้องทำยังไง ! ”
ในฐานะผู้รับรู้เหตุการณ์อย่างอาหวา ถึงแม้จะมีการคาดเดาอยู่บ้าง แต่เขาไม่รู้ว่าการกระทำของเยี่ยเทียนในวันนี้ จะมีผลต่อมอสโควแค่ไหน ?
แค่คืนเดียว เยี่ยเทียนกวาดล้างพื้นที่ของท็อกนาโฮโนฟได้ถึงเก้าจุด
ซึ่งนอกจากสนามมวยใต้ดินกับบ่อนพนันแล้ว ยังมีคลับเปลื้องผ้า ร้านค้าเงินธนาคารพื้นเมืองและแหล่งค้าประเวณี ล้วนแต่เป็นธุรกิจของท็อกนาโฮโนฟในมอสโคว
สิ่งที่ทำมากเกินไปของเยี่ยเทียน นอกจากคนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องแล้ว คนอื่น ๆ ที่มีพลังพิฆาตติดตัวพวกนั้น ล้วนแต่ตายคาที่ และในคืน ๆ เดียว มีคนตายอยู่ในมือของเยี่ยเทียนมากกว่าสองร้อยชีวิต
ส่วนอาหวาก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ในวันพรุ่งนี้ ความโมโหของประธานาธิบดีที่ถูกเลือกมาจาก “คณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติ” ก่อนสหภาพโซเวียต จะทำให้ระบบรายงานข่าวของรัสเซียทั้งประเทศตื่นตัว
เอกสารเกี่ยวกับการปะทะของสมาคมหงเหมินกับมาเฟียแห่งรัสเซีย ก็จะถูกวางอยู่บนโต๊ะทำงานของประธานาธิบดี พายุลูกใหญ่กำลังจะมาถึงแล้ว