ตอนที่ 744 กวาดล้าง (2)
“เดี๋ยวก่อน จอดรถ…” ตอนที่รถแล่นมาถึงร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังของยุโรป เยี่ยเทียนสั่งให้รถหยุด
“ท่านเยี่ย ท่านจะ… ? ท่านคือ…ท่านเยี่ย ? ”
อาหวาได้ยินคำสั่งให้หยุดรถ เขาจึงหันกลับไปหาเยี่ยเทียน แต่สิ่งที่เห็นมันทำให้เขาตกตะลึง จนพูดติดขัดไปหมด
หน้าเอเชียแท้ ๆ ของเยี่ยเทียนกลายเป็นหน้ายุโรปไปแล้ว สันจมูกตั้งโด่ง ดวงตาเป็นสีเขียววาว ๆ เหมือนดวงตาของแมว
แม้แต่สีผิวก็เปลี่ยนไป เดิมทีสีผิวของเขาสีออกเหลือง ตอนนี้กลายเป็นสีที่เหมือนคนผิวขาวมาก เมื่อมองจากใต้แสงไฟอันมืด มันแทบจะมองไม่เห็นความแตกต่าง
ถ้าไม่ใช่เพราะเสียงและเสื้อผ้าเดิม อาหวาคิดว่าเยี่ยเทียนถูกเปลี่ยนตัวไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็ตาม มันก็สร้างความตกใจให้กับอาหวาไม่น้อย
“ผมเอง แต่งหน้านิดหน่อยแล้วก็ใส่คอนแทคเลนส์ ทำไม แค่นี้ก็จำผมไม่ได้แล้วเหรอ ? ”
เยี่ยเทียนขำ ตั้งแต่พลังเข้าสู่ก่อนกำเนิด เยี่ยเทียนสามารถใช้กล้ามเนื้อและกระดูกของตัวเองได้อย่างอิสระ และการเปลี่ยนหน้า สำหรับเขาแล้ว เป็นเรื่องที่ง่ายเหมือนปลอกกล้วย
ตอนนี้ หน้าตาของเยี่ยเทียนคล้ายกับรูดอล์ฟจากลาสเวกัสมากถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์ แต่เพราะเยี่ยเทียนไม่มีใบหน้าให้ดูเป็นตัวอย่าง ไม่อย่างนั้น เขาคงทำให้รูดอล์ฟมีพี่น้องฝาแฝดได้เป็นแน่
“ท่านเยี่ย ท่านเปลี่ยนเป็นคนละคนเลยด้วยซ้ำ ! ”
ได้ยินเสียงของเยี่ยเทียนอีกครั้ง อาหวาค่อยสบายใจหน่อย เขามองเยี่ยเทียนอย่างไม่เชื่อสายตา นี่มันไม่ได้แต่งหน้าธรรมดาแล้ว มันยิ่งกว่าการเปลี่ยนหน้าในนิยายเสียอีก
“อาหวา คุณมีเงินรูเบิลมั้ย ? ” เยี่ยเทียนกำลังจะเปิดประตู เขานึกถึงบางอย่างและพูดว่า “ไม่มีเงินรูเบิลไม่เป็นไร เงินดอลล่าร์ก็ได้ เอามาให้ผมก่อน ! ”
เยี่ยเทียนบินมาจากฮ่องกงด้วยความเร่งรีบ ประกอบกับ ทุกวันนี้เขาดื่มแค่น้ำเปล่าวันละนิด ไม่มีความอยากอาหารเลยแม้แต่น้อย จึงไม่มีความจำเป็นต้องพกเงินอีก ทำให้ตอนนี้กระเป๋าของเขาว่างเปล่า
“มีครับ ๆ ดอลล่าร์ หรือ รูเบิล มีหมดครับ นี่ครับ ท่านเยี่ย ! ”
พอได้ยินเยี่ยเทียนถาม อาหวารีบหยิบเงินออกจากกระเป๋า เป็นธนบัตรสองปึกยื่นให้กับเยี่ยเทียน เวลาอยู่ที่รัสเซีย ดอลล่าร์เป็นสกุลเงินที่ปลอดภัย ฉะนั้นเวลาอยู่ด้านนอกอาหวาจะพกไว้บ้าง
“คุณเอารถไปจอดรอผมตรงทางโค้งตรงนั้น เดี๋ยวผมมา ! ” เยี่ยเทียนสั่งอาหวาเสร็จ ก็ลงจากรถและเดินเข้าร้านเสื้อผ้าทันที
“คุณผู้ชาย ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ช่วยมั้ยคะ ทางเราสามารถช่วยตอบสนองความต้องการในเรื่องเสื้อผ้าให้คุณได้ทุกเรื่องค่ะ! ”
เยี่ยเทียนเพิ่งเดินเข้าร้าน ผู้หญิงรัสเซียสองคน รูปร่างสูงเพรียวเดินเข้ามาต้อนรับด้วยความอบอุ่น มีผู้หญิงคนหนึ่งถึงขั้นใช้ภาษาอิตาลี
พวกเธอดูออกว่าชุดกีฬาของเยี่ยเทียน คือแบรนด์เดียดอร่าจากอิตาลี และคอลเลคชั่นนี้ไม่ขายสู่สาธารณะเท่าไหร่ จะขายให้กับบุคคลพิเศษเท่านั้น
เยี่ยเทียนยักไหล่ และพูดภาษาอังกฤษออกไปด้วยสำเนียงอเมริกาใต้ว่า “ผมไม่ได้มาซื้อเสื้อผ้าครับ ผมต้องการเข็มกับด้ายครับ ไม่ทราบว่าทางคุณจะหาให้ผมได้มั้ย ? ”
“ซื้อเข็มกับด้ายเย็บผ้า ? ”
สาวสวยสองคนถึงกับอึ้ง แม้ว่าคนรวยพวกนี้จะมีความชอบส่วนตัวมากมาย แต่การมาหาซื้อเข็มกับด้ายที่ร้านเสื้อผ้านี่ เยี่ยเทียนเป็นคนแรก แล้วของแบบนี้ก็ควรจะไปซื้อตามร้านค้าดีกว่า ?
“ขอประทานโทษ คุณผู้ชายท่านนี้ อุปกรณ์เย็บผ้าของทางร้านเป็นของใช้ส่วนตัวของดีไซเนอร์ ไม่มีขายค่ะ ! ” พนักงานคนหนึ่งปฏิเสธความต้องการของเยี่ยเทียนอย่างนุ่มนวล
“อืม ? ร้าน อาร์มานี่ ตอบแทนความต้องการของลูกค้าแบบนี้เหรอ ? ”
เยี่ยเทียนแสดงความไม่พอใจ และพูดแข็ง ๆ ว่า “ขอแค่ลูกค้ายอมแจ้งราคา ผมคิดว่าไม่มีสิ่งของใดขายไม่ได้หรอกมั้ง จิออร์จิโอ อาร์มานี่ ขายของแบบนี้เหรอครับ ? ”
ภาษาอังกฤษที่เยี่ยเทียนพูดออกมาเมื่อกี้ ก็คือชื่อผู้ก่อตั้งแบรนด์ อาร์มานี่ คนชื่อ อาร์มานี่ คนนี้เขาเคยเจอบนเรือสำราญควีนอลิซาเบธ เวลาพูดค่อนข้างมีความมั่นใจสูง
“ช่วยรายงานให้ จิออร์จิโอ อาร์มานี่ ว่า ผมชื่อรูดอล์ฟ ดูสิว่าจะขายเข็มให้ผมมั้ย ? ”
เยี่ยเทียนยื่นธนบัตรหนึ่งร้อยดอลล่าร์ออกมาปึกหนึ่ง ท่าทางเป็นธรรมชาติมาก สองสาวที่อยู่ตรงนั้นถึงกับตะลึง
“โอเค…โอเคค่ะ เดี๋ยวฉันจะไปหยิบให้ค่ะ ! ”
ไม่รู้ว่าทำไม คำพูดของเยี่ยเทียนจึงมีพลังงานบางอย่างที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ผู้หญิงคนหนึ่งถึงกับวิ่งไปด้านหลัง และหยิบเข็มกับด้ายออกมา
“ก็แค่นี้แหละ นั่นเงิน 3000 ดอลล่าร์ คุ้มกว่าขายเสื้อผ้าอีก ! ”
หลังจากได้รับเข็มกับด้ายมาแล้ว เยี่ยเทียนไม่ได้เก็บเงินปึกนั้น แต่ผลักประตูออกไปอย่างภาคภูมิใจ
“แอนนาตาเซีย ฉันไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย ? ” หลังจากเงาของเยี่ยเทียนหายไปหลายนาที ผู้หญิงคนหนึ่งก็ร้องขึ้นมามองเงินปึกนั้นแบบทำอะไรไม่ถูก
“วาลาเรีย รีบรายงานให้ผู้จัดการทราบ ! ” ผู้หญิงอีกคนค่อนข้างเป็นคนตรง หลังจากเก็บเงินปึกนั้นเสร็จ ก็พูดว่า “เขาบอกว่า เขาชื่อรูดอล์ฟ พวก…พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิดใช่มั้ย ? ”
ไม่พูดถึงความตกใจของพนักงานบริการสองคนนั้นอีก เยี่ยเทียนเลี้ยวโค้งเดินหลบกล้องวงจรปิดได้พอดี เขาเปิดประตูรถและขึ้นรถไป
“ท่านเยี่ย ท่านเปลี่ยนหน้ากลับมาได้มั้ย ? ”
อาหวารู้สึกขนลุกเมื่อเห็นหน้าของรูดอล์ฟ ภายใต้หน้าของเยี่ยเทียนผ่านกระจกหลัง เขาทำหน้ากลัว ๆ พูดว่า “ท่านเยี่ย นี่มันน่ากลัวมากเลยนะครับ ! ”
“เราต้องพึ่งใบหน้านี้นะ”
เยี่ยเทียนได้ยินก็ขำก๊าก สาเหตุที่ทำแบบนี้ก็เพื่อที่จะสร้างความอึดอัดใจให้กับผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ซึ่งก็คือรูดอล์ฟ ถึงแม้จะไม่สามารถไปจัดการรูดอล์ฟถึงลาสเวกัสได้ แต่เยี่ยเทียนก็จะทำให้พวกมันกัดกันเอง
เยี่ยเทียนขี้เกียจอธิบายให้อาหวาฟัง เมื่อมองนาฬิกาตอนนี้หกโมงกว่าแล้ว เขาพูดว่า “เอาน่า ไปที่จุดที่ห่างจากตรงนี้ใกล้สุดตามแผนที่ก็แล้วกัน ! ”
“ได้เลยครับ ! ”
อาหวาพยักหน้า หมุนพวงมาลัย และขับไปยังเขตเมืองสีเขียวมอสโคว ที่นี่อยู่ใกล้ ๆ กับใจกลางเมือง มีประชากรหนาแน่นที่สุดเขตหนึ่ง เมื่อก่อนเป็นของต่งเซิงไห่ และเป็นที่ตั้งของสนามมวยใต้ดินมอสโควด้วย
“ท่านเยี่ย ตรงนั้นครับ สนามมวยอยู่ชั้นใต้ดินชั้นสาม วันนี้ไม่น่าจะมีการแข่งขัน ! ”
ก่อนจะขับมาถึงตึกสูงสามชั้นที่มีบริเวณกว้างขวาง อาหวาชี้ไปที่ตึก ๆ หนึ่งพูดว่า “ที่นี่เคยเป็นที่ของสมคมหงเหมิน ผมเคยมาครั้งหนึ่ง ข้างในมีกล้องติดอยู่ทุกมุม ท่าน…ท่านเยี่ย นี่ท่านจะทำอะไร ? ”
พอพูดถึงตรงนี้ อาหวาอึ้งไปเลย ดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจจุดประสงค์การเปลี่ยนหน้าเป็นชาวยุโรปของเยี่ยเทียนแล้ว ก็เลยตกใจกับสิ่งที่เห็น เสียงที่พูดก็มีอาการสั่น
“คุณขับรถออกไปหนึ่งกิโลเมตร ไปรอผมที่นั่น ! ” เยี่ยเทียนมองอาหวาและพูดอีกว่า “สิ่งที่ไม่ควรถามก็ไม่ต้องถาม ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ก็ดี ! ”
“ครับ ท่านเยี่ย ! ” สายตาที่เยี่ยเทียนมองมาทำให้อาหวาถึงกับตัวเกร็ง พอเยี่ยเทียนลงจากรถ เขาก็ขับรถออกไปตามคำสั่ง
“ไอ้พวกนี้มันอิสระจริงนะ หืม ? มีนักมวยผู้หญิงหรือ ? ”
หลังลงจากรถ เยี่ยเทียนสอดมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง เดินไปที่ตึกตรงนั้นอย่างมั่นอกมั่นใจ ระหว่างนี้ อาคารทั้งตึกตั้งแต่ภาคพื้นดินและใต้ดินอีกสามชั้น ถูกจิตของเยี่ยเทียนครอบคลุมไว้หมดแล้ว
ด้านนอกของตึกสามชั้น มีบริเวณกว้าง เดิมทีเป็นที่จอดรถ แต่ตอนนี้มีรถจอดอยู่แค่สองสามคัน จึงดูโล่ง ๆ
ใกล้ ๆ ประตูใหญ่ มีผู้ชายคนนึง มือซ้ายถือขวดเหล้าวอดก้ากำลังป้อนเข้าปาก มือขวาขยับยุกยิกไม่หยุดใต้เอว ส่วนตานั้นจ้องมองโปสเตอร์ภาพเปลือยของชารอน สโตน
“เมนซัค แกกินเหล้าให้มันน้อยหน่อย เจ้านายบอกแล้วไง ช่วงนี้ไม่ค่อยสงบ พวกคนจีนอาจจะมาแก้แค้นได้ !”
ผู้ชายในห้องนอนอีกคน ถึงแม้จะมองโปสเตอร์เหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้ลืมคำสั่งของเจ้านาย ส่วนตาก็มองประตูใหญ่เป็นระยะ ๆ
“โอ้ว สุดยอด ! ”
ผู้ชายที่ชื่อเมนซัค เปล่งเสียงอึดอัดออกมา วอดก้าที่ดื่มหมดแล้วถูกโยนไว้ข้าง ๆ ส่วนมือขวาเช็ดบนตัว และพูดด้วยเสียงไม่สนใจว่า “โอกิเนส แกจะกลัวทำไม นี่มันถิ่นของเรานะ พวกลิงผิวเหลืองไม่กล้ามาหรอก ! ”
“ระวังไว้หน่อยก็ดี ไม่ใช่ไม่เคยเสียเปรียบให้กับพวกคนจีน”
โอกิเนสส่ายหัว ถ้าไม่ใช่เจ้านายรวบรวมอำนาจหลายกลุ่มเอาไว้ ตอนนี้พวกเขาอาจจะถูกพวกมาเฟียจีนกดขี่อยู่ทางเหนือหรือตะวันตกแน่ ๆ ไม่มีทางมาถึงเขตเศรษฐีตรงนี้หรอก
“พวกนั้นจะเก่งแค่ไหน ก็ถูกฉันจัดการไปคนหนึ่งไม่ใช่เหรอ ? ”
เมนซัคเบะปาก แล้วเขาก็เห็นเงาของคนตรงประตูใหญ่ สติกลับมาทันทีและพูดว่า “โอกิเนส ฉันออกไปดูก่อนนะ เดี๋ยวฉันเข้าไปข้างในเลย บัดซบ พวกมันมีสิทธิอะไรได้ใกล้ชิดกับสาวพวกนั้น แล้วให้พวกเราได้แค่เฝ้าประตู”
เมนซัคหมายถึงนักมวยหญิงในสนาม นี่เป็นโครงการใหม่ของฟรุสตั้งแต่รับสนามมวยมอสโควมาดูแล เมื่อเทียบกับการต่อสู้เอาเป็นเอาตายของผู้ชายแล้ว เศรษฐีเหล่านั้นชอบดูผู้หญิงต่อสู้กันมากกว่าอีก
แต่สถานะของผู้หญิงพวกนั้นต่ำกว่าผู้ชายเท่าไหร่ก็ไม่รู้ นอกจากเป็นแค่ผู้เข้าแข่งขันบนเวทีมวยแล้ว ปกติก็เป็นได้แค่ของเล่นเฝ้าประตูเท่านั้นแหละ
“เฮ้ ไอ้หนุ่ม มาจากไหนเหรอ นี่ไม่ใช่ที่ ๆ แกควรอยู่นะ ! ” เมนซัคโซซัดโซเซมองเยี่ยเทียนที่เดินเข้ามาข้างใน มือขวาที่ลื่น ๆ มีการจับปืนที่เอวด้วย
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เมื่อไหร่ที่เขาทำท่าอย่างนี้ คนพวกนั้นจะตกใจจนหนีเตลิด และนี่ก็เป็นสิ่งที่เมนซัคชอบทำมากที่สุดเรื่องหนึ่ง
“บัดซบเอ้ย นี่มันมาเฟียรัสเซีย ? ”
จิตของเยี่ยเทียนไม่สามารถปิดการกระทำของเมนซัคเมื่อครู่ได้ มันเลยทำให้เยี่ยเทียนแทบจะอ้วก ในใจคิดว่า โชคดีมากที่ซื้อเข็มกับด้ายมาก่อน ไม่งั้นมือของเขาคงสกปรกเป็นแน่