“อ๋อ มีคนทำฮวงจุ้ยอยู่ที่นั่น ศิษย์พี่มองไม่ออก”
เยี่ยเทียนกล่าวพร้อมคิ้วขมวด ศิษย์พี่รองจั่วเจียจวินนั้นก็ไม่เท่าไหร่ แต่โก่วซินเจียคนระดับนี้
ถึงแม้ว่าลัทธิเสื้อป่านไม่ถนัดการดูชัยภูมิฮวงจุ้ย แต่ในปีนั้นโก่วซินเจียพาคนในฉีเหมินต่อต้านญี่ปุ่น ในจำนวนนั้นก็มีอาจารย์ดูฮวงจุ้ย ความรู้นั้นน่าจะได้กันมาบ้าง
“ไม่เหมือนเป็นคนวางหลักฮวงจุ้ยเอาไว้ แต่เหมือนกับเป็นรูปแบบธรรมชาติ…”
โก่วซินเจียพลันหยุดชะงักไปนิดหนึ่ง กล่าวต่อว่า “ศิษย์น้อง นายก็รู้ว่า ชี่พิฆาตธรรมดานั้นหากเข้าสู่ร่างกายเจ็บป่วยเล็กน้อย ศิษย์พี่นั้นสามารถสลายไปได้ แต่สำหรับสถานที่ที่เป็นหยินพิฆาต ฉันก็ไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไรดี นอกจากว่าเปิดปรัมพิธี แต่นั่นอย่างน้อยจะต้องใช้เวลา 49 วัน การก่อสร้างของพวกเรานั้นรอไม่ได้ขนาดนั้น”
ไม่ใช่ว่าโก่วซินเจียและจั่วเจียจวินหมดหนทางที่จะจัดการสถานที่นั้น แต่หากว่าใช้วิธีการของพวกเขานั้น จะต้องยืดเวลาออกไปอีกนาน เป็นเพราะแบบนี้จึงเรียกให้เยี่ยเทียนกลับมา
“สถานที่ที่เป็นพลังหยิน”
เยี่ยเทียนตะลึงงันไป และเริ่มส่ายหัว ฮวงจุ้ยของสถานที่แห่งนั้น ฉันเคยมองในระยะไกลมาก่อน แต่ไม่ได้เป็นสถานที่ที่เป็นพลังหยินหรอก”
ลักษณะของพื้นที่พลังหยินนั้นการจะเกิดขึ้นได้จะต้องลำบากมาก เช่นกัน…สถานที่หนึ่งจะกลายเป็นสถานที่พลังหยิน ก็จะกลายเป็นพื้นที่แห้งแล้ง เห็นได้ชัดเจนมาก
อาจารย์ฮวงจุ้ยที่เข้าใจการดูพลังชี่นั้น ห่างกันสิบลี้ก็จะต้องเห็นชี่พิฆาตพวยพุ่งขึ้นมา เยี่ยเทียนเคยยืนสังเกตอยู่บนภูเขา ตัวเองถามกับตัวเองแล้วมั่นใจว่าไม่ได้หลงหูหลงตาไป
เห็นสีหน้าเยี่ยเทียนสงสัยไม่คลายนั้น จั่วเจียจวินก็ลุกขึ้นยืน กล่าวว่า “พูดไปก็ไม่มีประโยชน์ พวกเราไปดูกันเถอะ!”
เยี่ยเทียนพลิกข้อมือ จานหลัวอันปรานีตขนาดเท่าฝ่ามือก็ปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือ
มองไปที่จานหลัว โก่วซินเจียและจั่วเจียจวินตื่นเต้นอยู่บ้าง โบราณว่าไว้ เห็นของก็คิดถึงคน เสียงและหน้าตายิ้มแย้มของนักพรตเฒ่าลอยปรากฏอยู่ในความทรงจำ
หลังจากสะอึกสะอื้นกันชั่วครู่ ทั้งหมดก็ออกจากห้อง จั่วเจียจวินขับรถพาเยี่ยเทียนและโก่วซินเจียไป ส่วนเหลี่ยวติ้งติ้งและโจวเส้าเทียนนั้นขับรถสปอร์ตอีกคันตามหลังไป ตรงไปยังสถานที่เกิดเหตุ
ขับรถออกมาจากบริเวณพื้นที่คฤหาสน์ จั่วเจียจวินก็มองไปที่เยี่ยเทียน กล่าวถามว่า “ศิษย์น้อง นายจะดูคนที่ถูกชี่พิฆาตหรือว่าจะไปสำรวจชัยภูมิก่อน”
ถึงแม้ว่าจั่วเจียจวินและโก่วซินเจียจะช่วยเหลือพวกคนที่ “ถูกชี่พิฆาต” ขจัดออกไปจากร่างกาย แต่ชี่หยินพิฆาตนี้ส่งผลกระทบกับร่างกายคนเป็นอย่างมาก คนพวกนั้นไม่แน่ว่าอาจจะต้องนอนพักอยู่เป็นระยะเวลาหนึ่งกว่าจะดีขึ้น
เทียนคิดซักครู่ ก็กล่าวว่า “ยังไงเสียก็ต้องผ่านทางนั้นก่อน ไปดูสถานที่ก่อนแล้วกัน”
ที่พักของจั่วเจียจวินห่างจากคฤหาสน์ใหญ่โตครึ่งหุบเขาของเยี่ยเทียนไม่ไกล หลังจากประมาณยี่สิบนาที รถก็ขับเข้าสู่ตีนภูเขาจากนั้นเลี้ยงซ้ายเข้าไปทางแยกสายหนึ่ง ก็คือถนนเส้นที่เยียเทียนจะติดตั้งลูกหินฮวงจุ้ย
“หยุด เป็นที่นี่ใช่มั๊ย”
เมื่อรถมาถึงยังสถานที่ที่อาคารถูกลื้อระเกะระกะไปหมด เยี่ยเทียนก็เรียกให้หยุดรถ จั่วเจียจวินเปิดไฟกระพริบ ขับรถเข้าไว้ข้างถนน
“นี่…งานนี่ใครเป็นคนทำกันเนี่ย”
เห็นที่พื้นเต็มไปด้วยไม้ผุพังและกระเบื้องและยังมีไม่ไกลกันนักมีหลุมใหญ่ลึกประมาณสามเมตรกว่า เยี่ยเทียนขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ นี่แน่นอนว่าไม่ใช่คนมืออาชีพเป็นคนทำ
ต้องทราบก่อนว่า ทีมผู้รับเหมาก่อสร้างจริงๆ นั้นเคารพกฏเกณฑ์เป็นอันมาก อย่างเข่นข่างไม้ ช่างหิน จริงๆ แล้วก็มีความเข้าใจในการรื้อถอนพื้นที่และเข้าใจข้อควรระวังทั้งหมดอยู่
อาทิเช่นอุปกรณ์รังวัดเส้นตรงของช่างไม้ ตามที่เล่าคือหลู่ปังเป็นคนคิดค้น อุปกรณ์รังวัดปล่อยเส้นด้ายออกมาก็เป็นของดีในการกำจัดชี่หยินพิฆาต
มีหลายตำนานที่กล่าวถึงโรงผีอาฆาต ผีดิบประเภทนี้ ขอแค่ด้านนอกโลงมีการตีเส้นรังวัดเอาไว้ พวกนั้นก็จะออกมาด้านนอกไม่ได้ เพราะเส้นรังวัดเดินไปมาเป็นเส้นตรง มีชื่อเรียกว่าเป็นสิ่งของที่เที่ยงตรงที่สุดในโลก
และคนที่ขุดพื้นที่ มักจะเป็นในตอนที่ชุดเจอวัตถุโบราณ มักจะโรยข้าวเพื่อใช้สำหรับขจัดสิ่งชั่วร้าย หากว่ารื้ออาคารเก่า ก็จะนำคานของอาคารที่ลื้อออกมาวางให้เรียบร้อย ใช้ธูปเทียนไหวบูชาขอให้การก่อสร้างราบรื่น
แต่ต่อหน้าต่อตาของเยี่ยเทียบริษัทนี้ กลับระเกะระกะไม่เป็นที่เป็นทาง คานทั้งสี่ทิศของห้องวางไว้ ทุกที่นั้นมีกลิ่นเชื้อราของไม่เก่ากระจายเต็มไปหมด
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็นตอนบ่าย แต่เมื่อยืนหายใจอยู่บริเวณนี้ ก็ยังคงสัมผัสได้ว่าตัวเย็น เหมือนกับว่าพระอาทิตย์บนฟ้าไม่ได้อยู่ในภพเดียวกับตัวเอง
“นี่เป็นพวกคนในหมู่บ้านทำ การก่อสร้างเล็กน้อยๆ ฉันไม่ได้ใส่ใจ ใครจะรู้ว่าพวกเขาจะใจร้อนกันขนาดนี้”
เมื่อได้ฟังข้อสงสัยของเยี่ยเทียน จั่วเจียจวินก็สีหน้าลำบาก หากพูดในฐานะของเขานั้นไม่สามารถอยู่ในพื้นที่ตลอดวันเหมือนพวกก่อสร้างได้ เช่นงานรื้อถอนพื้นที่พวกนี้ ล้วนแต่ไปหาบริษัทก่อสร้างให้เป็นคนจัดการ
เพียงแต่ว่าพวกชาวประมงที่อยู่ข้างเคียงเห็นโอกาสในการทำธุรกิจ จึงได้ระบุพื้นที่นี้พวกเขาจะดำเนินการเอง
โบราณว่าไว้มังกรแข็งยากที่จะกดหัวงูให้อยู่กับพื้น บวกกับพื้นที่ที่จะรื้อถอนนั้นก็ไม่กว้าง บริษัทก่อสร้างก็เลิกยกให้พวกเขา จึงได้เกิดเรื่องราวเลวร้ายขึ้นในภายหลัง
“เอ๋ ไม่ถูก เหมือนว่าจะไม่ใช่เรื่องของอาคาร”
เมื่อสายตาของเยี่ยเทียนไปสบกับของกว้างเจ็ดแปดเมตร ความลึกประมาณสองสามเมตรแล้ว ส่งเสียงตกใจร้องออกมาจากปาก รีบเดินรุดไป
ฮ่องกงนั้นฝนตกชุก แม้แต่หน้าหนาวก็ไม่เว้น ตั้งแต่ขุดปากหลุมนี้จนถึงตอนนี้ ในระหว่างนั้นก็มีฝนตกตลอด ทำให้ในหลุมนั้นเต็มไปด้วยน้ำ ด้านบนมีเศษไม้ลอยอยู่
สำหรับโครงกระดูกนั้น ถูกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเก็บไปหมดเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้กำลังทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงกระดูกพวกนี้อยู่ เพื่อจะหาช่วงเวลาและสาเหตุในการเสียชีวิต
จั่วเจียจวินเดินมาด้านข้างของเยี่ยเทียน กล่าวว่า “เยี่ยเทียน หลุมนี้พวกเราตรวจสอบแล้ว จุดที่ลึกที่สุดคือสามเมตรหนึ่ง”
“ศิษย์พี่ใหญ่ พี่ว่าอย่างไง” เยี่ยเทียนหันหน้ากลับไปมองโก่วซินเจีย
โก่วซินเจียขมวดคิ้ว กล่าวว่า “หลุมนี้มีอะไรแปลกๆ ว่ากันแล้วกระดูกถูกนำออกมาแล้ว ชี่พิฆาตไม่ควรจะหนาแน่นแบบนี้ ฉันรู้สึกว่าด้านล่างอาจจะมีตาของชี่พิฆาตอยู่…”
พื้นที่โดยรอบสิ่งของไม่ใช้เต็มไปด้วยชี่พิฆาต ล้วนแล้วแต่มาจากหลุมนี้ โก่วซินเจียเคยสวด “คัมภีร์เทพ”รอบ ๆ บริเวณ แต่ผลที่ได้ไม่เป็นไปตามที่คิดเอาไว้
ในตอนที่โก่วซินเจียสวดนั้น ชี่พิฆาตพวกนั้นถูกทำให้หายไป แต่เพียงโก่วซินเจียหยุดสวด ชี่พิฆาตเหล่านั้นก็กลับมารวมกันใหม่ คล้ายกับว่าในหลุมนั้นมีตาของพลังหยินอยู่ก็ไม่ปาน
ไม่ใช่ว่าโก่วซินเจียไม่มีทาง หากว่าสามารถใช้เวลานานในการเปิดปรัมพิธีได้ มีเวลา 49 วัน ต่อให้สถานที่นี้เป็นตาของพลังหยินก็สามารถสะกดเอาไว้ได้
“เยี่ยเทียน ฉันได้ฟังจากผู้เฒ่าผู้แก่ของหมู่บ้านพวกนั้นบอกว่า จริง ๆ แล้วคนตายที่ขุดขึ้นมานั้น ไม่ใช่ตายที่นี่ แต่เป็นหลังจากตายแล้วถูกอาจารย์ฮวงจุ้ยดูแล้วก็ค่อยย้ายมาที่นี่”
เสียงของโก่วซินเจียเพิ่งจะพูดจบ จั่วเจียจวินก็พูดเสริมตามมา
มุมมองของเขาและโก่วซินเจียนั้นเหมือนกัน เพราะสถานที่ที่เป็นตาของพลังหยินนั้นเป็นสถานที่ที่เหมาะในการฝังคนตาย ต่อให้พวกนี้เป็นพวกศพนิรนาม ก็สามารถให้ชีวิตในโลกหน้าของพวกเขานั้นมีความสุขได้
“ไม่ใช่ตาของพลังหยิน ตาของพลังหยินจะทำให้ชี่พิฆาตและแรงโกรธผสานกัน กลายเป็นชี่ที่เกิดมงคล ค่อยๆ ทำให้คนตายที่เอาความแค้นเคืองติดตัวมาแปรเปลี่ยนไป แน่นอนว่าไม่ใช่ด้วยจุดประสงค์ให้พวกเขาไปเกิดใหม่ ทำให้เกิดชี่พิฆาตเกาะติดร่างกาย”
เยี่ยเทียนส่ายหัว ปฏิเสธแนวคิดของศิษย์พี่ทั้งสอง เดินรอบหลุมนี้ที่กลายเป็นบ่อน้ำขนาดเล็กแล้วหนึ่งรอบ กล่าวว่า “ศิษย์พี่ ไปกันเถอะ พวกเราไปบ้านดูชาวประมงพวกนั้นกัน”
“ทำไมเหรอ มีความคิดแล้วเหรอ”
โก่วซินเจียมองค้อนเยี่ยเทียนไปหนึ่งที แต่ก็มีหลายส่วนที่ยังไม่เชื่อ เขานั้นชำนาญในการวางค่ายกล ซึ่งเกี่ยวพันกับชัยภูมิฮวงจุ้ย ในใจนั้นมั่นใจมากว่าสถานที่นี้เป็นตาของพลังหยิน
“ไม่แน่ใจ พวกเราไปดูกันก่อนเถอะ” เยี่ยเทียนไม่ได้ว่าจะปกปิดไม่ยอมบอก แต่ตอนนี้เขามีหลายอย่างที่ไม่แน่ชัด
จั่วเจียจวินขับรถไปทางริมทะเล ในตอนที่ห่างจากทะเลใหญ่ร้อยกว่าเมตรนั้น ก็สามารถได้กลิ่นคาวของน้ำทะเล และต่อหน้าของพวกเขาก็ปรากฏสวนน้ำที่ทันสมัยขึ้น
เพียงแต่ว่าน้ำทะเลที่นี่ถึงจะเป็นสีน้ำฟ้า แต่กลับไม่มีคน แม้กระทั่งสถานที่อาบน้ำนั้นก็ดูทรุดโทรมอยู่บ้าง สำหรับพื้นที่ราคาแพงหูฉี่อย่างฮ่องกงนั้น นี่เป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก
จากสวนน้ำเลี้ยวเข้าขวาเข้าสู่ทางแยกสายหนึ่ง จากนั้นขับตรงต่อไปอีกประมาณห้าหกร้อยเมตร ก็มีหมู่บ้านชาวประมงที่อยู่กันหลายร้อยหลังคาเรือน
ฮ่องกงในสมัยก่อนนั้น หมู่บ้านชาวประมงแบบนี้นั้นมีค่อนข้างเยอะ เหมือนกับหนานยาเต่าที่ดาราโจวเหวินฟะนักแสดงภาพยนต์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังอาศัยอยู่ ชาวบ้านด้านบนก็อาศัยการจับปลาประทังชีวิต แต่ตอนนี้ถูกสร้างให้กลายเป็นสถานที่พักผ่อนว่ายน้ำ
“พี่จั่วมาแล้วเหรอ ยังมีคุณตาเคราขาวก็มาด้วย!”
จั่วเจียจวินและโก่วซินเจียเพิ่งลงจากรถ เด็กที่เล่นซนกันอยู่ปากทางหมู่บ้านก็ล้อมกันเข้ามา และยังมีคนที่พอมีอายุอยู่ด้วย แต่วิ่งแน่บกลับไปแจ้งข่าวในหมู่บ้านแล้ว
“อาจารย์จั่ว คุณมาแล้วเหรอ เร็ว…เชิญเข้าไปด้านใน!”
ไม่รอให้เยี่ยเทียนพวกเขาได้เดินเข้าหมู่บ้าน ผู้เฒ่าผู้แก่ก็เดินออกมาต้อนรับกันแล้ว ท่าทางนั้นยินดีเป็นอย่างมาก
ต้องทราบก่อนว่า ในตอนนั้นหลังจากพวกคนหนุ่มในหมูบ้านถูกของแล้ว. ส่งไปโรงพยาบาลหมอยังหาทางไม่ได้ หากว่าไม่ใช่จั่วเจียจวินและคนสูงอายุที่อยู่ด้านข้างออกหน้าช่วย หลายคนน่าจะร้ายมากกว่าดีแล้ว
จั่วเจียจวินหัวเราะ กล่าวว่า “ผู้ใหญ่บ้านอู๋ ไม่ต้องเกรงใจ ฉันมาดูอาการพวกเขา สองสามวันนี้ไม่มีอาการอะไรกลับมาอีกใช่มั๊ย”
“ไม่มี ฟื้นตัวดี ตอนนี้ลุกจากที่นอนได้แล้ว นี่ต้องขอบคุณอาจารย์จั่วมากมาก”
ผู้เฒ่าคนแรกหลังจากตอบแล้ว ก็ใช้เท้าแตะไปยังเด็กหนุ่มอายุสิบกว่าปี กล่าวว่า “ให้เหล่าโต้วเอาของทะเลที่ได้มาเมื่อเช้าออกมา คืนนี้พวกเราต้อนรับแขก”
จั่วเจียจวินรีบกล่าวห้าม “ไม่ต้อง ผู้ใหญ่บ้านอู๋ ฉันมาดูเดี๋ยวเดียวก็ไป ยังมีธุระอื่นอีก”
“นั่นไม่ได้นะ!”
ผู้ใหญ่บ้านอู๋ก็ไม่ได้สงวนท่าทีเกรงใจแล้ว ใช้มือหนึ่งจับจั่วเจียจวินไว้ กล่าวว่า “อาจารย์จั่ว คุณดูสถานที่นั้นเรื่องยังไม่มีทางออก พวกเราคนในชุมชนก็ไม่กล้าออกนอกบ้าน ก็หวังว่าคุณจะช่วยพวกเราด้วย ทำให้ที่นั่นสะอาดเถอะ!”
……………………….