ถึงแม้คาร์เวียจะเป็นของแพงและมีไม่มากแต่จั่วเจียจวิ้นก็กินเป็นประจำ อย่างไรก็ตามคาเวียร์ ที่ทำจากไข่ของวาฬเบลูกาที่อยู่ข้างหน้าเป็นอาหารที่หรูหราที่สุด แม้แต่เขาก็ยังต้องจองล่วงหน้านานกว่าจะได้กิน
“เยี่ยเทียน ลองชิมดูสิ เดี๋ยวค่อยดื่มก็ได้ ถ้าเป็นแชมเปญก็คงจะดี”
คาร์เวียยิ่งวางไว้นานรสชาติจะยิ่งแย่ จั่วเจียจวิ้นไม่อ้อมค้อมกับเยี่ยเทียน เขาหยิบช้อนขึ้นและเตรียมตักกิน
มองดูท่าทางของจั่วเจียจวิ้น คนที่ยืนอยู่ข้างๆ อย่างจอร์จี้ คาร์เตอร์ก็อดยิ้มไม่ได้ พูดกับเขาว่า”คุณผู้ชายท่านนี้พูดถูกครับ ผมช่วยคุณทั้งสองเปิดไวน์แดง พวกคุณทานเลยครับ!”
ในคาร์เวียเหล่านี้ จอร์จี้คาร์เตอร์โรยโพแทสเซียมไซยาไนด์ลงไป และมันถูกเจือจางด้วยน้ำแล้ว ส่วนกลิ่นของคาเวียร์สามารถปกปิดรสชาติโพแทสเซียมไซยาไนด์ที่คล้ายกับอัลมอนด์รสขมได้
ควรรู้ว่าโพแทสเซียมไซยาไนด์เป็นหนึ่งในพิษที่มีพิษมากที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับสารหนูมันเป็นพิษมากกว่าสารหนู หนึ่งร้อยเท่า ถ้ากินเข้าไปในร่างกายจากปาก สามารถตายทันทีและไม่มีโอกาสรอดชีวิตเลย
หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา จอร์จี้ คาร์เตอร์นอกจากวางแผนลอบฆ่าแล้ว พลังงานหลักที่ใช้ไปส่วนใหญ่คือการทำ สารเคมีที่มีพิษสูงแบบนี้
มองดูภารกิจของตนเองกำลังจะสำเร็จ จอร์จี้ คาร์เตอร์รู้สึกสบายใจที่สุด ขอแค่เยี่ยเทียนและจั่วเจียจวิ้น กินคาร์เวียเข้าไป แผนการลอบฆ่าในครั้งนี้จะสำเร็จลุล่วงไปอย่างสวยงามทีเดียว
ส่วนโรงแรมฟูราม่าที่ต้องมารับกรรมจากเรื่องนี้ จอร์จี้ คาร์เตอร์ไม่เก็บมาใส่ใจแน่นอน ตอนที่คนอื่นพบศพ ของสองคนนี้ ไม่แน่ เขาอาจจะบินกลับไปถึงบ้านที่อเมริกาแล้วก็เป็นได้
มองดูช้อนของจั่วเจียจวิ้นกำลังจะถึงปาก เยี่ยเทียนยื่นมือกุมข้อแขนเขาไว้ทันที พูดว่า”ศิษย์พี่ ใจเย็นก่อนสิ รอไวน์แดงเปิดให้เสร็จก่อน ฉันอยากชวนคุณ “ชาร์ดสัน” มาลิ้มรสอาหารชั้นเลิศนี้ด้วยกัน!”
ในคาร์เวียถูกใส่อะไรเข้าไปเยี่ยเทียนไม่กล้ามั่นใจ แต่อาหารชั้นเลิศที่วางอยู่ตรงหน้าเขา ทำให้เขามีรู้สึก อกสั่นขวัญหายอย่างบอกไม่ถูก
แต่เยี่ยเทียนมั่นใจว่า จานคาร์เวียที่ถูกเรียกขานว่า “ทองดำ” นี้ พิษของมันรุนแรงกว่าพิษงูเห่าของชาญ ทองทวนมากแน่นอน
“หืม?”
เมื่อเห็นว่าเยี่ยเทียนมีท่าทีไม่ให้กินคาร์เวียนี้หลายครั้ง จั่วเจียจวิ้นเริ่มสงสัยจึงได้วางถ้วยลงที่โต๊ะ และพูดว่า”คุณชาร์ดสัน ผมเสียมารยาทจริงๆ นั่งลงและเพลิดเพลินกับอาหารของคุณด้วยกันสิครับ!”
ในทางมารยาทของชาวต่างชาติ แขกสามารถเชิญเชฟที่มีทักษะสูงมาร่วมรับประทานอาหารที่เขาปรุงได้ ดังนั้นการเชิญของจั่วเจียจวิ้นจึงไม่เป็นการเชิญที่กระทันหันเกินไป
“เอ่อ…ไม่เป็นไรครับ การได้บริการคุณทั้งสองเป็นเกียรติอันสูงสุดของผมแล้วครับ!”
ถ้าเปลี่ยนเป็นอีกสถานการณ์หนึ่ง จอร์จี้ คาร์เตอร์คงจะนั่งลงเพลินเพลินกับคาร์เวียเหล่านี้แน่นอน แต่เวลานี้ ถึงตีให้ตายยังไงเขาก็ไม่มีวันนำคาร์เวียหนึ่งเม็ดเข้าปากตนเองแน่นอน
จอร์จี้ คาร์เตอร์ เวลาที่พูดสีหน้าของเขาไม่มีความเปลี่ยนแปลง ส่วนสองมือก็ไขว่ข้างหลังอย่างไม่มีพิรุธ แต่ท่าทีของเยี่ยเทียนทำให้เขารู้สึกมีบางอย่างผิดปกติ เหมือนกับว่าตนเองจะมีพิรุธบางอย่างถูกเผยออกมา
“เห้ บนโลกนี้มักมีคนประเภทให้กินดีดี ไม่ชอบ ชอบกินแบบหลั่งน้ำตา คุณชาร์ดสันว่าอย่างนั้นไหม?”
เยี่ยเทียนส่ายหัวไปมา มองดูนักฆ่าที่เข้มงวดและนิ่งสงบที่ยืนอยู่ตรงหน้า อีกฝ่ายอาจคิดว่าปลอมเป็นพนักงาน ส่งอาหารเพื่อลอบฆ่าเขาซึ่งเกินความคาดหมายของเยี่ยเทียน แต่เขาไม่รู้ว่าพลังพิฆาตของเขาได้ทรยศต่อตัวตนของเขาแล้ว
“คุณผู้ชายท่านนี้ ผมไม่รู้ว่าพวกคุณหมายถึงอะไร”
จอร์จี้ คาร์เตอร์ตอบกลับไปโดยทำเป็นไม่เข้าใจ แต่มือขวาของเขาจับปืนที่สอดไว้ด้านหลังของเอวเรียบร้อย นี่เองที่ทำให้เขามั่นใจอย่างมากว่าด้วยความเป็นนักแม่นปืนของเขาในระยะใกล้แค่นี้ ถ้าเขาไม่สามารถ ยิงโดน เยี่ยเทียนกับจั่วเจียจวิ้น ชื่อเสียงนักฆ่ามือสามของโลกจะกลายเป็นเรื่องตลกไปเลย
แต่ในขณะนี้ จอร์จี้ คาร์เตอร์นำความสนใจเพ่งตรงไปที่ตัวของจั่วเจียจวิ้นแล้ว ตามความรู้สึกของเขาที่สัมผัสได้ ถึงอันตรายนั้น จั่วเจียจวิ้นเป็นบุคคลที่อันตรายมากที่สุด ส่วนเยี่ยเทียนไม่ต่างจากคนธรรมดาคนหนึ่ง
“เยี่ยเทียน นายหมายถึง?” จั่วเจียจวิ้นตบโต๊ะแล้วลุกขึ้นมา มองดูท่าทีของเยี่ยเทียนแล้ว เขาจะไม่เข้าใจได้ยังไง?
“คุณผู้ชายครับ ผมแนะนำว่าคุณอย่าขยับดีกว่า!” จอร์จี้ คาร์เตอร์เผยสีหน้าแสยะยิ้ม มือขวายื่นออกมาจากเอว ด้านหลังเร็วปานฟ้าแลบ ในฝ่ามือของเขาเป็นปืนพกที่กระทัดรัดมากๆ
จอร์จี้ คาร์เตอร์ไม่เข้าใจภาษาจีน แต่อาชีพนักฆ่าหลายปีของเขา ทำให้เขาเข้าใจอยู่หนึ่งเรื่อง นั่นก็คือพูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง บนโลกใบนี้มีเพียงคนตายแล้วเท่านั้นที่ปลอดภัยที่สุด
ดังนั้นจอร์จี้ คาร์เตอร์ถึงแม้จะพูดเตือนจั่วเจียจวิ้น แต่ที่จริงแล้วในมือขวาของเขาดึงไกปืนพกและชี้ไปยังเขาแล้ว เขาเชื่อว่าถ้าจัดการจั่วเจียจวิ้นเสร็จ สำหรับเยี่ยเทียนแล้วจะไม่สามารถคุกคามเขาได้เลย
“ฮือทำ…ทำไมเป็นแบบนี้?”
ตอนที่จอร์จี้ คาร์เตอร์เตรียมกดไกปืนยิงจั่วเจียจวิ้น จู่ๆเขาก็พบว่านิ้วชี้ของเขาไม่สะมารถงอได้แล้ว
ไม่เพียงแต่เท่านี้ จอร์จี้ คาร์เตอร์ยังรู้สึกถึงความเย็นยะเยือกบนตัวของเขา จากนั้นตัวของเขาก็เริ่มแข็งตัว จนขยับไม่ได้อีกต่อไป นอกจากสมองยังคงใช้งานได้ปกติ แต่ร่างกายของเขากลับไม่สามารถรับการสั่งการได้อีก
“ในประเทศจีนมีคำกล่าวว่าถ้าเป็นแขกต้องแล้วแต่เจ้าของบ้าน ในเมื่อคุณมาถึงที่บ้านของผม ผมเชิญคุณกินคาร์เวีย มันเป็นการต้อนรับจากผม คุณไม่กิน แปลว่าคุณไม่เห็นแก่หน้าผม?”
นั่งอยู่ข้างๆ จอร์จี้ คาร์เตอร์อย่างนี้เยี่ยเทียนก็อดขำไม่ได้ ลุกขึ้นและใช้มือค่อยๆ นำปืนพกที่มือของจอร์จี้ คาร์เตอร์ออกมา
ครั้งแรกที่เจอจอร์จี้ คาร์เตอร์ เยี่ยเทียนก็รู้ตัวตนของเขาแล้ว
สำหรับนักฆ่าแบบนี้ตราบใดที่เขาไม่ได้ลอบฆ่าตัวเองด้วยปืนไรเฟิลจากระยะไกล ไม่มีใครในโลกนี้ที่สามารถฆ่าเขาได้ ในระยะ 3-5 เมตร
ตอนที่จั่วเจียจวิ้นลุกขึ้นเพื่อดึงดูดความสนใจของอีกฝ่าย เยี่ยเทียนจรดนิ้วท่องคาถา นำพลังพิฆาตเข้าสู่ภายในตัวของจอร์จี้ คาร์เตอร์แล้ว ถึงแม้คนต่างชาติจะไม่เชื่อในแพทย์แผนจีนเท่าไหร่ แต่เขาไม่สามารถแก้ไขสิ่งที่มีเหมือนกันอย่างเส้นชีพจรได้
ถึงแม้ภาษาอังกฤษของเยี่ยเทียนติดๆขัดๆ แต่ความหมายถูกสื่อออกมาอย่างชัดเจน มองดูเยี่ยเทียนทำเหมือนตนเป็นหุ่นเชิดกดตนเองนั่งลงไปกับที่นั่ง จอร์จี้ คาร์เตอร์ตกใจมากจนขวัญหนีดีฝ่อ
“ไม่…คุณทำแบบนี้ไม่ได้ นี่…นี่มันคือการลอบฆ่า!”
ทันใดนั้น จอร์จี้ คาร์เตอร์รู้สึกว่าปากของตนสามารถพูดออกมาได้แล้ว และทันทีที่รู้สึกตัวเขาตะโกนออกมาเสียงดัง แต่คำพูดเพิ่งพูดออกมา เขาก็รู้สึกไร้สาระมาก เพราะว่าตนเองคือนักฆ่าคนหนึ่งแต่ตอนนี้กลับกล่าวหาคนอื่นว่าลอบฆ่า?
เยี่ยเทียนใช้ช้อนที่ทำจากเงินตักคาร์เวียขึ้นมาหนึ่งช้อน หัวเราะและถามว่า “ถ้าอย่างงั้นคุณบอกผมได้ไหมว่าใครส่งคุณมาฆ่าผม?”
“ไม่…ผมไม่รู้ว่าผู้ว่าจ้างคือใคร?”
จอร์จี้ คาร์เตอร์ส่ายหัวไปมา และปิดปากอย่างสนิทในฐานะนักฆ่ามืออาชีพอันดับต้น ๆ หลังจากความตื่นตระหนก เริ่มแรกผ่านไปแล้ว เขาก็สงบลงอย่างช้าๆ
การเป็นนักฆ่าไม่ควรทำพลาด และการทำพลาดเท่ากับความตาย
ตั้งแต่วันแรกที่ทำอาชีพนี้ จอร์จี้ คาร์เตอร์ มีสติแห่งความตายอยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าการที่เขาลอบสังหารผู้ที่มีชื่อเสียง ทหารที่แข็งแกร่งระดับนานาชาติไม่เคยพลาดเลยสักครั้ง แต่เขากลับพลาดท่าให้กับคนฮ่องกงที่เล็กเท่ากระสุนปืนแห่งนี้
“โอเค ถ้าอย่างนั้นคุณไปตายซะ!”
บนใบหน้าของเยี่ยเทียนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่ในใจกลับโมโหจนลุกเป็นไฟ การเป็นนักฆ่าสักวันหนึ่ง เขาก็จะโดนฆ่าเช่นกัน ถึงแม้คนตรงหน้าจะเป็นเพียงเครื่องมือเท่านั้น แต่เยี่ยเทียนไม่มีนิสัยปล่อยให้ศัตรู หลุดพ้นจากมือของเขาไปได้
มองเห็นเยี่ยเทียนยื่นช้อนคาร์เวียเกือบจะถึงริมฝีปากของจอร์จี้ คาร์เตอร์ จั่วเจียจวิ้นรีบพูดขัดขึ้นว่า”เยี่ยเทียน ช้าก่อน ฉันมีวิธีทำให้เขาพูดที่ไปที่มาของเขาแล้ว!”
“ศิษย์พี่ ไม่จำเป็นเลย เขาเป็นนักฆ่า ฉันเชื่อว่าเขาไม่รู้จริงๆ ว่าใครจ้างเขามา”
เยี่ยเทียนส่ายหัวไปมา มือซ้ายเร็วปานฟ้าผ่าดึงคางของจอร์จี้ คาร์เตอร์ลง ปากที่ปิดสนิทของจอร์จี้คาร์เตอร์ในตอนนี้ ขากรรไกรก็ร่วงลงมา
“ลาก่อน เพื่อน!”
เยี่ยเทียนป้อนคาร์เวียช้อนนั้นเข้าปากของจอร์จี้ คาร์เตอร์อย่างไม่ลังเลพร้อมกับใช้มือผลักขากรรไกรเข้าหากันคาร์เวียก็ไหลเข้าไปในลำคอตามแรงของเยี่ยเทียน
“แค่ก…แค่ก…”
หลังจากคาร์เวียช้อนนั้นไหลเข้าไปที่ท้องแล้ว คนที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้อย่างจอร์จี้ คาร์เตอร์ก็ฟื้นความสามารถ ในการเคลื่อนไหว แต่มันก็สายไปแล้ว เขาใช้สองมือบีบที่คอของตนเอง ในขณะเดียวกัน จอร์จี้คาร์เตอร์ก็หงายหลัง พร้อมกับเก้าอี้ลงไปที่พื้น
โพแทสเซียมไซยาไนด์เป็นสารเคมีที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก จอร์จี้ คาร์เตอร์ไม่แม้แต่จะมีเวลาคิดถึงชีวิต 40 ปีของเขา เลือดสีดำไหลออกมาตามประสาทสัมผัสทั้งห้าและเจ็ดทวารของเขา ร่างของเขากระตุกเล็กน้อย จากนั้น ลมหายใจของเขาก็หายไป
“นี่……นี่คือยาพิษอะไร?.
มองดูเลือดที่ไหลออกตามเจ็ดทวาร ใบหน้าและดวงตาที่สยดสยองของจอร์จี้ คาร์เตอร์ สีหน้าของจั่วเจียจวิ้นก็เปลี่ยนสีอย่างฉับพลัน เมื่อนึกถึงสถานการณ์ที่เขาเกือบจะเอาคาเวียร์ใส่เข้าไปในปากของเขา แล้วตอนนี้หัวใจของจั่วเจียจวิ้นก็สูบฉีดอย่างรุนแรง
“เห้ย อาติง นายช่วยพาคนมาที่นี่อีกครั้ง แล้วก็เอาอาหารมาด้วย!”
ในขณะที่จั่วเจียจวิ้นกำลังอึ้งอยู่ เยี่ยเทียนยกโทรศัพท์ขึ้นและได้โทรหาอาติง มองดูสภาพของจอร์จี้ คาร์เตอร์เป็นเช่นนี้ ถึงแม้อาหารเหล่านี้จะไม่มีพิษ แต่เยี่ยเทียนก็ไม่กล้ากินอีกต่อไป
“นายน้อย นี่…นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” เวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง อาติงพาคนมาถึงวิลล่าประมาณสามสี่คนอย่างเร่งรีบ มองเห็นคนที่ตายอย่างสยดสยองอย่างจอร์จี้ คาร์เตอร์ ใบหน้าของเขาก็ไม่สามารถควบคุมอาการตกใจได้
“นักฆ่า ขับรถส่งอาหารของโรงแรมฟูราม่ามาถึงที่นี่…”
เยี่ยเทียนเล่าเหตุการณ์เมื่อสักครู่ให้อาติงฟังเสร็จ และชี้ไปที่คาร์เวียที่วางอยู่บนโต๊ะพูดว่า “นายเอาคาร์เวียพวกนี้ไปให้แล็ปช่วยพิสูจน์หน่อย ดูว่าข้างในนี้คือพิษอะไร?”
“นายน้อย เป็นเพราะพวกผมสะเพร่าเอง!”
อาติงแสดงสีหน้าละอายใจ เยี่ยเทียนเป็นคนที่ถูกเชิญมาฮ่องกงโดยถังเหวินหย่วน มาถึงที่นี่ยังไม่ทันไร ก็ถูกโจมตีถึงสองครั้งติดต่อกัน ความปลอดภัยของฮ่องกงแย่ขนาดนี้ตั้งเต่เมื่อไหร่?
“ไม่เกี่ยวกับพวกนายหรอก เรื่องของครั้งนี้ให้มันจบเพียงเท่านี้”
หลังจากที่จอร์จี้ คาร์เตอร์เสียชีวิตแล้ว ช่วงเวลานี้เงาหยินที่ปกคลุมบนตัวของเยี่ยเทียนกลุ่มนั้นก็หายไปสักที
……