บทที่340 คุณพ่อมาแล้ว(5)
ทุกคนได้ยินเสียง ต่างก็หันไปมอง เมื่อเห็นผู้ชายที่กำลังเดินมา ทุกคนต่างก็ตะลึง ……
ผู้ชายคนนี้ดูดีมาก ! นี่เป็นปฏิกิริยาแรกของทุกคน
ผู้ชายคนนี้เผด็จการมาก!นี่เป็นปฏิกิริยาที่สองของทุกคน
ผู้ชายคนนี้น่าเกรงขามมาก นี่เป็นปฏิกิริยาหลังจากความกลัวของทุกคน
ใช่ ผู้ชายที่เดินมาดูดีมาก ดูดีมากจริงๆ ดูดีแบบที่ผู้หญิงมองแล้วไม่อยากละสายตาเลย
บนใบหน้าผู้ชายไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรเลย ไม่รู้ว่าทำไม มีความรู้สึกเหมือนเผด็จการภายในสู่ภายนอกแบบอธิบายไม่ถูก
เมื่อกี้เสียงของเขาเบามาก แต่ว่า ตั้งใจฟังแล้ว จะพบว่าเสียงนั้นราวกับมีเจตนาที่อยากจะฆ่าคนเลย
ในเวลานี้ เขาเดินมาช้าๆ แต่ละก้าวที่เดินเข้ามาใกล้ ยิ่งเห็นได้ชัดเจนว่าอันตรายมากและอยากจะฆ่าคนเพิ่มขึ้น
คนที่มาดูก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น และต่างก็ถอยออกไป
ผู้หญิงอ้วนกลืนน้ำลายโดยจิตใต้สำนึกของเธอ ขาเริ่มสั่นไปทั้งสองข้าง
เวินลั่วฉิงเห็นคนที่เดินมาตะลึงอย่างเห็นได้ชัดเจนมาก รุ่นพี่?
ครั้งก่อนมู่หรงดัวหยางบอกว่ารุ่นพี่ยังอยู่เมือง A แต่ว่ารุ่นพี่ไม่เคยติดต่อเธอเลย เธอคิดว่ารุ่นพี่กลับไปแล้วซะอีก ไม่คิดเลยว่ารุ่นพี่ยังไม่ได้ไปจากเมือง A
แต่ว่า ทำไมรุ่นพี่จู่ๆถึงมาอยู่ตรงนี้ เห็นได้ชัดว่า รุ่นพี่มาเพราะเรื่องของวันนี้ แต่ว่าทำไมรุ่นพี่ถึงรู้เรื่องของโรงเรียนอนุบาล ?
“ใครเป็นคนรังแกลูกรักบ้านผม”ถังไป๋เชียนเดินมา อุ้มถังจื่อซีขึ้นมา หอมแก้มของถังจื่อซีเบาๆ
ในเวลานั้น เจตนาความรู้สึกอยากฆ่าคนที่เป็นอันตรายของผู้ชายนั้นได้หายไป เปลี่ยนเป็นความอ่อนโยนนุ่มนวล
“เขา เขาด่าหนู ด่าพี่ชาย ยังด่าแม่อีก ”มือเล็กๆของถังจื่อซีชี้ไปที่เด็กผู้ชายอ้วน
ถังไป๋เชียนยิ้ม แล้วมองไปที่ถังจื่อโม่ พูดช้าๆว่า:“แสดงว่า ถูกรังแกเหรอ?”
ถังไป๋เชียนพูดแบบรู้อยู่แก่ใจแล้วยังแกล้งถาม ด้วยความฉลาดของเขา เป็นไปไม่ได้ที่จะดูไม่ออก
เวินลั่วฉิงรู้สึกแปลกใจ มองไปที่ถังไป๋เชียน
“อย่างเขา จะรังแกผมได้เหรอ? ไม่เห็นหรอว่าตอนนี้เขายังลุกไม่ขึ้นเลย?”ถังจื่อโม่เงยหน้าขึ้น เชิดอก น้ำเสียงนี้ดูโอ้อวดอย่างไร้ขอบเขต
เป็นไปได้ยังไงที่เขาจะถูกรังแก ?
เมื่อกี้อยู่ต่อหน้าของเวินลั่วฉิง ถังจื่อโม่ยังปิดบังอยู่เลย แต่ว่าตอนนี้ เขาไม่ปิดบังเลย
“อืม ดีมาก”ถังไป๋เชียนยิ้ม รู้สึกพอใจมาก พอใจวิธีการทำของถังจื่อโม่ ยิ่งพอใจคำตอบของถังจื่อโม่
แต่ว่า ถังไป๋เชียนยังพูดไปคำนึงว่า:“แต่ก็ ตีเบาไปหน่อยนะ”
ทุกคนได้ยินการสนทนาของทั้งสองคน ต่างก็ตะลึงไปเลย นี่ นี่เป็นสถานการณ์อะไร ?
มีผู้ปกครองที่สอนเด็กแบบนี้ด้วยเหรอ?
ลูกของตัวเองไปตีลูกของคนอื่น คนที่เป็นผู้ปกครองยังจะพูดว่าตีเบาเกินไป
“คุณสอนเขาแบบนั้นจะตามใจเด็กจนเสียคน ”เวินลั่วฉิงตะลึง ถึงจะเป็นความผิดของเด็กผู้ชายอ้วนนั้นจริงๆ แต่ตอนนี้ถังจื่อโม่ไปตีคนอื่นแบบนี้ เธอเห็นแล้วก็รู้สึกสงสาร
เธอรู้สึกว่า รุ่นพี่สอนถังจื่อโม่แบบนี้ไม่ถูกเลย
เธอกลัวรุ่นพี่สอนเด็กแบบนี้จะตามใจเด็กจนเสียคน
“เหรอ?”ถังไป๋เชียนค่อยหันไปที่เวินลั่วฉิง มีรอยยิ้มในดวงตาอยู่ลึกๆ:“จื่อโม่ยังไม่เป็นเด็กดีเหรอ?ยังเชื่อฟังไม่พอเหรอ?”
“ หรือว่าคุณหวังว่าเด็กถูกรังแกแล้วจะไม่ตีคืน? ปล่อยให้ถูกคนรังแกไปทั่ว?”ตอนถังไป๋เชียนพูดคำนี้ เสียงอ่อนโยนมาก
เวินลั่วฉิงพูดไม่ออกไปซะพัก:“……”
จื่อโม่บ้านเธอเป็นเด็กดีจริงๆ เชื่อฟังมากแล้ว วันนี้ถ้าไม่ใช่เด็กผู้ชายอ้วนด่าคนก่อน และยังด่าแรงขนาดนี้ เป็นไปไม่ได้ที่ถังจื่อโม่จะไปตีคนอื่น
และคุณชายสามเย่ในตอนนี้นั่งรอเวินลั่วฉิงอยู่ที่ห้องทำงาน รอแล้วรอเล่าก็ยังไม่มา……
คุณชายสามเย่เริ่มหลับตาลงทีละนิด
เธอบอกว่าจะมาหาเขา ทั้งไปที่ตอนนั้นเขาได้ยินเธอกำลังลงจากรถ โดยปกติ ก็น่าจะถึงตั้งนานแล้ว ทำไมตอนนี้ก็ยังไม่เจอเธออีก?
เย่ซือเฉิน รู้ว่าเวินลั่วฉิงไม่อยากเปิดเผยเรื่องการแต่งงานของพวกเธอมาโดยตลอด ดังนั้น เวินลั่วฉิงจะมาหาเขา แน่นอนว่าจะมาทางลิฟต์ส่วนตัวของเขา
เย่ซือเฉินออกมาจากห้องทำงาน เดินตรงไปที่ลิฟต์ส่วนตัว เห็นว่าลิฟต์ส่วนตัวยังคงอยู่ชั้นที่เขาอยู่
หลังจากนั้นเย่ซือเฉินก็ไปดูคลิปวีดีโอจากกล้องวงจรปิดทั้งหมด และยังคงไม่เห็นร่องรอยของเวินลั่วฉิง
ในดวงตาของเย่ซือเฉินมีความสับสนเล็กน้อย เธอไปที่ไหนกันแน่ ?
หรือว่าจะอยู่ห้างข้างล่างหรือเปล่า ?ได้ยินมาว่าโดยธรรมชาติแล้วผู้หญิงจะชอบเดินห้าง และชอบช็อปปิ้ง
แต่ว่า แต่งงานกับเธอมานานขนาดนี้ เขาเหมือนจะไม่เคยเห็นเธอไปเดินห้างเลย และไม่เคยเห็นเธอซื้อของอะไรเลย
ไม่ ครั้งก่อน เธอเคยซื้อกระเป๋าสตางค์ ก็คืออันที่เขาใช้ในตอนนี้ คิดแล้วก็มีความสุข
เย่ซือเฉินสัมผัสกระเป๋าสตางค์ แล้วโค้งมุมปากขึ้น หรือว่าเธอจะชอบของอะไรบางอย่าง กำลังซื้อของอยู่ ก็เลยเสียเวลาไปหน่อย รออีกหน่อยละกัน
คุณชายสามเย่บอกตัวเองว่าให้อดทนอีกนิด
ณ โรงเรียนอนุบาล
“เรื่องนี้คุณไม่ต้องยุ่ง ให้ผมมาจัดการ ”ตอนถังไป๋เชียนมองเวินลั่วฉิง มีรอยยิ้มบนใบหน้าด้วย เสียงนุ่มนวล และอ่อนโยนมาก
แต่ว่า ความอ่อนโยนของเขาจะมีกับเวินลั่วฉิงแค่คนเดียว
เวินลั่วฉิงรู้ว่าในหลายๆด้านนั้น วิธีการจัดการแต่ละเรื่องของรุ่นพี่จะแตกต่างกับเธอมาก ตอนนี้รุ่นพี่มาแล้ว เรื่องนี้คงจะไม่จบได้ง่ายแน่นอน ……
ดังนั้น เรื่องของวันนี้เวินลั่วฉิงไม่ค่อยอยากให้รุ่นพี่มาจัดการเลย เพราะเธอไม่อยากให้เรื่องมันใหญ่โต
เวินลั่วฉิงกำลังจะพูด จู่ๆผู้หญิงอ้วนก็พูดออกมาคำนึง :“หมายความว่ายังไง ?พวกคุณหมายความว่ายังไง ?”
ผู้หญิงอ้วนไม่ค่อยเชื่อคำพูดเมื่อกี้ของถังจื่อโม่ หมายความว่ายังไง ? พวกเขาหมายความว่าได้ตีจ้างจ้วงของบ้านเธอจริงๆหรอ ?
ไม่ เป็นไปไม่ได้ ?เมื่อกี้เธอได้ตรวจสอบแล้วนี่ ร่างกายของ จ้างจ้วงไม่ได้มีแผลอะไรเลย แม้แต่ร่องรอยนิดหน่อยก็ไม่มี แต่ร่างกายของถังจื่อโม่นี่สิที่กลับมีแผลชัดเจนมากกว่าอีก
ผู้หญิงอ้วนรู้สึกว่าพวกเขาก็แค่สร้างสถานการณ์ข่มขู่ กำลังหลอกเธออยู่แน่นอน ดังนั้นเธอก็เลยไม่ไปสนใจเด็กผู้ชายอ้วนที่นอนอยู่บนพื้นเลย
แม่ของเด็กผู้ชายอ้วนยังปล่อยให้เด็กผู้ชายอ้วนนอนร้องไห้อยู่บนพื้น แม้แต่ถังจื่อโม่ก็ทนดูไม่ไหวแล้ว:“ขอเตือนด้วยความหวังดีนะ เขาเจ็บจริง ไม่ได้แกล้งเจ็บ ”
ทุกคนได้ยินคำพูดของเขา ก็มองไปที่เด็กผู้ชายอ้วนที่นอนร้องไห้อยู่บนพื้นอย่างน่าสงสาร สังเกตเห็นว่าสีหน้าของเด็กผู้ชายมีเจ็บปวดทรมานมาก มันเป็นอาการเจ็บจริง ไม่ได้แกล้ง
ผู้หญิงอ้วนก็เลยรีบนั่งลงไปตรงหน้าของเด็กผู้ชายอ้วน แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่ ถามเบาๆว่า :“จ้างจ้วง ลูกเจ็บจริงๆเหรอ?”
“เจ็บ เจ็บจริงๆ เจ็บมาก แต่ละทีที่เขาตีนั้นเจ็บชนิดต้องร้องขอชีวิตเลย ” เด็กผู้ชายยิ่งร้องไห้หนักเข้าไปอีก
“แกตีลูกชายฉัน แค้นนี้……” ผู้หญิงอ้วนเพิ่งจะรู้ว่าลูกชายตนได้ถูกตีจริงๆ ปฏิกิริยาแรกของเธอคือจะเอาเรื่องถังจื่อโม่เพื่อล้างแค้น แต่พอเห็นสายตาของถังไป๋เชียน คำพูดเธอก็ถูกค้างคาไว้แบบนั้น
ฐานะบ้านเธอก็นับว่ารวยนะ เธอเคยเห็นคนใหญ่คนโต เพราะฉะนั้น เธอดูออกว่าผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดาแน่ๆ เธอคงจะทำอะไรเขาไม่ได้