บทที่58 ไม่สามารถเอาอดีตมาเปรียบได้
พอไปถึงบริษัทกับส้งหวั่นหวั่น เจียงหยุนเอ๋อก็ดูอึดอัดเล็กน้อย อย่างแรก เธอได้โอกาสนี้มาก็เพราะส้งหวั่นหวั่นยังไงเธอก็ไม่มีความสามารถขนาดนั้น นอกจากนี้เธอก็ยังไม่มั่นใจว่าจะผ่านสัมภาษณ์ครั้งนี้ได้ ถ้าหากล้มเหลวก็ไม่ใช่ว่าทำให้ส้งหวั่นหวั่นผิดหวังเหรอ?
ถืออารมณ์ยุ่งเหยิงนั้นไว้ เจียงหยุนเอ๋อมาถึงที่สัมภาษณ์ ไม่รู้ว่าใช่เพราะสาเหตุที่ส้งหวั่นหวั่นทักทายหรือเปล่า ผู้สัมภาษณ์ดูใจดีมาก ทั้งสองพูดคุยกันเสร็จสัมภาณ์ก็พยักหน้าอย่างพอใจแล้วตัดสินใจเอาเจียงหยุนเอ๋อไว้
“โอเค ถ้ามีเวลาแล้วคุณมาทำงานได้เลย สถานการณ์ของคุณหวั่นหวั่นก็บอกฉันหมดแล้ว แม่ของคุณยังอยู่โรงพยาบาล ถ้ายังมาไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ยังไงซะพอถึงตอนนั้นคุณมาทำงานก็ไปรับบัตรที่แผนกบุคคลได้เลย”
เจียงหยุนเอ๋ออึ้ง คิดไม่ถึงว่าการสัมภาษณ์ครั้งนี้จะชิลขนาดนี้ เลยตอบไป:“ค่ะ……ขอบคุณ”
“เงินเดือนคือหมื่นสองหยวน พอเปลี่ยนเป็นพนักงานประจำแล้วจะเพิ่มเป็นหมื่นห้า โอเคไหม?”
“ไม่มีปัญหาค่ะ!”แค่หมื่นสองของเจียงหยุนเอ๋อในตอนนี้ก็ไม่น้อยแล้ว ดังนั้นได้แต่พยักหน้าตอบรับไป
พอตอบรับเสร็จใบหน้าเจียงหยุนเอ๋อก็มีความลังเล พูดอย่างจริงจัง:“ผู้จัดการ……ฉันไม่รู้ว่าเป็นเพราะคุณส้งหรือเปล่าคุณเลยรับฉันไว้ แต่ไม่ว่ายังไงฉันก็ขอบคุณมากที่คุณรับฉันไว้ค่ะ”
ได้ยินเจียงหยุนเอ๋อพูดแบบนี้ คนสัมภาษณ์ก็พูดขำๆ:“คุณเจียง คุณดูถูกตัวเองเกินไปจริงๆ ถึงหวั่นหวั่นจะแนะนำมาแต่ถ้าไม่มีความสามารถ ฉันก็ไม่รับคุณไว้แน่ อีกอย่างก็ไม่มีบริษัทไหนเป็นแม่พระหรอกจริงไหม?”
ในที่สุดเจียงหยุนเอ๋อก็โล่งอก ยิ้มให้กับคนสัมภาษณ์ บอกลาเสร็จจากนั้นก็ออกมา
ดูจากเจียงหยุนเอ๋อแล้ว ส้งหวั่นหวั่นก็ทายผลออก แต่ว่ายังถามไปตามน้ำว่า:“โอเคใช่ไหม?”
“ค่ะ”เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้า“ขอบคุณคุณส้ง งั้น……ฉันเลี้ยงข้าวคุณมื้อนึงไหมคะ?”
“ไม่เป็นไรค่ะ ที่จริงฉันเลี้ยงคุณดีกว่า ยังไงตอนนี้ด้านการเงินคุณก็ไม่ดีเท่าไหร่ แต่เงินพวกนี้สำหรับฉันสบายมาก”
แม้ว่าส้งหวั่นหวั่นจะพูดจริง แต่เจียงหยุนเอ๋อก็ไม่สบายใจ เธอจะพูดอะไรอีกก็ได้ยินส้งหวั่นหวั่นพูดต่อ:“เค ไปกัน ฉันรู้จักร้านดีๆร้านนึงพอดี ไปกันเถอะค่ะ”
ส้งหวั่นหวั่นพาเจียงหยุนเอ๋อไปร้านดูแพงร้านนึง ถ้าเป็นเมื่อก่อนเจียงหยุนเอ๋อก็มาทานข้าวร้านแบบนี้อยู่บ่อยๆ แต่ว่าเธอในตอนนี้ไม่สามารถเอาอดีตมาเปรียบได้อีก
ถึงรู้ว่าอาหารมื้อนี้จะแพงมาก แต่เจียงหยุนเอ๋อกลับอยากไปแอบจ่ายตัง แต่น่าเสียดายคือส้งหวั่นหวั่นมองออกว่าเธอจะทำอะไร
“คุณเจียง คุณคงไม่ไปแอบจ่ายนะ?ฉันบอกไปแล้วว่าฉันจะจ่ายค่าอาหารเอง ถ้าคุณไม่ยอมงั้นก็ไม่ให้หน้าฉันเลย”
ได้ยินดังนั้นเจียงหยุนเอ๋อก็ไม่รู้จะทำไงได้แต่ยอมให้ส้งหวั่นหวั่นจ่าย
กินเสร็จเจียงหยุนเอ๋อก็เตรียมกลับบ้าน แต่ส้งหวั่นหวั่นพูด:“คุณเจียง ไปเดินเล่นกับฉันได้ไหม?”
เจียงหยุนเอ๋อคิดว่ายังไงส้งหวั่นหวั่นก็ช่วยตัวเองขนาดนี้แล้ว ตอนนี้ส้งหวั่นหวั่นขอร้องออกมาตัวเองจะปฏิเสธก็ไม่ดี เลยรีบตอบไป:“แน่นอนค่ะ”
เห็นเจียงหยุนเอ๋อตอบไวแบบนี้ ส้งหวั่นหวั่นก็ยิ้มอย่างพอใจแล้วพาเจียงหยุนเอ๋อไปห้างด้วยกัน
ในฐานะผู้หญิงคนนึง เจียงหยุนเอ๋อก็ชอบเดินเล่นอยู่แล้ว แต่เธอก็เข้าใจว่าด้านการเงินของเธอตอนนี้ไม่ควรซื้ออะไรมากมาย ดังนั้นไปเดินเป็นเพื่อนส้งหวั่นหวั่น เธอก็ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ซื้ออะไร
ส้งหวั่นหวั่นเลือกเสื้อผ้าอย่างตื่นเต้น คอยยื่นชุดไปตรงหน้าเจียงหยุนเอ๋อตลอด:“คุณเจียง ชุดนี้สวยไหม?”
“สวยมากค่ะ”เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้าอย่างจริงจัง“ถ้าคุณส้งชอบก็ไปลองที่ห้องแต่งตัวได้นะคะ”
คิดไม่ถึงว่าส้งหวั่นหวั่นจะส่ายหัวเอาชุดยัดใส่อ้อมแขนเจียงหยุนเอ๋อ:“ฉันว่าคุณใส่น่าจะเหมาะกว่า ไปลองสิคะ”
“เอ่อ……ฉันไม่หรอกค่ะ……”เจียงหยุนเอ๋อปฏิเสธอย่างลำบาก ถึงจะใส่สวยเธอก็ซื้อไม่ไหว
แต่จากสายตาของส้งหวั่นหวั่นแบบนั้น สุดท้ายเจียงหยุนเอ๋อก็ตกลงไปเปลี่ยนชุดในห้องลอง
พอเธอออกมาจากห้องลองส้งหวั่นหวั่นก็มองอย่างพอใจโดยไม่พูดอะไรจะซื้อชุดนี้:“ไม่เลว ซื้อชุดนี้แหละ ช่วยฉันรูดบัตร”
“คุณเจียง ชุดนี้เหมาะกับคุณมากจริงๆ ฉันจะซื้อให้คุณเอง ถือว่าเป็นของขวัญฉลองที่คุณได้งาน”ส้งหวั่นหวั่นเอาถุงที่ห่อชุดนั้นยื่นไปที่มือเจียงหยุนเอ๋อ
เจียงหยุนเอ๋อรีบโบกมือปฏิเสธ:“ได้ยังไงคะ?ไม่ต้องหรอกค่ะ”
“เป็นน้ำใจของฉันจริงๆ รับไว้เถอะค่ะ”ท่าทางของส้งหวั่นหวั่นดูแข็งกว่า“คุณไม่เอางั้นฉันทิ้งนะ”
“งั้น……ก็ได้ค่ะ……”เจียงหยุนเอ๋อรับมาอย่างจำใจ
จากนั้นส้งหวั่นหวั่นก็ซื้อเครื่องเขียนกับของเล่นชุดใหญ่ให้ถวนจื่อด้วย ถึงเจียงหยุนเอ๋อจะปฏิเสธตลอดเวลาแต่ส้งหวั่นหวั่นก็ไม่แคร์ตลอด
เป็นแบบนี้จนเย็นทั้งสองก็ซื้อของมาจำนวนมาก ส้งหวั่นหวั่นมองสีท้องฟ้าแล้วพูดกับเจียงหยุนเอ๋อ:“ตอนนี้คุณน่าจะไปรับลูกใช่ไหม?เดี๋ยวฉันไปส่งเอง”
จากที่โดนเมินปฏิเสธหลายต่อหลายครั้ง เจียงหยุนเอ๋อก็รู้ว่าปฏิเสธไปก็ไร้ประโยชน์ เลยพยักหน้าตอบรับไป
แปปนึงรถก็ถึงหน้าโรงเรียนอนุบาล มองเห็นถวนจื่อออกมาตอนนั้นเจียงหยุนเอ๋อก็รีบโบกมือให้:“ถวนจื่อ!”
“หยุนเอ๋อ!”ถวนจื่อวิ่งพร้อมกับยิ้มออกมา มองเห็นส้งหวั่นหวั่นที่อยู่ข้างๆเจียงหยุนเอ๋อ ใบหน้ายิ้มๆก็ค่อยๆหุบลง
“รีบเรียกป้าส้งสิลูก”
ถวนจื่อเหมือนจะเมินส้งหวั่นหวั่น ปากพึมพำไปว่า:“ป้าส้ง”อย่างไม่เต็มใจ
เผชิญกับความเย็นชาของเขา ส้งหวั่นหวั่นก็ยังดูไม่แคร์เหมือนเดิม อ่อนโยนเสมอ กลับทำให้เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกละอายหน่อยๆ
ส้งหวั่นหวั่นซื้อของให้ถวนจื่อเยอะขนาดนั้น ถวนจื่อยังทำแบบนี้กับเธอ……
“ถวนจื่อ แม่สอนยังไง มีมารยาทกับผู้ใหญ่ เข้าใจไหม?”
ถวนจื่อหุบปากลงแน่นไม่พูดอะไร
เห็นแบบนี้เจียงหยุนเอ๋อก็ยิ้มขอโทษส้งหวั่นหวั่นแล้วพูด:“ขอโทษจริงๆนะคะ ทำให้คุณน่าขันจริงๆ……”
“ไม่เป็นไรค่ะ”ส้งหวั่นหวั่นพูดอย่างใจกว้าง
เจียงหยุนเอ๋อไปห้องน้ำแปปนึง ทิ้งส้งหวั่นหวั่นกับถวนจื่อสองคนไว้ที่เดิม ถวนจื่อเดินเล่นไปไกลหน่อยนึง จู่ๆส้งหวั่นหวั่นก็เปลี่ยนสีหน้า จ้องมองถวนจื่อแล้วพูด:“เป็นอะไรไป?ฉันทำอะไรหรือยัง?”