บทที่230 ความสามารถที่แสดงออกมาของเทพธิดาเวิน ทำทุกคนตะลึงตาค้าง (2)
“ประธานหลี่ไม่เซ็นสัญญาก่อนเหรอคะ” เวินลั่วฉิงยักคิ้วเล็กน้อย มองไปทางสัญญาบนโต๊ะแล้วแวบหนึ่ง แม่คืนนี้ที่หลิวฉินทำไปทั้งหมดเพื่อที่จะทำร้ายเธอ แต่สัญญาหลิวฉินก็ยังเอาออกมาด้วย
ในเมื่อสัญญาณเอามาด้วย ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่เซ็นแล้วสิ “สัญญา สัญญาอะไร”เสี่ยวชีที่ตอนนี้กำลังดูความสนุกอย่างตื่นเต้น เมื่อได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิงก็ชะงักไป
ทุกคนต่างก็สงสัยไม่เข้าใจเหมือนกัน ไม่เข้าใจว่าระหว่างเวินลั่วฉิงกับประธานหลี่จะสามารถมีสัญญากันได้ยังไง
“สัญญาของทางบริษัท ตอนนี้เธอไปทำงานที่บริษัทแล้ว”มันยากนักที่คนกลัวพิกุลจะร่วงออกจากปากอย่างเย่ซือเฉินจะพูดไขข้อสงสัยให้กับทุกคน
เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าการไปทำงานวันแรกของเธอ จะทำให้เขามีการได้ค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ขนาดนี้
“พี่สาม พี่ให้พี่สะใภ้สามไปทำงานที่บริษัทเหรอ”จี้หซีอดร้องออกมาด้วยความประหลาดใจไม่ได้”ทำไมผมไม่รู้เลย”
วันนี้เขาก็อยู่ที่บริษัทด้วย พี่สะใภ้สามไปทำงานวันนี้ที่บริษัทเหรอ ทำไมเขาไม่รู้เลย
แน่นอน ในก่อนหน้านี้ แม้พวกเขาจะรู้ว่าเย่ซือเฉินแต่งงานกับเวินลั่วฉิงแล้ว แต่นอกจากถังหลินแล้ว พวกเขาไม่มีแม้แต่สักคนเลยที่ยอมรับเวินลั่วฉิงจริงๆ และไม่ได้ไปให้ความสนใจเวินลั่วฉิงเช่นกัน
ถ้าไม่งั้น ในวันนี้ที่บริษัทเกิดเรื่องขึ้นแบบนั้น จี้หซีจะไม่รู้ได้ยังไง
พูดถึงที่สุดก็เป็นเพียงแค่ก่อนหน้านี้เท่านั้น คนในระหว่างพวกเขานอกจากถังหลินแล้ว ไม่มีใครที่รู้สึกว่าเวินลั่วฉิงจะเหมาะสมคู่ควรกับเย่ซือเฉินเลย และไม่มีใครรู้สึกว่าการแต่งงานของพวกเขาจะสามารถอยู่รอดได้ยาวนาน แม้แต่งานแต่งของพวกเขาทั้งสองก็ไม่จัดขึ้นเลย
“เป็นพนักงานดีเด่นของแกเลยจริงๆ ในเวลาแบบนี้ยังจำเรื่องสัญญาได้อีก” ถังหลินจ้องมองเย่ซือเฉินด้วยแววตาแอบแฝงบางอย่างแวบหนึ่ง แล้วยิ้มสดใสแปลกไปจากเดิม
“แต่ว่าเรื่องมันยุ่งยากขนาดนี้แล้ว เธอยังคิดให้ประธานหลี่เซ็นสัญญาอีกเหรอ เธอมองโลกแง่ดีเกินไปหรือเปล่า”ในที่สุดคุณชายห้าฉิงก็ได้สติกลับมา ฟังที่ทุกคนแสดงความคิดเห็นออกมา สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะพูดเสริมขึ้นมาอีกประโยคหนึ่ง
เขารู้สึกว่าเวินลั่วฉิงข่มขู่ประธานหลี่จนกลัวได้เสร็จก็น่าจะรู้จักรามือ อย่าให้มีปัญญาใหม่เกิดขึ้นเพิ่งมาอีกเลย
ส่วนปัญหาของสัญญาณนั้น ที่จริงแล้วไม่จำเป็นต้องให้เธอกลุ้มใจเลยสักนิด
“คำพูดนี้ฉันกลับเห็นด้วยนะ ประธานหลี่เพิ่งโดนพี่สะใภ้สามข่มขู่จนเสียขวัญมา แต่ตอนนี้พี่สะใภ้สามยังพูดเรื่องสัญญาอีก เห็นได้ชัดว่ามีการขอร้องประธานหลี่ สถานการณ์ก็จะเปลี่ยนแปลงไป กลัวว่ามันจะยิ่งทำให้ประธานหลี่พลิกสถานการณ์ได้ แล้วมันจะไม่เป็นผลดีต่อพี่สะใภ้สามแทน เวลานี้คุยเรื่องสัญญามันไม่เหมาะเลยสักนิด ประธานหลี่ดูก็รู้ว่าเป็นสุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ ผมรู้สึกว่าต่อจากนี้สัญญาไม่เพียงแต่จะเซ็นไม่ได้ กลัวเพียงว่ามันจะกลับกลายเป็นว่าพี่สะใภ้สาม……”จี้หซีที่ตอนนี้กลับเห็นด้วยกับคำพูดของคุณชายห้าฉิง คำพูดของเขาพูดแล้วครึ่งหนึ่งก็หยุดเว้นเอาไว้ แต่ความหมายนั้นกลับชัดเจนจนไม่สามารถชัดเจนไปมากกว่านี้แล้ว
จี้หซีเป็นผู้ควบคุมที่สำคัญในธุรกิจอื่นๆของเย่ซือเฉินมาตลอด ในตำแหน่งที่แต่งตั้งในบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปนั้นเป็นเพียงตำแหน่งปลอมๆเท่านั้น จึงไม่ค่อยรู้เรื่องราวในบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปสักเท่าไหร่ เพราะแบบนี้ถึงได้ไม่รู้จักประธานหลี่คนนี้
แต่ประธานหลี่ดูก็รู้เลยว่าเป็นคนประเภทเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว
“อย่าเพิ่งด่วนสรุป รอดูไปก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที”ถังหลินหัวเราะเบาๆออกมาอีกครั้ง ไม่พูดไม่ได้เลยว่าวันนี้ถังหลินพูดมากเป็นพิเศษ
แม้ถังหลินกับคุณชายห้าฉิงจะพูดออกไปแบบนั้น แต่พวกเขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าตอนต่อไปเวินลั่วฉิงจะทำยังไง
“ฉันกลับรู้สึกว่าอาจจะมีเซอร์ไพรส์ที่ใหญ่กว่านี้”ถังหลินยกมุมปากขึ้นเบาๆ เขารู้สึกว่าในเมื่อเวินลั่วฉิงพูดปัญหานี้ขึ้นมา ก็ต้องมีวิธีจัดการอย่างแน่นอน
เขารู้สึกว่าเธอจะไม่ทำเรื่องที่ไม่สามารถควบคุมได้
“ถังหลิน ฉันไม่รู้มาก่อนเลยนะว่านายเป็นคนพูดมากแบบนี้”เย่ซือเฉินจ้องมองถังหลิน ดวงตาทั้งสองข้างหรี่ลงเบาๆ เห็นได้ชัดว่ามีเยือกเย็นอยู่ในนั้น
“ฉันพิเศษแค่กับยัยฉิงฉิง”ถังหลินไม่สนใจเขาเลยสักนิด กลับยิ้มออกมาตามสบายอารมณ์มากยิ่งขึ้น
คนที่อยู่ในห้องเมื่อได้ยินคำพูดนี้ของถังหลินก็ต่างตกใจเป็นอย่างมาก อะไรที่เรียกว่าเขาพิเศษแค่กับยัยฉิงฉิงเท่านั้นกันแน่
ยัยฉิงฉิงเหรอ ขอถามหน่อยว่าคำเรียกนี้ได้มาแต่ไหนมา
คำเรียกนี้มันจะไปสนิทสนมมากเกินไปหรือเปล่า
แถมตอนนี้ถังหลินยังไม่ซ่อนความพิเศษที่มีต่อเวินลั่วฉิงเลยแม้แต่น้อย
แบบนี้จะดีจริงเหรอ
ยิ่งท่าทางเย่ซือเฉินราวกับจะไม่ฆ่าคนให้ได้
นี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เพียงแต่ เรื่องระหว่างถังหลินกับเย่ซือเฉิน ทุกคนกลับไม่กล้าที่จะถาม แม้แต่คุณชายห้าฉิงที่ขี้สงสัยที่สุดในขณะนี้ก็ไม่กล้าพูดพล่ามอะไรออกมา
ยังดี ที่ตอนนี้กล้องวงจรปิดได้ดึงความสนใจจากทุกคนอย่างรวดเร็ว
“ฮึ เธอมองโลกในแง่ดีเกินไปหรือเปล่า เรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว เธอยังคิดว่าฉันจะเซ็นสัญญาให้กับเธอเหรอ”เป็นไปตามที่คาด ท่าทีของประธานหลี่เปลี่ยนไปในพริบตาเดียว เป็นไปตามการคาดเดาของคุณชายห้าฉิงทั้งหมด
เพียงแต่ เมื่อกี้เธอเกือบจะฆ่าเขาแล้ว แต่ตอนนี้จะให้เขาเซ็นสัญญากับเธอเหรอ
ผู้หญิงคนนั้นใสซื่อเกินไปหรือเปล่า คิดว่าตัวเองแน่เกินไปแล้วมั้ง
“ฉันไม่เป็นไรหรอกค่ะ เพราะฉันมาทำงานวันแรก ถึงจะเซ็นสัญญาแล้ว ก็อาจไม่มีโบนัสให้เอาได้ ที่จริงสัญญาเซ็นแล้วก็ไม่มีผลดีอะไรเกี่ยวกับฉัน”เวินลั่วฉิงไม่โกรธเลยสักนิด และไม่มีการผิดหวังใดๆด้วย มีเพียงการหัวเราะเบาๆเท่านั้น
“ฮึ”ประธานหลี่ฮึอย่างเย็นชาออกมาทันที เธอแกล้งแสดงละครไปเถอะ เขาจะดูสิว่าเธอจะแกล้งแสดงละครไปถึงเมื่อไหร่
“แต่ว่า หากสัญญานี้ไม่ได้เซ็นละก็ ประธานหลี่จะเสียหายไปไม่น้อยเลยนะคะ”เวินลั่วฉิงไม่ร้อนใจเลย ไม่ร้อนใจเลยสักนิด น้ำเสียงแผ่วเบาของเธอฟังไม่ออกถึงอารมณ์ใดไปทั้งสิ้น
เพียงแต่ ประธานหลี่ในขณะนี้ได้มองข้ามข้อนี้ไปอย่างชัดเจน
“ชิ เธอเลิกขู่ฉันได้แล้ว สัญญาฉันเซ็นแน่ เพียงแต่ไม่เซ็นกับเธอเท่านั้นเอง”ท่าทางประธานหลี่นั้นได้ใจและอวดดีมากยิ่งขึ้น ผู้หญิงคนนี้ยังอ่อนไปหน่อย ถึงกล้ามาใช้คำพูดแบบนี้มาข่มขู่เขา สัญญาเขาเซ็นแน่ แต่จะไม่เซ็นกับเธออย่างเด็ดขาด
เมื่อกี้หากเธอยอมตามใจเขา ไม่แน่อารมณ์เขาอาจจะดี แล้วเซ็นสัญญากับเธอกับได้
ตอนนี้ เธออย่าแม้แต่จะคิด
“ค่ะ ไม่มีปัญหา แต่เรื่องในวันนี้ ฉันจะรายงานตามความเป็นจริงให้กับบริษัทนะคะ”เวินลั่วฉิงมองท่าทางอวดดีและได้ใจของประธานหลี่ ก็ค่อยไปพูดเสริมขึ้นอีกประโยค
แน่นอน เวินลั่วฉิงไม่รายงานขึ้นไปอย่างแน่นอน เธอไม่อยากให้เย่ซือเฉินรู้
เธอทราบดีว่าเย่ซือเฉินในตอนนี้กำลังเช็กข้อมูลเธออยู่ แล้วยังไปรายงานเช่นนี้ได้ยังไง เธอไม่โง่สักหน่อย
“ผมเห็นด้วยกับวิธีการทำของพี่สะใภ้สาม รีบรายงานขึ้นไป ให้พี่สามจัดการแทนเธอเพื่อระบายโกรธไปเลย”เสี่ยวชีที่ดูความสนุกจนลืมภาพลักษณ์ไป ราวกับลืมว่าในตอนนี้พี่สามของเขาก็เห็นอย่างชัดเจน เวินลั่วฉิงจะแจ้งไม่แจ้งรายงานพี่สามของเขาก็รับรู้หมดแล้ว
นัยน์ตาเย่ซือเฉินประกายเล็กน้อย แจ้งรายงานขึ้นไปเหรอ เธอจะรายงานขึ้นไปเหรอ ตอนนี้เขาสงสัยข้อนี้จริงๆ
เขารู้สึกว่าตอนนี้เธอเพียงแค่ข่มขู่ประธานหลี่เท่านั้น ไม่แจ้งรายงานทางบริษัทอย่างแน่นอน
เพราะว่า เธอไม่อยากให้เขารู้เกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดนี้
แน่นอน เวินลั่วฉิงยังไม่รู้แม้แต่น้อย ว่าตอนนี้สิ่งที่เธอทำไปทั้งหมด เย่ซือเฉินเห็นเรื่องทุกอย่างหมดแล้ว