ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่ 105 เธอมีความเฉียบคม (1)

บทที่ 105 เธอมีความเฉียบคม (1)

หลังจากที่ขาของเย่โป๋เหวินได้รับบาดเจ็บ เขาก็ไม่ออกไปไหนอีก แล้วยิ่งหลังจากที่หลี่หยวนออกจากตระกูลเย่ ตอนนี้หลี่หยวนเป็นคนขับรถของตระกูลเล้งกล่าวกันว่าครั้งนี้เป็นงานเลี้ยงของคุณชายเล้งที่หมิงเจ๋ ดังนั้นยังไงหลี่หยวนต้องปรากฏตัว

เมื่อเวินลั่วฉิงไปถึง ที่นู่นยังไม่มีใครมาถึง เธอมาถึงก่อนเวลาแบบนี้ เพราะเธอจะเลือกมุมที่ไม่เด่นเพื่อนั่งลง หลังจากนั้นก็สามารถสังเกตทุกคนที่เข้ามาได้

ครึ่งชั่วโมงผ่านมา คนเยอะแยะมากมายเดินเข้ามาในห้องอย่างต่อเนื่อง เมื่อมีปาร์ตี้ที่คุณชายเล้งเป็นคนจัดขึ้น มันก็ย่อมมีคนมาเข้าร่วมเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว

คุณชายเล้งก็มาถึงแล้ว แต่ว่าเวินลั่วฉิงไม่เห็นหลี่หยวน

ดวงตาของเวินลั่วฉิงจมลงเล็กน้อย หลี่หยวนไม่มางั้นเหรอ? หรือหลี่หยวนยังไม่เข้ามาในห้อง? ยังไงเขาก็เป็นแค่คนขับรถ เป็นไปได้ที่จะไม่เข้ามาข้างใน

เวินลั่วฉิงตัดสินใจที่จะรออีกสักพัก ถ้าเกิดหลี่หยวนว่ายังไม่มาอีก เธอจะลองออกไปดูข้างนอก

แต่ว่า ในเวลานี้ เวินลั่วฉิงมองเห็นคนที่เธอไม่อยากเจอมากที่สุด.. เวินหรวนหรวน

แถมเวินหรวนหรวนยังถูกคนพามาทางที่เธออยู่

“พี่สาว พี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ?” เวินหรวนหรวนสายตาเฉียบคม หลังจากที่เดินมาเพียงแวบเดียวก็ดูออกแล้วว่าเป็นเวินลั่วฉิง อดไม่ได้จนต้องอุทานออกมา

เวินลั่วฉิงทำเพียงแค่มองเธอครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร แท้จริงแล้วคือขี้เกียจที่จะสนใจเธอ

“พี่สาวคะ นี่มันที่ของคุณชายเล้งพี่เข้ามาได้ยังไง?” เวินหรวนหรวนไม่คิดที่จะปล่อยเวินลั่วฉิง เธอมักจะคิดแผนทำให้เวินลั่วฉิงรู้สึกอับอายอยู่เสมอ

เธอเชื่อว่าเวินลั่วฉิงเพิ่งกลับจากต่างประเทศ ไม่น่ารู้อะไรมากมาย อย่างเช่นสถานที่ของคุณชายเล้งเวินลั่วฉิงไม่น่าได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมอย่างแน่นอน

“ก็เหมือนกับเธอนั่นแหละ แอบเข้ามา” เวินลั่วฉิงเม้มริมฝีปากเล็กน้อย มีสีหน้าสบาย ๆ ชิล ๆ

เธอไม่สนใจว่าตัวเองจะเข้ามายังไง แต่เธอรู้ว่าเวินหรวนหรวนใส่ใจสิ่งเหล่านี้เสมอ

คำพูดของเธอจี้จุดเวินหรวนหรวนอย่างจัง เดิมทีงานเลี้ยงเย็นนี้เวินหรวนหรวนไปรบกวนให้เพื่อนช่วยแอบพาเธอเข้ามา

สีหน้าของเวินหรวนหรวนเข้มขึ้น แววตาบูดบึ้งขึ้นเล็กน้อย เธออยากจะฉีกเวินลั่วฉิงใจจะขาด แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร เมื่อเห็นท่าทางของเวินลั่วฉิงในตอนนี้ ลึก ๆในใจก็รู้สึกกลัวอยู่เหมือนกัน

เมื่อนึกถึงคราวที่แม่ของเธอตกอยู่ในน้ำมือของเวินลั่วฉิง ตอนนี้แม่ของเธอยังไม่ได้ออกจากสถานีตำรวจดังนั้นเวินหรวนหรวนจึงไม่กล้าทำอะไรผลีผลามโดยไม่พิจารณาอย่างรอบคอบ

อย่างไรก็ตาม เธอก็ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ เวินลั่วฉิงปรากฏตัวในงานเลี้ยงคืนนี้ เธอยังมีวิธีสั่งสอนเวินลั่วฉิงอยู่

วันนี้ เธอจะแก้แค้นให้แม่ของเธอเอง เธอจะต้องทำให้เวินลั่วฉิงสูญเสียชื่อเสียงให้ได้!

เมื่อเห็นท่าทีของเวินลั่วฉิง เวินหรวนหรวนก็ไม่จำเป็นที่จะแกล้งทำเป็นเกรงใจอีก และเดินเชิดหนีไป

แต่หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อพนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งเดินผ่านเวินลั่วฉิง เธอล้มตัวลง ทันใดนั้นแก้วไวน์ก็พุ่งไปที่เวินลั่วฉิงทันที

พนักงานเสิร์ฟคนนั้นมีสายตาและมือที่รวดเร็ว เธอรีบคงแก้วไว้ แต่ก็ยังมีไวน์หกโดนตัวของเวินลั่วฉิงเล็กน้อย

“ขอโทษค่ะ ขอโทษจริง ๆนะคะ” พนักงานเสิร์ฟขอโทษขอโพยเธออย่างไม่หยุดหย่อน คุกเข่าลงไปช่วยเวินลั่วฉิงเช็ดไวน์ที่หกโดนตัวเธอ

แต่ในอีกด้านหนึ่ง ผู้หญิงคนหนึ่งรีบเปิดกระเป๋าของเวินลั่วฉิง แล้วนำของบางอย่างใส่เข้าไปในกระเป๋าของเวินลั่วฉิง

ในขณะที่พนักงานเสิร์ฟช่วยเวินลั่วฉิงเช็ดเสื้ออยู่ เธอก็ขอโทษไม่หยุด แต่ว่านอกจากขอโทษแล้ว ก็ไม่ได้แสดงออกอะไรอย่างอื่น

“ไม่เป็นไรค่ะ คุณไปทำธุระของคุณเถอะ” เวินลั่วฉิงมองเธอแวบหนึ่ง ตาเธอหนักขึ้นเล็กน้อย

“ขอบคุณมากเลยค่ะ” เมื่อพนักงานเสิร์ฟได้ยินคำพูดนี้ เธอก็รีบลุกขึ้น และเดินจากไปทันที

หลังจากที่พนักงานเสิร์ฟเดินหนีไป สายตาของเวินลั่วฉิงมองไปที่กระเป๋าที่อยู่ข้างกาย มุมริมฝีปากค่อย ๆ ยกขึ้น ไม่เลวนี่ มันเป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยม แต่ว่าเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้จะซ่อนจากสายตาของเธอได้เหรอ? ช่างน่าขำจริง ๆ

แต่เวินลั่วฉิงก็ไม่ได้แสดงท่าทางที่ผิดปกติ แกล้งทำเป็นเหมือนไม่ได้เห็นอะไร แล้วกลับไปนั่งที่เดิมอย่างเงียบ ๆ

“คนนั้นแหละค่ะ เธอขโมยสร้อยคอของฉัน พวกคุณรีบจับเธอเร็วเข้า” ห้านาทีหลังจากนั้น ผู้หญิงสองรีบพาคนพาบเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองสามคนไปตรงหน้าของเวินลั่วฉิง

ที่นั่งของเวินลั่วฉิงไม่ได้เป็นที่สังเกต แสงไฟในห้องก็ค่อนข้างมืด จากที่ไม่มีใครสังเกตเห็นเธอเลย แต่ในขณะนี้ สายตาของคนทั้งหมดจับจ้องมาที่ร่างของเวินลั่วฉิง

ไม่รู้ว่าใคร ทันใดนั้น ไฟก็ถูกเปิดไปที่ตำแหน่งของเวินลั่วฉิง แสงสว่างสะท้อนให้เห็นใบหน้าของเวินลั่วฉิงอย่างชัดเจน

เวินลั่วฉิงเม้มปาก นี่เห็นเธอเป็นเสือที่ทำตัวดูเหมือนแมวป่วยเมื่อไม่ได้แสดงพลังงั้นเหรอ?

แต่เดิมที่เธอกำลังอารมณ์เสียที่หาคนไม่เจอ แต่ก็มีใครบางคนที่มาชนเข้าอย่างจังโดยไม่รู้ความเป็นความตายของตัวเอง

ดี ดีจริง ๆ

เวินลั่วฉิงไม่ขยับ และไม่พูด ตาคู่นั้นทำเพียงแค่เงยขึ้นมาดูอย่างช้า ๆ และค่อย ๆมองไปที่ผู้หญิงสองคนนั้นอย่างระมัดระวัง จากนั้นสายตาของเธอก็กวาดไปที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทีละคน

ดวงตาของเธอดูสงบมาก แทบจะไม่มีอารมณ์อะไรอย่างอื่นเลย แต่มันก็สามารถทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสี่คนตกใจได้ ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าเธอกำลังจ้องมอง แล้วจู่ ๆหลังของพวกเขาก็รู้สึกถึงความเย็นแบบฉับพลัน

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบางส่วนหยุดการเคลื่อนไหวทั้งหมด ไม่มีใครกล้าที่จะพุ่งไปข้างหน้าอีก

ทุกคนต่างสะดุ้ง

ไม่มีใครกล้าที่จะเชื่อว่า ผู้หญิงคนนั้นเพียงแค่ส่งสายตามองไปอย่างนิ่ง ๆ ก็สามารถที่จะหยุดการเคลื่อนไหวทั้งหมดของเหตุการณ์ตรงนั้นได้

ที่มุมหนึ่ง มีผู้ชายคนหนึ่งถือแก้วไวน์และมองมาที่เธอ แววตาของเขาดูเหมือนจะสนใจมากกว่าเล็กน้อย

“แขกท่านนี้ โปรดให้ร่วมมือกับเราในการตรวจสอบด้วยครับ” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพูดอย่างไม่แน่ใจ ท่าทีของเขาในขณะนี้แสดงความเคารพอย่างเห็นได้ชัด

ดวงตาของเวินลั่วฉิงโค้งเล็กน้อย ในสายตาของทุกคน เธอหยิบถ้วยชาตรงหน้าแล้วหมุนไปรอบ ๆ ท่าทางสบาย ๆ และเป็นอิสระจนทำให้ผู้คนตกใจ ราวกับว่าเธอเป็นเพียงคนเดียวที่อยู่ในห้อง ณ ตอนนี้

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ต้องยืนรออยู่อย่างนั้น ดังนั้นคนอื่น ๆก็ยืนอยู่ยืนรออยู่เช่นกัน แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไร

“เหตุผล” ครู่ต่อมา ริมฝีปากของเวินลั่วฉิงขยับเล็กน้อย คำสองคำง่าย ๆ ไม่มีอะไรง่ายไปมากกว่าแล้ว แต่มันก็สามารถทำให้คนไม่สามารถเพิกเฉยต่อการครอบงำ

“…” พนักงานรักษาความปลอดภัยก็เงียบลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้ง ๆ ที่มันน่าจะเป็นเหตุผลที่ดีอยู่แล้ว ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เขาในตอนนี้ไม่สามารถพูดออกมาได้

มีบางประเภทที่สามารถใช้ออร่าในการกดดันให้คุณหายใจไม่ออก เขารู้สึกว่าผู้หญิงตรงหน้าเขาเป็นคนแบบนี้

ผู้หญิงแบบนี้จะขโมยของงั้นเหรอ? ทำไมถึงเขารู้สึกว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้

ณ ตอนนี้ ในห้องทั้งหมดเต็มไปด้วยความเงียบ

แต่เดิมเวินลั่วฉิงแต่งหน้ามาบนรถ แต่หลังจากที่เห็นเวินหรวนหรวนเดินเข้ามา ก็สามารถรู้เลยว่าด้วยนิสัยของเวินหรวนหรวนยังไงก็ต้องหาวิธีมาทำร้ายเธอแน่ ๆ

ในเวลานั้นมันเป็นเรื่องยากมากถ้าเกิดจะไม่เป็นที่สนใจของคน

จากนั้นตัวตนของเธอจะถูกเปิดเผย แต่ก็ยังไม่เหมือนกับปกติ กลัวว่ามันจะทำให้คนสงสัย เธอยังกังวลว่าจะสร้างความเดือดร้อนโดยไม่จำเป็น

ดังนั้น เธอเพิ่งเปลี่ยนกลับไปใช้ลุคปกติ แต่เดิมเธอไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย มันเลยไม่ใช่เรื่องยากที่จะเปลี่ยนกลับไปใหม่

ทุกคนมองไปที่เวินลั่วฉิง บางคนก็มองออกว่าเธอคือเวินลั่วฉิง อดไม่ได้ที่จะอุทานออกไปว่า “นี่ไม่ใช่ลูกสาวคนโตของตระกูลเวินไม่ใช่เหรอ?”

“เธอบอกว่านี่คือผู้หญิงคนโง่จากตระกูลเวินงั้นเหรอ?”

“ได้ยินมาว่ารักษาอาการป่วยแล้ว ไม่โง่แล้ว”

“ดูแล้วไม่ใช่คนที่โง่จริง ๆ นะ”

“แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย?” ในตอนนี้ทุกคนยิ่งเกิดความสงสัย

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Recommended Series

Comment

Options

not work with dark mode
Reset