ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything – ตอนที่ 76: เรือยักษ์ที่ลอยเหนือฟากฟ้า

“นี่มัน…”
 
ฝูงชนที่ประกอบด้วยศิษย์ภายในและภายนอกต่างก็พากันตกตะลึง และแทบจะอ้าปากค้าง
 
มันไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ได้คิดถึงความเป็นไปได้ที่ซุนเทียนกังจะแพ้ แต่มันกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง? เขาโดนไปแค่ทีเดียวเองไม่ใช่หรอ?
 
‘ไหนหล่ะการต่อสู้อันน่าตื่นตาตื่นใจที่สัญญาเอาไว้? พวกเราถ่อมาถึงที่นี่เพื่อดูการต่อสู้ แต่เขาก็หายไปในชั่วพริบตา’
 
ตึง!
 
ในตอนนี้เอง ก็มีเสียงสะเทือนดังขึ้นไกลๆในขณะที่ซุนเทียนกังร่วงลงไปกับพื้นที่อยู่ห่างออกไปกว่าสิบเมตร
 
ผู้อาวุโสใหญ่หันไปมองในทันที และรู้สึกโล่งอกที่เห็นว่าหลานของเขาได้รับบาดเจ็บแค่เล็กน้อย
 
‘เฉินเฉินออมมือให้เขาสินะ…’
 
ความผันผวนของแรงกระแทกเมื่อซักครู่นี้ได้ทำให้เขา เซียนที่มีการสร้างรากฐานอย่างสมบูรณ์แบบต้องก้าวถอยไปข้างหลังอย่างไม่สามารถควบคุมได้ ถ้าซุนเทียนกังรับแรงกระแทกลูกใหญ่เข้าไปเต็มๆ เขาคงจะได้รับบาดเจ็บร้ายแรงอย่างแน่นอน ต่อให้เขาไม่ตายก็ตาม
 
พูดอีกนัยนึงก็คือ เฉินเฉินสมควรถูกจัดอยู่ลำดับ 10 ในสำนักเทียนหยุน
 
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เขาก็มองไปยังชายหนุ่มที่อยู่ในสนามประลองด้วยสายตาที่ซับซ้อน
 
‘เจ้าเด็กนี่พึ่งจะเข้ามาอยู่ในสำนักได้แค่ช่วงสั้นๆ แต่เขาก็มีระดับการฝึกตนที่น่าหวาดหวั่นถึงเพียงนี้แล้ว’
 
‘หรือว่าเขาจะเป็นลูกลับๆของท่านเจ้าสำนักที่เริ่มฝึกวิชามาตั้งแต่เด็กและพึ่งถูกรับเข้ามาในสำนักกัน?’
 
‘ไม่น่าใช่ ข้ารู้จักคนรักของท่านเจ้าสำนัก และพวกเขาก็คงจะไม่แอบให้กำเนิดลูกอย่างแน่นอน’
 
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไร เขาก็ยังต้องประกาศผลการประลองอยู่ดี
 
“อะแฮ่ม เฉินเฉินชนะการต่อสู้นี้ เพราะฉะนั้นลำดับของเขายังคงเดิม”
 
หลังจากที่พูดจบ เขาก็ออกไปจากสนามประลอง และไม่แม้แต่จะชายตามองหลานชายของเขา
 
เขาช่วยอะไรไม่ได้ มันน่าอับอายเกินไป!
 
ดูเหมือนว่าเขายังต้องรับการกล่าวโทษสำหรับการปฏิรูปสำนักต่อไป ไม่อย่างนั้น เมื่อสักครู่คงมีแค่พระเจ้าที่รู้ว่าหลานชายของเขาจะโดนทำร้ายยังไง
 
‘เจ้าไม่เคยประสบความสำเร็จอะไรเลย! มันดีแล้วหล่ะที่เจ้าได้รับความพ่ายแพ้ซะบ้าง!’
 
หลังจากสบถหลายชายของเขาในใจ ผู้อาวุโสใหญ่ก็หายตัวไป
 

 
ในระยะไกลออกไป ซุนเทียนกังกำลังนอนแผ่หลาอยู่บนกอหญ้า และมองท้องฟ้าสีครามกับเมฆสีขาวที่อยู่เหนือหัวเขาด้วยความสับสน
 
‘นี่ข้าเป็นใครกัน? ข้าอยู่ที่ไหน? แล้วข้ากำลังทำอะไรอยู่?’
 
เขาศึกษาขั้นตอนต่างๆมาเป็นเวลาครึ่งวันและยุ่งอยู่กับมันพักใหญ่ๆ เขาต้องเขียนสาส์นท้าประลอง รายงานมัน และขอร้องปู่ให้มาเป็นพยาน
 
แล้วทั้งหมดนี่มันเพื่ออะไรกัน? แค่เพื่อให้ถูกอัดกลางฝูงชนเนี่ยนะ?
 
‘ทำไมข้าถึงเป็นคนที่ถูกอัดยับ แต่เจ้าเป็นคนที่สร้างความประทับใจหล่ะ!? ความรู้สึกนี้มันแย่ชะมัด!’
 
ในขณะที่คิดเช่นนี้ ซุนเทียนกังก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
 
มีคำถามมากมายในหัวของเขา แต่คำถามที่ใหญ่ที่สุดก็คือว่า ทำไมเฉินเฉินถึงแข็งแกร่งขนาดนี้?
 
ในขณะที่กำลังรู้สึกสับสนอยู่นั้นเอง ศิษย์ภายนอกกลุ่มนึงก็เข้ามาช่วยพยุงเขา
 
ใบหน้าของพวกศิษย์ภายนอกนั้นเต็มไปด้วยฝุ่นดินและหน้าตาของพวกเขาก็เห็นได้ไม่ค่อยชัด แต่สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความสดใสอย่างมาก
 
“พี่ใหญ่ซุน ท่านผู้สืบทอดวานให้ข้ามาบอกท่านว่าคนที่ทนรับความยากลำบากได้นั้นจะกลายเป็นคนใหญ่คนโต!”
 
“ความล้มเหลวคือจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ!”
 
“ท่านต้องลุกขึ้นมาจากจุดที่ท่านล้ม!”
 
“ความล้มเหลวไม่น่ากลัว สิ่งที่น่ากลัวคือการสูญเสียความมุ่งมั่นในการถีบตัวเองให้ไปอยู่ในจุดที่ดีขึ้น!”
 
ในขณะที่มองศิษย์ภายนอกมากมาย ซึ่งสายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความเคารพนับถือ ซุนเทียนกังก็ตกตะลึงในทันที จากนั้นตาของเขาก็เหลือกและสลบไป
 

 
ด้วยสภาพเช่นนี้เอง ข่าวที่เฉินเฉินเอาชนะซุนเทียนกังได้อย่างรวดเร็วด้วยกระบวนท่าเดียวก็กระจายไปทั่วทั้งสำนัก นอกจากเซี่ยวอู่โยว ไม่มีใครรู้สึกประทับใจหรือท้อใจเลย
 
ต่อให้ผู้สืบทอดเริ่มฝึกตนตั้งแต่เกิด เขาก็พึ่งฝึกตนมาได้แค่แปดปีเท่านั้น แต่ว่าเขาก็ยังคงมีความแข็งแกร่งและความสามารถที่น่าหวาดหวั่นถึงเพียงนี้เอง
 
ในตอนนี้เอง พวกเขาก็ได้เข้าใจซักทีว่าทำไมผู้สืบทอดถึงเป็นผู้สืบทอด ในขณะที่พวกเขาเป็นแค่ศิษย์ธรรมดา
 
หลังจากการต่อสู้นี้ ความเป็นที่เคารพของเฉินเฉินก็พุ่งกระฉูด ไม่นานนัก เขาก็ก้าวข้ามซุนเทียนกังและจ้าวเสี่ยวหยาของสำนักภายในไป และด้วยเหตุนี้เองเขาจึงถูกจดจำในฐานะศิษย์พี่ผู้ยิ่งใหญ่ของสำนักเทียนหยุน
 
แม้กระทั่งผู้อาวุโสบางคนก็ยังโค้งทำความเคารพเฉินเฉินในตอนที่เห็นเขา
 
นอกจากนั้น ศิษย์ของสำนักเทียนหยุนยังมีความกระตือรือร้นในการฝึกตนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ผนวกกับทรัพยากรที่เพียงพอ สำนักเทียนหยุนจึงเริ่มแสดงให้เห็นถึงสัญญาณของการพัฒนาที่เจริญรุ่งเรือง
 

 
ครึ่งเดือนต่อมา เฉินเฉินได้บินความสูงต่ำในภูเขาเทียนหยุนในขณะที่ใช้ระบบตรวจจับอย่างต่อเนื่อง
 
“เหมืองที่มีผลึกสายฟ้าสวรรค์+1”
 
“โสมตังกุยอายุหนึ่งพันปี+1”
 
“สมุนไพรถ่ายท้องอายุ 10,000 ปีชนิดพิษรุนแรง+1”
 

 
เวลาผ่านมากว่าครึ่งเดือนแล้ว เฉินเฉินได้บินไปทั่วทั้งภูเขาเทียนหยุนเพื่อเก็บเกี่ยวของมีค่าต่างๆ
 
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้เอาไปทั้งหมด และเก็บเกี่ยวแค่สมบัติส่วนนึงและปล่อยสมบัติบางส่วนที่มีประสิทธิภาพคล้ายกับสิ่งที่เขามีอยู่แล้ว
 
ในตอนที่เขากลับมาที่สวนของยอดเขาหลัก เจ้าผักบุ้งได้มาพันรอบเฉินเฉินอย่างมีชีวิตชีวา
 
“เจ้านาย น้ำวิญญาณใบไม้ผลิที่ท่านให้ข้าเมื่อวานหวานมากเลย ข้าอยากดื่มอีก!”
 
เฉินเฉินยิ้มแล้วเอาขวดใบนึงออกมาจากแหวนเก็บของของเขา แล้วรินน้ำวิญญาณใบไม้ผลิให้เจ้าผักบุ้ง
 
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง กลิ่นอาหารก็ลอยฟุ้งมาจากในครัว
 
“เซียงเอ๋อเป็นปีศาจที่ฉลาดจริงๆ ทักษะการทำอาหารของเธอดีขึ้นเรื่อย ๆเลย เธอสามารถทำให้วัตถุดิบดำๆปล่อยกินสวรรค์แบบนั้นออกมาได้” เฉินเฉินพึมพำกับตัวเอง ในตอนนี้ เขารู้สึกพึงพอใจอย่างบอกไม่ถูก
 
มันคงจะเยี่ยมไปเลยถ้าเขาสามารถใช้ชีวิตแบบนี้ไปได้ตลอด แน่นอนว่าถ้าเขาทำได้ เขาก็อยากทำให้พ่อแม่ของเขาได้เป็นเซียนด้วย
 
กริ๊ง!
 
อย่างไรก็ตาม สิ่งต่างๆนั้นไม่ได้เป็นไปตามความต้องการของคนเราตลอด ในช่วงเวลานี้เอง เสียงระฆังไพเราะก็ดังขึ้นในสำนักเทียนหยุน
 
 
เมื่อได้ฟังเสียงระฆังนี้ เฉินเฉินก็ถอนหายใจเบาๆ
 
มันคือระฆังสัญญาณรวมตัว
 
ถึงยังไงมันก็เป็นสิ่งที่ต้องมาวันยังค่ำ
 
ตามที่คาดเอาไว้ เสียงของอาจารย์เซี่ยวอู่โยวก็ดังขึ้นในหูของเขาในจังหวะต่อมา
 
“ศิษย์เอ๋ย จงมาที่ตำหนักเจ้าสำนัก”
 
เฉินเฉินยอมเชื่อฟัง เขามองไปทางห้องครัวอย่างเสียดายก่อนที่จะบินไปยังตำหนักเจ้าสำนักอย่างไม่เต็มใจ
 
ไม่นานนัก เขาก็มาถึงตำหนักเจ้าสำนัก
 
นอกจากเซี่ยวอู่โยว มีชายอีกคนที่มีใบหน้าอ่อนเยาว์และผมสีขาวอยู่ด้วย
 
เฉินเฉินรู้ในทันทีว่าเขาเป็นใคร เขาคือผู้อาวุโสระดับสูงที่แข็งแกร่งที่สุดในสำนักเทียนหยุน จ้าวอู่ซึ่งมีความแข็งแกร่งไปถึงจุดสูงสุดของแก่นทองคำแล้ว
 
“ศิษย์เอ๋ย เรือเหาะของสำนักอู๋ซินจะมาถึงในเร็วๆนี้ ซึ่งเจ้าต้องเข้าร่วมการเดินทางครั้งนี้ด้วย”
 
เซี่ยวอู่โยวมองแนเฉินด้วยความรู้สึกจนปัญญาในดวงตาของเขา
 
 
จากธรรมเนียมในอดีต เมื่อราชาองค์ใหม่ขึ้นครองบัลลังก์ แต่ละสำนักจะต้องส่งตัวแทนของตัวเองไปเข้าร่วมพิธีเฉลิมฉลองการขึ้นครองราชย์ในวังหลวง
 
และตอนนี้สำนักอู๋ซินก็กำลังส่งเรือเหาะมารับพวกเขา
 
“ข้าเข้าใจดีครับท่านอาจารย์ ข้าได้เตรียมใจเอาไว้แล้ว” เฉินเฉินยิ้มและตอบสนองกลับด้วยสีหน้าที่สงบนิ่ง
 
ในขณะที่มองสีหน้าและสายตาที่ลุกโชนของของเฉินเฉิน เซี่ยวอู่โยวก็เงียบไปพักใหญ่ๆก่อนที่พูดอย่างจริงจัง “ครั้งนี้ ผู้อาวุโสจ้าวอู่จะไปกับเจ้าด้วยเพื่อคุ้มครองเจ้า ข้าได้สรุปข้อควรระวังให้เจ้าแล้วในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ แต่ข้าก็ยังอยากเน้นย้ำจุดที่สำคัญอีกครั้งนึง! ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นยังไง การมีชีวิตรอดคือเป้าหมายสูงสุด ต่อให้เจ้าต้องสละของที่ยอดเยี่ยมไปก็ตาม เข้าใจใช่ไหม?”
 
“รับทราบครับ!” เฉินเฉินตอบอย่างหนักแน่นด้วยสีหน้าที่จริงจัง
 
“ดีมาก” เซี่ยวอู่โยวยิ้ม จากนั้นก็หันไปหาผู้อาวุโสจ้าวที่อยู่ข้างๆแล้วคำนับเขา
 
“ข้าขอฝากลูกศิษย์ของข้าคนนี้กับท่านด้วย”
 
เมื่อเห็นเจ้าสำนักคำนับ จ้าวอู่ก็รีบหลบออกอย่างรวดเร็วแล้วหัวเราะดังลั่น
 
“ไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้หรอกท่านเจ้าสำนัก ตราบใดที่ข้ายังอยู่ จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเด็กคนนี้”
 
แม้ว่าจ้าวอู่จะยิ้มอยู่ แต่เฉินเฉินก็เห็นความมุ่งมั่นที่แรงกล้าในดวงตาของเขา ซึ่งทำให้เขารู้สึกตื้นตัน
 
ถ้าเขาถูกขอให้ทำเรื่องที่อันตรายแบบนี้ในตอนแรกที่เข้าร่วมสำนักเทียนหยุน เขาคงจะเก็บกระเป๋าหนีไปแล้ว
 
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขารู้สึกหวงแหนสำนักเทียนหยุน ดังนั้น เขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากไปที่เมืองหลวงในครั้งนี้
 
“คณะของสำนักอู๋ซินมาถึงแล้ว! ทุกคนจากสำนักเทียนหยุน จงรีบออกมาให้การต้อนรับ!”
 
ณ ตอนนี้ เสียงที่ทั้งดังและดูยิ่งใหญ่ได้กระจายไปทั่วยอดเขาต่างๆของสำนักเทียนหยุน
 
เฉินเฉินมองไปแล้วเห็นเรือสีดำขนาดใหญ่ ที่มีความยาวประมาณ 300 เมตร กำลังลอยอย่างสงบอยู่เหนือประตูภูเขาของสำนักเทียนหยุน และกำลังปล่อยพลังปราณมหาศาลที่ปกคลุมครึ่งนึงภูเขาเทียนหยุนออกมา

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

Type: Author:
โดย เรื่อง ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything “นักเดินทาง ระบบของท่านได้มาถึงแล้ว ยินดีด้วยสำหรับการได้รับระบบการตรวจสอบที่ทรงอำนาจ!” เฉินเฉินที่กำลังนั่งเบื่อหน่ายอยู่ตรงทางเข้าของหมู่บ้านหิน เพียงแค่เขากำลังรู้สึกหดหู่ เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา เมื่อได้ยินเสียงนี้ เฉินเฉินรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาก เขากระโดดขึ้นจากก้อนหินที่อยู่เบื้องหน้าหมู่บ้านทันที “ระบบ? พึ่งจะเพิ่มเข้ามาช้าขนาดนี้เนี่ยนะ?” “ระบบตรวจสอบในปัจจุบันคือระดับหนึ่งค่ะ เจ้าของสามารถที่จะตรวจจับทุกสิ่งทุกอย่างได้ในระยะสิบเมตร!” เมื่อเสียงในหัวของเขาดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉินเฉินรู้สึกตื้นตันจนร้องไห้ออกมาได้เลย ด้วยเหตุนี้นี่เอง ประวัติศาสตร์ที่เขาเรียนรู้มาตอนมหาลัยมันไร้ประโยชน์และเขายังไม่สามารถกลายเป็นคนดังโดยการเขียนบทกลอนได้อีก เขาไม่ได้เก่งวิชาฟิสิกส์และเคมีสักเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะคิดค้นหรือประดิษฐ์เทคโนโลยีได้ มีสิ่งเดียวที่เขาทำแล้วมันเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับคนอื่น อย่างเอ้อหยาที่อยู่ใกล้บ้านเขา นั่นคือการที่เขาทำสมุดบัญชีขึ้นมา แต่ไม่คาดคิดเลย วันนี้….ระบบมันก็ได้มาถึงแล้ว! เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องตรวจสอบหรืออะไรสักอย่าง ตราบเท่าที่มันเป็นระบบ มันก็คงเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน เขาไม่ได้ทำอะไรมากว่าสิบปี แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่ามันจะเป็นระบบอะไร ขอแค่มันเป็นระบบก็พอ! การเป็นคนมันจะต้องเป็นคนกตัญญู ยังไงมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่มีระบบ! ‘อะไรก็ตามในระยะสิบเมตร….มันมีข้อจำกัดจำนวนในการใช้ไหม?’ เฉินเฉินถามขึ้นในหัวตัวเอง “มันไม่มีข้อจำกัดในการใช้ค่ะ ระบบจะแจ้งภารกิจลับให้กับเจ้าของ เพื่อการอัพเกรดความสำเร็จลับ รวมทั้งยังให้รางวัลกับเจ้าของเป็นครั้งคราวด้วยค่ะ ดังนั้นได้โปรดขยันขันแข็งด้วยค่ะ!” หลังจากนั้นเสียงได้จางหายไปจากในหัวของเขา เฉินเฉินนั่งคิดอยู่เป็นเวลานาน เขามองออกไปยังทางเข้าหมู่บ้านที่โดดเดี่ยวนั่น แล้วรู้สึกสิ้นหวังเล็กน้อย ชาวบ้านทั้งหมดของหมู่บ้านหินต่างเป็นชาวนากันทั้งหมด ทุกคนต่างยากจน ดังนั้นเขาจะตรวจสอบอะไรได้กัน? ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหมือนจะมีเพชรนิลจิลดาที่มีราคาอยู่ แต่เขาจะต้องไปขโมยมัน หลังจากที่เขาตรวจพบงั้นเหรอ? เขาคงจะโดนกระทืบจนตาย ถ้าเขาทำมันอย่างแน่นอน แต่เขาไม่ได้รีบร้อนอะไร ตั้งแต่ที่มันเป็นระบบ มันก็มีความหมายในตัวของมันเอง เขาจะพัฒนาตัวเองอย่างเชื่องช้า เป้าหมายหลักของเขาในตอนนี้คือการกลับไปยังบ้านก่อน ดังนั้นเขาจะได้ไปลองใช้ระบบได้อย่างสบายใจ เมื่อเขาตัดสินใจได้แล้ว เฉินเฉินเดินกลับบ้าน ครอบครัวของเขาเป็นคนธรรมดาทั่วไปในหมู่บ้านหินและครอบครัวของเขาต่างเป็นชาวนากัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้จน ครอบครัวของเขาก็อบอุ่นมากและเป็นครอบครัวที่มีความสุข เมื่อเขากลับมายังบ้าน พ่อแม่ของเขายังคงทำไร่นาอยู่ด้านนอกและยังไม่ได้กลับบ้าน เขาพูดขึ้นมาในหัวตัวเอง ‘ตรวจเงินในบ้านสิ’ “อยู่ในลิ้นชักที่ห่างออกไป 3 เมตรค่ะ ภายในลิ้นชักมีเงินจำนวน 120 ตำลึงทองแดง” นี่คือสถานที่ที่ครอบครัวของเขาเก็บเงินไว้ เฉินเฉินรู้มันดี เพราะว่าพ่อแม่ของเขาไม่ได้ปิดบังอะไรกับเขาไว้ “ใต้เตียงที่อยู่ห่างออกไป 4 เมตร ยังมีอีกสี่สิบตำลึงทองแดงค่ะ” อะไรนะ?! เฉินเฉินไม่รู้เกี่ยวกับเงินนี้เลยสักนิด มันเป็นห้องนอนของพ่อแม่เขา ซึ่งอยู่ห่างออกไปสี่เมตร มันอาจจะเป็นเงินเก็บของพ่อของเขา เฉินเฉินคิดและสรุปได้ว่ามันน่าจะเป็นไปได้ ดังนั้นเขาจึงเดินไปที่ห้องด้านข้างและก้มมองลงใต้เตียง หลังจากคว้านดูสักพักหนึ่ง เขาพบกับกระเป๋าหนังเล็กที่มีเงินอยู่สี่สิบตำลึง ‘มีเงินอยู่ด้านในจริงด้วย’ เฉินเฉินคิดกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็เก็บกระเป๋าหนังกลับไปยังที่เดิม ระบบยังคงพูดอย่างต่อเนื่องขึ้นมาในหัวของเขา “ก้าวไปด้านหน้าห้าก้าวและขุดลงไปใต้ดินสิบเมตร มันมีเหรียญทองแดงขึ้นสนิมอยู่” เมื่อได้ยินการแจ้งเตือน เฉินเฉินรีบหยิบพลั่วมาขุดอย่างกระตือรือร้น มันไม่ได้ใช้เวลานานสักเท่าไหร่สำหรับการหาเหรียญทองแดงขึ้นสนิม หลังจากครุ่นคิดมาเป็นเวลานาน เขาจำได้ลางๆว่าเขาเคยทำเงินหายตอนยังเด็ก มันเป็นเงินที่เขาได้มาตอนปีใหม่ และเขาอารมณ์เสียที่เงินหายเป็นเวลานานเลย ‘ตั้งแต่ที่ฉันมีระบบนี่แล้ว บางทีฉันอาจจะไปยังมณฑลใกล้ๆ เพื่อไปเก็บเงินจากพื้นมาอาศัยอยู่ต่อ…’ เฉินเฉินอดที่จะคิดออกมาไม่ได้ แต่เขาแทบจะตบหน้าตัวเองทันที หลังจากที่มีความคิดแบบนี้โผล่ขึ้นมา เมื่อเป็นนักเดินทางย้อนเวลาที่มีระบบแบบนี้แล้วแท้ๆ ทำไมความคิดของเขาถึงน่าสมเพศขนาดนี้กัน? นี่มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากสำหรับนักเดินทางที่ย้อนเวลากลับมาแบบนี้! ในเวลาเดียวกัน เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา “รางวัลความสำเร็จ – เสร็จสมบูรณ์ : ใช้ระบบเป็นครั้งแรก รางวัลที่ได้รับ : โอกาสในการตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่างภายในมณฑลเสฉวนหนึ่งครั้งค่ะ” เมื่อเขาได้ยิน เฉินเฉินอดที่จะคิดเรื่องเดินไปหาเงินต่ออีกครั้งไม่ได้ ทั่วทั้งมณฑลเสฉวนคงจะมีเงินจำนวนมากอย่างแน่นอน… “เฮ้อออ! ทำไมฉันถึงเอาแต่อยากจะไปเก็บเงินกัน? ฉันมาที่โลกเซียนแห่งนี้ แน่นอนละว่าฉันมาเพื่อที่จะบ่มเพาะตนกลายเป็นเซียน!” เฉินเฉินตัดสินใจได้และไม่ได้ใช้รางวัลนี้ในทันที ใครจะไปรู้กันว่าเขาจะได้โอกาสตรวจสอบพื้นที่ขนาดกว้างแบบนี้อีกครั้งกัน? มันเป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยม เขาไม่ต้องการที่จะเสียมันไปอย่างเปล่าประโยชน์ เขาจะรอจนกระทั่งเขาคุ้นเคยกับระบบ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้มัน Traveling through the Xianxia world, Chen Chen got the strongest tracking system and was able to track everything ever since. Chen Chen, “System, I am short of money.” “Two meters away, your father has hidden some money under the bed. Five meters away, there is a rusty copper coin buried half a meter underground.” “There is a piece of silver in the grass ahead.” Chen Chen, “System, I need some luck.” “The sh*t in front of the pigsty is actually not ordinary.” “Go to Black Peak cliff twenty miles away to jump off the cliff.” “Somewhere hidden there is a fairy cave mansion. Please explore by yourself.”

Options

not work with dark mode
Reset