ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything – ตอนที่ 54: วิญญาณดินเหลืองหนึ่งหมื่นปี

หลังจากที่เฉินเฉินออกไปจากฉาก ในที่สุดกลุ่มศิษย์ก็เริ่มมีปฏิกิริยาและพร้อมใจมองไปทางซุนเทียนกัง
 
ซุนเทียนกังยังคงถือก้อนทองเอาไว้ในมือและอยู่ในสภาพพูดอะไรไม่ออก
 
ในตอนนั้นเอง จ้าวเสี่ยวหยาที่ยืนอยู่ข้างๆเขาก็เอามือปิดปากแล้วหัวเราะคิกคัก
 
“พี่ใหญ่ซุนถึงกับดึงกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ออกมาใช้ ท่านสามารถชนะใจผู้สืบทอดได้ด้วยทองแค่ก้อนเดียว พี่ใหญ่ ในอนาคตข้าคงไม่กล้าทำให้ท่านขุ่นเคืองแล้วหล่ะค่ะเนื่องจากท่านได้รับการคุ้มครองจากผู้สืบทอดแล้ว”
 
ในตอนที่เขาได้ยินคำพูดถากถางนี้ ซุนเทียนกังก็ขยี้ทองที่อยู่ในมือของเขา
 
‘นี่มันดูถูกกันชัดๆ! นี่มันคือการดูถูกและความอัปยศอย่างถึงที่สุด!’
 
เมื่อไม่นานมานี้ เขาถูกคนที่เรียกเขาว่าศิษย์น้องตบไหล่ มันตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่ซุนเทียนกังถูกปฏิบัติด้วยความไม่เคารพแบบนี้!?
 
อย่างไรก็ตาม เขายังไม่สามารถเล่นงานเฉินเฉินได้ ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงยิ่งหงุดหงิดและฉุนเฉียวอย่างน่าเหลือเชื่อ!
 
“ศิษย์น้องหญิง อย่าได้ใจเกินไป เนื่องจากเจ้าไม่สามารถกลายเป็นศิษย์ส่วนตัวของเจ้าสำนักได้แล้ว เจ้าก็ถูกกำหนดเอาไว้แล้วว่าจะไม่มีวันได้เรียนวิชายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหยุน!”
 
หลังจากที่พูด ซุนเทียนกังก็โยนเศษทองคำทิ้งอย่างไม่นึกเสียดายแล้วนำกลุ่มศิษย์ภายในเดินจากไป
 
ด้วยเครื่องแต่งกายสีแดง เจ้าเสี่ยวหยายังคงยืนนิ่งอยู่ในขณะที่สีหน้าของเธอเริ่มเปลี่ยนไป
 
เมื่อเทียบกับการกลายเป็นผู้สืบทอดซึ่งเป็นสิ่งที่ซุนเทียนกังต้องการ วิชาสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหยุนนั้นมีความสำคัญมากกว่าสำหรับเธอ
 
“เฉินเฉินคนนี้ดูไม่ได้หยิ่งทะนงอะไรนักนะ ถ้าเป็นแบบนี้ข้าก็น่าจะยังมีโอกาสอยู่”
 
จ้าวเสี่ยวหยาพึมพำแล้วยิ้มออกมา
 
เธอฉลาดกว่าเจ้าโง่ที่สมองมีแต่กล้ามอย่างซุนเทียนกัง และพอเข้าใจสาเหตุที่เฉินเฉินทำแบบนั้นลงไปแล้ว
 
ในฐานะหลานสาวของผู้อาวุโสซิงฟา และเป็นศิษย์ภายในมายาวนาน เธอได้เก็บรวบรวมสมบัติเอาไว้มากมาย ดังนั้น ในตอนที่เวลามาถึงเธอก็น่าจะใช้ประโยชน์จากพวกมันได้ วิชาสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหยุนอาจจะยังไม่อยู่ไกลเกินเอื้อมมือของเธอ
 
ด้วยความคิดเช่นนี้เอง เธอก็ออกจากยอดเขาเทียนฉินไปด้วยความคาดหวังอย่างเต็มที่
 

 
“ท่านเจ้าของ มีสมบัติที่มีค่ากว่าหินวิญญาณอยู่ใต้เท้าของท่านสามเมตร”
 
เฉินเฉินยังไม่ลืมที่จะใช้ระบบค้นหาสมบัติในระหว่างทางกลับยอดเขาหลัก
 
อย่างไรก็ตาม เขาไม่สนใจพวกของมีค่าเล็กๆน้อยๆแล้ว ดังนั้น เขาจึงใช้หินวิญญาณเป็นสิ่งอ้างอิง
 
มีแค่ของที่มีค่ามากกว่าหินวิญญาณเท่านั้นที่จะดึงดูดความสนใจของเขาได้
 
เมื่อได้ฟังการตอบสนองของระบบ เฉินเฉินก็เอาพลั่วที่เขาเตรียมไว้ออกมาจากแหวนเก็บของแล้วเริ่มขุดดินโดยไม่ลังเล
 
หลังจากขุดไปได้ไม่กี่นาที เขาก็รู้ว่ามีสมบัติซ่อนอยู่ใต้ดินลึกลงไป 3 เมตรจริงๆ
 
สมบัติที่ว่านี้คือพืชที่มีลักษณะคล้ายขิงรูปร่างมนุษย์เนื่องจากมีส่วนที่เหมือนแขนยื่นออกมา มันถูกฝังเอาไว้ใต้ดินและไม่มีความผันผวนของพลังปราณเลย
 
“สิ่งไหนมีค่ามากที่สุดในรัศมียี่สิบเมตร?” เฉินเฉินถามระบบในขณะที่เขาเก็บของมีค่าทั้งหมดที่เขามีเข้าไปในแหวนเก็บของ
 
“มันคือจิตวิญญาณดินเหลืองหนึ่งหมื่นปีตรงหน้าท่านค่ะ”
 
“จิตวิญญาณดินเหลืองหนึ่งหมื่นปี!” เฉินเฉินตกใจ แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่เขาก็บอกได้จากอายุของมันว่ามันคือของที่สำคัญมาก
 
โดยไร้ซึ่งความลังเล เฉินเฉินก็ดึงวิญญาณดินเหลืองออกมาจากพื้น อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ทำแบบนั้น เขาก็ไปขูดผิวของมันโดยไม่ได้ตั้งใจ
 
และผลก็คือ มีเรื่องที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้น มีเลือดไหลออกมาจากวิญญาณดินเหลือง ตามมาด้วยพลังปราณมหาศาลที่เริ่มกระจายออกมาจากบาดแผล แล้วเข้าไปในร่างกายของเฉินเฉิน
 
เฉินเฉินรู้สึกว่ากระแสน้ำวนในจุดตันเถียนของเขากำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ไม่นานนัก เขาก็ทะลวงไปถึงฝึกพลังปราณขั้นที่เจ็ด ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ความรู้สึกของพลังปราณที่ไม่สามารถอธิบายได้ก็เริ่มกระจายไปทั่วร่างกายของเขา
 
กระแสน้ำวนทั้งสามมีขนาดใหญ่ขึ้นในทันทีและรัศมีแสงก็ระเบิดออกมาจากกระแสน้ำวน
 
ด้วยความคิดเดียว รัศมีแสงก็ส่งเสียงแหลมแล้วปรากฎขึ้นในมือของเฉินเฉิน
 
นอกจากนั้น เฉินเฉินยังรู้สึกว่ากระแสน้ำวนทั้งสามนี้ดูเหมือนจะมีความสามารถในการสื่อสารอะไรบางอย่างกับพลังเซียนสวรรค์และโลก
 
“หรือว่านี่คือวิชาอัญเชิญสายฟ้า?” เฉินเฉินพึมพำ
 
จากคำแนะนำของวิชาสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหยุน ความสามารถศักดิ์สิทธิ์แรกที่เขาจะได้รับนั้นเรียกว่าวิชาอัญเชิญสายฟ้า ซึ่งจะได้เมื่อเข้าสู่การฝึกพลังปราณขั้นที่เจ็ด
 
มันคือความสามารถศักดิ์สิทธิ์ที่จะชี้นำปราณสายฟ้าให้กลายเป็นสายฟ้าฟาดผ่านน้ำวนทั้งสามมุมโดยมีจุดตันเถียนเป็นจุดศูนย์กลาง และโจมตีศัตรู
 
ความสามารถศักดิ์สิทธิ์นี้ไม่สามารถนำไปเทียบกับบอลไฟลูกเล็กๆได้เลย บอลไฟลูกเล็กๆนั้นก็เป็นแค่เคล็ดวิชาเล็กๆที่ถูกผู้ที่อยู่บนเส้นทางแห่งการฝึกตนยับยั้งได้ง่ายดายและพลังของมันก็ขึ้นอยู่กับปริมาณพลังปราณที่มีด้วย
 
อย่างไรก็ตาม การเรียกสายฟ้าจากวิชาอัญเชิญสายฟ้านั้นส่วนใหญ่จะกลั่นออกมาจากพลังปราณสายฟ้าของสวรรค์และโลก มีแค่พลังปราณส่วนน้อยเท่านั้นที่ตัวเองจะต้องจ่ายในฐานะตัวชี้นำ
 
ดังนั้น เมื่อเทียบกับบอลไฟลูกเล็กๆ วิชาอัญเชิญสายฟ้านั้นรุนแรงกว่ามาก และที่สำคัญยิ่งกว่าคือมันใช้พลังปราณน้อยกว่ามากเลยด้วย
 
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เฉินเฉินก็ทดลองวิชาในทันที ด้วยการใช้กระแสน้ำวนในจุดตันเถียนของเขาเพื่อสื่อสารกับปราณสายฟ้าของสวรรค์และโลก
 
เปรี๊ยง!
 
ด้วยเสียงดังสนั่นกึกก้อง สายฟ้าก็ปรากฏขึ้นแล้วพุ่งไปข้างหน้าเฉินเฉินสามเมตร แล้วระเบิดพื้นตรงนั้นจนเกิดเป็นรูกว้างที่ลึกเข้าไปถึงสองเมตร
 
“ยอดเยี่ยม!”
 
ดวงตาของเฉินเฉินเปล่งประกาย หลังจากได้เรียนรู้วิชาอัญเชิญสายฟ้า พลังของเขาก็คงจะเทียบเท่ากับปืนใหญ่แบบที่ใช้คนคุม ในแง่ของพลังต่อสู้ เขาในตอนนี้แข็งแกร่งกว่าตอนที่อยู่ระดับฝึกพลังปราณขั้นที่หกมาก
 
ถ้าเขาเจอกับปีศาจเหมือนกับหูเซียงเอ๋ออีกตัว เขาอาจจะสามารถเอาชนะมันได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือสำหรับต่อต้านปีศาจเลยก็ได้
 
พูดตามตรง อย่างน้อยตอนนี้เขาก็เป็นผู้ที่มีความแข็งแกร่งพอที่จะเป็นผู้สืบทอดสำนัก การเอาชนะอสูรดุร้ายที่มีระดับเหนือกว่าเขาคงไม่ถือเป็นเรื่องใหญ่อะไร
 
“วิญญาณดินเหลืองนี้… พลังปราณที่แผ่ออกมาจากเลือดเพียงน้อยนิดก็มีค่ามากกว่าหินวิญญาณหนึ่งพันก้อนแล้ว ถ้าข้ากินมันทั้งหมด ข้าจะต้องอิ่มมากแน่ ๆ!”
 
เฉินเฉินชื่นชมด้วยความตื่นตาตื่นใจในขณะที่เขามองวิญญาณดินเหลืองในมือ
 
คุณค่าของสิ่งนี้ไม่สามารถใช้หินวิญญาณประเมินได้ เมื่อเห็นพลังปราณที่เปล่งออกมาแผ่วๆจากแผลของมัน เฉินเฉินก็รีบฉีกเสื้อผ้าของเขาออกมาพันวิญญาณดินเหลืองเอาไว้ก่อนที่จะเก็บมันเข้าไปในแหวนเก็บของ
 
ในระหว่างทางกลับ เฉินเฉินทำการค้นหาต่อและเจอสมบัติที่กักเก็บพลังปราณมากมาย แม้ว่าพวกมันจะไม่ได้มีค่าเท่าวิญญาณดินเหลือง 10,000 ปี พวกมันก็ยังห่างชั้นเกินกว่าที่พืชในป่าลึกจะสามารถเทียบเคียงได้
 
ในขณะที่เขาเจอของพวกนี้มากขึ้น ความคิดในหัวของเขาก็ยิ่งเร่าร้อน
 
เขาต้องศึกษาและเรียนรู้เรื่องการทำยาด้วย!
 
มันคงจะน่าสมเพชถ้าเขากินพวกมันตรงๆโดยไม่ใช้ประสิทธิภาพของพวกมันให้ถึงขีดสุด
 
นอกจากนี้ มันก็ไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยถ้าจะเน้นฝึกตนที่ยอดเขาหลักเพียงอย่างเดียว ไม่ว่าอาจารย์จะมอบหินวิญญาณให้เขามากแค่ไหน พวกมันก็ไม่ได้ให้ผลได้ดีเท่าสมบัติอันไร้ที่ติพวกนี้
 

 
หลังจากกลับไปถึงยอดเขาหลัก เฉินเฉินก็ฝังวิญญาณดินเหลือง 10,000 ปีเอาไว้ในลานสมุนไพร แล้วต่อด้วยสมบัติสมุนไพรวิญญาณต่างๆ
 
ด้วยสมบัติอันไร้ที่ติที่พึ่งค้นพบใหม่นี้ พลังปราณในสนามจึงหนาแน่นและเข้มข้นยิ่งขึ้น
 
หูเซียงเอ๋อ ที่ฝึกตนอยู่ในกรงขังปีศาจ ลืมตาขึ้นมาในตอนที่สัมผัสถึงมันได้
 
“หูเซียงเอ๋อ เจ้าสามารถฝึกตนโดยที่ไม่มีแก่นปีศาจได้ด้วยหรอ?” เฉินเฉินถามพลางแสยะยิ้ม
 
เมื่อได้ฟังคำพูดของเขา หูเซียงเอ๋อก็หันหนีแล้วเมินเฉินเฉิน เมื่อไม่มีแก่นปีศาจ ประสิทธิภาพการฝึกตนของเธอก็ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม เธอจะไปทำอะไรได้หล่ะ? มันไม่ใช่ว่าเฉินเฉินจะคืนเธอซักหน่อย
 
“นี่ เอาแก่นปีศาจของเจ้าคืนไปสิ”
 
เฉินเฉินพูดในขณะที่โยนแก่นปีศาจเข้าไปในกรง
 
หูเซียงเอ๋อมองดูแก่นปีศาจด้วยความตกใจอย่างสุดขีด ถึงยังไงเธอก็เป็นปีศาจที่อยู่ระดับฝึกพลังปราณขั้นที่แปด เฉินเฉินจะรู้สึกปลอดภัยได้ยังไงกันถ้าคืนมันให้เธอ?
 
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะตกใจ เธอก็กลืนแก่นปีศาจเข้าไปอย่างรวดเร็ว และสัมผัสถึงพลังที่ห่างหายไปนานก็เข้ามาเติมเต็มร่างกายของเธอในทันที
 
อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้พยายามจะทำลายกรงและขดตัวอยู่ที่มุมนึงแทน
 
‘เฉินเฉินเป็นคนไม่ดีและวันนี้ก็ทำตัวผิดปกติมากๆ ข้าต้องระวังเอาไว้’
 
“หูเซียงเอ๋อ เจ้ามีสองทางเลือก หนึ่ง ข้าจะปล่อยเจ้าไปตอนนี้และเจ้าก็ออกไปจากสำนักเทียนหยุนซะ สอง นับแต่นี้ไปเจ้าจะติดตามข้าและคอยดูแลที่แห่งนี้ ถ้าเจ้าเลือกข้อที่สอง เจ้าจะได้ฝึกตนในสนามของข้าและข้าสัญญาว่าตราบใดที่เจ้าติดตามข้า ข้าจะไม่ข่มเหงเจ้า ข้ามั่นใจว่าเจ้าคงรู้จักพรสวรรค์ของข้าและมันก็ไม่ใช่เลือกยากเลยที่ข้าจะกลายเป็นเซียนที่แท้จริง ในตอนนั้นเจ้าอาจจะได้กลายเป็นปีศาจที่แข็งแกร่งกว่านี้ก็ได้ คิดว่ายังไงหล่ะ?”
 
เฉินเฉินนั่งยอง ๆอยู่หน้ากรงและพยายามคาดคั้นเธอเหมือนกับพนักงานขายที่พูดชักจูงเก่งจากในชีวิตก่อนของเขา เขาวาดภาพอนาคตที่งดงามเอาไว้และทำให้เธอมองไปหามัน
 
เนื่องจากมันเป็นอนาคตที่สวยงามและเป็นไปได้ การรับความเสียหายเล็กน้อยในตอนนี้ยังพอทนได้อยู่
 
“เจ้าจะยอมปล่อยข้าไปจริงๆหรอ?” หูเซียงเอ๋อถามอย่างสงสัย
 
แม้ว่าเธอจะถามคำถามนั้น เธอก็ดูลังเลจริงๆ
 
สภาพแวดล้อมในสวนนั้นยอดเยี่ยมจริงๆ เธอจะไปหาโอกาสนี้ได้จากที่ไหนอีกกัน?
 
“แน่นอน” เฉินเฉินยิ้มด้วยท่าทีจริงใจ
 
เมื่อเห็นท่าทีของเฉินเฉิน หูเซียงเอ๋อก็อดขนลุกไม่ได้
 
หลังจากใช้เวลาอยู่กับเขามาหลายวัน เธอก็ได้เรียนรู้ความเจ้าเล่ห์ของเขา เธอไม่สงสัยเลยว่าถ้าเธอเลือกจากไป เขาคงจะกลายเป็นศัตรูกับเธอและฆ่าเธอตรงนี้เลย
 
“เจ้าจะเลือกข้อไหน?” เฉินเฉินถามด้วยรอยยิ้มกว้าง
 
“ข้า…ข้าเลือกอยู่กับเจ้า”
 
หูเซียงเอ๋อขดตัวแล้วตอบกลับไปอย่างอ่อนเพลีย

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

Type: Author:
โดย เรื่อง ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything “นักเดินทาง ระบบของท่านได้มาถึงแล้ว ยินดีด้วยสำหรับการได้รับระบบการตรวจสอบที่ทรงอำนาจ!” เฉินเฉินที่กำลังนั่งเบื่อหน่ายอยู่ตรงทางเข้าของหมู่บ้านหิน เพียงแค่เขากำลังรู้สึกหดหู่ เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา เมื่อได้ยินเสียงนี้ เฉินเฉินรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาก เขากระโดดขึ้นจากก้อนหินที่อยู่เบื้องหน้าหมู่บ้านทันที “ระบบ? พึ่งจะเพิ่มเข้ามาช้าขนาดนี้เนี่ยนะ?” “ระบบตรวจสอบในปัจจุบันคือระดับหนึ่งค่ะ เจ้าของสามารถที่จะตรวจจับทุกสิ่งทุกอย่างได้ในระยะสิบเมตร!” เมื่อเสียงในหัวของเขาดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉินเฉินรู้สึกตื้นตันจนร้องไห้ออกมาได้เลย ด้วยเหตุนี้นี่เอง ประวัติศาสตร์ที่เขาเรียนรู้มาตอนมหาลัยมันไร้ประโยชน์และเขายังไม่สามารถกลายเป็นคนดังโดยการเขียนบทกลอนได้อีก เขาไม่ได้เก่งวิชาฟิสิกส์และเคมีสักเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะคิดค้นหรือประดิษฐ์เทคโนโลยีได้ มีสิ่งเดียวที่เขาทำแล้วมันเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับคนอื่น อย่างเอ้อหยาที่อยู่ใกล้บ้านเขา นั่นคือการที่เขาทำสมุดบัญชีขึ้นมา แต่ไม่คาดคิดเลย วันนี้….ระบบมันก็ได้มาถึงแล้ว! เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องตรวจสอบหรืออะไรสักอย่าง ตราบเท่าที่มันเป็นระบบ มันก็คงเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน เขาไม่ได้ทำอะไรมากว่าสิบปี แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่ามันจะเป็นระบบอะไร ขอแค่มันเป็นระบบก็พอ! การเป็นคนมันจะต้องเป็นคนกตัญญู ยังไงมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่มีระบบ! ‘อะไรก็ตามในระยะสิบเมตร….มันมีข้อจำกัดจำนวนในการใช้ไหม?’ เฉินเฉินถามขึ้นในหัวตัวเอง “มันไม่มีข้อจำกัดในการใช้ค่ะ ระบบจะแจ้งภารกิจลับให้กับเจ้าของ เพื่อการอัพเกรดความสำเร็จลับ รวมทั้งยังให้รางวัลกับเจ้าของเป็นครั้งคราวด้วยค่ะ ดังนั้นได้โปรดขยันขันแข็งด้วยค่ะ!” หลังจากนั้นเสียงได้จางหายไปจากในหัวของเขา เฉินเฉินนั่งคิดอยู่เป็นเวลานาน เขามองออกไปยังทางเข้าหมู่บ้านที่โดดเดี่ยวนั่น แล้วรู้สึกสิ้นหวังเล็กน้อย ชาวบ้านทั้งหมดของหมู่บ้านหินต่างเป็นชาวนากันทั้งหมด ทุกคนต่างยากจน ดังนั้นเขาจะตรวจสอบอะไรได้กัน? ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหมือนจะมีเพชรนิลจิลดาที่มีราคาอยู่ แต่เขาจะต้องไปขโมยมัน หลังจากที่เขาตรวจพบงั้นเหรอ? เขาคงจะโดนกระทืบจนตาย ถ้าเขาทำมันอย่างแน่นอน แต่เขาไม่ได้รีบร้อนอะไร ตั้งแต่ที่มันเป็นระบบ มันก็มีความหมายในตัวของมันเอง เขาจะพัฒนาตัวเองอย่างเชื่องช้า เป้าหมายหลักของเขาในตอนนี้คือการกลับไปยังบ้านก่อน ดังนั้นเขาจะได้ไปลองใช้ระบบได้อย่างสบายใจ เมื่อเขาตัดสินใจได้แล้ว เฉินเฉินเดินกลับบ้าน ครอบครัวของเขาเป็นคนธรรมดาทั่วไปในหมู่บ้านหินและครอบครัวของเขาต่างเป็นชาวนากัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้จน ครอบครัวของเขาก็อบอุ่นมากและเป็นครอบครัวที่มีความสุข เมื่อเขากลับมายังบ้าน พ่อแม่ของเขายังคงทำไร่นาอยู่ด้านนอกและยังไม่ได้กลับบ้าน เขาพูดขึ้นมาในหัวตัวเอง ‘ตรวจเงินในบ้านสิ’ “อยู่ในลิ้นชักที่ห่างออกไป 3 เมตรค่ะ ภายในลิ้นชักมีเงินจำนวน 120 ตำลึงทองแดง” นี่คือสถานที่ที่ครอบครัวของเขาเก็บเงินไว้ เฉินเฉินรู้มันดี เพราะว่าพ่อแม่ของเขาไม่ได้ปิดบังอะไรกับเขาไว้ “ใต้เตียงที่อยู่ห่างออกไป 4 เมตร ยังมีอีกสี่สิบตำลึงทองแดงค่ะ” อะไรนะ?! เฉินเฉินไม่รู้เกี่ยวกับเงินนี้เลยสักนิด มันเป็นห้องนอนของพ่อแม่เขา ซึ่งอยู่ห่างออกไปสี่เมตร มันอาจจะเป็นเงินเก็บของพ่อของเขา เฉินเฉินคิดและสรุปได้ว่ามันน่าจะเป็นไปได้ ดังนั้นเขาจึงเดินไปที่ห้องด้านข้างและก้มมองลงใต้เตียง หลังจากคว้านดูสักพักหนึ่ง เขาพบกับกระเป๋าหนังเล็กที่มีเงินอยู่สี่สิบตำลึง ‘มีเงินอยู่ด้านในจริงด้วย’ เฉินเฉินคิดกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็เก็บกระเป๋าหนังกลับไปยังที่เดิม ระบบยังคงพูดอย่างต่อเนื่องขึ้นมาในหัวของเขา “ก้าวไปด้านหน้าห้าก้าวและขุดลงไปใต้ดินสิบเมตร มันมีเหรียญทองแดงขึ้นสนิมอยู่” เมื่อได้ยินการแจ้งเตือน เฉินเฉินรีบหยิบพลั่วมาขุดอย่างกระตือรือร้น มันไม่ได้ใช้เวลานานสักเท่าไหร่สำหรับการหาเหรียญทองแดงขึ้นสนิม หลังจากครุ่นคิดมาเป็นเวลานาน เขาจำได้ลางๆว่าเขาเคยทำเงินหายตอนยังเด็ก มันเป็นเงินที่เขาได้มาตอนปีใหม่ และเขาอารมณ์เสียที่เงินหายเป็นเวลานานเลย ‘ตั้งแต่ที่ฉันมีระบบนี่แล้ว บางทีฉันอาจจะไปยังมณฑลใกล้ๆ เพื่อไปเก็บเงินจากพื้นมาอาศัยอยู่ต่อ…’ เฉินเฉินอดที่จะคิดออกมาไม่ได้ แต่เขาแทบจะตบหน้าตัวเองทันที หลังจากที่มีความคิดแบบนี้โผล่ขึ้นมา เมื่อเป็นนักเดินทางย้อนเวลาที่มีระบบแบบนี้แล้วแท้ๆ ทำไมความคิดของเขาถึงน่าสมเพศขนาดนี้กัน? นี่มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากสำหรับนักเดินทางที่ย้อนเวลากลับมาแบบนี้! ในเวลาเดียวกัน เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา “รางวัลความสำเร็จ – เสร็จสมบูรณ์ : ใช้ระบบเป็นครั้งแรก รางวัลที่ได้รับ : โอกาสในการตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่างภายในมณฑลเสฉวนหนึ่งครั้งค่ะ” เมื่อเขาได้ยิน เฉินเฉินอดที่จะคิดเรื่องเดินไปหาเงินต่ออีกครั้งไม่ได้ ทั่วทั้งมณฑลเสฉวนคงจะมีเงินจำนวนมากอย่างแน่นอน… “เฮ้อออ! ทำไมฉันถึงเอาแต่อยากจะไปเก็บเงินกัน? ฉันมาที่โลกเซียนแห่งนี้ แน่นอนละว่าฉันมาเพื่อที่จะบ่มเพาะตนกลายเป็นเซียน!” เฉินเฉินตัดสินใจได้และไม่ได้ใช้รางวัลนี้ในทันที ใครจะไปรู้กันว่าเขาจะได้โอกาสตรวจสอบพื้นที่ขนาดกว้างแบบนี้อีกครั้งกัน? มันเป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยม เขาไม่ต้องการที่จะเสียมันไปอย่างเปล่าประโยชน์ เขาจะรอจนกระทั่งเขาคุ้นเคยกับระบบ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้มัน Traveling through the Xianxia world, Chen Chen got the strongest tracking system and was able to track everything ever since. Chen Chen, “System, I am short of money.” “Two meters away, your father has hidden some money under the bed. Five meters away, there is a rusty copper coin buried half a meter underground.” “There is a piece of silver in the grass ahead.” Chen Chen, “System, I need some luck.” “The sh*t in front of the pigsty is actually not ordinary.” “Go to Black Peak cliff twenty miles away to jump off the cliff.” “Somewhere hidden there is a fairy cave mansion. Please explore by yourself.”

Options

not work with dark mode
Reset