“เมืองหิน ที่ไหนกันนั่นนะ?”
“เขามาจากหมู่บ้านชนบทงั้นเหรอ? ไม่สงสัยเลยที่ว่าทำไมเขาถึงสำคัญตัวเองแบบนั้น”
“เอาละ พวกเรามีการแสดงตลกมาให้ดูแล้ว”
คนนับพันคนที่เงียบอยู่ต่างเริ่มพูดขึ้นออกมาพร้อมกัน มันมีบางคนหัวเราะออกมาด้วยซ้ำ
ผู้อาวุโสของสำนักเทียนหยุนไม่ได้หัวเราะออกมา แต่ว่าเขากลับเห็นถึงทิศทางของพลังปราณจากผืนสวรรค์และผืนปฐพีที่กำลังมุ่งไปได้โดยระดับการฝึกตนของเขา
ถ้าใครก็ตามที่มีศักยภาพในการฝึกตนแล้ว พลังปราณจะไม่ปฏิเสธคนๆนั้น
หลังจากที่ฝึกตนไปได้สักพักหนึ่ง ผืนสวรรค์และผืนปฐพีก็จะไหลเข้าไปสู่ร่างกายของบุคคลนั้น
เมื่อเขาเห็นกลุ่มคนที่มีคุณสมบัติในการฝึกตนแล้ว การกระทำของเขาก็ง่ายมาก ปลดปล่อยพลังปราณออกมาเล็กน้อย ถ้าพลังปราณไหลเวียนอยู่บนหัวของพวกเขาแล้ว มันก็หมายความว่าพวกเขาต่างมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเป็นเซียน
ใครบางคนที่มีคุณสมบัติที่ดีอย่างมู่หลงหยุนหลานจะสามารถดูดซึมพลังปราณบางส่วนเข้าไปในร่างกายของพวกเธอได้เลย แม้ว่าพวกเธอจะไม่ได้เริ่มฝึกตนก็ตาม
แต่ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา….
เขาดูดซึมพลังปราณทั้งหมดที่เขาปล่อยออกไป!
ไม่สิ!
พูดให้ชัดเจนกว่านี้ก็คือมันเหมือนกับว่าพลังปราณนั้นถูกดูดเข้าร่างของชายหนุ่มคนนี้ไปเลย มันเหมือนกับพลังปราณที่เปรียบดั่งริมธารที่ไหลลงไปรวมกับมหาสมุทร!
‘เขามีร่างกายจิตวิญญาณโดยกำเนิด! และมันไม่ใช่ประเภทธรรมดาทั่วไปอีกด้วย!’
ความรู้สึกมากมายถาโถมเข้าใส่ผู้อาวุโสของสำนักเทียนหยุน
มันมีร่างกายจิตวิญญาณโดยกำเนิดหลายประเภท เนื่องจากพลังปราณนั้นมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันเพราะสวรรค์และปฐพี ร่างกายจิตวิญญาณโดยกำเนิดบางประเภทนั้นเหมาะกับพลังปราณไม้ ซึ่งร่างกายจิตวิญญาณโดยกำเนิดเหล่านี้จะถูกเรียกว่า ร่างกายจิตวิญญาณไม้โดยกำเนิด
แต่เจ้าเด็กที่อยู่ด้านเขานี่ดูเหมือนจะดูดกลืนได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะมีคุณสมบัติไหนก็ตาม
‘เขามีร่างกายจิตวิญญาณโดยกำเนิดระดับตำนานที่เรียกว่าร่างกายต้นกำเนิดหรือยังไงกัน?’
ตาของผู้อาวุโสกระตุก มือของเขาสั่นไหวเล็กน้อย
ร่างกายต้นกำเนิดเป็นร่างกายที่หาได้ยากในโลกใบนี้ ไม่ต้องพูดถึงรัฐจินเลย แม้ว่าจะมองหาทั่วประเทศแล้ว มันก็ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนเลยด้วยซ้ำ
ถ้าสำนักคู่แข่งเจอเข้าแล้ว สำนักเทียนหยุนก็จะถูกทำลายในชั่วไม่กี่นาที
แม้แต่สำนักที่เป็นพันธมิตรกับเทียนหยุน พวกเขาก็จะไม่รอดูเฉยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสำนักที่ปกป้องรัฐแล้ว พวกเขาคงจะเลือกปล้นลูกศิษย์คนนี้ไปในทันทีเลยด้วยซ้ำไป
และพวกเขาก็คงจะทำลายสำนักเทียนหยุนทิ้งตามไป
‘แม่งเอ้ย ข้าแค่พูดมั่วซั่วไปแค่นั้น! ใครจะไปคิดกันว่าคนแบบนี้จะปรากฏตัวขึ้นจริงๆกันเนี่ย? ข้าจะทำไงดี?’
ตื่นตระหนก!
ผู้อาวุโสของสำนักเทียนหยุนยืนงุนงง เหมือนกับว่าเขาไม่ได้มองไปที่เด็กหนุ่ม แต่กลับมองไปยังพายุสีเลือดแทน เหงื่อไหลออกมาเต็มใบหน้าของเขา
“หือ? ผู้อาวุโส ท่านสบายดีไหม? หรือท่านคิดว่าข้ามีคุณสมบัติไม่เหมาะสมกัน? บอกความจริงกับข้ามาเถอะ ข้านั้นอยู่ใน…”
เฉินเฉินกำลังจะพูดถึงระดับฝึกตนของเขา แต่ผู้อาวุโสก็พูดขัดเขาขึ้น เขาแสร้งทำตัวเป็นคนใจเย็น
“ไม่เลวเลยนี่ คุณสมบัติของเจ้านี่ไม่เลวเลย”
ผู้อาวุโสของสำนักเทียนหยุนรู้ดีว่าใบหน้าของเขามันใส่อารมณ์มากไปหน่อย ถ้ามันมีหนอนบ่อนไส้อยู่ในสำนักของเขาแล้ว พวกเขาคงจะตระหนักได้ว่ามันมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น
ถ้าเขาบอกว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าไม่ได้มีคุณสมบัติในการฝึกตนและลักพาตัวเขาไปทีหลัง มันก็เป็นเรื่องที่ยากมากเกินไปที่จะซ่อนตัวเด็กหนุ่มที่มีศักยภาพอย่างเขา ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็คงจะกลายเป็นเป้าหมายให้ถูกกำจัดไม่ก็ลักพาตัวไปเข้าสำนักของตัวเอง
เพียงเวลาไม่นานที่เขาพูดออกมา กลุ่มคนดูต่างเงียบกันไปทั้งหมด
มันมีคนมากขนาดไหนกันที่ทำให้ผู้อาวุโสของสำนักเทียนหยุนพูดว่าพวกเขามีคุณสมบัติกัน?”
บางทีมันอาจจะมีเพียงแค่คุณหญิงมู่หลงและลูกชายของนายพลจี๋โจวเท่านั้นแหละ
ใครจะไปคิดกันว่าเจ้าเด็กนั่นจะมีคุณสมบัติเฉกเช่นนั้นเหมือนกันอีก?
เขานั้นโดดเด่นมาก!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้ว กลุ่มคนเริ่มที่จะอิจฉา ใบหน้าของพวกเขาบิดเบี้ยวเหมือนกับกินของเสียไปยังไงยังงั้น
ฮวนน้อยซึ่งเป็นสาวใช้ของคุณหญิงมู่หลงรู้สึกหน้าชากว่าคนอื่น ความอิจฉาในตาของเธอนั้นพวยพุ่งออกมาอย่างเห็นได้ชัด
‘นี่มันอะไรกัน?! ไม่ยุติธรรมเลย!’
เฉินเฉินเมินสายตาที่ไม่พอใจของคนนับพันไปก่อนที่จะตบไหล่และพูดต่อ “ข้าโล่งใจจริงที่ผู้อาวุโสพูดออกมาแบบนี้ ข้าคิดว่าข้าอ่อนเกินไปด้วยซ้ำ”
ผู้อาวุโสมองไปที่เฉินเฉินด้วยสายตาที่ไม่พอใจเล็กน้อย เขาก่นด่าเฉินเฉินออกมาในหัว
‘พระเจ้า ร่างกายต้นกำเนิดเป็นร่างกายที่เหมาะสมกับการฝึกตนมาก เจ้าอยู่ระดับระดับฝึกพลังปราณขั้นสาม โดยไม่ได้พึ่งการบ่มเพาะลมปราณเลยสักนิด เจ้ายังไม่มีคุณสมบัติมากพออีกงั้นเรอะ? ดูคนที่อยู่ที่นี่สิ มีใครเหมือนกับเจ้าอีกไหม?’
“ผู้อาวุโส ข้าไปยืนตรงนั้นได้ไหมครับ?”
เฉินเฉินเมินสายตาของผู้อาวุโสไปและชี้ไปยังจางจี
“ไปได้” ผู้อาวุโสของสำนักเทียนหยุนพูดอย่างใจเย็น เขาซ่อนความตื่นเต้นไว้ภายใน
เมื่อเฉินเฉินได้ยินคำอนุญาต เขาก็เดินตรงไปหาจางจีทันที
“พี่ใหญ่ ท่านยอดเยี่ยมมากเลยครับ!”
จางจีอดที่จะชื่นชมเฉินเฉินไม่ได้ เมื่อเฉินเฉินมาหาเขา
พี่ใหญ่ของเขาก็ยังคงเป็นพี่ใหญ่อยู่เหมือนเดิม แม้แต่ผู้อาวุโสของสำนักเทียนหยุนยังพูดว่าเขาเยี่ยมยอดอีก! นี่มันทำให้เขา น้องชายรู้สึกมีเกียรติด้วยเหมือนกัน
“มันแค่งั้นๆแหละ ไม่ได้น่าประทับใจอะไรหรอก” เฉินเฉินโบกมือ สีหน้าของเขาดูใจเย็นมาก
….
เมื่อผู้อาวุโสได้ยินบทสนทนาของทั้งสองคนที่อยู่ด้านหลังเขา เขาก็เก็บกักอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านในตัวเอาไว้ ตาของเขากระตุกอย่างไม่หยุดหย่อน
หลังจากคิดคำพูดตัวเองออกมาได้สักพักหนึ่ง เขาก็ไปพูดต่อคนนับพันคนบนสนามซ้อม “เส้นทางของการฝึกเป็นเซียนนั้นยากลำบากและไม่ได้สวยงามเลยสักนิด พวกเจ้ายังยืนยันที่จะเดินไปบนเส้นทางนี้อยู่อีกไหม?”
กลุ่มคนที่อยู่บนสนามซ้อมต่างสบตากันเอง เมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดเหล่านี้ มันมีคนบางกลุ่มที่ยังไม่เข้าใจถึงสิ่งที่เขากำลังสื่ออีกด้วย
ถ้าพวกเขาไม่มั่นใจแล้ว พวกเขาจะพยายามมายังเมืองจี๋โจวอย่างยากลำบากเช่นนี้ไปทำไมอีก?
ทำไมผู้อาวุโสถึงพูดจาไร้สาระเช่นกันนี้กัน?
แต่แม้ว่าจะมีความสงสัยในหัวตัวเองก็ตาม มันไม่มีใครที่กล้าจะตั้งคำถามเขาออกมาเลยสักนิด
หลังจากประกาศออกไป ผู้อาวุโสของสำนักเทียนหยุนรีบเดินกลับไปยังด้านหลังของเวที เมื่อเขามาถึงจุดที่ที่ไม่มีคนอยู่แล้ว ความรู้สึกมากมายของเขาก็ระเบิดออกและสีหน้าแก่ๆของเขาก็เริ่มบิดเบี้ยว
‘เวรเอ้ย! ข้าจะทำยังไงดีเนี่ย?!’
‘มีใครสังเกตเห็นความผิดปกติของข้าไหม?’
‘ถ้าคนอื่นพบว่าข้าวางแผนที่จะนำร่างต้นกำเนิดกลับไปพร้อมกับข้าด้วย ข้าอาจจะถูกกระทืบจนกลายเป็นเศษซากเนื้อบดเลยก็ได้นะ!’
‘นี่มันเกี่ยวข้องกับชะตากรรมของสำนักเทียนหยุนเลย ดังนั้นข้าจึงต้องถามหาความเห็นของเจ้าสำนักก่อน ถ้าสำนักเทียนหยุนถูกทำลายในทีหลัง มันก็เป็นความผิดของเขาแล้วละ!’
เมื่อคิดได้ดังนี้ ผู้อาวุโสหยิบเหรียญตราพิเศษออกมา เขาพลิกมันด้วยนิ้วมือของตัวเอง
นี่คือเหรียญตราสื่อสารของสำนักเทียนหยุน ซึ่งมีเพียงคนสำคัญไม่กี่คนของสำนักเท่านั้นที่จะมี
“เจ้าสำนัก มันมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น เด็กหนุ่มที่น่าหวาดกลัวได้ปรากฏขึ้นในการรับลูกศิษย์ของพวกเรา เขาน่าจะมีร่างต้นกำเนิด ข้าควรจะทำยังไงดี? เรื่องนี้เร่งด่วนมาก! ได้โปรดตอบข้าให้เร็วที่สุดเท่าที่ท่านจะตอบได้ด้วยครับ!”
หลังจากเขียนเสร็จ ผู้อาวุโสของสำนักเทียนหยุนเดินวนไปมา เขารอคอยคำตอบอย่างกระวนกระวายใจ หลังจากผ่านไปสักพักหนึ่ง เหรียญตราสื่อสารก็สว่างวูบขึ้น
“มันเป็นเรื่องจริงใช่ไหม? เจ้าไม่ได้เข้าใจผิดนะ”
“มันไม่มีร่องรอยของการฝึกฝตนของเจ้าเด็กหนุ่มนั่นเลย แต่เขาก็ยังเลื่อนระดับมาถึงสามแล้ว ตราบเท่าที่พลังปราณของข้าถูกปล่อยออกไป มันก็จะไหลเวียนเข้าไปในร่างกายของเด็กหนุ่มนั่นทันที เจ้าสำนัก…”
เมื่อผู้อาวุโสเขียนจดหมายนี้เสร็จ เหรียญตราสื่อสารก็ร้าวทันที
เมื่อเห็นดังนี้ผู้อาวุโสพูดไม่ออก นี่มันจะต้องเป็นเพราะเจ้าสำนักตื่นเต้นเกินไปจนทำมันหักแน่นอน
เมื่อเห็นเหรียญตราสื่อสารกำลังจะพังลง ผู้อาวุโสก็ไม่พูดจาไร้สาระ เขารีบส่งข้อความสำคัญที่สุดออกไป “เจ้าสำนักครับ เรื่องนี้สำคัญมาก ข้ากลัวมากเลยตอนนี้! ท่านได้ส่งผู้อาวุโสมาหลายคนเพื่อสนับสนุนข้าหน่อยได้ไหม? ถ้ามันมีเรื่องเกิดขึ้น ข้าไม่น่าจะรับมือได้ด้วยตัวคนเดียว”
บึ้ม!
ทันทีที่จดหมายของเขาถูกส่งออกไป เหรียญมันก็ระเบิดออกกลายเป็นผุยผง
ในเวลาเดียวกัน พลังปราณหลายสายก็ได้เปลี่ยนเป็นคำพูดที่อยู่ด้านหน้าเขา
“ไม่ต้องกังวลไป สำนักของเทียนหยุนพวกเราจะไปหาเจ้ากันทั้งหมดเนี่ยละ!”
ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything – ตอนที่ 45: ตื่นตระหนก
Posted by ? Views, Released on September 26, 2021
, I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง
โดย เรื่อง ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything “นักเดินทาง ระบบของท่านได้มาถึงแล้ว ยินดีด้วยสำหรับการได้รับระบบการตรวจสอบที่ทรงอำนาจ!”
เฉินเฉินที่กำลังนั่งเบื่อหน่ายอยู่ตรงทางเข้าของหมู่บ้านหิน เพียงแค่เขากำลังรู้สึกหดหู่ เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา
เมื่อได้ยินเสียงนี้ เฉินเฉินรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาก เขากระโดดขึ้นจากก้อนหินที่อยู่เบื้องหน้าหมู่บ้านทันที
“ระบบ? พึ่งจะเพิ่มเข้ามาช้าขนาดนี้เนี่ยนะ?”
“ระบบตรวจสอบในปัจจุบันคือระดับหนึ่งค่ะ เจ้าของสามารถที่จะตรวจจับทุกสิ่งทุกอย่างได้ในระยะสิบเมตร!”
เมื่อเสียงในหัวของเขาดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉินเฉินรู้สึกตื้นตันจนร้องไห้ออกมาได้เลย
ด้วยเหตุนี้นี่เอง ประวัติศาสตร์ที่เขาเรียนรู้มาตอนมหาลัยมันไร้ประโยชน์และเขายังไม่สามารถกลายเป็นคนดังโดยการเขียนบทกลอนได้อีก เขาไม่ได้เก่งวิชาฟิสิกส์และเคมีสักเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะคิดค้นหรือประดิษฐ์เทคโนโลยีได้ มีสิ่งเดียวที่เขาทำแล้วมันเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับคนอื่น อย่างเอ้อหยาที่อยู่ใกล้บ้านเขา นั่นคือการที่เขาทำสมุดบัญชีขึ้นมา
แต่ไม่คาดคิดเลย วันนี้….ระบบมันก็ได้มาถึงแล้ว!
เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องตรวจสอบหรืออะไรสักอย่าง ตราบเท่าที่มันเป็นระบบ มันก็คงเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน เขาไม่ได้ทำอะไรมากว่าสิบปี แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่ามันจะเป็นระบบอะไร ขอแค่มันเป็นระบบก็พอ!
การเป็นคนมันจะต้องเป็นคนกตัญญู ยังไงมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่มีระบบ!
‘อะไรก็ตามในระยะสิบเมตร….มันมีข้อจำกัดจำนวนในการใช้ไหม?’ เฉินเฉินถามขึ้นในหัวตัวเอง
“มันไม่มีข้อจำกัดในการใช้ค่ะ ระบบจะแจ้งภารกิจลับให้กับเจ้าของ เพื่อการอัพเกรดความสำเร็จลับ รวมทั้งยังให้รางวัลกับเจ้าของเป็นครั้งคราวด้วยค่ะ ดังนั้นได้โปรดขยันขันแข็งด้วยค่ะ!”
หลังจากนั้นเสียงได้จางหายไปจากในหัวของเขา
เฉินเฉินนั่งคิดอยู่เป็นเวลานาน เขามองออกไปยังทางเข้าหมู่บ้านที่โดดเดี่ยวนั่น แล้วรู้สึกสิ้นหวังเล็กน้อย
ชาวบ้านทั้งหมดของหมู่บ้านหินต่างเป็นชาวนากันทั้งหมด ทุกคนต่างยากจน ดังนั้นเขาจะตรวจสอบอะไรได้กัน?
ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหมือนจะมีเพชรนิลจิลดาที่มีราคาอยู่ แต่เขาจะต้องไปขโมยมัน หลังจากที่เขาตรวจพบงั้นเหรอ? เขาคงจะโดนกระทืบจนตาย ถ้าเขาทำมันอย่างแน่นอน
แต่เขาไม่ได้รีบร้อนอะไร ตั้งแต่ที่มันเป็นระบบ มันก็มีความหมายในตัวของมันเอง เขาจะพัฒนาตัวเองอย่างเชื่องช้า
เป้าหมายหลักของเขาในตอนนี้คือการกลับไปยังบ้านก่อน ดังนั้นเขาจะได้ไปลองใช้ระบบได้อย่างสบายใจ
เมื่อเขาตัดสินใจได้แล้ว เฉินเฉินเดินกลับบ้าน
ครอบครัวของเขาเป็นคนธรรมดาทั่วไปในหมู่บ้านหินและครอบครัวของเขาต่างเป็นชาวนากัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้จน ครอบครัวของเขาก็อบอุ่นมากและเป็นครอบครัวที่มีความสุข
เมื่อเขากลับมายังบ้าน พ่อแม่ของเขายังคงทำไร่นาอยู่ด้านนอกและยังไม่ได้กลับบ้าน
เขาพูดขึ้นมาในหัวตัวเอง ‘ตรวจเงินในบ้านสิ’
“อยู่ในลิ้นชักที่ห่างออกไป 3 เมตรค่ะ ภายในลิ้นชักมีเงินจำนวน 120 ตำลึงทองแดง”
นี่คือสถานที่ที่ครอบครัวของเขาเก็บเงินไว้ เฉินเฉินรู้มันดี เพราะว่าพ่อแม่ของเขาไม่ได้ปิดบังอะไรกับเขาไว้
“ใต้เตียงที่อยู่ห่างออกไป 4 เมตร ยังมีอีกสี่สิบตำลึงทองแดงค่ะ”
อะไรนะ?!
เฉินเฉินไม่รู้เกี่ยวกับเงินนี้เลยสักนิด มันเป็นห้องนอนของพ่อแม่เขา ซึ่งอยู่ห่างออกไปสี่เมตร มันอาจจะเป็นเงินเก็บของพ่อของเขา
เฉินเฉินคิดและสรุปได้ว่ามันน่าจะเป็นไปได้ ดังนั้นเขาจึงเดินไปที่ห้องด้านข้างและก้มมองลงใต้เตียง หลังจากคว้านดูสักพักหนึ่ง เขาพบกับกระเป๋าหนังเล็กที่มีเงินอยู่สี่สิบตำลึง
‘มีเงินอยู่ด้านในจริงด้วย’ เฉินเฉินคิดกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็เก็บกระเป๋าหนังกลับไปยังที่เดิม
ระบบยังคงพูดอย่างต่อเนื่องขึ้นมาในหัวของเขา
“ก้าวไปด้านหน้าห้าก้าวและขุดลงไปใต้ดินสิบเมตร มันมีเหรียญทองแดงขึ้นสนิมอยู่”
เมื่อได้ยินการแจ้งเตือน เฉินเฉินรีบหยิบพลั่วมาขุดอย่างกระตือรือร้น มันไม่ได้ใช้เวลานานสักเท่าไหร่สำหรับการหาเหรียญทองแดงขึ้นสนิม
หลังจากครุ่นคิดมาเป็นเวลานาน เขาจำได้ลางๆว่าเขาเคยทำเงินหายตอนยังเด็ก มันเป็นเงินที่เขาได้มาตอนปีใหม่ และเขาอารมณ์เสียที่เงินหายเป็นเวลานานเลย
‘ตั้งแต่ที่ฉันมีระบบนี่แล้ว บางทีฉันอาจจะไปยังมณฑลใกล้ๆ เพื่อไปเก็บเงินจากพื้นมาอาศัยอยู่ต่อ…’ เฉินเฉินอดที่จะคิดออกมาไม่ได้ แต่เขาแทบจะตบหน้าตัวเองทันที หลังจากที่มีความคิดแบบนี้โผล่ขึ้นมา
เมื่อเป็นนักเดินทางย้อนเวลาที่มีระบบแบบนี้แล้วแท้ๆ ทำไมความคิดของเขาถึงน่าสมเพศขนาดนี้กัน?
นี่มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากสำหรับนักเดินทางที่ย้อนเวลากลับมาแบบนี้!
ในเวลาเดียวกัน เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา
“รางวัลความสำเร็จ – เสร็จสมบูรณ์ : ใช้ระบบเป็นครั้งแรก รางวัลที่ได้รับ : โอกาสในการตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่างภายในมณฑลเสฉวนหนึ่งครั้งค่ะ”
เมื่อเขาได้ยิน เฉินเฉินอดที่จะคิดเรื่องเดินไปหาเงินต่ออีกครั้งไม่ได้
ทั่วทั้งมณฑลเสฉวนคงจะมีเงินจำนวนมากอย่างแน่นอน…
“เฮ้อออ! ทำไมฉันถึงเอาแต่อยากจะไปเก็บเงินกัน? ฉันมาที่โลกเซียนแห่งนี้ แน่นอนละว่าฉันมาเพื่อที่จะบ่มเพาะตนกลายเป็นเซียน!”
เฉินเฉินตัดสินใจได้และไม่ได้ใช้รางวัลนี้ในทันที
ใครจะไปรู้กันว่าเขาจะได้โอกาสตรวจสอบพื้นที่ขนาดกว้างแบบนี้อีกครั้งกัน? มันเป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยม เขาไม่ต้องการที่จะเสียมันไปอย่างเปล่าประโยชน์ เขาจะรอจนกระทั่งเขาคุ้นเคยกับระบบ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้มัน
Traveling through the Xianxia world, Chen Chen got the strongest tracking system and was able to track everything ever since.
Chen Chen, “System, I am short of money.” “Two meters away, your father has hidden some money under the bed. Five meters away, there is a rusty copper coin buried half a meter underground.” “There is a piece of silver in the grass ahead.”
Chen Chen, “System, I need some luck.” “The sh*t in front of the pigsty is actually not ordinary.” “Go to Black Peak cliff twenty miles away to jump off the cliff.” “Somewhere hidden there is a fairy cave mansion. Please explore by yourself.”