ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything – ตอนที่ 40: ใครสามารถอธิบายได้บ้าง?

“ที่นั่งที่ดีที่สุดอยู่ตรงไหน?”
 
เฉินเฉินลูบหัวเจ้าอสูรจิ้งจอกสองหางด้วยท่าทีสบายๆ ใบหน้าของเขาเยือกเย็นและสงบนิ่ง
 
เจ้าหน้าที่เริ่มคิดอะไรบางอย่างในหัว แต่ในท้ายที่สุดก็ไม่ได้พูดออกมา ที่นั่งที่ดีที่สุดที่พวกเขามีอยู่ที่ชั้นบนสุด แต่พวกเขาสงวนเอาไว้สำหรับคุณหนูของจริง แค่มีเงินอย่างเดียวไม่สามารถขึ้นไปนั่งได้
 
อย่างไรก็ตาม คุณชายที่อยู่ตรงหน้าเขาดูเหมือนกับคุณชายทั่วๆไปมากกว่าคุณชายของจริง
 
“อะไร? สถานที่เล็กๆแบบนี้จำเป็นต้องยืนยันตัวตนก่อนจะเข้าไปด้วยหรอ?” ริมฝีปากของเฉินเฉินเผยอขึ้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเสียดสี
 
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเฉินเฉิน เจ้าหน้าที่ก็คิดคำตอบได้ “คุณชายครับ เชิญตามข้าไปที่ชั้นบนเถิด มีคุณชายและคุณหญิงจากรัฐจี่อยู่ที่นั่น น่าจะมีคนที่ท่านรู้จักอยู่ด้วย”
 
“เห้อ ข้าไม่รู้จักพวกนั้นหรอก”
 
เฉินเฉินพูดต่ออย่างเป็นธรรมชาติ
 
ในตอนนี้เจ้าหน้าที่พิจารณาคำพูดของเขาอย่างระมัดระวัง และตระหนักได้ถึงความหมายที่สื่ออยู่เบื้องหลังคำขอของเขา เฉินเฉินไม่ได้อยากไปยุ่งเกี่ยวกับคุณชายคุณหญิงของรัฐจี่ ซึ่งข้อพิสูจน์นี้ทำให้เขาประหลาดใจมากๆ
 
หรือว่าคุณชายผู้นี้จะมาจากเมืองหลวง?
 
เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ ความหวั่นเกรงก็เติบโตขึ้นในใจของเจ้าหน้าที่
 

 
ครู่ต่อมา ทั้งกลุ่มก็ไปถึงชั้นบนสุดของหอลมใบไม้ผลิในที่สุด
 
ที่ชั้นบนสุด มีห้องสูทจัดเรียงรายอยู่หลายห้องและมีโถงใหญ่อยู่หนึ่งโถง ณ ตอนนี้ โถงใหญ่นั้นเต็มไปด้วยคุณหนูที่แต่งตัวด้วยชุดเลิศหรู
 
“จัดโต๊ะให้แขก VIP กลุ่มนี้ด้วย!”
 
เจ้าหน้าที่พูดกับพนักงานบริการที่ชั้นบนสุดด้วยสีหน้าจริงจัง
 
“พวกเขาเป็นใครหรอครับ?” พนักงานบริการถามด้วยความสงสัย
 
“อย่าถามเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องรู้จะดีกว่า เอาเป็นว่าพวกเขาคือแขก VIP!”
 
ในส่วนของที่มาที่ไปของคนกลุ่มนี้หน่ะหรอ? ข้อมูลนั้นคงมีแค่พระเจ้าที่รู้ งานของคนงานมีแค่หลีกเลี่ยงการไปยั่วโมโหกลุ่มคนผู้ทรงเกียรตินี้
 
เจ้าหน้าที่จำใส่ใจเอาไว้อย่างเงียบๆ
 
“ได้ครับ แต่ว่า พวกเรามีกฎห้ามนำสุนัขเข้ามาที่นี่ ถ้าท่านต้องการรับประทานอาหารที่ชั้นบนสุด รบกวนฝากสุนัขของท่านให้พวกเราดูแลได้ไหมครับ?” พนักงานชี้ไปที่อสูรจิ้งจอกที่เฉินเฉินกำลังอุ้มอยู่อย่างระมัดระวัง
 
เมื่อได้ยินคำว่าสุนัข ดวงตาของอสูรจิ้งจอกก็ลุกไหม้ด้วยความโกรธ อย่างไรก็ตาม พอนึกถึงคำเตือนของเฉินเฉิน มันก็ทำได้แค่เงียบต่อไป
 
“สุนัขอะไร? นี่คือสุนัขศักดิ์สิทธิ์อักกราอิสโร ในแง่ของราคา เจ้าขายโรงเตี๊ยมทั้งหลังนี่ก็ยังซื้อจากข้าไปไม่ได้เลย เจ้ายังกล้าเอามันไปดูแลแทนข้าอีกหรอ?
 
“เห็นไหม! พอถูกกล่าวหาว่าเป็นแค่สุนัขธรรมดามันก็หงุดหงิดแล้ว ดูดวงตาของมันสิ”
 
เฉินเฉินโวยวายอีกครั้ง และสร้างความสับสนให้พนักงานบริการอย่างเต็มที่
 
อย่างไรก็ตาม พนักงานบริการตกตะลึงกับการแสดงอารมณ์เหมือนมนุษย์ที่เจ้าสุนัขแปลกๆนี่แสดงออกมาจริงๆ
 
เขาเคยเห็นสัตว์เลี้ยงมามากมายแล้ว แต่ไม่มีตัวไหนที่แสดงสติปัญญาเช่นนี้ออกมา
 
“เข้าใจแล้วครับท่านแขกผู้ทรงเกียรติ โปรดตามข้ามาเถอะครับ”
 
พนักงานบริการไม่มีทางเลือกนอกจากพากลุ่มของเฉินเฉินไปยังสถานที่ที่ห่างไกลจากฝูงชน ซึ่งอยู่ใกล้กับหน้าต่าง
 
เฉินเฉินและจางจีนั่งที่โต๊ะนึง ส่วนคนดูแลม้าและคนคุ้มกันนั่งอีกโต๊ะนึง
 
ในตอนที่พวกเขานั่งลง พนักงานบริการก็หยิบเมนูออกมาแล้วพูด “ท่านอยากจะสั่งอะไรดีครับ? ชุดอาหารที่แพงที่สุดที่โรงเตี๊ยมของเรามีนั้นเสนอราคาอยู่ที่สองพันตำลึงเงิน ประกอบไปด้วยสามสิบเมนูอาหารซึ่งทำมาจากวัตถุดิบชั้นยอดครับ….”
 
เฉินเฉินแทบจะไม่ได้ตอบสนองอะไรกับราคาสองพันตำลึงเลย อย่างไรก็ตาม คนคุ้มกันและคนดูแลม้าเริ่มตัวสั่น เสียงรบกวนที่เกิดจากโต๊ะที่สั่นนั้นได้ยินไปทั่วทั้งโถง
 
เงินสองพันตำลึงเงินต่อหนึ่งชุดอาหารมันมากแค่ไหนหน่ะหรอ? ตระกูลจาง หนึ่งในสามตระกูลที่ใหญ่ที่สุดของมณฑลเสฉวน สามารถซื้อชุดอาหารพวกนี้ได้อย่างมากที่สุดก็ยี่สิบชุด แล้วตลอดทั้งชีวิตของพวกเขาพวกเขาจะเคยเห็นฉากแบบนี้ไหมหล่ะ? แน่นอนว่าไม่อยู่แล้ว
 
พนักงานบริการรู้สึกสับสนอย่างเต็มที่กับการตอบสนองนี้
 
ณ จุดนี้ เฉินเฉินได้พูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน “ไม่จำเป็นต้องโมโหไปหรอก พวกเราออกจากบ้านมาก็ต้องรู้จักยอมอะลุ่มอล่วยซะบ้าง แม้ว่าสองพันตำลึงเงินต่อหนึ่งชุดอาหารจะค่อนข้างถูก แต่พวกเราอาจจะได้เจอสิ่งที่น่าประหลาดใจเป็นพิเศษในสถานที่ห่างไกลเช่นนี้ก็ได้”
 
สีหน้าของคนคุ้มกันและคนดูแลม้าเริ่มกระตุกอย่างไม่สามารถควบคุมได้
 
ท่านเฉินเป็นคนที่คุยโวได้เก่งจริงๆ!
 
ด้วยเศษเสี้ยวของความเฉลียวฉลาด คนคุ้มกันคนนึงก็พูดออกมาในที่สุด “สำหรับพวกเราจะกินอะไรก็ได้ครับ แต่พวกเราแค่เป็นห่วงว่าท่านจะได้รับการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสม”
 
เมื่อได้ฟังเช่นนี้ เฉินเฉินก็ทำหน้าเหมือนกำลังประเมินราคา แล้วมองกลับไปที่พนักงานบริการ
 
“พวกเราจะยอมอะลุ่มอล่วย ขอเป็นชุดอาหารที่แพงที่สุดสองชุดที่เจ้ามีก็แล้วกัน”
 
“สนใจรับเครื่องดื่มเป็นอะไรดีครับ?”
 
พนักงานบริการยังคงมีสีหน้าจริงจัง สายตาของเขาเต็มไปด้วยความหวั่นเกรงในขณะที่มองเฉินเฉิน
 
คนแบบไหนกันที่เรียกชุดอาหารราคาสองพันตำลึงว่า ‘อะลุ่มอล่วย’?
 
นี่ยังไม่รวมถึงความจริงที่เขาสั่งชุดอาหารนี้ให้กับคนรับใช้ของเขาด้วย พนักงานบริการเคยเห็นคนรวยมาก่อน แต่ไม่เคยเห็นใครรวยขนาดนี้เลย
 
“เครื่องดื่มไม่ต้องหรอก ถึงยังไงก็คงจะไม่มีเครื่องดื่มดีๆอยู่แล้ว จางจีไปเอาไวน์คุณภาพดีของข้าที่อยู่ในรถม้ามาให้หน่อยสิ”
 
“เอ่อ… ครับพี่!”
 
จางจียังอยู่ในสภาพสับสน เขาตอบรับคำสั่งอย่างมึนงง แล้วลงไปจากชั้นบนสุด
 
เขารู้จัก ‘ไวน์คุณภาพดี’ ที่เฉินเฉินพูดถึง มันคือน้ำแร่ แม้ว่ามันจะเป็นแค่น้ำ แต่มันก็ทำให้สดชื่นขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ
 
ตอนนี้จางจีก็รู้สึกว่าเขาต้องการน้ำดื่มนั่นเหมือนกัน เนื่องจากการคุยโวของเฉินเฉินสร้างความตกตะลึงให้เขาจริงๆ และเขาก็ยังสับสนอยู่เลย
 
“พี่ใหญ่เป็นคนที่ยอดเยี่ยมจริงๆ! ไม่เพียงแค่จะมีระดับการฝึกตนที่สูง แต่เขายัง….”
 
“มีความสามารถในการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนที่พูดได้เลยว่าทั้งลื่นไหลและยอดเยี่ยม! เขาคือต้นแบบของคนในรุ่นของพวกเรา!”
 

 
หลังจากที่จางจีลงไปจากชั้นบนสุด เฉินเฉินก็เริ่มสังเกตดูรอบๆ
 
มีชุดอาหารจัดอยู่ในห้องโถงนี้ประมาณสิบโต๊ะ และแค่การแต่งกายเพียงอย่างเดียวก็บอกได้ถึงความแตกต่างของชนชั้นอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม เฉินเฉินรู้สึกว่าทุกคนกำลังพุ่งความสนใจไปที่ผู้หญิงคนนึงที่อยู่ทางซ้าย
 
ด้วยประสาทสัมผัสที่คมกริบของเขา เขาได้ยินทุกอย่างที่พวกเขากำลังคุยกันอยู่
 
“ท่านหญิงมู่หลง ข้าได้ยินเกียรติศัพท์ของท่านมานานแล้วตั้งแต่ตอนที่ข้ายังอยู่ในรัฐพยัคฆ์บิน และวันนี้พอได้มาเห็นท่านกับตานั้น ข้าพูดได้เลยว่าสมคำร่ำลือจริงๆ!”
 
“ท่านหญิงมู่หลง ท่านพ่อของข้าเคยได้รับเกียรติทำงานร่วมกับท่านพ่อของท่าน ข้าอยากรู้ยิ่งนักว่าข้าจะได้รับสิทธิ์ในการเดินทางร่วมกับท่านหญิงรึเปล่า?”
 
“ท่านหญิงมู่หลงได้รับการคัดเลือกจากสำนักเทียนหยุนตั้งแต่เนิ่นๆ เธอจะต้องเป็นผู้อาวุโสของพวกเราในอนาคตแน่ๆ! ข้าขอชนแก้วให้แก่ว่าที่ผู้อาวุโสของพวกเรา!”
 

 
ครู่ต่อมา เฉินเฉินก็เข้าใจสถานการณ์ในที่สุด
 
ผู้หญิงที่ถูกทุกคนรายล้อมอยู่นี้ดูเหมือนจะได้รับเลือกจากสำนักเทียนหยุนตั้งแต่เนิ่นๆ เหมือนกับจางจี อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงคนนี้ดูแข็งแกร่งกว่าจางจีมาก
 
จากคำพูดของคนอื่นๆ ผู้หญิงคนนี้สามารถเข้าสำนักเทียนหยุนได้โดยตรงโดยไม่ต้องมาทดสอบที่รัฐจี่ก็ได้
 
อย่างไรก็ตาม เธอปฏิเสธเนื่องจากปัญหาบางอย่างในครอบครัว และเดินทางตัวคนเดียวมาเข้ารับการทดสอบของสำนักเทียนหยุนที่รัฐจี่แทน
 
ที่สำคัญกว่านั้น ผู้หญิงคนนี้ยังมีพื้นเพที่ไม่ธรรมดา—ลูกสาวคนเดียวของเจ้าเมืองใหญ่แห่งนึง—และยังมีเซียนคอยคุ้มกันเธอไปจนถึงจี๋โจวด้วย
 
เมื่อนำเรื่องทั้งหมดนี้มาประติดประต่อเข้าด้วยกันก็ทำให้เข้าใจว่าพวกคุณหนูกลุ่มนี้คงจะพยายามประจบเธอ เพื่อความสะดวกในตอนที่อยู่สำนักเทียนหยุนในอนาคต หรือไม่ก็เพื่อให้ได้รวมกลุ่มไปที่รัฐจี่
 
อย่างไรก็ตาม ท่านหญิงมู่หลงคนนี้ดูจะไม่สนใจคนพวกนี้เลย เธอยังคงนั่งนิ่ง และตอบโต้กลับไปอย่างขอไปที
 
“เอาแบบนี้เป็นไง? ข้าจะสอนวิชาลับในการทำให้ผู้หญิงคนนั้นตกหลุมรักเจ้า และเจ้าก็ปล่อยข้าไปเป็นการแลกเปลี่ยน”
 
หูเซียงเอ๋อ อสูรจิ้งจอกเสนอกับเฉินเฉินด้วยเสียงที่แทบจะไม่ได้ยินเนื่องจากถูกรัดตรงช่วงคอเอาไว้แน่นจากการกอด
 
“เจ้าคิดว่าข้าเป็นใครกัน!? ถ้าเจ้ายังพูดอะไรออกมาอีก คืนนี้เจ้าจะได้ที่รักสิบตัวแน่!”
 
สีหน้าของเฉินเฉินดูนิ่งเฉยในขณะที่เขาตำหนิอย่างเงียบๆ
 
เจ้าอสูรกำลังล้อเล่นอะไรอยู่? ถ้าเฉินเฉินสนใจในตัวผู้หญิง เขาจำเป็นต้องใช้ ‘วิชาลับ’ ด้วยหรอ?
 
เจ้าอสูรนี่กำลังสบประมาทเขาอยู่!
 
“ระบบ ใครคือคนที่หล่อที่สุดในรัศมียี่สิบเมตรกัน?”
 
“แปดเมตรตรงหน้าท่าน…”
 
“พอได้แล้ว เงียบไปเลย ข้าถามผิดเองหล่ะ” เฉินเฉินพูดขัด ในขณะที่จ้องไปยังลูกคุณหนูหน้าตาดีที่อยู่ไม่ไกลนัก
 
หล่อแล้วยังไงหล่ะ? จุดสำคัญคือเสน่ห์ต่างหาก!
 
“ที่รักอะไรกัน?” อสูรจิ้งจอกรู้สึกสงสัยอย่างเต็มที่ ดังนั้นมันจึงถามออกมา
 
“หมาที่อยู่ในช่วงตกมันอย่างเต็มที่ หมาที่ยอมผสมพันธุ์แม้กระทั่งกับท่อนไม้”
 
อสูรจิ้งจอกเงียบไปในทันทีที่ได้ฟังคำตอบของเฉินเฉิน
 
ทันใดนั้นเอง เฉินเฉินก็เริ่มส่งเสียงฮึดฮัด แล้วมองกลุ่มชายหญิงที่แต่งตัวดูดี แล้วถอนหายใจเงียบๆ
 
มีสมบัติมากมายฝังอยู่ในโลกใบนี้โดยไม่มีใครพบเจอ ซึ่งสาเหตุหลักๆก็คงเพราะขาดความสามารถในการแยกแยะพวกมัน
 
เหมือนกับเขา ว่าที่ผู้อาวุโสผู้ยิ่งใหญ่ของทุกคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการเข้าสำนักเทียนหยุนครบทุกข้อ กำลังถูกเมินเฉยอยู่ที่มุมห้องโถง ณ ตอนนี้
 
ใครสามารถอธิบายได้บ้าง?
 
 

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

Type: Author:
โดย เรื่อง ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything “นักเดินทาง ระบบของท่านได้มาถึงแล้ว ยินดีด้วยสำหรับการได้รับระบบการตรวจสอบที่ทรงอำนาจ!” เฉินเฉินที่กำลังนั่งเบื่อหน่ายอยู่ตรงทางเข้าของหมู่บ้านหิน เพียงแค่เขากำลังรู้สึกหดหู่ เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา เมื่อได้ยินเสียงนี้ เฉินเฉินรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาก เขากระโดดขึ้นจากก้อนหินที่อยู่เบื้องหน้าหมู่บ้านทันที “ระบบ? พึ่งจะเพิ่มเข้ามาช้าขนาดนี้เนี่ยนะ?” “ระบบตรวจสอบในปัจจุบันคือระดับหนึ่งค่ะ เจ้าของสามารถที่จะตรวจจับทุกสิ่งทุกอย่างได้ในระยะสิบเมตร!” เมื่อเสียงในหัวของเขาดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉินเฉินรู้สึกตื้นตันจนร้องไห้ออกมาได้เลย ด้วยเหตุนี้นี่เอง ประวัติศาสตร์ที่เขาเรียนรู้มาตอนมหาลัยมันไร้ประโยชน์และเขายังไม่สามารถกลายเป็นคนดังโดยการเขียนบทกลอนได้อีก เขาไม่ได้เก่งวิชาฟิสิกส์และเคมีสักเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะคิดค้นหรือประดิษฐ์เทคโนโลยีได้ มีสิ่งเดียวที่เขาทำแล้วมันเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับคนอื่น อย่างเอ้อหยาที่อยู่ใกล้บ้านเขา นั่นคือการที่เขาทำสมุดบัญชีขึ้นมา แต่ไม่คาดคิดเลย วันนี้….ระบบมันก็ได้มาถึงแล้ว! เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องตรวจสอบหรืออะไรสักอย่าง ตราบเท่าที่มันเป็นระบบ มันก็คงเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน เขาไม่ได้ทำอะไรมากว่าสิบปี แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่ามันจะเป็นระบบอะไร ขอแค่มันเป็นระบบก็พอ! การเป็นคนมันจะต้องเป็นคนกตัญญู ยังไงมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่มีระบบ! ‘อะไรก็ตามในระยะสิบเมตร….มันมีข้อจำกัดจำนวนในการใช้ไหม?’ เฉินเฉินถามขึ้นในหัวตัวเอง “มันไม่มีข้อจำกัดในการใช้ค่ะ ระบบจะแจ้งภารกิจลับให้กับเจ้าของ เพื่อการอัพเกรดความสำเร็จลับ รวมทั้งยังให้รางวัลกับเจ้าของเป็นครั้งคราวด้วยค่ะ ดังนั้นได้โปรดขยันขันแข็งด้วยค่ะ!” หลังจากนั้นเสียงได้จางหายไปจากในหัวของเขา เฉินเฉินนั่งคิดอยู่เป็นเวลานาน เขามองออกไปยังทางเข้าหมู่บ้านที่โดดเดี่ยวนั่น แล้วรู้สึกสิ้นหวังเล็กน้อย ชาวบ้านทั้งหมดของหมู่บ้านหินต่างเป็นชาวนากันทั้งหมด ทุกคนต่างยากจน ดังนั้นเขาจะตรวจสอบอะไรได้กัน? ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหมือนจะมีเพชรนิลจิลดาที่มีราคาอยู่ แต่เขาจะต้องไปขโมยมัน หลังจากที่เขาตรวจพบงั้นเหรอ? เขาคงจะโดนกระทืบจนตาย ถ้าเขาทำมันอย่างแน่นอน แต่เขาไม่ได้รีบร้อนอะไร ตั้งแต่ที่มันเป็นระบบ มันก็มีความหมายในตัวของมันเอง เขาจะพัฒนาตัวเองอย่างเชื่องช้า เป้าหมายหลักของเขาในตอนนี้คือการกลับไปยังบ้านก่อน ดังนั้นเขาจะได้ไปลองใช้ระบบได้อย่างสบายใจ เมื่อเขาตัดสินใจได้แล้ว เฉินเฉินเดินกลับบ้าน ครอบครัวของเขาเป็นคนธรรมดาทั่วไปในหมู่บ้านหินและครอบครัวของเขาต่างเป็นชาวนากัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้จน ครอบครัวของเขาก็อบอุ่นมากและเป็นครอบครัวที่มีความสุข เมื่อเขากลับมายังบ้าน พ่อแม่ของเขายังคงทำไร่นาอยู่ด้านนอกและยังไม่ได้กลับบ้าน เขาพูดขึ้นมาในหัวตัวเอง ‘ตรวจเงินในบ้านสิ’ “อยู่ในลิ้นชักที่ห่างออกไป 3 เมตรค่ะ ภายในลิ้นชักมีเงินจำนวน 120 ตำลึงทองแดง” นี่คือสถานที่ที่ครอบครัวของเขาเก็บเงินไว้ เฉินเฉินรู้มันดี เพราะว่าพ่อแม่ของเขาไม่ได้ปิดบังอะไรกับเขาไว้ “ใต้เตียงที่อยู่ห่างออกไป 4 เมตร ยังมีอีกสี่สิบตำลึงทองแดงค่ะ” อะไรนะ?! เฉินเฉินไม่รู้เกี่ยวกับเงินนี้เลยสักนิด มันเป็นห้องนอนของพ่อแม่เขา ซึ่งอยู่ห่างออกไปสี่เมตร มันอาจจะเป็นเงินเก็บของพ่อของเขา เฉินเฉินคิดและสรุปได้ว่ามันน่าจะเป็นไปได้ ดังนั้นเขาจึงเดินไปที่ห้องด้านข้างและก้มมองลงใต้เตียง หลังจากคว้านดูสักพักหนึ่ง เขาพบกับกระเป๋าหนังเล็กที่มีเงินอยู่สี่สิบตำลึง ‘มีเงินอยู่ด้านในจริงด้วย’ เฉินเฉินคิดกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็เก็บกระเป๋าหนังกลับไปยังที่เดิม ระบบยังคงพูดอย่างต่อเนื่องขึ้นมาในหัวของเขา “ก้าวไปด้านหน้าห้าก้าวและขุดลงไปใต้ดินสิบเมตร มันมีเหรียญทองแดงขึ้นสนิมอยู่” เมื่อได้ยินการแจ้งเตือน เฉินเฉินรีบหยิบพลั่วมาขุดอย่างกระตือรือร้น มันไม่ได้ใช้เวลานานสักเท่าไหร่สำหรับการหาเหรียญทองแดงขึ้นสนิม หลังจากครุ่นคิดมาเป็นเวลานาน เขาจำได้ลางๆว่าเขาเคยทำเงินหายตอนยังเด็ก มันเป็นเงินที่เขาได้มาตอนปีใหม่ และเขาอารมณ์เสียที่เงินหายเป็นเวลานานเลย ‘ตั้งแต่ที่ฉันมีระบบนี่แล้ว บางทีฉันอาจจะไปยังมณฑลใกล้ๆ เพื่อไปเก็บเงินจากพื้นมาอาศัยอยู่ต่อ…’ เฉินเฉินอดที่จะคิดออกมาไม่ได้ แต่เขาแทบจะตบหน้าตัวเองทันที หลังจากที่มีความคิดแบบนี้โผล่ขึ้นมา เมื่อเป็นนักเดินทางย้อนเวลาที่มีระบบแบบนี้แล้วแท้ๆ ทำไมความคิดของเขาถึงน่าสมเพศขนาดนี้กัน? นี่มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากสำหรับนักเดินทางที่ย้อนเวลากลับมาแบบนี้! ในเวลาเดียวกัน เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา “รางวัลความสำเร็จ – เสร็จสมบูรณ์ : ใช้ระบบเป็นครั้งแรก รางวัลที่ได้รับ : โอกาสในการตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่างภายในมณฑลเสฉวนหนึ่งครั้งค่ะ” เมื่อเขาได้ยิน เฉินเฉินอดที่จะคิดเรื่องเดินไปหาเงินต่ออีกครั้งไม่ได้ ทั่วทั้งมณฑลเสฉวนคงจะมีเงินจำนวนมากอย่างแน่นอน… “เฮ้อออ! ทำไมฉันถึงเอาแต่อยากจะไปเก็บเงินกัน? ฉันมาที่โลกเซียนแห่งนี้ แน่นอนละว่าฉันมาเพื่อที่จะบ่มเพาะตนกลายเป็นเซียน!” เฉินเฉินตัดสินใจได้และไม่ได้ใช้รางวัลนี้ในทันที ใครจะไปรู้กันว่าเขาจะได้โอกาสตรวจสอบพื้นที่ขนาดกว้างแบบนี้อีกครั้งกัน? มันเป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยม เขาไม่ต้องการที่จะเสียมันไปอย่างเปล่าประโยชน์ เขาจะรอจนกระทั่งเขาคุ้นเคยกับระบบ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้มัน Traveling through the Xianxia world, Chen Chen got the strongest tracking system and was able to track everything ever since. Chen Chen, “System, I am short of money.” “Two meters away, your father has hidden some money under the bed. Five meters away, there is a rusty copper coin buried half a meter underground.” “There is a piece of silver in the grass ahead.” Chen Chen, “System, I need some luck.” “The sh*t in front of the pigsty is actually not ordinary.” “Go to Black Peak cliff twenty miles away to jump off the cliff.” “Somewhere hidden there is a fairy cave mansion. Please explore by yourself.”

Options

not work with dark mode
Reset