ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything – ตอนที่ 7: ซุปปลาคาร์ฟ เสิร์ฟพร้อมเห็ดพิษ พืชทะเล และก้อนหิน

 
ที่ประตูหมู่บ้าน เฉินเฉินขุดเห็ดที่แผ่นจารึกหินออกมา
 
เห็ดนี้เป็นสีเขียวและเห็นชัดๆว่ามีพิษ แต่ด้วยความเชื่อใจในระบบ เฉินเฉินก็เก็บเห็ดเข้าไปในกระเป๋าของเขา
 
จากนั้นเขาก็ไปที่ทุ่งเพื่อเก็บพืชน้ำสีแดง
 
หลังจากเก็บทั้งสองสิ่งนี้ เฉินเฉินก็ไม่สนใจโอกาสอื่นๆที่อยู่ใกล้ตัวเขาแล้วมุ่งหน้าตรงไปที่แม่น้ำซึ่งอยู่ห่างออกไปสามกิโลเมตร
 
คนเราไม่ควรจะโลภมากเกินไปไม่อย่างนั้นอาจจะชวดรางวัลใหญ่ได้
 
โอกาสที่สำคัญที่สุดก็คือการกระโดดหน้าผาที่ผาลมทมิฬ (หน้าผาเฮยเฟิง) อย่างไรก็ตาม ด้วยระยะทางถึง 15 กิโลเมตร เวลาจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก หากไม่ได้ไปในทิศทางที่ถูกต้อง เขาคงจะจับปลาคาร์ฟไม่ได้ด้วยซ้ำ
 

 
สามกิโลเมตรไม่ได้หนักหนาเลยสำหรับเฉินเฉิน ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านและวิ่งเล่นอยู่เป็นประจำโดยไม่ต้องมีเหตุผลเฉพาะ ในเวลาประมาณ 20 นาที เขาก็มาถึงอ่าว
 
เมื่อคำนวณเวลาดูแล้วก็พบว่าปลาคาร์ฟจะมาในอีกประมาณเจ็ดนาที เฉินเฉินนั่งรอบนหินก้อนใหญ่ที่ริมฝั่งแม่น้ำ แล้วพักผ่อนอย่างเงียบๆ
 
“ระบบ ตอนนี้กี่โมงแล้วช่วยระบุเวลาที่แน่นอนมาให้หน่อยได้ไหม? ข้าไม่มีนาฬิกาอยู่กับตัว และไม่รู้ด้วยว่าเธอใช้เส้นแบ่งเวลาไหน”
 
“เที่ยงคืนสามสิบห้านาทีค่ะ”
 
เฉินเฉินรู้สึกโล่งอกมากในตอนที่ได้ฟังคำตอบจากระบบ
 
แต่ในตอนนั้นเอง พอมองไปที่กระแสน้ำเขาก็เริ่มขมวดคิ้ว
 
ตอนนี้มันเป็นเวลากลางคืน มันมืดมากจนไม่มีแสงให้เห็นเลย
 
ในสภาพการณ์แบบนี้ ปลาคาร์ฟสิบตัวเขายังไม่กล้ารับรองเลยว่าจะหาเจอ ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงปลาคาร์ฟแค่ตัวเดียว!
 
ยอมถอดใจจากโอกาสนี้แล้วตรงไปที่หน้าผาลมทมิฬเลยจะดีกว่ารึเปล่านะ?
 
อย่าลืมว่าหน้าผาลมทมิฬนั้นอยู่ห่างออกไปตั้ง 10 กิโลเมตร!
 
ถ้าเขาพลาดช่วงเวลานั้น เขาได้กระโดดลงไปตายแน่
 
หลังจากพิจารณาอยู่ซักพัก เฉินเฉินก็เริ่มเดินลุยเข้าไปในอ่าว ในเมื่อตอนนี้เข้ามาอยู่ในอ่าวแล้ว อย่างน้อยเขาก็สามารถข้ามอ่าวได้ค่อนข้างเร็ว ต่อให้เขาจะจับปลาคาร์ฟไม่ได้ก็ตาม
 
“ตอนนี้กี่โมงแล้ว?”
 
“เที่ยงคืนสามสิบเจ็ดนาทีค่ะ”
 
พอได้ฟังเช่นนี้ เฉินเฉินก็ช้าลง
 
สองนาทีต่อมา เมื่อเวลาใกล้ถึงเที่ยงคืนสี่สิบนาที เฉินเฉินก็มองไปทางต้นน้ำ
 
เขาตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น
 
ภายใต้ความมืดมิดข้างในแม่น้ำ มีปลาคาร์ฟกำลังว่ายอยู่ในอ่าว ร่างกายของมันเปล่งแสงออกมาเหมือนไฟประภาคาร ไม่ว่าใครก็ตามที่ยังมีดวงตาปกติดีก็คงจะมองเห็นถึงความพิเศษของมัน
 
‘ฉันโง่เองแหล่ะ ปลาคาร์ฟที่พิเศษขนาดนี้จะไปเหมือนกับปลาคาร์ฟทั่วๆไปได้ยังไงหล่ะ’ เฉินเฉินคิดในขณะที่เขารีบเข้าไปขวางเส้นทางของปลาคาร์ฟ
 
ในขณะที่ปลาคาร์ฟตัวนั้นกำลังว่ายมาหาเขา เขาก็พยายามจับมันโดยใช้แค่มือเปล่า ซึ่งเขาก็ต้องประหลาดใจอย่างมาก เพราะจู่ๆปลาตัวนั้นก็กระโดดขึ้นมา มันกระโดดขึ้นไปสูงเหนืออ่าวอยู่หลายฟุต
 

 
จากนั้นมันก็เข้าไปในหม้อของเฉินเฉินในทันที
 
“อะไรเนี่ย?”
 
ในขณะที่เขามองปลาคาร์ฟที่อยู่ข้างในหม้อ เฉินเฉินก็ถึงกับพูดไม่ออกและประเมินสถานการณ์ไม่ถูก
 
เขาเคยได้ยินเรื่องปลาที่ยอมจำนนกับชีวิตแล้วเข้าไปติดในใยแมงมุม แต่กับหม้อนี่ไม่เคยนะ
 
ในขณะเดียวกันนั้นเอง แสงที่เหมือนกับประภาคารบนตัวปลาคาร์ฟก็หายไปหลังจากที่มันลงมาในหม้อ ผ่านแสงจันทร์ที่ส่องลงมาในตอนนี้ เฉินเฉินก็สังเกตเห็นหนวดสองเส้นที่ค่อนข้างแปลกของปลาคาร์ฟ หนวดพวกนี้ทำให้มันดูค่อนข้างน่ากลัว
 
“มันมีสำนวนว่า ‘ปลาหลีฮื้อ(ปลาคาร์ฟ)กระโดดผ่านประตูมังกร’ อยู่ใช่ไหม? เสียใจด้วยนะพวก ข้าเป็นประตูมังกรของเจ้ายังไงหล่ะ และเจ้าก็ข้ามผ่านข้าไปไม่ได้”
 
หลังจากคิดปลอบใจตัวเอง เฉินเฉินก็ห่อปลาคาร์ฟให้เรียบร้อย จากนั้นเขาก็วิ่งข้ามอ่าวไปและรีบไปที่หน้าผาลมทมิฬ
 

 
ก่อนที่เขาจะรู้สึกตัว เฉินเฉินก็วิ่งไปได้หลายกิโลเมตรแล้ว
 
แม้ว่าในชีวิตนี้เขาจะหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ แต่เขาก็เริ่มเหนื่อยขึ้นมาเล็กน้อย นี่ยังไม่พูดถึงความจริงที่ว่ากางเกงของเขาเปียกไปครึ่งนึงจากตอนที่เขาเดินข้ามอ่าว มันยิ่งถ่วงน้ำหนักเข้าไปอีก
 
แต่ก็นั่นแหล่ะนะ เขาไม่สามารถวิ่งเข้าไปโดยไม่ใส่กางเกงได้
 
ถ้าเกิดถูกเห็นเข้า เขาก็จะถูกจำไปตลอดว่าเคยวิ่งไปทั่วโดยไม่ใส่กางเกงในวัยหนุ่ม
 
“ระบบ แถวนี้มีอะไรที่ช่วยป้องกันฉันจากความเหนื่อยในขณะที่วิ่งไหม?”
 
“ไม่มีค่ะ”
 
เฉินเฉินไม่ได้รู้สึกผิดหวังกับคำตอบ เนื่องจากเขาสามารถตรวจจับไอเท็มได้แค่ในรัศมี 10 เมตรเท่านั้น ถ้าเกิดสามารถหาไอเท็มอะไรก็ได้ตลอดเวลามันก็คงน่าประหลาดใจแล้ว
 
ในตอนที่เขาเดินพ้นรัศมี 10 เมตร เฉินเฉินก็ถามอีกครั้ง เขาทำแบบนั้นซ้ำไปเรื่อยๆ จนเดินไปได้ไกลกว่าหนึ่งกิโลเมตร
 
ทันใดนั้นเอง ระบบก็ให้คำตอบที่ชัดเจนกับเขา
 
“ในทุ่งหญ้าห่างออกไปทางซ้ายเจ็ดเมตร มีสิ่งที่จะช่วยสงวนอาการเหนื่อยของผู้ใช้ในขณะที่วิ่ง”
 
เมื่อได้ฟังดังนี้ เฉินเฉินก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก แล้วเลี้ยวไปทางซ้ายในทันที
 
เขาตัดสินใจว่าจะกินทุกอย่างนอกจากอุจจาระถ้ามันช่วยเขาได้จริงๆ หลังจากที่วิ่งมาหลายกิโล เขาก็รู้สึกเหนื่อยพอสมควรแล้ว
 
ในขณะที่มองไปทางทุ่งหญ้า เขาก็เจอกับดวงตาสีเขียวที่ดูน่ากลัวเป็นพิเศษอยู่ในความมืดมิด
 
“กรรรร!”
 
เสียงคำรามโทนต่ำดังขึ้นในทันที และทำให้หัวใจของเฉินเฉินเย็นวาบ
 
มันคือหมาป่า! ระบบพยายามจะฆ่าเขา!
 
ก่อนที่หมาป่าจะได้กินเขา เฉินเฉินก็วิ่งออกไปแล้ว เขาวิ่งด้วยความเร็วที่สูงกว่าตอนที่เขาไปที่นั่นอีก
 
หมาป่าที่ถูกขัดจังหวะในระหว่างที่กำลังนอนฝันหวานนั้นค่อนข้างหงุดหงิดและวิ่งออกมาเหมือนกัน ไม่นานนักทั้งคนและหมาป่าก็หายเข้าไปในความมืด
 

 
หนึ่งชั่วโมงให้หลัง
 
เฉินเฉินเอาตัวพิงต้นไม้ที่อยู่ก่อนถึงหน้าผาลมทมิฬ ในขณะที่ส่งเสียงหอบ
 
การถูกหมาป่าไล่นั้นทำให้เขารู้สึกกลัวจนลืมเหนื่อยจริงๆ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่หยุดวิ่งเขาก็รู้สึกเหนื่อยจนแทบทรุด
 
“ระบบ ช่วยอย่าเอาเรื่องแบบนี้มาล้อเล่นกับข้าอีกนะ หัวใจที่อ่อนแอของข้ารับไม่ไหว”
 
“ระบบตรวจสอบมีความแม่นยำสูง ตราบใดที่ผู้ใช้เลือกคำสั่งได้เหมาะสม ก็จะไม่มีสถานการณ์ที่น่าอึดอัดเช่นนี้เกิดขึ้น”
 
การโต้เถียงของระบบทำให้เฉินเฉินถึงกับพูดไม่ออก
 
ในขณะที่รู้สึกลำบากใจกับการถูกหมาป่าไล่ เฉินเฉินก็มาถึงหน้าผาลมทมิฬก่อนถึงเวลากระโดดประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง
 
ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน พื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยสายลมหนาว ซึ่งพลอยทำให้หัวใจของเฉินเฉินหนาวสั่นไปด้วย
 
หน้าผาลมทมิฬมีความลึกกว่าหนึ่งกิโลเมตร นี่เขาพร้อมกระโดดแล้วจริงๆหรอ?
 
ถ้าเกิดเขาตายหล่ะ? ระบบจริงจังกับโอกาสนี้ใช่ไหม?
 
ด้วยการปัดเป่าคำถามทั้งหมดนี้ออกจากหัวไป เขาก็ทำได้แค่ถอนหายใจออกมา
 
“ช่างมันก่อนเถอะ เอาเป็นว่ามากินอาหารมื้อนี้ก่อนละกัน อย่างน้อยข้าก็จะได้กลายเป็นผีที่ดูสุขภาพดี”
 
เฉินเฉินลุกขึ้นแล้วเดินไปที่บ่อน้ำที่อยู่ใกล้กับหน้าผาลมทมิฬเพื่อทำความสะอาดปลาคาร์ฟและล้างพืชน้ำสีแดงพร้อมกับเห็ดสีเขียว
 
นอกจากของสองอย่างนี้ เขายังได้เพิ่มหินขนาดเท่านิ้วโป้งเข้าไปด้วย จากที่ระบบบอก หินนี้สามารถช่วยบรรเทาความเหนื่อยได้ถ้าบริโภคมัน
 
ในเวลาแค่ไม่กี่นาที เฉินเฉินก็กลับมาที่หลังต้นไม้ เขาจุดไฟแล้วเริ่มทำอาหารเมนูปลา
 
หรืออธิบายให้ชัดเจนกว่านี้ก็คือซุปที่ผสมเห็ดพิษ พืชทะเล ปลาคาร์ฟ และหินเข้าด้วยกัน
 
ณ จุดๆนี้ มารยาทผู้ดีไม่ใช่ปัญหาแล้ว ถึงยังไงหม้อนี้ก็เต็มไปด้วยของที่มีประโยชน์กับเขา
 
ด้วยเวลาประมาณเกือบสิบห้านาที ซุปก็เดือดในที่สุด โดยไม่ได้ตรวจสอบซุปซักเท่าไหร่ เฉินเฉินก็จิบคำแรกเข้าไปอย่างไม่มั่นใจนัก
 
ทันใดนั้นเองความร้อนก็แล่นไปทั่วทั้งร่างของเขา ความเหนื่อยหายไปแล้ว!
 
“รสชาติมันไม่ได้ดีเลิศอะไร แต่มันเป็นของดีจริงๆ!”
 
ดวงตาของเฉินเฉินเป็นประกายในทันที เขาเป่าไล่ความร้อนออกแล้วซดซุปเข้าไปต่อ
 
ลมที่หน้าผาลมทมิฬมีแต่จะเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ แต่เฉินเฉินกำลังมีช่วงเวลาดีๆในการจิบซุปอยู่
 
และในระหว่างนั้นเอง จู่ๆก็มีเสียงต่อสู้ดังมาจากความมืดที่ห่างไกล และทำลายความเงียบสงัดยามค่ำคืน
 

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

Type: Author:
โดย เรื่อง ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything “นักเดินทาง ระบบของท่านได้มาถึงแล้ว ยินดีด้วยสำหรับการได้รับระบบการตรวจสอบที่ทรงอำนาจ!” เฉินเฉินที่กำลังนั่งเบื่อหน่ายอยู่ตรงทางเข้าของหมู่บ้านหิน เพียงแค่เขากำลังรู้สึกหดหู่ เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา เมื่อได้ยินเสียงนี้ เฉินเฉินรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาก เขากระโดดขึ้นจากก้อนหินที่อยู่เบื้องหน้าหมู่บ้านทันที “ระบบ? พึ่งจะเพิ่มเข้ามาช้าขนาดนี้เนี่ยนะ?” “ระบบตรวจสอบในปัจจุบันคือระดับหนึ่งค่ะ เจ้าของสามารถที่จะตรวจจับทุกสิ่งทุกอย่างได้ในระยะสิบเมตร!” เมื่อเสียงในหัวของเขาดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉินเฉินรู้สึกตื้นตันจนร้องไห้ออกมาได้เลย ด้วยเหตุนี้นี่เอง ประวัติศาสตร์ที่เขาเรียนรู้มาตอนมหาลัยมันไร้ประโยชน์และเขายังไม่สามารถกลายเป็นคนดังโดยการเขียนบทกลอนได้อีก เขาไม่ได้เก่งวิชาฟิสิกส์และเคมีสักเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะคิดค้นหรือประดิษฐ์เทคโนโลยีได้ มีสิ่งเดียวที่เขาทำแล้วมันเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับคนอื่น อย่างเอ้อหยาที่อยู่ใกล้บ้านเขา นั่นคือการที่เขาทำสมุดบัญชีขึ้นมา แต่ไม่คาดคิดเลย วันนี้….ระบบมันก็ได้มาถึงแล้ว! เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องตรวจสอบหรืออะไรสักอย่าง ตราบเท่าที่มันเป็นระบบ มันก็คงเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน เขาไม่ได้ทำอะไรมากว่าสิบปี แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่ามันจะเป็นระบบอะไร ขอแค่มันเป็นระบบก็พอ! การเป็นคนมันจะต้องเป็นคนกตัญญู ยังไงมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่มีระบบ! ‘อะไรก็ตามในระยะสิบเมตร….มันมีข้อจำกัดจำนวนในการใช้ไหม?’ เฉินเฉินถามขึ้นในหัวตัวเอง “มันไม่มีข้อจำกัดในการใช้ค่ะ ระบบจะแจ้งภารกิจลับให้กับเจ้าของ เพื่อการอัพเกรดความสำเร็จลับ รวมทั้งยังให้รางวัลกับเจ้าของเป็นครั้งคราวด้วยค่ะ ดังนั้นได้โปรดขยันขันแข็งด้วยค่ะ!” หลังจากนั้นเสียงได้จางหายไปจากในหัวของเขา เฉินเฉินนั่งคิดอยู่เป็นเวลานาน เขามองออกไปยังทางเข้าหมู่บ้านที่โดดเดี่ยวนั่น แล้วรู้สึกสิ้นหวังเล็กน้อย ชาวบ้านทั้งหมดของหมู่บ้านหินต่างเป็นชาวนากันทั้งหมด ทุกคนต่างยากจน ดังนั้นเขาจะตรวจสอบอะไรได้กัน? ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหมือนจะมีเพชรนิลจิลดาที่มีราคาอยู่ แต่เขาจะต้องไปขโมยมัน หลังจากที่เขาตรวจพบงั้นเหรอ? เขาคงจะโดนกระทืบจนตาย ถ้าเขาทำมันอย่างแน่นอน แต่เขาไม่ได้รีบร้อนอะไร ตั้งแต่ที่มันเป็นระบบ มันก็มีความหมายในตัวของมันเอง เขาจะพัฒนาตัวเองอย่างเชื่องช้า เป้าหมายหลักของเขาในตอนนี้คือการกลับไปยังบ้านก่อน ดังนั้นเขาจะได้ไปลองใช้ระบบได้อย่างสบายใจ เมื่อเขาตัดสินใจได้แล้ว เฉินเฉินเดินกลับบ้าน ครอบครัวของเขาเป็นคนธรรมดาทั่วไปในหมู่บ้านหินและครอบครัวของเขาต่างเป็นชาวนากัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้จน ครอบครัวของเขาก็อบอุ่นมากและเป็นครอบครัวที่มีความสุข เมื่อเขากลับมายังบ้าน พ่อแม่ของเขายังคงทำไร่นาอยู่ด้านนอกและยังไม่ได้กลับบ้าน เขาพูดขึ้นมาในหัวตัวเอง ‘ตรวจเงินในบ้านสิ’ “อยู่ในลิ้นชักที่ห่างออกไป 3 เมตรค่ะ ภายในลิ้นชักมีเงินจำนวน 120 ตำลึงทองแดง” นี่คือสถานที่ที่ครอบครัวของเขาเก็บเงินไว้ เฉินเฉินรู้มันดี เพราะว่าพ่อแม่ของเขาไม่ได้ปิดบังอะไรกับเขาไว้ “ใต้เตียงที่อยู่ห่างออกไป 4 เมตร ยังมีอีกสี่สิบตำลึงทองแดงค่ะ” อะไรนะ?! เฉินเฉินไม่รู้เกี่ยวกับเงินนี้เลยสักนิด มันเป็นห้องนอนของพ่อแม่เขา ซึ่งอยู่ห่างออกไปสี่เมตร มันอาจจะเป็นเงินเก็บของพ่อของเขา เฉินเฉินคิดและสรุปได้ว่ามันน่าจะเป็นไปได้ ดังนั้นเขาจึงเดินไปที่ห้องด้านข้างและก้มมองลงใต้เตียง หลังจากคว้านดูสักพักหนึ่ง เขาพบกับกระเป๋าหนังเล็กที่มีเงินอยู่สี่สิบตำลึง ‘มีเงินอยู่ด้านในจริงด้วย’ เฉินเฉินคิดกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็เก็บกระเป๋าหนังกลับไปยังที่เดิม ระบบยังคงพูดอย่างต่อเนื่องขึ้นมาในหัวของเขา “ก้าวไปด้านหน้าห้าก้าวและขุดลงไปใต้ดินสิบเมตร มันมีเหรียญทองแดงขึ้นสนิมอยู่” เมื่อได้ยินการแจ้งเตือน เฉินเฉินรีบหยิบพลั่วมาขุดอย่างกระตือรือร้น มันไม่ได้ใช้เวลานานสักเท่าไหร่สำหรับการหาเหรียญทองแดงขึ้นสนิม หลังจากครุ่นคิดมาเป็นเวลานาน เขาจำได้ลางๆว่าเขาเคยทำเงินหายตอนยังเด็ก มันเป็นเงินที่เขาได้มาตอนปีใหม่ และเขาอารมณ์เสียที่เงินหายเป็นเวลานานเลย ‘ตั้งแต่ที่ฉันมีระบบนี่แล้ว บางทีฉันอาจจะไปยังมณฑลใกล้ๆ เพื่อไปเก็บเงินจากพื้นมาอาศัยอยู่ต่อ…’ เฉินเฉินอดที่จะคิดออกมาไม่ได้ แต่เขาแทบจะตบหน้าตัวเองทันที หลังจากที่มีความคิดแบบนี้โผล่ขึ้นมา เมื่อเป็นนักเดินทางย้อนเวลาที่มีระบบแบบนี้แล้วแท้ๆ ทำไมความคิดของเขาถึงน่าสมเพศขนาดนี้กัน? นี่มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากสำหรับนักเดินทางที่ย้อนเวลากลับมาแบบนี้! ในเวลาเดียวกัน เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา “รางวัลความสำเร็จ – เสร็จสมบูรณ์ : ใช้ระบบเป็นครั้งแรก รางวัลที่ได้รับ : โอกาสในการตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่างภายในมณฑลเสฉวนหนึ่งครั้งค่ะ” เมื่อเขาได้ยิน เฉินเฉินอดที่จะคิดเรื่องเดินไปหาเงินต่ออีกครั้งไม่ได้ ทั่วทั้งมณฑลเสฉวนคงจะมีเงินจำนวนมากอย่างแน่นอน… “เฮ้อออ! ทำไมฉันถึงเอาแต่อยากจะไปเก็บเงินกัน? ฉันมาที่โลกเซียนแห่งนี้ แน่นอนละว่าฉันมาเพื่อที่จะบ่มเพาะตนกลายเป็นเซียน!” เฉินเฉินตัดสินใจได้และไม่ได้ใช้รางวัลนี้ในทันที ใครจะไปรู้กันว่าเขาจะได้โอกาสตรวจสอบพื้นที่ขนาดกว้างแบบนี้อีกครั้งกัน? มันเป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยม เขาไม่ต้องการที่จะเสียมันไปอย่างเปล่าประโยชน์ เขาจะรอจนกระทั่งเขาคุ้นเคยกับระบบ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้มัน Traveling through the Xianxia world, Chen Chen got the strongest tracking system and was able to track everything ever since. Chen Chen, “System, I am short of money.” “Two meters away, your father has hidden some money under the bed. Five meters away, there is a rusty copper coin buried half a meter underground.” “There is a piece of silver in the grass ahead.” Chen Chen, “System, I need some luck.” “The sh*t in front of the pigsty is actually not ordinary.” “Go to Black Peak cliff twenty miles away to jump off the cliff.” “Somewhere hidden there is a fairy cave mansion. Please explore by yourself.”

Options

not work with dark mode
Reset