แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี – บทที่ 207 ปีศาจตัวใหญ่มอบความอบอุ่น? / บทที่ 208 ผู้หญิงของซือเยี่ยหาน

บทที่ 207 ปีศาจตัวใหญ่มอบความอบอุ่น? / บทที่ 208 ผู้หญิงของซือเยี่ยหาน

บทที่ 207 ปีศาจตัวใหญ่มอบความอบอุ่น?

เยี่ยหวั่นหวั่นพูดไปพลางก็ยังเหลือบมองส่งสายตาบังคับให้ซือเซี่ยสวมเสื้อผ้า อีกฝากหนึ่งยังพยายามจะผลักกองจดหมายรักและขนมช็อกโกแลตที่กองอยู่ทุกหนแห่งไปฝั่งซือเซี่ยมือพัลวัน

ของพวกนี้เป็นพวกเขา เป็นของเขา! ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลยสักนิดเหอๆๆ!

ซือเซี่ยเห็นเธอผลักของมาฝั่งตัวเอง หน้าบึ้งเล็กน้อย เลิกคิ้วแล้วสุ่มหยิบจดหมายรักฉบับหนึ่งขึ้นมา ไอ้หยา บนซองจดหมายเห็นชัดว่าเป็น “ถึงสาวในฝันหวั่นหวัน ซารังเฮโย” เป็นตัวอักษรใหญ่พิมพ์หนาด้วย!

เยี่ยหวั่นหวันนิ่งอึ้ง อยากจะหยิกนายนี่ให้ตาย!

บนตัวซือเยี่ยหานยังหลงเหลือความเย็นจากด้านนอกห้องอยู่ สีหน้าที่มีเสน่ห์จนทำให้คนหลงใหลก็เคลือบไปด้วยความเย็นยะเยือก สายตาเหมือนดั่งลมหนาวเหน็บที่ตัดเสื้อผ้าชิ้นบางของเธอที่ละน้อย

เยี่ยหวั่นหวันรู้สึกว่า อวัยวะภายในเธอโดนแช่เข็งจนใกล้จะเป็นน้ำแข็งแล้ว

เวลานี้ ลมเย็นพัดมา

“ฮัดชิ้ว!”

ความหนาวเย็นทั้งทางใจและทางร่างกายทำให้เธอจามติดต่อกันสามครั้ง

ส่วนเธอรู้สึกได้ชัดเจนว่ากลิ่นอายจากตัวของซือเยี่ยหานนั้นดูเหมือนยิ่งน่ากลัวขึ้นไปอีก

ครั้งนี้แย่แล้วจริงๆ ไม่เพียงแต่ราชาหมู่มวลดอกไม้อย่างซือเซี่ย แต่ยังมีอีกเป็นสิบคนเลย!

“คือว่า… ที่… ที่รัก… เรื่องเป็นแบบนี้ค่ะ…”

ถึงแม้จะรู้ว่าอธิบายไปก็ไม่น่าจะมีประโยชน์ เยี่ยหวั่นหวันยังคิดจะลองดู

เธอบีบเค้นสมองคิดว่าจะอธิบายยังไง เวลานี้ จู่ๆ ซือเยี่ยหานก็มองไปทางสวี่อี้ข้างๆ เขา

สวี่อี้ตอบรับสายตาของเจ้านายตัวเอง รีบหยิบถุงที่เมื่อกี้ถืออยู่ในมือด้วยความเคารพนบนอบ หยิบของชิ้นสีขาวออกมาจากข้างใน

นั่นเหมือนว่าเป็น… เสื้อคลุมชุดหนึ่ง?

วินาทีต่อมา เยี่ยหวั่นหวันหนาวจนตัวสั่นไหล่ลู่อย่างไม่นึกมาก่อน

ซือเยี่ยหานเอาเสื้อคลุมนั้นสวมบนตัวเธอด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก…

เห็นเธอยืนนิ่งไม่ขยับอยู่ตรงนั้น ซือเยี่ยหานมองเธอก่อน จากนั้นขมวดคิ้วเล็กน้อย ทำเหมือนดูแลเด็กน้อย เขาช่วยเธอเอามือสวมเข้าไปด้วยตัวเอง จากนั้นนิ้วเรียวยาวก็ช่วยเธอติดกระดุมให้ทีละเม็ด

นี่เป็นเสื้อคลุมแบบนุ่มอ่อนโยน ที่ขอบล้อมไปด้วยขนปุบสีขาวอบอุ่นมาก ได้ตัดขาดจากโลกที่หนาวเหน็บอย่างสิ้นเชิงในพริบตา

เยี่ยหวั่นหวันโดนห่อไปทั้งตัว  มีแค่ใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือโผล่ออกมาอยู่ด้านนอก ภายใต้เส้นขอบของขนสีขาวนั้น ใบหน้านั้นยิ่งแลดูมีเสน่ห์ให้ชวนหลงใหลยิ่งขึ้น ส่วนดวงตาสองดวงที่เงยหน้ามามองเขานั้น ยิ่งงามเหมือนดั่งดวงดาวที่เปล่งประกายหลังหิมะตก ยิ่งทำให้รู้สึกอยากจะเอื้อมมือไปเด็ด…

ชายหนุ่มมองหญิงสาวตรงหน้า ทันใดนั้นสายตาดูมืดมิดลง เหมือนว่านัยน์ตามีคลื่นใต้น้ำที่ร้อนแรงอยู่

ยังไงเยี่ยหวั่นหวันก็คิดไม่ออก ที่รอเธออยู่ไม่ใช่ความตาย แต่เป็นชุด…เสื้อคลุมที่อบอุ่น…

รู้สึกได้ถึงสัมผัสที่อ่อนโยนและอบอุ่นเหมือนก้อนเมฆ ความหนาวเหน็บที่ลึกเข้าไปถึงกระดูกนั้นค่อยๆ จางหายออกไปจากร่างกาย มาแทนที่ด้วยกระแสความอบอุ่นแปลกๆ ไหลอยู่ในหัวใจแทน…

เสื้อคลุมที่มาโดยไม่ทันตั้งตัวนี้ ทำให้จมูกเธอแสบขึ้นมาอย่างประหลาด

ซือเยี่ยหานเขา…เอาเสื้อผ้ามาส่งให้เธอ?

เห็นเยี่ยหวั่นหวันทำหน้าไม่ถูก สีหน้าเดิมทีของซือเยี่ยหานที่ไร้ความรู้สึกกลับดูขรึมลง “เป็นอะไร?”

เสื้อผ้าที่เขาให้ทำให้เธอยากที่จะรับไว้หรือ?

เยี่ยหวั่นหวันได้สติกลับมาทันที สีหน้าผ่อนคลายแล้วเงยหน้าขึ้นพูดกับชายหนุ่มตรงหน้า “ไม่… ไม่มีอะไรค่ะ… แค่ฉันยังหนาว… มือเย็น…”

ซือเยี่ยหานได้ยิน สีหน้าดูอบอุ่นขึ้นมาหน่อย แล้วมองไปทางสวี่อี้

สวี่อี้เข้าใจทันที หยิบถุงมือคู่หนึ่งจากถุงออกมา

นี่เตรียมมาครบจริงๆ!

ส่วนเยี่ยหวั่นหวันมองถุงมือคู่นั้น หน้าบึ้งขึ้นมา

โอ๊ย เมื่อกี้เธอตั้งใจพูดแบบนั้น เพราะอยากจะอ่อยเขาหน่อย!

หรือว่าปฏิกิริยาของผู้ชายทั่วไปไม่ควรจะจูงมือเล็กของเธอไว้ แล้วใช้ร่างกายทำความอบอุ่นให้เธองั้นหรือ?

หยิบถุงมือคู่หนึ่งออกมาทำอะไร?

…………………………………………………………

บทที่ 208 ผู้หญิงของซือเยี่ยหาน

เยี่ยหวันหวั่นรับถุงมือคู่นั้นมาท่ามกลางความรู้สึกสับสนอย่างที่สุด

ไม่ดีใจ…

หลงคิดว่าจะฉวยโอกาสจับไม้จับมือให้บรรยากาศอบอุ่นขึ้น แบบนี้บางทีเขาอาจจะไม่โกรธแล้วก็ได้!

เพียงแต่ว่า ตอนนี้สถานการณ์แบบนี้ เขาโกรธหรือไม่โกรธกันแน่นะ?

ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกก็ช่างเถอะ ยังชอบทำหน้าตายอีก ทำบาปทำกรรมอะไรไว้หนอถึงได้มีแฟนแบบนี้ เดาอารมณ์ความคิดเขาไม่ออกเลยจริงๆ…

ขณะที่เยี่ยหวันหวั่นกำลังถอดถอนใจด้วยความเสียดาย ผู้คนรอบข้างจ้องมองคู่หนุ่มสาวที่หน้าตาดีเป็นเลิศตรงประตูคู่นั้น อย่างตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก

“ฉัน…ฉันเห็นอะไรเข้าเนี่ย…เยี่ยหวันหวั่น…มีแฟนแล้วจริงๆ เหรอเนี่ย…”

“อีกทั้งยังหล่อระเบิดไปเลยยยยย!”

“ที่บอกว่าดีกว่าซือเซี่ย มันไม่เกินจริงเลยสักนิด! แค่หน้าตาก็เหนือกว่าแล้ว!”

ได้ยินคำวิพากษ์วิจารณ์รอบข้าง เฉิงเสวี่ยนิ่งไม่ขยับ คนทั้งคนราวกับแน่นิ่งไป ใบหน้านั้นซีดขาวผิดปกติ ราวกับเห็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด

ซือ…ซือเยี่ยหาน…

หัวหน้าตระกูลซือที่เล่าลือกันว่าฆ่าคนโดยไม่กะพริบตาคนนั้น!

ต่อให้เธอจะเคยเห็นอยู่ไกลๆ เพราะเรื่องของซือเซี่ย แต่ไม่มีทางจำผิดอย่างแน่นอน

ผู้ชายคนนี้ แค่ได้เห็นเพียงครั้งเดียว ก็ไม่มีใครที่จะลืมได้

แต่ว่า จะเป็นไปได้อย่างไร!

แฟนของเยี่ยหวันหวั่นจะเป็นซือเยี่ยหานไปได้อย่างไร!

ถ้าหากเป็นแบบนี้ เยี่ยหวันหวั่นจะปล่อยซือเยี่ยหานแล้ววิ่งไปยั่วยวนซือเซี่ยได้ยังไง?

หรือว่า…หรือว่าที่ซือเซี่ยดูแลเยี่ยหวันหวั่นเป็นพิเศษแบบนี้ตลอดมา ก็เพราะเหตุผลนี้?

เพราะเยี่ยหวันหวั่นเป็นผู้หญิงของซือเยี่ยหาน!

พระเจ้า ถ้าหากซือเยี่ยหานรู้เรื่องที่ตัวเธอทำกับเยี่ยหวันหวั่นละก็…

คิดถึงตรงนี้ ใบหน้าของเฉิงเสวี่ยพลันเผยถึงความหวาดกลัวอย่างมาก

และในเวลาเดียวกันนี้เอง สมองของเธอพลันย้อนนึกถึงคำเตือนประโยคนั้นของซือเซี่ย “ไม่อยากตายก็หุบปากซะ” …

ขณะที่ทุกคนกำลังนิ่งอึ้ง ณ ที่ประตู พลันมีเสียงหนึ่งดังขึ้นด้านหลังของชายหนุ่ม

“คุณ…คุณซือ…”

เฉินเมิ่งฉีในชุดกระโปรงสีชมพูกำลังยืนอยู่ตรงนั้นทักทายซือเยี่ยหานอย่างเขินอายและกล้าๆ กลัวๆ

คนรอบข้างเห็นดังนั้นพลันเผยสายตาของพวกชอบซุบซิบนินทา เฉินเมิ่งฉีก็รู้จักคนๆ นี้ด้วยเหรอ?

รู้สึกได้ว่าเฉินเมิ่งฉีโผล่เข้ามา สายตาของซือเยี่ยหานหยุดอยูที่ตัวเธอเพียงแวบเดียว ทว่าสายตานั้นกลับว่างเปล่า เหมือนกับว่าไม่มีคนตรงหน้าอยู่

สวี่อี้มีภาพจำที่ไม่ดีกับเฉินเมิ่งฉีอยู่ก่อนแล้ว เห็นเธอโผล่เข้ามาตาใส พลันทำหน้าเย็นชาก้าวเข้าไปยืนข้างซือเยี่ยหาน ดักความคิดที่เธอจะเข้าใกล้เข้ามาอีก

เห็นว่าซือเยี่นหานเห็นตัวเองแล้วแต่กลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เฉินเมิ่งฉีรู้สึกอัปยศจนกัดริมฝีปาก แต่เมื่อคิดได้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นแบบนี้กับทุกคนอยู่แล้ว ในใจถึงได้รู้สึกดีขึ้น

เฉินเมิ่งฉีไม่อาจเข้าใกล้ซือเยี่ยหานได้ จึงเดินไปข้างกายเยี่ยหวันหวั่นด้วยท่าทางสนิทชิดเชื้อพลางเอ่ยอย่างสนิทสนม “คุณมาส่งเสื้อให้เยี่ยหวันหวั่นเหรอคะ? เสื้อตัวนี้สวยจังเลย ถุงมือก็น่ารัก ด้านบนยังมีเสือหนึ่งตัวด้วยแหนะ…”

เฉินเมิ่งฉีพูดอยู่นาน ซือเยี่ยหานย่อมไม่สนใจเธออยู่แล้ว แม้แต่เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่ขานรับคำพูดของเธอ เหมือนกับว่าเธอกำลังพูดอยู่คนเดียว

สีหน้าของเฉินเมิ่งฉีเก้อกระดากเล็กน้อย นัยน์ตาวาบด้วยความชั่วร้าย

จากนั้น สายตาของเธอปรายตาไปทางซือเซี่ยเหมือนไม่ได้ตั้งใจ แล้วพลันทำท่าราวกับนึกถึงเรื่องน่าละอายใจอะไรบางอย่างขึ้นมา พูดกับซือเยี่ยหานอย่างลุกลี้ลุกลน “คุณซือ คุณ คุณอย่าได้เข้าใจเยี่ยหวันหวั่นกับซือเซี่ยผิดเด็ดขาดนะคะ! ซือเซี่ยแค่เห็นว่าหวันหวั่นหนาวก็เลยถอดเสื้อผ้าให้เธอใส่ พวกเขาไม่มีอะไรเป็นแค่เพื่อนกันธรรมดาเท่านั้น หวันหวั่นไม่มีทางทำอะไรมั่วซั่วกับคนเละเทะข้างนอกพวกนั้นแน่นอน คุณต้องเชื่อใจเธอนะคะ…”

คำพูดนี้พูดได้ซะ…

ต่อให้ไม่มีอะไรก็จะถูกเข้าใจผิดว่ามีอะไรแล้ว

เยี่ยหวันหวั่นนึกเหยียดหยัน มองดูเฉินเมิ่งฉีที่ในที่สุดก็ทนไม่ไหวเริ่มยุแยงต่อหน้าเธออย่างเงียบๆ

คนเละเทะอย่างนั้นเหรอ?

เฮอะ เวลานี้ในชาติก่อน เฉินเมิ่งฉียังไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ของซือเยี่ยหานกับซือเซี่ยเลยนะ

……………………….

Options

not work with dark mode
Reset