ตอนที่ 74 แก้แค้นโลกมายา เจ้าของร่างคนนี้เซ็งนิดหน่อย (43)
หากบนโลกนี้มีรางวัลสาขาจอมลวงโลกแห่งปี ตันหวายก็ย่อมต้องมอบให้เริ่นตงหลิวโดยไม่ลังเลสักนิดเดียว!
ยอมให้เขาขึ้นข้างบนอะไรกัน โกหกปลิ้นปล้อนสิ้นดี! ออนท็อปก็นับว่าขึ้นข้างบน? อยากจะขำให้ฟันร่วง!
เริ่นตงหลิวลุกไปออกกำลังกายตอนเช้าแล้ว ตันหวายเบิกตาโพลงจ้องมองฝ้าเพดานห้องพลางบ่นแขวะอยู่เงียบๆ
โทรศัพท์มือถือข้างหมอนสั่นระรัวไม่หยุด ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นเหล่าผู้คนที่กำลังโพสต์แท็กหาเขาบนเวยป๋อ
สำหรับสถานะของอีกคนหนึ่งในรูปถ่าย เมื่อคืนนี้ได้กลายเป็นประเด็นถกเถียงบนเวยป๋อ ไม่ว่าจะเป็นราชาภาพยนตร์มากความสามารถ ดาราวัยรุ่นมาแรง หรือแม้กระทั่งบางคนทายว่าเป็นหนุ่มนอกวงการที่เขาเลี้ยงดูก็ทายกันมาหมดแล้ว
ตันหวายหัวเราะหึๆ เจ้าพวกมนุษย์โง่เขลา พวกนายจะไม่มีวันรับรู้ความจริงไปตลอดชีวิต
ฝืนหยัดสะโพกที่ปวดระบม ตันหวายลุกขึ้นเตรียมจะสวมเสื้อผ้า เมื่อวานนี้ออกกำลังหนักไปหน่อย ท้องของเขาจึงเริ่มจะประท้วงไม่ยอมหยุด ถึงเวลาที่ตนต้องออกไปหาอาหารบ้างแล้ว
มือถือร้องดังขึ้นมาโดยที่เขาไม่อนุญาตอีกครั้ง คราวนี้เป็นเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์
พอได้ยินเสียงเรียกเข้า ตันหวายก็ล้มเลิกความตั้งใจทิ้งตัวกลับลงไปนอน ยอมแพ้ให้กับสะโพกตัวเองอย่างสิ้นเชิง
เรื่องราวเมื่อวานนี้วุ่นวายกันไปใหญ่ ราวกับวางแผนล่วงหน้าเอาไว้แล้ว คำค้นหายอดนิยมทำอย่างไรก็ไม่ซาลงไปสักที มือถือของตันหวายแทบจะสั่นจนระเบิด เริ่นตงหลิวเกิดอาการโมโห จึงถอดซิมของตันหวายไปหักทิ้งเสียเลย
ข้างในมือถือของตันหวายมีซิมอยู่สองอัน เบอร์หนึ่งในนั้นเมมชื่อไว้แค่สองคน ซึ่งก็คือเริ่นตงหลิวกับหลิวหลิว ตอนนี้โทรศัพท์ดังขึ้น ตันหวายไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นใคร
หยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสายโดยไม่แม้แต่เหลียวมอง ตันหวายอุดหูของตนไว้ได้ทันเวลา
จริงดังคาด เสียงตวาดดังหูดับตับไหม้ทะลุเข้ามาจากปลายสาย “ข้าเผลองีบไปแค่แปบเดียว พวกเอ็งรวมหัวกันทำอะไร! หา! เปิดตัวต่อหน้าฝูงชน? แน่มากนะพ่อเจ้าประคุณ!”
ตันหวายตะลึงงัน มือที่กุมปิดหูเอาไว้ค่อยๆ คลายออกพลางตะเกียกตะกายลุกขึ้น ถามอย่างระวังว่า “คุณหมายถึงอะไร เปิดตัวอะไรกัน?”
ปลายสายนิ่งเงียบไปชั่วครู่ เอ่ยขึ้นอย่างตกใจ “นายไม่รู้เหรอ?”
“ผมควรรู้อะไรเหรอ?” จู่ๆ ตันหวายก็สังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา
“นายเช็คเวยป๋อเอาเองเถอะ” พูดจบหลิวหลิวก็วางสายไปทันที นี่เป็นครั้งแรกที่หลิวหลิวตัดสายอย่างไร้เยื่อใยขนาดนี้ เห็นชัดว่าเขาโกรธจัดจริงๆ
ตอนนี้ตันหวายไม่มีอารมณ์มามัวห่วงว่าหลิวหลิวโกรธหรือเปล่า เขาพอจะเดาออกแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ปลายนิ้วกดเปิดเวยป๋ออย่างสั่นระริก
คำค้นหายอดนิยมอันดับหนึ่งเปลี่ยนจาก ‘เยี่ยชิวชอบผู้ชาย’ กลายเป็น ‘เริ่นตงหลิวเยี่ยชิวเปิดตัว’ ไปเรียบร้อยแล้ว ตันหวายเปิดดูก็พบว่าเริ่นตงหลิวโพสต์ข้อความลงในเวยป๋อเมื่อตอนตีห้า
เริ่นตงหลิว v : ขอบคุณที่มอบความรัก จะไม่ปล่อยมือตลอดไป @นี่ผมเยี่ยเสี่ยวชิวเอง
ตันหวายไม่ได้เปิดดูคอมเมนท์ด้านล่าง แต่ก็พอจะคาดเดาได้ว่า ด้านล่างคงกลายเป็นสนามรบนองเลือดไปหมดแล้ว
ตันหวายมองตัวอักษรประโยคนั้นอยู่เนิ่นนาน ในที่สุดความว่างเปล่าบนใบหน้าก็กลับกลายเป็นรอยยิ้มที่ริมฝีปาก สว่างสดใสและอบอุ่น
ตันหวายกดตอบกลับโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
นี่คือเยี่ยเสี่ยวชิวเอง v : ขอบคุณที่ทะนุถนอม จะรักมั่นคงตลอดไป //@เริ่นตงหลิว v : ขอบคุณที่มอบความรัก จะไม่ปล่อยมือตลอดไป @นี่ผมเยี่ยเสี่ยวชิวเอง
หลิวหลิวที่อยู่อีกฟากหนึ่งเห็นตันหวายลงโพสต์ใหม่บนเวยป๋อก็แทบจะหมดแรงล้มทั้งยืน ทว่าไม่รู้ทำไม เห็นชัดๆ อยู่ว่าโกรธเคือง แต่พอมองเห็นภาพนี้ หางตาของเขากลับเปียกชื้นเล็กน้อย
ตอนที่เริ่นตงหลิวถืออาหารเช้ากลับมาก็มองเห็นตันหวายนั่งหน้านิ่งขรึมอยู่บนโซฟา คนหน้านิ่งขรึมกำลังเบิกดวงตากระต่ายคู่นั้นของเขาถลึงมอง จับจ้องเขาเขม็งอย่างดุร้าย
เริ่นตงหลิวกะพริบตาปริบ จู่ๆ ก็รู้สึกใจฝ่อนึกอยากจะก้าวถอยหลัง หรือเขาจะรู้ว่าตนซื้อแครอทเป็นอาหารเช้าอีกแล้ว?
ถูกต้อง นับตั้งแต่เริ่นตงหลิวรู้สึกว่าตันหวายเหมือนกระต่ายน้อย ก็มักจะชอบป้อนแครอทให้เป็นอาหารทุกวัน หลังจากนั้น…ตันหวายกินจนคลื่นไส้ แต่เขาก็ยังซื้ออย่างอดใจไม่ไหว จึงถูกตันหวายรังเกียจรังงอนอยู่หลายครั้ง
“เริ่นตงหลิว!” ตันหวายสังเกตเห็นคนคิดจะวิ่งหนีก็ลุกพรวดขึ้นมา ขู่คำรามว่า “คุณหน้าตาหล่อแล้ววิเศษนักเหรอ คุณมีสิทธิอะไรมาเพอร์เฟ็คขนาดนั้น!”
เริ่นตงหลิว “…” มาไม้ไหนกันเนี่ย?
ตอนที่ 75 แก้แค้นโลกมายา เจ้าของร่างคนนี้เซ็งนิดหน่อย (44)
ติดอันดับคำค้นหายอดนิยมสองวันเต็มๆ สตูดิโอแถลงข่าวทั้งวันทั้งคืน จึงค่อยควบคุมเสียงวิพากษ์วิจารณ์ให้บรรเทาเบาบางลงได้บ้าง
หลิวหลิววางสายโทรศัพท์ด้วยสีหน้าเย็นยะเยือก มองตันหวายพลางอ้าปากกล่าวเสียงเข้มว่า “แบรนด์น้ำหอมที่นายเป็นพรีเซนเตอร์ก็ขอเปลี่ยนพรีเซนเตอร์แล้ว”
ภายในเวลาไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมง เขาก็ได้รับสายโทรศัพท์แบบเดียวกันอีกหลายสาย ล้วนแต่ต้องการปลี่ยนพรีเซนเตอร์เพราะเรื่องการเปิดตัว
ตันหวายโด่งดังจากการเล่นหนังหลายเรื่อง ไม่ง่ายเลยกว่าจะผลักดันตนเองขึ้นสู่แถวหน้า ตอนนี้เรียกได้ว่าหวนกลับสู่จุดเริ่มต้นเพียงชั่วข้ามคืนจริงๆ
ตันหวายช้อนสายตามองหลิวหลิวที่ซูบเซียวลงอย่างเห็นได้ชัดเพราะความเอาแต่ใจของเขา เอ่ยขึ้นด้วยความละอายใจ “เด็กหน้าใหม่ที่เพิ่งมาคนนั้น เริ่นตงหลิวบอกว่าเป็นเมล็ดพันธุ์ดี คุณดูแลให้ดีๆ ล่ะ”
สตูดิโอมีเด็กใหม่เข้ามาคนหนึ่ง เริ่นตงหลิวมอบหมายให้หลิวหลิวรับผิดชอบ บอกว่าเห็นเขาดูแลแค่คนเดียวเกรงว่าจะสบายเกินไป
แต่หลิวหลิวเองก็พอจะคิดออก คาดว่านี่คงเป็นข้อเสนอของตันหวาย
หลิวหลิวสีหน้าเปลี่ยนทันใด เบิกตาโพลงกล่าวว่า “นายพูดแบบนี้หมายความว่าอะไร นายจะออกจากวงการหรือ?”
ตันหวายส่ายศีรษะโดยไม่ได้อธิบาย เพียงแค่ยืนยันว่าตนจะไม่ถอนตัวจากวงการ
เขามายังโลกนี้เกือบจะสองปีเข้าไปแล้ว ปณิธานของเยี่ยชิวก็ทำสำเร็จไปพอสมควร ขาดเพียงแต่เรื่องเป็นราชาภาพยนตร์เท่านั้น
พูดตามตรง เขานับว่าดำเนินชีวิตมาอย่างราบรื่นตลอดเส้นทาง ระยะเวลาที่ระบบกำหนดคือตราบเท่าที่มีชีวิต คาดว่าข้อสุดท้ายคงจะไม่บรรลุผลสำเร็จรวดเร็วขนาดนี้เช่นกัน
ถึงแม้เป้าหมายในการเป็นราชาภาพยนตร์จะยังอีกยาวไกล แต่ตันหวายกลับอยากหาลู่ทางให้หลิวหลิวเผื่อไว้ล่วงหน้า เขาเองไม่แน่ว่าจะจากไปเมื่อไหร่ หากวันนั้นมาถึงจริงๆ อย่างน้อยหลิวหลิวก็ไม่ต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่หมดเพียงชั่วข้ามคืนเพราะการจากไปของตน
ตันหวายผุดลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเหยียดตัวบิดขี้เกียจ ตบบ่าหลิวหลิวเบาๆ กล่าวว่า “เลิกจ้างก็เลิกไปสิ ผมอยากพักสักหลายวันอยู่พอดี”
หยิบเสื้อโค้ทบนโซฟาขึ้นมา ตันหวายเอามือลูบจมูก มองสีหน้าถมึงทึงของหลิวหลิวพลางกล่าวอย่างขวยเขิน “ผมกลับบ้านไปห่อเกี๋ยวก่อนนะ”
“ห่อเกี๋ยวอะไรล่ะ!” หลิวหลิวโมโห คว้ามือฉุดตันหวายกลับมาแล้วกล่าว “นายคิดว่าไม่มีงานจริงๆ น่ะหรือ? เฮอะๆ พรีเซนเตอร์ที่มาส์กหน้ายังไม่โดนถอดสักหน่อย รีบออกไปถ่ายโฆษณาเดี๋ยวนี้!”
ตันหวาย “…”
พวกเขาไม่สบายใจ เหล่าแฟนคลับคู่จิ้นในตอนนี้ไม่สบายใจยิ่งกว่า ในหมวดหัวข้อคู่จิ้นเต็มไปด้วยบรรดาแฟนคลับที่อยากกอดเต้าหู้[1]วิ่งชนกำแพงเต็มทน
อวสานคู่จิ้น มีธุระโปรดเผากระดาษเรียก : ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่น่าวาดการ์ตูนเยอะขนาดนั้นเลย ผิดที่ฉันเองแหละ
ท่านจะไฝว้ใช่ป่ะคะ : แหย่นิดแหย่หน่อยก็ไม่ได้ ขอบายล่ะ!
เยี่ยยางหลอกลวงทั้งเพ : ขำตายชัก ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว
เริ่นตงหลิวถือโทรศัพท์ดูแฟนคลับคู่จิ้นเยี่ยชิวสุยยางเลิกโหวกเหวกโวยวายกันสักที มุมปากค่อยๆ กระดกขึ้นเป็นรอยยิ้ม
อืม บนโลกนี้ไม่มีใครสู้เจ้าของตัวจริงได้หรอก
ตลอดหลายวันมานี้ตันหวายไม่ได้เปิดดูเวยป๋อ ถ่ายแบบพรีเซนเตอร์โฆษณาที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่ตัวอย่างสบายอกสบายใจ พลางเจียดเวลาว่างมาห่อเกี๊ยวให้เริ่นตงหลิวอีกครั้ง ส่วนที่ห่อเกินมาก็วางแช่ไว้ในตู้เย็นรอกินครั้งถัดไป
เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิแล้ว ท้องฟ้ามืดช้าลงทุกวัน ในขณะที่แสงจันทร์และแสงอาทิตย์พาดอยู่บนขอบฟ้าพร้อมกัน ประตูห้องคอนโดก็ถูกใครบางคนเคาะเสียงดังปึงปัง
“เยี่ยชิว! เปิดประตูหน่อยยยย~”
ตันหวายใบหูกระดิก เอาเกี๊ยวบนถาดวางใส่ในตู้เย็นอย่างไม่สะทกสะท้าน จากนั้นก็เดินทอดน่องไปที่ประตูโดยไม่รีบร้อน ปล่อยหลิวหลิวที่ร้องแรกแหกกระเชออยู่นอกประตูเข้ามา
หลิวหลิวยืนกึ่งเกาะประตูห้อง ถ่ายน้ำหนักตัวทั้งหมดของตนเอาไว้บนนั้น จึงล้มหน้าทิ่มเข้ามาในห้องตามแรงโน้มถ่วงโดยไม่ทันระวังตัว
“คุณรู้หรือเปล่าว่าผมแจ้งจับคุณฐานสร้างความรำคาญได้นะ!” ตันหวายกลอกตา เอือมระอากับผู้จัดการที่หยาบคายแถมไม่ได้เรื่องของตนเหลือเกิน
หลิวหลิวปีนลุกขึ้นมาจากพื้น คว้าตัวตันหวายมากอดหมับเข้าให้ ตื่นเต้นจนพูดอะไรไม่ออก
ตันหวาย “…ขอโทษที แต่ผมมีแฟนแล้ว!” พูดจบก็ผลักหลิวหลิวออกไปอย่างไร้เยื่อใย
หลิวหลิวไม่ถือสาคำหยอกล้อของตันหวาย เขาคว้ามือของตันหวายมาจับไว้แน่น แทบจะพูดอะไรไม่ออกด้วยความตื่นเต้น
“นาย…นายรู้หรือเปล่า…รู้หรือเปล่าว่านาย…”
ตันหวายชักมือตนเองกลับมาเป็นเชิงว่าตนไม่รู้เรื่องอะไรเลย ทั้งยังอยากจับเขาโยนออกไปด้วย
“นายรู้หรือเปล่าว่านายถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลอิ๋นเหนี่ยว!”
——
[1] ในที่นี้กล่าวถึงสาวเต้าหู้ (腐女) ซึ่งหมายถึงสาววาย