[นิยายวาย] ทะลุระบบข้ามภพมาหารัก – ตอนที่ 22 สิงร่างลูกผู้ดี แล้วปรี่เข้าประจบท่านอ๋อง (22)

 

 

 

ผู้มาเยือนหลายคนคือคนในกลุ่มของจวินเฉิง บังเอิญว่าเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของจวินเฉิงด้วยเช่นกัน  

 

 

ตันหวายครั้งหนึ่งเคยคิดว่าจวินเฉิงแอบเล่นไม่ซื่อ ไม่เช่นนั้นทำไมคนในกลุ่มที่จับได้ตัวอักษรเว่ยถึงเป็นคนของจวินเฉิงทั้งหมดเล่า  

 

 

ที่แท้ตอนที่จวินเฉิงพบม้าของเหอหรูกู้ก็เดาออกทันทีว่าพวกเขาเกิดเรื่องแล้ว เพื่อไม่เป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น ตนเองจึงรีบมาช่วยเหลือพวกเขาก่อน แล้วทำสัญลักษณ์ทิ้งไว้ตลอดทาง เพื่อให้ลูกน้องค่อยๆ เดินลัดเลาะมาทางนี้  

 

 

“ท่านอ๋อง!” ผู้ใต้บังคับบัญชาตรงเข้ามาหา ขี่อยู่บนหลังม้าโดยลากกวางป่าที่ตายสนิทตัวหนึ่งมาด้วย  

 

 

จวินเฉินพยักหน้ารับ ชี้ไปยังเหอหรูกู้ที่นอนพิงกับต้นไม้กล่าวว่า “ยกเขาให้พวกเจ้าจัดการแล้วกัน ดูแลเขาให้ดี ชิวเลี่ยวันสุดท้ายรวมพลกันที่นี่”  

 

 

จวินเฉิงกล่าวพลางก้าวขึ้นขี่ม้าอย่างรวดเร็ว ก่อนยื่นมือให้ตันหวายกล่าวว่า “ขึ้นม้า”  

 

 

“ท่านลุง?” เหอหรูกู้ตะลึงงัน  

 

 

ตันหวายสายตาจับจ้องที่มือของจวินเฉิง รู้สึกอยากหัวเราะขึ้นมา ฉากแบบนี้จู่ๆ ก็ทำให้เขาคิดว่าพวกเขาเหมือนพระเอกนางเอกในละคร เลือกที่จะหนีตามกันไปเพื่อความรักและความอิสระภายใต้การกดขี่ของสังคมศักดินา  

 

 

มือข้างนี้ ราวกับเป็นสายใยที่คอยชักจูงเขา ทำให้เขาเดินต่อไปอย่างสงบราบรื่นในโลกอันแสนประหลาดและอันตรายแห่งนี้ เขาในอดีตชอบดวงตาคู่นั้นของไป๋เยว่เป็นที่สุด คิดว่าไฝตรงกลางเปลือกตาช่างนุ่มนวลอ่อนโยนเป็นที่สุด ทว่าตอนนี้ เขาชอบมือของจวินเฉิงที่สุด เรียวยาวและเปี่ยมด้วยพละกำลัง ปกป้องเขาไว้ภายใต้ปีกนั้น  

 

 

จวินเฉิงสัมผัสกับมือของตันหวาย สีหน้าแปรเปลี่ยนเล็กน้อย ก่อนเหลือบมองเหอหรูกู้ที่พิงอยู่ข้างต้นไม้เหมือนมีอะไรบางอย่างจะพูด ส่งสายตาเป็นสัญญาณให้แล้วก็พาตันหวายจากไป  

 

 

เหอหรูกู้นิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ แล้วกล่าวกับผู้ใต้บังคับบัญชาของจวินเฉิง “ไปกันเถอะ”  

 

 

____________  

 

 

ตันหวายคิดว่าตอนนี้พวกเขาไม่เหมือนล่าสัตว์อยู่เลย กลับเหมือนเที่ยวเล่นอยู่มากกว่า จวินเฉิงพาเขาขี่ม้าอยู่กลางป่าเตร็ดเตร่ตะลอนทั้งวัน แต่กลับไม่ได้ล่าเหยื่อแม้สักตัว  

 

 

ตันหวายกำลังนั่งล้างแผลอยู่บนโขดหินริมน้ำตก ปลาลายตัวหนึ่งว่ายตามกลิ่นคาวเลือดเข้ามาชน ตันหวายหรี่ตาเพ่งมอง ก่อนจะตะครุบจับปลาขึ้นมาอย่างตาเร็วมือไว  

 

 

“จวินเฉิง! ข้าจับปลาได้แล้ว! พวกเรามีข้าวเย็นกินกันแล้วล่ะ!”  

 

 

จวินเฉิงเดินเข้ามา เห็นตันหวายกวัดแกว่งแขนไม่หยุดนิ่งเพราะความตื่นเต้น หัวคิ้วก็พลันขมวดมุ่น  

 

 

ชำเลืองมองสีหน้าบูดบึ้งของจวินเฉิง ตันหวายเบะปากกล่าวอย่างไม่พอใจ “ท่านรู้หรือไม่ว่าขมวดคิ้วบ่อยๆ จะทำให้เกิดริ้วรอย ถึงตอนนั้นมีแต่ท่านนั่นแหละที่เป็นทุกข์เสียเอง!”  

 

 

จวินเฉิงไม่สนใจเขา จับแขนตันหวายเอาไว้แล้วพันแผลใหม่อีกสองสามทบ ปมผีเสื้อแลดูน่าเกลียดเหมือนเช่นเคย  

 

 

“ท่านว่าท่านโตจนป่านนี้แล้ว ทำไมยังชอบผุกปมผีเสื้ออยู่อีก? ทำเป็นเด็กไปได้” แม้จะพูดไปอย่างนี้ ตันหวายกลับไม่ได้รังเกียจปมผีเสื้อนี่เลยจริงๆ ถึงกับชอบมันมากด้วยซ้ำ แต่เขาไม่มีทางยอมรับเด็ดขาด ใช่ ไม่มีทางยอมรับเด็ดขาด!  

 

 

“ปมผีเสื้อ?” จวินเฉิงไม่เข้าใจ “เราเรียกสิ่งนี้ว่าเงื่อนสมปรารถนา เป็นสัญลักษณ์แทนความดีงามและการอวยพรอย่างหนึ่ง”  

 

 

ตันหวายตกตะลึง เกือบจะลืมไปแล้วว่าปมผีเสื้อเรียกอีกอย่างว่าปมกลมเกลียวกับปมสมปรารถนา ในยุคโบราณไม่เพียงไม่ใช่ของเด็กเล่น กลับยังเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นสิริมงคล  

 

 

จวินเฉิง “พวกเราชาวซีหนานยึดถือเช่นนี้มาโดยตลอด ในเมืองหลวงมีความหมายอะไรแตกต่างไปหรือ?”  

 

 

“ไม่มี! ความหมายเดียวกันนั่นแหละ” ตันหวายหัวเราะ ใช้นิ้วมืออีกข้างเกี่ยวระหว่างปมผีเสื้อบนแขนของตน “นี่ไม่ใช่เรียกอีกอย่างว่าเงื่อนกลมเกลียวหรอกหรือ? ได้ยินว่าสามารถมอบให้กับคนในดวงใจได้ด้วย”  

 

 

จวินเฉิงเบือนหน้าอย่างไม่สบอารมณ์ ปลายหูแดงระเรื่อ กลับยังกล่าวอธิบายอย่างแข็งทื่อว่า “นี่คือเงื่อนกลมเกลียว”  

 

 

ตันหวายหัวเราะร่วนพลางพยักหน้าเป็นเชิงว่าตนเข้าใจแล้ว ไม่ได้แกล้งแหย่ต่อแต่อย่างใด ถึงอย่างไรจวินเฉินก็ดูจะแหย่ไม่ขึ้นเท่าไหร่นัก ถ้าเกิดโมโหขึ้นมา ตนก็ต้องตามง้ออีก  

 

 

จู่ๆ ตันหวายก็นึกถึงเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ นั่นก็คือตนเป็นหมายเลขศูนย์[1]ที่เหมาะสมอย่างยิ่ง แต่พอมาเห็นจวินเฉิงเขินอายง่ายดายอย่างนี้ แถมยังหน้าตาดีกว่าตนเสียอีก นั่นไม่ใช่ว่าเป็นหมายเลขศูนย์เหมือนกันหรอกหรือ?  

 

 

คิดต่อไปเรื่อยๆ ถ้าอย่างนั้นไม่ใช่ว่าไป๋เยว่…ช่างเถอะ ไม่แน่ว่าเขาอาจจะเป็นชายแท้ก็ได้  

 

 

ถึงแม้จะรู้ว่าวงการนี้มีแต่หมายเลขศูนย์อยู่ทุกหัวระแหง ไว้ใจใครไม่ได้ แต่ความรู้สึกในฐานะหมายเลขศูนย์คนหนึ่งที่ตกหลุมรักหมายเลขศูนย์อีกคนก็ยากจะอธิบายเป็นคำพูดจริงๆ  

 

 

ตันหวายเหลียวมองปลายหูที่แดงเรื่อของจวินเฉิงกับใบหน้าของเขาที่ทั้งขาวทั้งงดงามยิ่งกว่าตนอีกสองสามที ก็ยิ่งมั่นใจในความคิดของตนเอง  

 

 

นิ่งเงียบไปชั่วครู่ ตันหวายเอ่ยปากอย่างสุขุมเยือกเย็น “หมายเลขไม่ถูกไม่เป็นไร ข้าสามารถเป็นหมายเลขหนึ่งเพื่อความรักได้!”  

 

 

 

 

 

——

 

 

[1] ในที่นี้หมายถึงฝ่ายรับ ตรงข้ามกับหมายเลขหนึ่งที่หมายถึงฝ่ายรุก

[นิยายวาย] ทะลุระบบข้ามภพมาหารัก

[นิยายวาย] ทะลุระบบข้ามภพมาหารัก

ตันหวาย นักศึกษาคณะศิลปะที่ประสบอุบัติเหตุรถชนเพราะช่วยชีวิต ไป๋เยว่ รุ่นพี่ที่ตนแอบชอบให้พ้นจากอันตรายจนตัวเองตายแทน วิญญาณจึงทะลุมิติมาอยู่ในระบบ H3883 ซึ่งบีบให้เขาต้องออกเดินทางไปยังโลกต่างๆ เพื่อสวมร่างผู้อื่น และทำภารกิจเพื่อสะสางความแค้นและทำความปรารถนาของเจ้าของร่างเดิมให้เป็นจริง ในชาติแรกมาเขาทะลุมิติมาอยู่ร่างบุตรชายอัครเสนาบดี ชาติที่สองเป็นเรื่องระหว่างภูติกระต่ายและภูติจิ้งจอก ชาติที่สาม ตันหวายมาอยู่ในร่างดาราหนุ่มแห่งโลกโอเมก้าเวิร์ส และในชาติสุดท้ายต้องมาย้ายอยู่ในร่างประมุขสำนักเซียนที่ต้องทำภารกิจคลายปมในใจของศิษย์น้อย หากทำสำเร็จ เขาก็จะฟื้นคืนชีพกลับไปโลกเดิมได้ แต่หากไม่สำเร็จ เขาจะต้องกลายเป็นระบบแทนและติดแหง็กอยู่ที่นี่ไปตลอดกาล!

Options

not work with dark mode
Reset