เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด – ตอนที่ 61 ทำไงดี?

ซูวยาหยงเห็นเธอเดินมา ก็ยิ้มและลุกขึ้นจากเก้าอี้ “มู่ชิง มาแล้วเหรอ”
ไป๋มู่ชิงมองไปรอบๆ ในห้องนอกจากซูวยาหยงแล้วไม่มีใครอื่น นึกสงสัยว่าเธอกำลังวางแผนชั่วร้ายอะไรอยู่ แต่ก็ไม่อยากที่จะใส่ใจ จึงจ้องมองไปที่เธอและพูดอย่างเรียบเฉยว่า ” คุณหญิงไป๋ คุณมีอะไรก็พูดมาตามตรง ไม่ต้องมายิ้มให้ฉันหรอก เพราะเวลาคุณยิ้มมาทีก็มีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้น แล้วนี่แม่กับน้องชายฉันอยู่ไหน”
ตอนนั้นเธอก็มาหาพร้อมรอยยิ้มแบบนี้ เข้ามาใส่ใจดูแลชีวิตของสามแม่ลูก แล้วยังทำเป็นใจบุญส่งน้องชายที่มีโรคหัวใจแต่กำเนิดไปรักษายันต่างประเทศ
นึกไม่ถึงแค่ไม่กี่วัน เธอก็โดนหลอกแถมมบังคับให้แต่งเข้าบ้านตระกูลหนานกง
“มู่ชิง อย่าพูดแบบนี้ซิ วันนี้ฉันตั้งใจอยากให้เธอสามแม่ลูกได้เจอหน้ากันจริงๆ ” ว่าแล้วซูวยาหยงก็เอาโทรศัพท์ขึ้นมาวีดีโอคอลแล้วส่งให้กับไป๋มู่ชิง
เมื่อเห็นหน้าซีดขาวของน้องชายบนหน้าจอมู่ชิงก็นิ่งอึ้งไป นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นหน้าน้องชายต่างพ่อ หลังจากที่เธอโดนซูวยาหยงหลอก
“พวกเธอคุยกันไปก่อน เดี๋ยวฉันไปเครียค่าใช้จ่ายก่อน” ซูวยาหยงลุกจากเก้าอี้ ก่อนเดินออกไปก็ไม่ลืมที่จะทิ้งท้ายให้เธอว่า ” ออ เบอร์นี้เป็นเบอร์ของเพื่อนฉันเอง”
นั้นหมายถึงว่าเธอไม่ต้องเสียแรงที่จะพยายามค้นหาที่อยู่จากเบอร์โทรศัพท์
หลังจากซูวยาหยงออกไป ไป๋มู่ชิงก็รีบถามน้องชายในทันทีว่า ” เสี่ยวหยี่ เธอสบายดีมั้ย? เธออยู่ที่ไหนกัน? ”
” พี่ ผมอยากอยู่กับพี่ ผมอยากกินน่องไก่อีก”
ไป๋มู่ชิงรู้สึกปวดแปลบที่หัวใจ ก่อนถามว่า ” พวกเขาไม่ให้น่องไก่เธอกินเลยเหรอ”
” อืม ”
” เสี่ยวหยี่ ส่งโทรศัพท์ให้แม่เร็ว ” มีคนดึงโทรศัพท์มือถือไป แล้วบนหน้าจอก็เปลี่ยนเป็นหน้าของคุณแม่จูฮุ่ยขึ้นมาแทน เสี่ยวหยี่ยังร้องโวยวายอยู่ข้างๆ ” ผมอยากคุยกับพี่! ก็ผมอยาก….”
” เด็กดี ให้แม่คุยกับพี่ก่อนนะ ” จูฮุ่ยปลอบลูกชายอย่างอ่อนโยน แล้วหันมาคุยกับมู่ชิงด้วยสีหน้าที่จริงจังว่า “มู่ชิง อย่าไปฟังเสี่ยวหยี่พูดไปเรื่อย อยู่ที่ซีเฉินให้ดี ต้องเชื่อฟังพ่อกับแม่เลี้ยงรู้มั้ย”
” แม่…”
จูฮุ่ยขัดขึ้นก่อนพูดต่อว่า “ไม่ว่าพวกเขาจะให้ทำอะไรก็อย่าไปขัดพวกเขาเข้าใจมั้ย ถือว่าทำเพื่อน้อง”
“เข้าใจ…” ไป๋มู่ชิงถอนหายใจ รู้สึกไม่อยากพูดอะไรต่อ
แม่เธอเป็นแบบนี้เสมอ ในใจคิดถึงแต่น้องชายไม่เคยนึกถึงความรู้สึกของเธอเลย เธอรู้สึกชินชาตั้งแต่สมัยที่แม่พาเธอไปทำศัลยกรรมแล้ว
แม่เธอยังบ่นโน้นพูดนี่ไม่หยุด ไป๋มู่ชิงแค่ฟังและตอบรับโดยไม่ได้พูดอะไร จนกระทั่งได้จังหวะจึงถามขึ้นว่า “แม่ ตอนนี้แม่อยู่ไหนกัน ฉันจะไปรับแม่กับน้องกลับมา”
” ไม่ต้องมา พวกเราสบายดี ไม่ต้องเป็นห่วง ” จูฮุ่ยปฏิเสธ
“แต่ยังไงก็ต้องบอกหน่อยว่าอยู่ที่ไหนกัน จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง” ไป๋มู่ชิงพูด เธอไม่เชื่อว่าผู้หญิงใจร้ายอย่างซูวยาหยงจะดีกับพวกเขาจริง
“พ่อเขารับปากว่าจะดูแลแม่กับเสี่ยวหยี่ ”
” แม่…..”
” แค่นี้ก่อนนะ ” แล้วสายก็ตัดไป ไป๋มู่ชิงยังร้องเรียกอยู่หลายครั้งจนหน้าจอมือถือหายไปจึงโยนโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะอย่างหัวเสีย
เธอไม่เข้าใจทำไม่แม่ไม่ยอมบอกที่อยู่ของพวกเขาตอนนี้ให้เธอรู้ หรือแม่จะยังหวังลมๆแล้งๆว่าพ่อจะช่วยรักษาโรคหัวใจให้กับน้องชายได้จริง
ซูวยาหยงไม่ได้ไปไหนไกล แต่ยืนแอบฟังอยู่หน้าประตู พอไป๋มู่ชิงวางสายปุ๊บเธอก็เดินเข้ามาทันที
” พูดมาเลย คุณจะเอายังไง” ไป๋มู่ชิงหันไปเผชิญหน้ากับเธอ
ซูวยาหยงยิ้มแล้วพูดว่า ” ฉันแค่จะมาบอกข่าวดีกับเธอว่าเธอจะหลุดพ้นจากตระกูลหนานกงเร็วๆนี้”
ไป๋มู่ชิงรู้สึกร้อนใจก่อนถามว่า “หมายความว่าไง”
” ก็หมายความว่า ถึงเวลาแล้วที่เธอจะคืนตำแหน่งนายหญิงน้อยในตระกูลหนานกงให้กับพี่สาวเธอ” ซูวยาหยงพูด
ไป๋มู่ชิงสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย สองมือค่อยๆกำเข้าหากัน
” ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เธอต้องเขียนบันทึกประจำวัน เล่าเรื่องราวในแต่ละวันที่เธอทำและพูดในระหว่างที่อยู่บ้านตระกูลหนานกง แล้วส่งให้ยิ่งอันเรียนรู้ อีกสามเดือนเธอกับย่ิงอันค่อยสลับตัวกัน โดยให้ยิ่งอันอยู่ที่บ้านตระกูลหยาง ส่วนเธอ……. ” ซูวยาหยงยิ้มแล้วพูดว่า ” ไม่ต้องกังกลไป ฉันจะดูแลเธออย่างดี ฉันก็พอดูออกว่าหลินอันหนานชอบเธอมากกว่ายิ่งอันไม่น้อย ถ้าเธออยากอยู่กับเขาต่อก็ได้ ฉันจะจัดงานแต่งให้อย่างสมเกียรติ หรือถ้าเธอไม่อยากแต่งกับเขาก็ไม่เป็นไร เธอสามารถเลือกเดินทางไปต่างประเทศไปใช้ชีวิตอยู่กับแม่และน้องชายเธอได้ โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดพ่อเธอจะรับผิดชอบให้เอง
ว่าแล้วว่าเธอไม่เคยมาดี ไป๋มู่ชิงเครียดจนหน้าซีด
แต่ก่อนเป็นเพราะข่าวลือที่ว่าหนานกงเฉินหน้าตาน่าเกียดแถมขี้โรค คนบ้านนี้พากันวางแผนบังคับให้เธอแต่งเข้าบ้านตระกูลหนาน ทำให้เธอทุกข์ทนและอดสู มาวันนี้เห็นตัวตนที่แท้จริงของหนานกงเฉินแข็งแรงหล่อเหลา ไม่ได้มีดวงเมียตายเหมือนที่เล่าลือกัน จึงเกิดเปลี่ยนใจบังคับให้เธอหลีกทาง
แม่ลูกคู่นี้ยังมีความเห็นแก่ตัวแบบไร้ยางอายได้มากกว่านี้อีกเหรอนี่?
ถ้าเป็นเมื่อก่อนเป็นไปได้ว่าเธออาจจะคล้อยตาม แต่มาวันนี้
ไม่พูดถึงความไร้ยางอายของพวกเธอ แต่เธอเป็นของหนานกงเฉินไปแล้ว และยังท้องลูกของเขาอีก ในสถานะการแบบนี้จะให้เธอหลีกทาง?
” ถ้าฉันไม่เห็นด้วยล่ะ?” เธอถามด้วยสีหน้านิ่งเฉย
” ทำไมถึงไม่เห็นด้วย?” ซูวยาหยงยังคงยิ้มและพูดว่า “ฉันว่าทางเลือกทั้งสองทางนี้ก็ดีต่อเธอทั้งนั้นนะ จะว่าไปที่จริงแล้วหนานกงเฉินก็เป็นของยิ่งอันแต่แรก ตอนนี้เธอแค่คืนในสิ่งที่มันเป็นของยิ่งอันให้เธอไปแค่นั้นเอง ไม่ใช่เหรอ?”
ซูวยาหยงทำท่าตกใจก่อนพูดว่า ” หรือเธอตกหลงรักผู้ชายคนนั้นแล้ว? อย่าลืมนะว่าชะตาชีวิตของเขากำหนดมาคู่กับยิ่งอัน มีอาจารย์ทำนายไว้แล้วว่าชีวิตเขาขาดยิ่งอันจะไม่รอด
หลงรักเขา ?
ไป๋มู่ชิงแย้งอยู่ในใจ เธอจะไปรักผู้ชายที่เย็นชาและบ้าอำนาจทั้งยังมีคนในใจอยู่แล้วแบบเขาได้ยังไง?
แล้วทำไมชั่ววูบหนึ่งเธอถึงรู้สึกไม่พอใจ เป็นเพราะลูกในต้องที่ยังเป็นแค่ก้อนเลือด หรือเพราะไม่พอใจในความเห็นแก่ตัวของซูวยาหยง หรือว่า……เป็นห่วงว่าถ้าขาดยิ่งอันไปชีวิตเขาจะไม่รอดกันแน่ ?
เธอไม่ใช่คนเชื่ออะไรงมงาย แต่พอเกี่ยวพันกับชีวิตคนจะไม่เชื่อก็ไม่ได้ หลังจากที่เธอแต่งกับหนานกงเฉินแล้วเขาก็มีอาการป่วยหลายต่อหลายครั้งจนคุณผู้หญิงเกือบไล่เธอออกจากบ้านหนานกง หรือมันจะเป็นจริงตามคำทำนายจริง หนานกงเฉินจะเป็นของยิ่งอันได้เพียงคนเดียวจริงเหรอ?
วินาทีนี้ เธอเองก็ไม่อาจรู้ได้
เธอเข้าใจวัตถุประสงค์ของซูวยาหยงที่ให้เธอมาพบและให้เธอได้โทรฯคุยกับแม่ในวันนี้แล้ว ทางเลือกเดียวที่เธอเห็นในตอนนี้คือทำตามที่เธอบอก
ไป๋มู่ชิงหลับตาลงแล้วนึกในใจ กลับไปเคียงข้างหลินอันหนานนั้นเป็นไปไม่ได้ ถ้าออกจากบ้านตระกูลหนานกงแล้วไปหาแม่ช่วยแม่ดูแลน้องชาย อีกทั้งยังทำให้หนานกงเฉินพ้นจากโรคภัย มีไป๋ยิ่งอันอยู่เคียงข้างช่วยให้เขาสามารถอยู่รอดพ้นอายุ30 ก็ถือว่าไม่เลว
แต่ว่า….มือเธอค่อยๆลูบหน้าท้องแบนราบของตัวเอง เธอควรทำอย่างไรดี? เอาออก? มันโหดร้ายเกินไป แต่ถ้าแอบคลอดเขาออกมา เด็กน้อยที่น่าสงสารคนนี้ก็จะเหมือนเธอและเสี่ยวหยี่ต้องอยู่ในครอบครัวที่ไม่มีพ่อคอยรักคอยดูแล

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

ไป๋มู่ชิงเคยได้ยินเรื่องเล่าตั้งแต่เด็กว่า ตระกูลหนานกงในเมืองซีเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุด แต่น่าเสียดายที่คุณชายใหญ่ของตระกูลกลับป่วยเป็นโรคประหลาด โรคที่เขาเป็นจะทำให้เขามีอายุอยู่ได้ไม่ถึงอายุ30ปี ไป๋มู่ชิงยังได้ยินมาอีกว่า คุณชายหนานกงเฉินแต่งงานใหม่ทุกๆปี แต่เจ้าสาวของเขากลับมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงวันต่อมาหลังคืนเข้าหอ แต่ไม่ทราบสาเหตุของการแต่งงานและยังไม่ทราบถึงสาเหตุการเสียชีวิตของเจ้าสาวด้วย เมื่อตระกูลหนานกงได้ส่งของหมั้นมาให้ตระกูลไป๋ ไป๋มู่ชิงก็คิดไม่ถึงว่าพ่อของเธออยากจะปกป้องชีวิตพี่ของเธอไว้ถึงขนาดผลักเธอเข้าไปในประตูนรกอย่างโหดร้าย บังคับให้เธอแต่งงานกับหนานกงเฉินเป็นเจ้าสาวคนที่เจ็ดของเขา แทนพี่สาวของเธอ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset