“ก็กลัวเธอจะเป็นเหมือนตอนนี้ หลงไหลฉัน เกาะติดฉัน สุดท้ายก็เหมือนกับลูกอมที่ติดหนึบกับฉันจะแกะก็แกะไม่ออก”
“คุณ……หนานกงเฉินถ้าคุณไม่หลงตัวเองจะตายมั๊ย?” ไป๋มู่ชิงโกรธอย่างมาก เธอตะโกนออกไปจนไม่เป็นภาษา “ฉันไม่ทรมานตัวเองด้วยการไปติดพันกับคนอ่อนแอที่และคงมีอายุไม่ถึงสามสิบปีหรอก”
สีหน้าของหนานกงเฉินจริงจังขึ้น ชำเลืองตามองเธอ “รอฉันตายแล้ว เธอกับพวกคุณอาก็จะเข้าแถวรอรับมรดกด้วยกันล่ะซิ ?”
น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นของเขา กลับค่อยๆทำให้สังเกตุเห็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ไป๋มู่ชิงที่กำลังโกรธ ไม่ได้รู้สึกถึงอารมณ์ที่แปรปวนของเขา เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนั้น ตัวเองกลับยิ่งโกรธมากขึ้น เธอกัดฟันแน่น แสร้งทำเป็นรู้ตัว “อ้อ ใช่ ทำไมฉันถึงไม่คิดเรื่องนี้นะ? ใช่สิ เพื่อมรดกของตระกูลหนานกงฉันก็ต้องติดพันคุณ เกาะติดคุณจนกว่าคุรจะตาย!”
“อ๊ะ……!” เธอส่งเสียงร้องเบาๆ สักพักก็ถูกเขาผลักชนกำแพงอีกครั้ง
“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องดูว่าเธอจะมีชีวิตที่สนุกหรือเปล่า” เขาจูบเธอ ระหว่างริมฝีปากก็เต็มไปด้วยความเย็นชา สองมือก็ดึงผ้าขนหนูผืนใหญ่ออกจากตัวเธออย่างไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิด
และเขาก็รู้ดีว่ามันคงจะไม่ใช่จุดจบที่ดีแน่!
ไป๋มู่ชิงหลับตาสนิท กัดฟันอดทนต่อความหยาบคายและการระรานของเขา
เมื่อไป๋ยิ่งอันเดินเข้ามาจากด้านนอกด้วยความโกรธ ซูวยาหยงที่กำลังดื่มชาอยู่ในห้องรับแขก เธอเงยหน้าขึ้นและมองไปที่ลูกสาวแล้วพูดด้วยความโมโห “ฉันบอกเธอกี่ครั้งแล้ว การจะแต่งเข้าบ้านตระกูลหลิน ครอบครัวที่ร่ำรวย เธอต้องสง่าผ่าเผยและมีความเป็นผู้ใหญ่ ไม่ใช่เป็นคนขึ้นๆลงๆแบบนี้”
เมื่อโดนเธอพูดเช่นนี้ ไป๋ยิ่งอันก็ยิ่งโกรธมากขึ้น แล้วนั่งลงข้างๆเธอ “ยังจะแต่งเข้าตระกูลหลินอีกเหรอ ตระกูลหลินบ้าๆ”
“ทำไมเหรอ? ทะเลาะกับหลินอันหนานเหรอ?” ซูวยาหยงยกชาดอกไม้ขึ้นมาจิบ
“คุณแม่ คุณแม่ยังมีกระจิตกระใจดื่มชาอยู่อีกเหรอ ฉันร้อนใจจะแย่อยู่แล้ว”
“ยังไงล่ะ” ในที่สุดซูวยาหยงก็วางถ้วยชาลง แล้วถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
ไป๋ยิ่งอันถอนหายใจ “แม่รู้ไหมคุณหญิงหลินทำเกินไปขนาดไหน ลากฉันกับอันหนานไปบ้านตระกูลหนานกงตั้งแต่เช้าเพื่อไปขอโทษนังตัวดี และที่น่าตกใจที่สุดก็คือผู้ชายที่ปรากฏตัวในงานเลี้ยงเมื่อวานนี้คือ หนานกงเฉิน แต่ว่ามันก็ทำให้นังตัวดีหน้าเสียไปเลย”
“เอ๊ะ?” ซูวยาหยงประหลาดใจ “เขาคือหนานกงเฉินจริงเหรอ? ไม่ใช่นังตัวดีให้ใครมาสวมรอยหรอกนะ”
เรื่องงานเลี้ยงเมื่อคืนวาน เธอคิดว่าทั้งหมดเป็นฉากตอบโต้ที่กำกับและแสดงโดยไป่มู่ชิงเลยไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิด คิดไม่ถึงว่า……
“ข่าวลือพูดกันว่า……หนานกงเฉินทั้งหน้าตาอัปลักษณ์ ทั้งอ่อนแอไม่ใช่เหรอ? จะเป็นเขาได้ยังไง” เมื่อคืนวานนี้ผู้ชายคนนั้นไม่เพียงแต่หน้าตาไม่อัปลักษณ์ กลับหล่อเหลามากอีกด้วย
“สรุปว่าข่าวลือนี้มาจากที่ไหนกัน?” ไป๋ยิ่งอันจะร้องไห้ “คุณแม่ เป็นเพราะแม่นั้นแหละ เพราะแม่เสนอความคิดแย่ๆให้ฉัน ชักนำให้ฉันไปหาหลินอันหนาน ทำให้พลาดจากคนที่ดีขนาดนี้อย่างหนานกงเฉิน ฮือ เป็นเพราะแม่”
นึกถึงหนานกงเฉินกับไป๋มู่ชิงกอดจูบกันในงานเลี้ยงเมื่อคืน ทั้งยังภาพที่ทั้งสองคนจูงมือกันที่บ้านตระกูลหนานกง เธอทั้งเสียดายทั้งเคียดแค้น
การแต่งงานนี้เดิมทีเป็นของเธอ ผู้ชายคนนี้เดิมทีเป็นของเธอ ตอนนี้เธอเป็นคนหยิบยื่นมันให้กับไป๋มู่ชิงคนนั้น!
“ใช่ใช่ใช่…….ทั้งหมดเป็นเพราะแม่ไม่ดี แม่ไม่ควรไปเชื่อข่าวลือพวกนั้น” ซูวยาหยงจับมือเพื่อปลอบใจเธอ “แต่ว่ายิ่งอัน ลูกก็อย่างเพิ่งรีบร้อน แม้ว่าหนานกงเฉินจะร่ำรวย และหล่อเหลา แต่ลูกไม่เห็นสีหน้าที่ซีดขาวของเขาหรอ ดูก็รู้ว่าร่างกายไม่แข็งแรง ตอนนี้พวกเรามีหลินอันหนาน คู่หมั้นที่รูปหล่อ แข็งแรง และร่ำรวย ลูกไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องรำคาญใจพวกนี้ดีมั๊ย?”
เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด – ตอนที่ 45 ติดพันเขา
Posted by ? Views, Released on June 14, 2021
, เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด
ไป๋มู่ชิงเคยได้ยินเรื่องเล่าตั้งแต่เด็กว่า ตระกูลหนานกงในเมืองซีเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุด แต่น่าเสียดายที่คุณชายใหญ่ของตระกูลกลับป่วยเป็นโรคประหลาด โรคที่เขาเป็นจะทำให้เขามีอายุอยู่ได้ไม่ถึงอายุ30ปี ไป๋มู่ชิงยังได้ยินมาอีกว่า คุณชายหนานกงเฉินแต่งงานใหม่ทุกๆปี แต่เจ้าสาวของเขากลับมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงวันต่อมาหลังคืนเข้าหอ แต่ไม่ทราบสาเหตุของการแต่งงานและยังไม่ทราบถึงสาเหตุการเสียชีวิตของเจ้าสาวด้วย เมื่อตระกูลหนานกงได้ส่งของหมั้นมาให้ตระกูลไป๋ ไป๋มู่ชิงก็คิดไม่ถึงว่าพ่อของเธออยากจะปกป้องชีวิตพี่ของเธอไว้ถึงขนาดผลักเธอเข้าไปในประตูนรกอย่างโหดร้าย บังคับให้เธอแต่งงานกับหนานกงเฉินเป็นเจ้าสาวคนที่เจ็ดของเขา แทนพี่สาวของเธอ
Recommended Series
Comment
Facebook Comment