สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – ตอนที่ 88 อยู่ให้ห่างจากผู้หญิงคนอื่น

สาวใช้ตกใจกับเสียงดุและมองไปที่ลู่ซือหยี่โดยไม่รู้ตัว
ลู่ซือหยี่สังเกตเห็นสายตาของเธอก็แอบพยักหน้าไป สาวใช้ถึงได้ออกไปตามหมอ
เมื่อสาวใช้จากไปแล้ว กู้ฉางฉิงก็ดึงสติกลับมาและสังเกตเห็นว่าลู่ซือหยี่ดูแปลก ๆ ไป
“เธอเป็นอะไรไป?”
“ถูกคนวางยาน่ะ”
เฟิงจิ่งเหยาขมวดคิ้วและตอบ กู้ฉางฉิงมองดูลู่ซือหยี่ด้วยความประหลาดใจ
ก็เห็นว่าลู่ซือหยี่ในตอนนี้ดูไม่สวยสดใสเหมือนตอนแรก
ผมเผ้ายุ่งเหยิงและเสื้อผ้าหลุดลุ่ย
เธอดูไม่ดีเอาเสียเลย
แต่แววตาของเธอค่อนข้างน่ากลัว ราวกับเพิ่งถูกขัดจังหวะจากการกินอย่างหิวโหย
เมื่อกู้ฉางฉิงคิดดังนั้น เธอมองไปที่ลู่ซือหยี่อีกครั้งด้วยแววตาเป็นประกาย
ลู่ซือหยี่สังเกตเห็นแววตาของเธอ เดาว่าผู้หญิงคนนี้น่าจะดูแผนของตัวเองออกแล้ว
เพื่อไม่ให้ตัวเองถูกเปิดเผย เธอจึงชิงเย้ยขึ้นว่า “กู้ฉางซิน เธอมองแบบนั้นหมายความว่าอะไร ฉันกับพี่จิ่งเหยาบริสุทธิ์ใจ แต่เธอน่ะ ทำไมยังมีหน้าโผล่มาให้เห็นอีก ทั้งที่เพิ่งจะลักลอบเจอกับผู้ชายคนอื่นที่สวนหลังบ้าน ฉุดกระชากลากถูกัน แล้วยังมีหน้ามาตำหนิฉันกับพี่จิ่งเหยาอีก”
กู้ฉางฉิงรู้สึกอึ้งกับการที่จู่ ๆ ก็ถูกเธอตำหนิ พอได้สติ เธอก็เกือบจะหลุดหัวเราะออกมา
ผู้หญิงคนนี้ช่างร้ายจริง ๆ รีบฟ้องเรื่องคนอื่นออกมาก่อน
“น้องซือหยี่นี่มีญาณวิเศษหรือย่างไรกัน ตัวเองเป็นถึงขนาดนี้ ยังรู้ทุกการเคลื่อนไหวของฉันอีก”
เมื่อพูดจบ ใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความประชดประชันและพูดต่อว่า “น้องซือหยี่คงจะจับตาดูฉันตลอดเวลาล่ะสิท่า? ไม่เช่นนั้นจะรู้ทุกเรื่องที่เกิดกับฉันได้อย่างไร?”
เมื่อเฟิงจิ่งเหยาเห็นว่ากู้ฉางฉิงไม่ได้ปฏิเสธเรื่องที่เกิดขึ้นที่สวน ดวงตาของเขาก็เย็นชาลงและพูดด้วยเสียงเข้มว่า “เพราะฉะนั้นเรื่องที่ซือหยี่พูดมานั้นเป็นความจริง มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริง?”
กู้ฉางฉิงสะดุ้งเมื่อได้ยินเขาพูด เธอพยักหน้ารับตอบว่า “มีเรื่องนี้จริง ๆ แต่ว่ามันเป็นเพียงเรื่องบังเอิญเท่านั้น”
เธออธิบายสั้น ๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่สวน
“ตอนแรกฉันไปถึงที่สวนก่อน ต่อมาก็มีคนมา ก็คุยความหลังกันตามประสาเพื่อนเก่า ส่วนที่จับมือถือแขนกัน เพราะมันมืดมาก และฉันก็ไม่ระวังสะดุดก้อนหินเข้า เขาก็ดึงฉันไว้ เรื่องก็แค่นี้เองค่ะ”
เฟิงจิ่งเหยามองไปที่เธออย่างไม่ค่อยเชื่อนัก
กู้ฉางฉิงรู้ว่าเขาไม่เชื่อเธอ เธอยักไหล่และพูดต่อ “ฉันคิดว่าที่สวนน่าจะมีกล้องวงจรปิดอยู่ ถ้าคุณไม่เชื่อ ก็เชิญตรวจสอบได้ทุกเมื่อ”
เฟิงจิ่งเหยามองดูเธอที่มีท่าทีตรงไปตรงมา พลันความสงสัยในใจก็หายไปมากกว่าครึ่ง
ลู่ซือหยี่จึงรีบพูดขึ้นมาด้วยความกังวลใจ “กู้ฉางซิน เธอหยุดตีสองหน้าได้แล้ว มีใครไม่รู้บ้างว่าก่อนที่พี่จิ่งเหยาจะกลับมา เธอปล่อยตัวขนาดไหน ตอนนี้พออยู่ต่อหน้าพี่จิ่งเหยาเธอก็ช่างเสแสร้งเก่งเหลือเกิน”
เมื่อกู้ฉางฉิงได้ยินคำนี้ ก็จ้องเธอกลับด้วยสายตาเย็นชา
ลู่ซือหยี่ถูกเธอมองจนรู้สึกอึดอัด “มองฉันทำไม หรือที่ฉันพูดมาจะไม่จริง?”
“จริงไม่จริงเราต่างรู้ดี แต่อย่างไรก็ตาม ฉันก็ชื่นชมเธอจริง ๆ เธอมีสภาพแบบนี้แล้วยังมีใจที่จะห่วงคนอื่นอีก ดูแล้วเหมือนจะไม่กังวลเกี่ยวกับตัวเองเลยสักนิด”
กู้ฉางฉิงพูดแววตาเข้มพร้อมกับแสยะยิ้ม
ลู่ซือหยี่มองเธอและรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก
โดยไม่รอให้เธอได้เปิดปากพูด กู้ฉางฉิงก็พูดสิ่งที่คิดอยู่ในใจออกมาว่า “ฉันแปลกใจเหลือเกิน งานเลี้ยงวันเกิดในคืนนี้มีเธอเป็นตัวเอกแท้ ๆ แต่กลับถูกวางยา สงสัยว่าจะมีคนวางแผนคิดร้ายกับเธอ……แต่คนที่คิดร้ายนี้ ทำไมจนป่านนี้ยังไม่เผยตัวตนออกมาอีกนะ?”
เมื่อพูดจบเธอก็มองไปที่เฟิงจิ่งเหยาอย่างมีความหมาย
เฟิงจิ่งเหยาไม่ใช่คนโง่ เขาฟังออกว่ากู้ฉางฉิงหมายถึงอะไร ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเข้มขึ้นทันที
ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้บอกว่าเขาเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด แต่กำลังจะบอกว่าไม่มีใครวางแผนทำร้ายลู่ซือหยี่ เธอวางยาตัวเอง และหลอกให้เขาขึ้นมา เป็นแผนการที่วางไว้สำหรับเขานั่นเอง
ลู่ซือหยี่มองดูสีหน้าเคร่งขรึมของเฟิงจิ่งเหยา ก็รู้ว่าเขาต้องเดาบางอย่างได้แน่
เธออยากจะอ้าปากอธิบาย แต่ก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง รู้สึกว่าไม่ว่าจะพูดยังไงก็ไม่ถูก เธอทั้งโกรธทั้งกังวล
“กู้ฉางซิน เธอเป็นคนทำใช่หรือไม่ เธอไม่ชอบฉันมาโดยตลอด เรื่องนี้เธอต้องเป็นคนทำแน่ ๆ ทำไมเธอถึงได้ร้ายกาจขนาดนี้ กล้าทำเรื่องเลวร้ายกับฉันได้”
เธอโกรธเป็นฟืนเป็นไฟและต่อว่ากู้ฉางฉิง ขณะเดียวกันก็โยนความผิดไปให้กับกู้ฉางฉิง
เธอทำเช่นนี้ก็เพื่อไม่ให้เฟิงจิ่งเหยาสงสัย และเพื่อไม่ให้กู้ฉางฉิงเปิดเผยตัวเธอ
กู้ฉางฉิงมองดูเธอทำตัวสูงส่งในขณะที่ยัดเยียดความผิดมาให้กับเธอ ก็ขำ เธอหัวเราะออกมาอย่างเสียไม่ได้
เฟิงจิ่งเหยาขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของเธอ
ลู่ซือหยี่ยิ่งอยู่ไม่สุขขึ้นไปอีก
“เธอหัวเราะอะไร!”
“ฉันหัวเราะที่เธอโง่!”
กู้ฉางฉิงเก็บรอยยิ้มบนใบหน้า และประชดต่อว่า “ถ้าฉันจำไม่ผิด วันนี้ฉันไม่มีโอกาสเข้าใกล้เธอเลยสักครั้งเดียว ถามว่าฉันจะวางยาเธอได้อย่างไร?”
ลู่ซือหยี่พูดไม่ออก แววตากระวนกระวาย โดยเฉพาะเมื่อถูกสายตาของเฟิงจิ่งเหยามองมา ทำให้เธอรีบตอบกลับไปว่า “มันก็เป็นไปได้ที่เธอจะซื้อตัวคนใช้ของบ้านใหญ่ เธอ……”
เธอยังอยากจะใส่ร้ายต่อ แต่กู้ฉางฉิงอดทนไม่ไหวจึงขัดจังหวะเธอ
“พอได้แล้ว คำพูดนี้เธอก็ยังกล้าที่จะพูดออกมาได้ ใครไม่รู้บ้างว่าคนใช้ของบ้านใหญ่คุณแม่เป็นคนตั้งใจเลือกมาด้วยตัวเองทั้งนั้น ใครจะซื้อตัวได้ น้องซือหยี่จะพูดคำนี้ออกมาอย่างน้อยก็พูดบนหลักฐานและความเป็นจริงหน่อยเถอะ”
ลู่ซือหยี่ในตอนนี้ยิ่งตื่นตระหนกขึ้นไปอีก
เธอรีบหันไปมองทางเฟิงจิ่งเหยา ก็เห็นสีหน้าเย็นชาอย่างไม่แยแสของเขา
ก่อนที่เธอจะอ้าปากอธิบายอะไร เฟิงจิ่งเหยาก็ทำราวกับเห็นสิ่งสกปรก รีบผลักเธอออกและถอยไปอีกด้านหนึ่ง
“พี่จิ่งเหยาคะ?”
ลู่ซือหยี่โซเซไปสองสามก้าว ในที่สุดก็ยืนนิ่งขึ้นได้ มองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา แววตาของเธอเต็มไปด้วยความผิดหวัง
เฟิงจิ่งเหยาพูดอย่างเย็นชาว่า “หมอใกล้จะมาถึงแล้ว เธอก็อยู่ที่นี่ไปแล้วกัน”
เมื่อพูดจบ เขาไม่แม้แต่จะมองดูลู่ซือหยี่ ดึงมือกู้ฉางฉิงหันหลังแล้วก้าวเท้ายาวจากไป
กู้ฉางฉิงถูกเขาลากจูงไปสักพักจึงตามเขาทัน ไม่เช่นนั้นก็จะถูกลากอยู่อย่างนั้น
“เฟิงจิ่งเหยา นี่คุณจะพาฉันไปไหน?”
เธอมองดูแผ่นหลังที่อยู่เบื้องหน้า อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น
ขณะที่พูด เสียงของคุณนายเฟิงกับคุณและคุณนายลู่ก็ดังขึ้นข้าง ๆ
“จิ่งเหยา นี่ลูกจะไปไหน?”
“จริงสิ ฉันได้ยินเสียงแปลก ๆ ดังขึ้นข้างบน เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
เฟิงจิ่งเหยามองไปทางพวกเขา พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ไม่มีเรื่องอะไรครับ”
พูดจบ เขาก็ดึงกู้ฉางฉิงให้ออกไปอีกครั้ง
กู้ฉางฉิงถูกเขาลากโดยไม่สามารถที่จะสบัดหลุดได้ ทำได้เพียงพยักหน้าทักทายไปทางผู้อาวุโส แล้วตามเขาไป
เฟิงจิ่งเหยาดึงกู้ฉางฉิงออกจากบ้านใหญ่ กลับไปยังบ้านใหม่ของพวกเขา
เมื่อเข้าไปในห้องนั่งเล่นแล้ว เฟิงจิ่งเหยาถึงได้ปล่อยกู้ฉางฉิง
บรรยากาศอึมครึมรอบตัวเขาทำให้กู้ฉางฉิงรู้สึกได้ทันทีว่าเขากำลังไม่พอใจ
เธอสังเกตดูเฟิงจิ่งเหยาอย่างระมัดระวัง เธอคิดจะพูดอะไรสักอย่างเพื่อทำลายบรรยากาศอัดอัดนี้ ไม่ทันไรผู้ชายคนนี้ก็หันกลับมาทำให้เธอตกใจ
“กู้ฉางซิน ผมเคยเตือนคุณแล้วใช่ไหมให้ห่าง ๆ จากผู้ชายคนอื่น แล้วนี่คุณทำอะไรลงไป?”

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

Options

not work with dark mode
Reset