สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – ตอนที่ 32 มีเกียรติมีเงิน

ทิวทัศน์นอกกระจกรถที่เคลื่อนผ่านถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว กู้ฉางชิงนั่งอยู่คู่ที่นั่งผู้ขับขี่ ก็สามารถรู้สึกได้ถึงความเย็นโดยรอบที่ผ่านไปด้วยความรวดเร็ว เอ่อล้นออกมาอย่างต่อเนื่อง มองออกว่าอารมณ์ของเฟิงจิงเหยาดูไม่สบายอย่างมาก
เธออ้าปากแล้ว แต่ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร
พอถึงบ้าน เฟิงจิงเหยาก็ดึงประตูรถเปิดออกไป
กู้ฉางชิงตกใจ ประตูรถข้างตัวถูกดึงเปิดออก หลังจากนั้นแขนก็ถูกเฟิงจิงเหยาคว้าไว้
แรงที่มหาศาลของเขาแทบจะฉุดดึงเธอลงมา
“กู้ฉางชิง!”
ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงมา เข้ามาใกล้แล้วกล่าวอย่างเย็นชาข้างๆหูเธอ “รอคลอดลูกเสร็จ คุณก็เป็นอิสระแล้ว!”
พูดจบ เขาก็ลากกู้ฉางชิงออกมา แล้วก้าวเท้าเดินจ้ำอ้าวไป
“…..”ทิ้งไว้เพียงกู้ฉางชิงให้นิ่งอึ้งอยู่ที่เดิม พูดไม่ออกแม้แต่น้อย
นี่เฟิงจิงเหยาหมายถึงอะไร?
ความหมายคือ หน้าที่ของเธอ ก็เหลือแค่เพียงคลอดลูกหรอ?
มุมริมฝีปากฝืนยิ้มออกมา กู้ฉางชิงทำได้เพียงขึ้นไปชั้นบนคนเดียว
คนทั้งสองก้าวเท้านำหน้าตามหลังกันเข้ามา อารมณ์บนใบหน้าต่างก็ไม่ค่อยดีนัก
คนรับใช้เหล่านี้อยู่ที่นี่ทุกวันอย่างชำนาญ โดยธรรมชาติอย่างรวดเร็วก็รับรู้ได้ถึงความไม่เหมาะสมของพวกเขา
คนทั้งหมดแทบจะรู้ด้วยจิตสำนึกว่าต้องหลบซ่อนเล็กน้อย กลัวว่าจะถูกพัวพัน
กู้ฉางชิงเดินกลับไปที่ห้องอย่างทุกข์ใจโทรศัพท์ในกระเป๋าผ้าก็ดังขึ้นมา
หลับตากู้ฉางชิงรู้ว่าใครเป็นคนโทรเข้ามา
เธอล้วงโทรศัพท์ออกมา เป็นกู้หงเซินจริงๆ
ถึงแม้ว่าจะหงุดหงิด เธอก็ยังเอาขึ้นมากดรับ “ฮัลโหล?”
“กู้ฉางชิงคุณทำงานยังไงกัน? ทำไมเรื่องเล็กแค่นี้ก็จัดการไม่ได้? คุณฟังสิว่าคำพูดวันนี้ของเฟิงจิงเหยานั่นคืออะไร? อะไรที่เรียกว่าตระกูลกู้แปดเปื้อนเป็นประโยชน์ต่อเขาไม่น้อย”
กู้หงเซินต่อว่าใส่หน้าโครมๆกับกู้ฉางชิงอย่างกระหืดกระหอบ
ไม่ไว้หน้าเลยแม้แต่น้อย “คุณมีความสามารถมากไม่ใช่หรอ? คาดไม่ถึงว่าจะให้ฉันเผชิญหน้ากับคนเลวคนนั้น เสียหน้าย่อยยับมากขนาดนี้ เสียศักดิ์ศรีจริงๆ”
“ฉันก็บอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่าเป็นไปไม่ได้!” กู้ฉางชิงกล่าวเรียบๆ “จะต้องเป็นคุณเองที่ไปพูดกับเขา”
ตัวเองทำเกินไปเอง เธอยังจะมีวิธีอะไรอีก
“เชอะ! คุณพูดจาปากหวานก้นเปรี้ยวให้น้อยหน่อย”
กู้หงเซินกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เรื่องนี้ยังไม่จบ ไม่ว่าอย่างไร หุ้นส่วนสามสิบเปอร์เซ็นต์ คุณจะต้องได้มา! อย่าลืมแม่ของคุณ!”
แม่ แม่อีกแล้ว!
เขาไม่สามารถใช้อำนาจคุกคามอย่างอื่นกับตนเองได้ใช่ไหม?
กู้ฉางชิงโมโหจนตัวสั่นไปทั้งตัว กุมหัวพลางนั่งลงมาพิงประตู
……
ซัมเมอร์ไนท์คลับ ในที่นั่งพิเศษVIP หลู่ซือหยีและกลุ่มพี่สาวน้องสาวรวมตัวกันจัดงานเลี้ยงชั่วคราว ในงานเลี้ยงยังมีเหล่าคุณชายไม่น้อย
แสงไฟระยิบระยับหลากหลายสีสัน เหล่าพนักงานเดินไปมาในนั้น เสียงดังเจี๊ยวจ๊าวแทบจะมากกว่าภาพยนต์
ผลักแก้วให้ล้มลง ด่าด้วยควาสนุกสนาน
คนเหล่านี้ ทั้งหมดคือคนในเมืองหลวง เป็นคนดังสตรีมีเงินและคุณชายที่มีชื่อเสียง
หลู่ซือหยีถูกล้อมรอบไปด้วยพี่สาวน้องสองสามคน แก้วเหล้าที่ปรากฎอยู่ตรงหน้าสองสามแก้ว อาหารอันโอชะเต็มโต๊ะ ล้วนไม่ทำให้สีหน้าของเธอดูดีเลยสักเล็กน้อย
เสียงโห่ร้องด้านข้างอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ทำให้เธอร่าเริงขึ้นมาเลยสักนิด
วันนี้เธอได้รับข่าวอีกแล้วว่า พี่จิงเหยาได้พากู้ฉางชิงหญิงชั่วคนนั้นออกจากบ้านไปด้วยกัน
คนทั้งสองไปไหนมาไหนด้วยกัน กิ่งทองใบหยก ดุจดั่งเนื้อคู่นิรันดร์
การปฏิบัติตัวของพี่จิงเหยา เธอก็ชัดเจนที่สุดแล้ว จะไม่เปลืองเวลาสักเล็กน้อยไปกับเรื่องไร้ค่าอย่างเด็ดขาด
หญิงชั่วคนนั้น มีสิทธิอะไรที่ได้รับการยอมรับของพี่จิงเหยา
เห็นได้ชัดเจนว่าคนที่ควรจะอยู่ร่วมกันกับพี่จิงเหยา ควรจะเป็นตนเองถึงจะถูก เธอด้อยกว่ากู้ฉางชิงตรงไหน
ไฟแห่งความชั่วร้ายนั้นยังไงก็กดไว้อยู่ หลู่ซือหยีเลยเรียกเพื่อนสนิทเหล่านั้นมาสนุกเพลิดเพลิน ออกมาทานข้าวด้วยกัน
งานเลี้ยงครึกครื้นมาก แต่ทว่าอารมณ์ของหลู่ซือหยีไม่ได้ดีขึ้นเลยสักนิด
“ซือหยี วันนี้คุณเป็นอะไรไปรู้สึกว่าคุณมีท่าทีที่ไม่สบายใจมาโดยตลอด”
“ใช่สิ ได้ยินมาว่าคุณอยู่ในตระกูลเฟิง คุณนายเฟิงปฏิบัติต่อคุณเสมือนไข่มุก คุณยังมีเรื่องอะไรกวนใจอีกหรอ พูดออกมา ให้พวกพี่น้องช่วยคุณคิด”
“วันนี้แค่เห็นคุณฉันก็รู้ว่าคุณผิดปกติอย่างแน่นอน คุณต้องมีความในใจอย่างแน่นอน รีบพูดมาให้ทุกคนรีบช่วยพิจารณา”
พี่สาวน้องสาวสองสามคนนั้นคุณพูดคำฉันพูดคำ ทันทีก็ไม่รู้ว่าใครเอ่ยถึงกู้ฉางชิงขึ้นมา “เออใช่ซือหยี ช่วงนี้ทำไมดูเหมือนไม่ค่อยได้ยินข่าวคุณกู้ของตระกูลพวกคุณเลยล่ะ? เธอทำให้ตระกูลเฟิงวุ่นวายหรือเปล่า?”
น้ำเสียงนั้นกล่าวถามพลางไปด้วยการเยาะเย้ย ในน้ำเสียวยังแฝงไปด้วยการซุบซิบนินทาอย่างมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น
กู้ฉางชิงก็นับว่าเป็นคนมีชื่อเสียงในแวดวง ก็คือการฆ่าเวลาในช่วงเวลาว่างของทุกคน
ได้ยินว่ามีคนถามถึงกู้ฉางชิงขึ้นมา เดิมทีหลู่ซือหยีก็ไม่ได้มีคนหรือเรื่องที่ต้องอาลัยอาวรณ์ ดูคล้ายกับว่าจะคลั่งไคล้เล็กน้อย
“วุ่นวายจนเกินไป เสแสร้งอย่างมากจริงๆ”
หลู่ซือหยีกัดฟันกล่าวว่า “ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่รู้ว่ากินยาอะไรเข้าไป
ตั้งแต่พี่จิงเหยากลับมา เธอก็เริ่มแสร้งทำเป็นอวดฉลาด คล้ายกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน”
เดิมทีคนๆนั้นก็เพียงแค่ถามๆไปอย่างนั้น ได้ฟังเธอพูดแบบนี้ อดไม่ได้ที่ตาจะเป็นประกายขึ้นมา “ซือหยี คุณพูดมาเร็วเข้า ตกลงเธอใช้วิธีเสแสร้งยังไง?”
นิสัยขวานผ่าซากของกู้ฉางชิงนั้น คาดไม่ถึงว่าจะมีความสามารถแบบนี้
นี่ก็เหมือนกับละครสงครามนางในที่สอดคล้องกับความเป็นจริงเรื่องหนึ่ง เพียงแต่ในสายตาของผู้หญิงทั้งหมดต่างก็ซุบซิบนินทา
แม้แต่ผู้ชายที่เล่นนับนิ้วก็หยุดลง
บ๋อยสองสามคนก็เอียงหูฟัง อยากที่จะฟังข่าวซุบซิบนินทาของตระกูลใหญ่
หลู่ซือหยีก็โตมาจากตระกูลเฟิง การเปิดเผยของเธอค่อนข้างจริงอย่างมาก
เห็นคนทั้งหมดจ้องมองมาที่เขาตาไม่กระพริบ หลู่ซือหยีก็ไม่หวั่นหวาด “ทุกคนก็รู้ว่าเมื่อก่อนเธอชอบออกไปข้างนอกกับผู้ชายเหล่านั้นมากที่สุด ออกเที่ยวไปทั่ว มืดค่ำไม่กลับบ้านอยู่บ่อยๆ”
“เรื่องนี้ฉันรู้ แม้แต่คุณชายฉินก็ถูกเธอทำให้หลงใหลหัวปักหัวปำ” เด็กผู้หญิงคนนึงพูดออกมาอย่างโกรธเคือง
ฉินเป่ยหานก็เป็นที่รู้จักในสังคมของเมืองหลวง มีกียรติมีเงิน ความสามารถทางธุรกิจก็ไม่น้อย สิบอันดับของคุณชายที่ตระกูลมีทั้งอิทธิพลทั้งเงิน ก็มีเขาที่ครองตำแหน่ง
หลู่ซือหยีไม่ได้พูดเสริม สายตาทั้งหมดล้วนแสดงเจตนาว่าให้เธอพูดต่อไป “พวกคุณคาดเดาอะไรอยู่? ตอนนี้เธอปฏิบัติตัวอยู่แต่ในบ้านไม่ออกไปไหน ไม่เพียงแต่จะตัดขาดการติดต่อกับคนเหล่านั้น ทุกวันยังอ่านหนังสือจัดดอกไม้ บ่มเพาะอุปนิสัยที่ดี คนอย่างเธอนั้นทำไมนั่งนิ่งไหว”
“ช่วงนี้เธอยังได้รับความเชื่อใจจากพี่จิงเหยา ทำให้พี่จิงเหยาชื่นชมเธอเป็นพิเศษ แล้วยังต้องการขุดเธอมาเป็นนักออกแบบอีกล่ะ?”
พูดถึงตรงนี้ เธอก็ถอนหายใจอย่างลึกๆ ยื่นมือหยิบแก้วเหล้าแล้วก็ดื่มลงไป
คนโดยรอบเสียงดังอื้ออึง “นี่มันเป็นไปได้อย่างไร? กู้ฉางชิงสามารถทำได้หรอ?”
“ใช่ ฉันเคยได้ยินมาว่าเธอเรียนทางด้านบัญชีมาไม่ใช่หรอ? เมื่อเวลาจบการศึกษาก็ยังสอบตกอยู่หลายวิชา ถ้าไม่ใช่ในครอบครัวของพวกเขาจ่ายเงิน เกี่ยวข้องกับการฝากฝัง บางทีแม้แต่ใบปริญญาเธอก็คว้ามาไม่ได้”
“นี่ก็โอเวอร์เกินไป”
“ใช่ซือหยี กู้ฉางชิงมีความสามารถซะที่ไหนกัน?”
เฟิงจิงเหยาเป็นตำนานธุรกิจที่มีชื่อเสียงของเมืองหลวง นั่นก็ยิ่งปฏิบัติต่องานอย่างละเอียดรอบครอบ
กู้ฉางชิงได้รับการยอมรับของเขา แถมยังเป็นฝ่ายเชื้อเชิญ นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้จริงๆ
“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้?”
หลู่ซือหยีกวาดสายตามองคนเหล่านั้น กล่าวอย่างไม่พอใจเล็กน้อยว่า “ครอบครัวคือlongที่ลึกลับที่สุดบนเวทีมิลาน!”

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

Options

not work with dark mode
Reset