หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1472 พันธมิตรเทียนหลัวปะทะตำหนักมู่

เมื่อคำพูดของมู่เฉินดังก้องไปทั่วจัตุรัส

ทั้งเมืองก็เงียบกริบลง ทุกคนมองไปที่ชายหนุ่มพลางกลืนน้ำลายลงคอ พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าแม้จะเผชิญหน้ากับจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซียนห้าคนของพันธมิตรเทียนหลัว มู่เฉินก็ไม่แสดงอาการถอย ซ้ำยังตอกกลับอีกฝ่ายซะหน้าหงาย

ทันใดนั้นใบหน้าจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซียนทั้งห้าก็เปลี่ยนไปอย่างน่ากลัวพร้อมกับแสงเย็นวาบในดวงตา

“อวดดี!”

ขณะที่ใบหน้าของทั้งห้าเปลี่ยนเป็นเย็นชา รอบจัตุรัสก็มีเสียงตะโกนลั่น ทันใดนั้นร่างเงาสามร่างก็ปรากฏขึ้น พวกเขาเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นหลิงสามคน

จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นหลิงทั้งสามนี้เป็นจอมยุทธ์ชั้นสูงในพันธมิตรเทียนหลัว เมื่อพวกเขาเห็นว่ามู่เฉินสามหาวเพียงใด พวกเขาก็ไม่อาจอดกลั้นได้ ทว่านี่ก็เป็นสิ่งที่ประมุขทั้งห้าสั่งไว้ เนื่องจากพวกเขาต้องการให้ทั้งสามคนทดสอบพวกตำหนักมู่ก่อน

“ตำหนักมู่ที่ปวกเปียกกล้าสู้กับพันธมิตรเทียนหลัวรึ? ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!”

จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นหลิงทั้งสามหัวเราะเยาะและเหวี่ยงฝ่ามือออกไป คลื่นหลิงไร้ขอบเขตสามสายทะลุผ่านมิติห่อหุ้มไปในทิศทางของพวกตำหนักมู่

เผชิญกับจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นหลิงทั้งสาม มู่เฉินไม่แม้แต่จะหันมอง สายตาเขายังคงมองไปที่ประมุขทั้งห้าด้วยความไม่แยแส

ทว่าสายตาของจิ่วโยวเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที นางพรูเพลิงสีดำเผาผลาญการโจมตีที่ทรงพลังทั้งสามสายในทันที

เมื่อทั้งสามเห็นฉากนี้ ใบหน้าก็เปลี่ยนไป พวกเขาไม่คิดว่าจิ่วโยวจะแก้ไขกระบวนท่าของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย

ตอนนี้พวกเขารู้สึกว่าจิ่วโยวไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ง่ายและคิดจะถอยหนี

แต่จิ่วโยวจะยอมให้พวกเขาล่าถอยได้อย่างไร? นางจะใช้โอกาสนี้เพื่อแสดงพลังของตำหนักมู่ให้เป็นที่ประจักษ์

ร่างกายของนางกระตุกปีกหงส์ฟ้าที่อาบด้วยเพลิงสีดำสยายออกมาจากด้านหลัง ร่างวาบหายไป

เมื่อจิ่วโยวหายตัวไป จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นหลิงทั้งสามก็รู้สึกไม่ดีทันที ดังนั้นพวกเขาจึงรีบหมุนเวียนคลื่นหลิง ร่างกายเปล่งประกายขึ้น พวกเขาเร้ากายาหลิงเทียนจุนออกมาทันที

วาบ!

จิ่วโยวปรากฏตัวขึ้นอย่างลึกลับที่ด้านหลังทั้งสาม ปีกเฉือนออกมาฉีกมิติออกด้วยความคมกริบ

เสียงลมคมกริบจากเบื้องหลังทำให้จอมยุทธ์ทั้งสามเปลี่ยนสีหน้าทันที ทันใดนั้นคลื่นหลิงก็พวยพุ่งกลายเป็นเกราะป้องกันหลายชั้นบนร่างกาย

แคว๊ก!

ทว่าการป้องกันทุกอย่างก็ถูกเพลิงสีดำเผาไหม้ ทุกคนเห็นเพียงริ้วสีดำเคลื่อนผ่านจากนั้นเสียงร้องโศกเศร้าสามเสียงก็ดังก้อง

ทุกคนตกตะลึงเมื่อเห็นร่างทั้งสามดิ่งพสุธาลงมาจากท้องฟ้า พวกเขาเห็นบาดแผลที่น่ากลัวบนหน้าอกของจอมยุทธ์ทั้งสาม เลือดสดไหลอาบ เพลิงสีดำกำลังเผาไหม้อาการบาดเจ็บทำให้ไม่สามารถฟื้นตัวได้

“ซี้ด”

ทุกคนสูดลมหายใจเย็น ขณะที่มองไปที่จิ่วโยวด้วยความเคารพ เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครคิดมาก่อนว่าจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นหลิงของพันธมิตรเทียนหลัวสามคนจะพ่ายแพ้ในกระบวนท่าเดียว

หลังจากเอาชนะทั้งสาม จิ่วโยวก็ไม่หยุด ดวงตาของนางวูบไหว ร่างกลายเป็นเพลิงสีดำโดยตั้งใจที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้แบบเด็ดขาด ขณะที่พวกเขาจนหนทาง

เมื่อทั้งสามเห็นจิ่วโยวพุ่งมา พวกเขาก็หวาดผวา จากการเผชิญหน้าเมื่อครู่พวกเขารู้ว่าต่อให้รวมพลังก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจิ่วโยว

“แกช่างกล้า!”

แต่เมื่อจิ่วโยวปรากฏตัวเบื้องหน้าทั้งสาม เสียงตะเบ็งก็ดังก้อง

เสียงกราดเกรี้ยวสะท้อนไปมา จื่อเหลยก็หายตัวมาปรากฏเบื้องหน้าจิ่วโยวพร้อมกับหมัดที่ปกคลุมไปด้วยสายฟ้าสีม่วงซัดออกไป

พลังของระดับเทียนจื้อจุนขั้นเซียนไม่ใช่สิ่งที่ขั้นหลิงจะเทียบเคียงได้

สายฟ้าสีม่วงพล่านในดวงตาของจิ่วโยว ขณะที่นางจะตั้งท่าป้องกัน มู่เฉินก็ปรากฏตัวเบื้องหน้านาง เจดีย์เผยในดวงตาเปลี่ยนคลื่นหลิงทั้งหมดของเขาทันที

เขากำหมัดแน่น เหวี่ยงหมัดที่ห่อหุ้มด้วยถุงมืออัญมณีออกไป

ตึง!

พลังสองสายปะทะกันสายฟ้าสีม่วงพังทลายลง พริบตาหมัดของมู่เฉินก็ทะลวงมิติกระแทกเข้ากับหน้าอกของจื่อเหลย

ตู้ม!

พร้อมกับระเบิด ร่างของจื่อเหลยก็กระตุกแล้วถลาออกไปทิ้งรอยลึกสองแห่งไว้บนจัตุรัสหยก

ใบหน้าของจื่อเหลยเขียวคล้ำขณะที่ทรงตัวพลางมองไปที่มู่เฉินด้วยสายตามืดมน แต่ความกลัวกลับผุดขึ้นในใจ เขาสัมผัสได้ว่ามู่เฉินน่ากลัวเพียงใดจากการแลกเปลี่ยนกระบวนท่าก่อนหน้านี้

การแลกเปลี่ยนกระบวนท่าเกิดขึ้นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ เมื่อทุกคนได้สติก็เห็นว่าจื่อเหลยถูกหมัดของมู่เฉินซัดกลับอย่างไร ความโกลาหลก็ระเบิดออกมาในทันที

แม้ว่ามู่เฉินจะมีชื่อเสียงเลื่องลือในมหาพันภพ แต่น้อยคนที่เห็นเขาปะทะกับจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซียน ดังนั้นหลังจากได้เห็นมู่เฉินเอาชนะจื่อเหลยได้ พวกเขาถึงได้รู้สึกตกตะลึงอย่างแท้จริง

“ท่านจื่อเหลย หากเจ้าต้องการต่อสู้ก็ให้มาหาข้า รังแกผู้หญิงทำไม?” มู่เฉินถอนกำปั้นและยิ้มบางให้แก่จื่อเหลย

ทว่าจื่อเหลยไม่ได้พูดอะไรเพียงมองไปที่มู่เฉินด้วยสายตาดุร้าย

ตอนนี้เองความโกลาหลก็อ่อนตัวลง เนื่องจากทุกคนเห็นประมุขอีกสี่คนบนบัลลังก์ยืนขึ้น

เมื่อพวกเขายืนขึ้น ทั้งภูมิภาคก็มืดลง

กุ่ยตี้จ้องมองไปที่มู่เฉินขณะที่เสียงดังก้อง “ประมุขมู่ เรารู้ว่าเจ้าทรงพลังและไม่มีพวกเราคนใดที่จะเอาชนะได้ในการต่อสู้ตัวต่อตัว”

เสียงของกุ่ยตี้ทำให้หลายคนตกตะลึง เนื่องจากกุ่ยตี้เป็นจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซียนระยะกลางแล้ว เมื่อเทียบกับมู่เฉินก็ห่างอยู่หลายขุม แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยอมรับว่าไม่สามารถเอาชนะมู่เฉินได้ แล้วชายหนุ่มคนนี้มีพลังแค่ไหนกัน?

ทว่ามู่เฉินก็ยังคงมีสีหน้าสงบโดยไม่แสดงความพึงพอใจจากคำสรรเสริญของกุ่ยตี้

“วัตถุประสงค์ของเราชัดเจนที่เชิญเจ้าเข้าร่วมงานเลี้ยงนี้ พันธมิตรเทียนหลัวต้องการที่จะปกครองทวีป เทียนหลัวทั้งหมด หากเจ้าสามารถตกลงพวกข้าจะชดเชยให้”

“แต่ถ้าเจ้ายืนกรานที่จะสู้เพื่อชิงทวีปเทียนหลัว…”

ขณะที่พูดคำนี้แสงดุร้ายก็กะพริบในดวงตาของกุ่ยตี้ น้ำเสียงเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าทำให้อุณหภูมิโดยรอบลดลง “พวกข้าทั้งห้าคนก็ขอท้าประลองกับเจ้า”

ยามนี้พันธมิตรเทียนหลัวเปิดเผยความทะเยอทะยานออกมาแล้ว

ผู้คนรอบลานต่างแสดงออกอย่างเคร่งเครียด ประมุขทั้งห้าตั้งใจรวมกลุ่มจัดการมู่เฉิน เห็นได้ว่าพวกเขากลัวมู่เฉินแค่ไหน

“ดูเหมือนว่าพันธมิตรเทียนหลัวจะไม่เอาหน้าเอาตากันแล้ว” จิ่วโยวที่ยืนอยู่ข้างหลังมู่เฉินพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย

จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซียนห้าคนรุมโจมตีจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นหลิง ถ้าข่าวนี้กระจายออกไปไม่ใช่เรื่องดีเลย

แต่กุ่ยตี้กลับยิ้ม “ผู้ชนะคือกฎ ข้าไม่สนวิธีการหรอก”

ม่านตาสีเทาของเขามองไปที่มู่เฉินก็ยิ้มกว้างขึ้น “นอกจากนี้เพราะให้ความสำคัญต่อประมุขมู่ พวกข้าถึงทำเช่นนี้ หากเรื่องนี้กระจายออกไปชื่อเสียงของประมุขมู่คงจะพุ่งทะยานอีกครั้ง”

เมื่อจิ่วโยวได้ยินแววตาก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา “หน้าด้าน!”

มู่เฉินโบกมือขัดจังหวะจิ่วโยวพลางยิ้มให้กุ่ยตี้ “งั้นข้าต้องขอขอบคุณทั้งห้าคนที่เมตตา”

จื่อเหลยกล่าวอย่างเย็นชา “แกต้องผ่านวันนี้ให้ได้ก่อนถึงจะพูดแบบนั้นได้”

มู่เฉินกล่าว “ดูเหมือนว่าพวกเจ้าห้าคนมั่นใจที่จะจัดการกับข้ามากนะ?”

ดวงตาของกุ่ยตี้กะพริบขณะที่พูด “เจ้ารู้สึกอย่างอื่นได้ไหมล่ะ?”

พูดจบคลื่นหลิงสีเทาก็พุ่งออกมาจากร่างกายเปลี่ยนเป็นกายาหลิงเทียนจุน ดวงตาของเขาสั่นไหวพร้อมกับแรงกดดันคลื่นหลิงที่น่ากลัวปกคลุมไปทั้งเมือง

ในเวลาเดียวกันอีกสี่คนก็ทำเช่นเดียวกัน เวลานี้แรงกดดันทรงพัลงโอบล้อมไปที่มู่เฉิน

ห้าจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซียนเคลื่อนไหวในเวลาเดียวกัน นี่เป็นฉากที่ทำให้ทั้งฟ้าดินตื่นตะลึงเลยทีเดียว

ทุกคนโดยรอบจัตุรัสมีสีหน้าเปลี่ยนไป เผชิญหน้ากับห้าจอมยุทธ์ระดับนี้แม้แต่มู่เฉินที่น่ากลัวก็ยังรู้สึกกดดันใช่ไหม?

ภายใต้สายตาของทุกคน รอยยิ้มบนใบหน้าของมู่เฉินค่อยๆ หุบลง ความหนาวเย็นเสียดกระดูกเข้ามาแทนที่

“ในเมื่อพวกเจ้าชอบเอาจำนวนคนมาเบ่ง งั้นข้าจะแสดงให้รู้ซึ้งถึงความหมายแท้จริงของการเบ่งด้วยจำนวน…” เสียงเยือกเย็นของมู่เฉินดังก้องไปทั่วจัตุรัส

เมื่อประมุขทั้งห้าได้ยิน พวกเขาก็ขมวดคิ้วทันที ขณะที่ความรู้สึกไม่สบายใจตีกวนขึ้นมา

แต่ขณะที่พวกเขารู้สึกไม่สบายใจ มู่เฉินก็ยื่นมือออกมาปัดนิ้วไปบนแหวน อึดใจรัศมีสีดำไร้ขอบเขตก็กวาดออก

ทันใดนั้นทั้งภูมิภาคถูกปิดล้อมด้วยความเงียบ ทุกคนมองไปที่จัตุรัสด้วยความตกใจหวาดผวา กองทัพสวมชุดเกราะสีดำปรากฏตัวอยู่ด้านหลังมู่เฉิน

เมื่อกองทัพนี้ปรากฏขึ้นก็ปลดปล่อยรัศมีจั้นยี่น่าสะพรึงกลัว ซึ่งทำให้สวรรค์และโลกแปรปรวน ภูมิภาคสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset