หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1453 แก่นโลหิตชั้นยอด

ปุ!

เมื่อกระโดดลงไปในสระมู่เฉินสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงความผันผวนของมิติรอบตัว ก่อนที่เขาจะรู้สึกเหมือนดำดิ่งลงไปในน้ำ…

เขากวาดสายตาไปก็เห็นเพียงจิ่วโยวที่อยู่ภายในห้วงน้ำขนาดใหญ่ที่ไร้ก้นด้วยกัน ซึ่งให้ความรู้สึกน่าขนพองสยองเกล้านัก

แสงหลิงพวยพุ่งออกจากร่างกายทั้งสอง แยกตัวพวกเขาออกจากน้ำ เมื่อมองไปที่น้ำสีมรกตรอบตัว มู่เฉินก็หดดวงตา เนื่องจากเขาสัมผัสได้ถึงความหนาแน่นและรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าทุกๆ หยดบรรจุด้วยภาพสัตว์อสูรขนาดเล็ก…

“ในทะเลสาบนี้อัดแน่นด้วยพลังสายเลือดบริสุทธิ์”

มู่เฉินถอนหายใจ สถานที่ที่เรียกว่าสระยกเทพนั้นคล้ายมหาสมุทรเทพสร้างในดินแดนเสินโซ่ ทว่าที่นี่สร้างด้วยความตั้งใจของผู้คน ยิ่งกว่านั้นเนื่องจากจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนเข้ามาด้วยความเต็มใจก่อนที่จะตาย ดังนั้นจึงง่ายต่อการดูดซึม

ตรงกันข้ามมหาสมุทรเทพสร้างมาจากเหล่าจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนที่เสียชีวิตในสงคราม ซึ่งแต่ละคนมีเจตจำนงที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงมีความรุนแรงและยากที่จะดูดซับ

“น่าเสียดายที่เจ้ายังไม่บรรละดับเทียนจื้อจุน มิฉะนั้นการเพาะบ่มในมหาสมุทรเทพสร้างจะดีกว่าที่นี่มาก” มู่เฉินกล่าว

ย้อนกลับไปตอนนั้นราชันเทพอสูรทั้งสามได้มอบป้ายหยกให้แก่เขา ซึ่งสามารถเปิดโอกาสให้เขาเข้าไปได้อีกครั้ง แต่หลังจากใช้แล้วมหาสุมทรเทพสร้างอาจสลายหายไปในความว่างเปล่า

“มหาสมุทรเทพสร้างทรงพลัง แต่ก็อันตรายเกินไป นอกจากนี้… เจ้าเหมาะที่จะใช้โอกาสสุดท้ายนั่นมากกว่าข้า” จิ่วโยวยิ้มเรียบง่าย

มู่เฉินส่ายหัวไม่พูดต่อ แต่มองไปรอบๆ แล้วถามว่า “เราจะทำยังไงกันต่อล่ะ?”

“สระยกเทพนี้ถูกสร้างขึ้นโดยบรรพบุรุษ สายเลือดที่นี่มีพลังมาก เมื่อถึงจุดหนึ่งก็จะเกิดการควบแน่นกลายเป็นแก่นโลหิตชั้นยอด ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับเทพอสูร หากสามารถชำระได้ พวกมันก็จะช่วยปรับแต่งและพัฒนาสายเลือด”

ดวงตาของจิ่วโยวลุกเป็นไฟขณะที่มองไปรอบๆ พูดต่อว่า “แก่นโลหิตชั้นยอดทรงพลังมากและสามารถเปลี่ยนเป็นภาพเทพอสูรว่ายวนไปมาภายในสระนี้ หากพบก็ต้องพยายามจับภาพมาให้ได้”

“แต่เราต้องไม่ชักช้า แม้ว่าสระยกเทพจะดูใหญ่โต แต่แก่นโลหิตชั้นยอดมีจำกัดมาก พวกอัจฉริยะจากเผ่ามหาเทพอสูรจะต้องแย่งชิงกันด้วยความเร็วสูงสุดแน่นอน”

“สายเลือดหนาแน่นเรอะ…”

มู่เฉินครุ่นคิดก่อนที่จะหลับตาลง คลื่นหลิงของเขาก็พรั่งพรูออกมา แม้ว่าทะเลสาบนี้จะเต็มไปด้วยรัศมีสายเลือด แต่แก่นโลหิตชั้นยอดเหล่านั้นก็ควบแน่นอย่างมาก ดังนั้นหากอยู่ใกล้ๆ เขาสัมผัสได้แน่นอน

เมื่อเห็นความพยายามของมู่เฉิน จิ่วโยวก็รออยู่ด้านข้างเงียบๆ ไม่ได้รบกวนใดๆ

การรับรู้ของมู่เฉินเกิดขึ้นชั่วขณะก่อนที่เขาจะลืมตาโพลงมองไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ “ที่นั่นมีรัศมีสายเลือดทรงพลังอยู่!”

“ไปกันเถอะ!”

จิตใจของจิ่วโยวสั่นสะท้านเมื่อได้ยิน ทั้งสองคนพุ่งตัววาดเส้นลึกสองสายในน้ำสีมรกต

ตามทิศทางที่มู่เฉินบอก พวกเขาทะยานไปอยู่หลายนาทีก่อนที่จะลดความเร็วแล้วมองขึ้นไปข้างหน้าด้วยความอยากรู้ พวกเขาเห็นเหยี่ยวสีทองขนาดมหึมาสยายปีกพร้อมกับรัศมีสายเลือดโหมกระหน่ำรุนแรงออกไป

คลื่นหลิงรวมกันในดวงตามู่เฉิน เขาสามารถมองเห็นไข่มุกสีแดงเข้มที่ใจกลางเหยี่ยวสีทองตัวนั้น รัศมีสายเลือดหนาแน่นจนทำให้เขาพูดไม่ออก

“แม้ว่าเหยี่ยวทองคำตัวนี้จะเป็นแก่นโลหิตชั้นยอด แต่ก็เปรียบได้กับระดับตี้จื้อจุนขั้นเต็ม” จิ่วโยวยิ้มอย่างขมขื่น นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมจอมยุทธ์ที่อยู่ภายใต้ระดับเทียนจื้อจุนจึงได้รับอนุญาตให้พาองครักษ์มาได้ มิฉะนั้นนางจะไม่สามารถรับอะไรไปได้ แม้ว่าจะพบแล้วก็ตาม

“ปล่อยให้ข้าจัดการเอง”

มู่เฉินยิ้มสะบัดมือออก คลื่นหลิงขนาดใหญ่ของเขากวาดไปกลายเป็นมือมหึมาคว้าไปที่ร่างเหยี่ยวทองคำ

เหยี่ยวทองคำรับรู้ถึงมือนั่น แม้ว่ามันจะไม่มีสติปัญญา แต่ก็พยายามที่จะหลบหนีตามสัญชาตญาณ

ตู้ม!

แต่เมื่อมันกางปีกออก มือก็พุ่งลงมาบดขยี้ ทำให้ร่างเหยี่ยวระเบิดออก

ขณะที่คลื่นสายเลือดพัดออกไป มู่เฉินก็ยื่นมือออกมาคว้าแสงสีแดงเข้มไว้ สุดท้ายก็ลอยอยู่บนฝ่ามือ

นี่เป็นมุกโลหิตขนาดเท่ากำปั้นที่ดูแปลกใหม่มากและเปล่งรัศมีสายเลือดที่หนาแน่นออกมา

มู่เฉินมองไปที่แก่นโลหิตชั้นยอดก็อดไม่ได้ที่จะตกใจกับความหนาแน่นของสายเลือด ท่าทางของเขาเปลี่ยนไปเมื่อสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณมังกรแท้จริงและหงส์ฟ้าแท้จริงที่ซ่อนตัวอยู่ในร่างกายกำลังคำรามออกมา

พวกมันกำลังกระหายอยากราวกับว่าต้องการกลืนกินแก่นโลหิตชั้นยอดนี้

มู่เฉินรู้สึกประหลาดใจเมื่อสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงจิตวิญญาณมังกรแท้จริงและหงส์ฟ้าแท้จริง ก่อนที่เขาจะบรรลุระดับเทียนจื้อจุน วิญญาณเทพอสูรทั้งสองก็ช่วยเพิ่มพลังในการต่อสู้ได้มาก แต่หลังจากบรรลุเทียนจื้อจุน พวกมันก็เริ่มไร้ประโยชน์ไปแล้ว

เนื่องจากพวกมันมีพลังระดับตี้จื้อจุนเท่านั้น ดังนั้นต่อให้เรียกออกมาก็ไร้ประโยชน์ มู่เฉินเคยค้นหาวิธีมากมายที่จะพยายามพัฒนาจิตวิญญาณทั้งสองให้กลายเป็นมังกรแท้จริงและหงส์ฟ้าแท้จริง แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่สำเร็จสักที

“ดูเหมือนสระยกเทพนี้จะเป็นโอกาสสำหรับมังกรแท้จริงและหงส์ฟ้าแท้จริงของข้าด้วย” มู่เฉินครุ่นคิด หากจิตวิญญาณทั้งสองสามารถบรรลุระดับเทียนจื้อจุนได้ พวกมันก็จะมีประโยชน์ต่อมู่เฉินอีกครั้ง

มู่เฉินระงับความคิดเหล่านั้นสะบัดนิ้วส่งแก่นโลหิตชั้นยอดไปให้จิ่วโยว

เป้าหมายของเขาในสระยกเทพก็คือเพื่อช่วยจิ่วโยวในการวิวัฒนาการ ดังนั้นอย่างน้อยเขาก็ต้องทำงานให้เสร็จก่อนถึงจะพิจารณาของตัวเองต่อ

“ขอบใจ!”

จิ่วโยวไม่มากมารยาท นางเปิดปากแก่นโลหิตชั้นยอดก็กลายเป็นกระแสแสงโลหิตเข้าสู่โพรงปากแล้วระเบิดด้วยคลื่นโลหิตรุนแรงในเวลาต่อมา

อักขระโลหิตปรากฏบนผิวของจิ่วโยวเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในร่างกายของนาง รัศมีโลหิตที่ไร้ขอบเขตอบอวลภายใน สายเลือดวิหคอมตะที่ซ่อนอยู่ก็ค่อยๆ หนาแน่นขึ้น

การเปลี่ยนแปลงนี้ใช้เวลาประมาณครึ่งก้านธูป ก่อนที่นางจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นพร้อมกับเพลิงสีม่วงเข้มลุกโชนอยู่ภายใน

“สมเป็นสระยกเทพจริงๆ”

จิ่วโยวอดไม่ได้ที่จะสรรเสริญ นางฝึกฝนอย่างขมขื่นในอดีตก็ยากที่จะทำให้สายเลือดหนาแน่นขึ้น ทว่าการเติบโตในสระยกเทพน่าตกใจมาก

มู่เฉินมองเห็นการเติบโตของจิ่วโยวได้อย่างชัดเจน แต่เขาก็ไม่แปลกใจ การฝึกฝนของเทพอสูรไม่เหมือนกับมนุษย์ มนุษย์อ่อนแอตั้งแต่แรกเกิดและจะเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งด้วยการฝึกฝน ตรงกันข้ามเทพอสูรเกิดมาพร้อมพลังแข็งแกร่ง แต่ยากที่จะพัฒนา ทว่าเมื่อมีโอกาสก็จะรุดหน้าอย่างรวดเร็ว

“ไปต่อกันเถอะ”

มู่เฉินยิ้มแก่นโลหิตชั้นยอดในสระยกเทพหายากมาก ดังนั้นเขาต้องทำเวลาเพื่อคว้าให้ได้

เมื่อพูดจบเขาก็ทะยานออกไปโดยมีจิ่วโยวติดตามมาด้านหลัง

หลายชั่วโมงต่อจากนั้น พวกเขาพบสัตว์อสูรเจ็ดตัวที่สร้างขึ้นโดยแก่นโลหิตชั้นยอดด้วยการรับรู้ของมู่เฉิน ซึ่งมู่เฉินก็บดขยี้พวกมันให้กลายเป็นร่างเดิมได้อย่างง่ายดายเพื่อให้จิ่วโยวกลืนกินพวกมัน

ภายใต้อิทธิพลของแก่นโลหิตชั้นยอด รัศมีของจิ่วโยวก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้น รัศมีโลหิตขนาดใหญ่ในร่างกายนางถึงขนาดซึมเข้าไปรวมกันเป็นไข่อยู่ข้างหลัง…

มู่เฉินรู้ดีว่านั่นเป็นสัญญาณว่าสายเลือดของจิ่วโยวกำลังพัฒนา เมื่อไข่แตกนางก็จะวิวัฒนาการเป็นวิหคอมตะ

“ในที่สุด… ก็มีโอกาสพัฒนา…” จิ่วโยวลืมตาขึ้นด้วยความตื่นเต้นฉายบนใบหน้า นางรอวันนี้มานานแล้ว

“แต่ข้ายังต้องการรัศมีสายเลือดยิ่งใหญ่กว่านี้เพื่อคว้าโอกาส…”

มู่เฉินพุ่งความสนใจไปทางซ้ายแล้วยิ้มหลังจากได้ยินคำพูดของจิ่วโยว “ข้ารู้สึกถึงของสุดยอด”

ขณะที่จิ่วโยวกำลังดูดซับแก่นโลหิตชั้นยอดที่เพิ่งได้มา เขาก็แผ่คลื่นจิตออกไปสัมผัสได้ถึงรัศมีที่แข็งแกร่งมากจากระยะไกลที่หนาแน่นกว่าที่เคยพบมาก่อนหน้านี้

รัศมีแก่นโลหิตชั้นยอดนั้นอาจเทียบได้กับระดับเทียนจื้อจุนขั้นหลิงเลยทีเดียว

“ลุยกันต่อ!”

มู่เฉินทะยานออกไปอย่างตื่นเต้นโดยมีจิ่วโยวติดตามมา

สิบกว่านาทีต่อมา มู่เฉินหยุดลงมองไปข้างหน้าด้วยความอัศจรรย์ใจ ส่วนที่ด้านหลังใบหน้าของจิ่วโยวก็ปกคลุมด้วยความตกตะลึง

เนื่องจากที่เบื้องหน้าทั้งสองมีปลาคุน[1] ขนาดมหึมากำลังซัดคลื่นออกมานับไม่ถ้วน

“รัศมีในแก่นโลหิตชั้นยอดนั่นเทียบได้กับระดับเทียนจื้อจุนขั้นหลิงระยะต้นเลย”

มู่เฉินอุทานชื่นชม จากนั้นก็เคลื่อนไหวทันที ฝ่ามือคลื่นหลิงมหึมาพุ่งลงมาจากท้องฟ้าสกัดเส้นทางการหลบหนีของปลาคุน แม้ว่ามันจะมีรัศมีระดับเทียนจื้อจุนขั้นหลิงระยะต้น แต่ก็อ่อนแอในแง่ของการต่อสู้และไม่สามารถแข่งขันกับมู่เฉินได้

ดังนั้นการเคลื่อนไหวของมู่เฉินสามารถจับมันได้อย่างแน่นอน

แต่เมื่อฝ่ามือคลื่นหลิงกำลังจะสัมผัสกับร่างปลาคุน เหตุการณ์ก็เกิดขึ้นฉับพลัน ปีกขนนกสีทองทะลุผ่านมิติคล้ายกับใบมีดทำให้ฝ่ามือคลื่นหลิงแตกเป็นเสี่ยง ๆ

แสงเย็นวูบวาบในดวงตาของมู่เฉิน ก่อนที่เขาจะค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายอย่างเย็นชา

นี่เป็นภาพเงาสีทองที่ก้าวย่างเข้ามาในท่ากอดอก เขาฉายรอยยิ้มเยาะเย้ยบนใบหน้า นี่คือฟังจิ้งจากเผ่าแร้งหงส์ทองคำที่เยาะเย้ยมู่เฉินนอกสระยกเทพ!

ฟังจิ้งกอดอกฉายความดุร้ายในดวงตาขณะจ้องมองไปที่มู่เฉินพร้อมกับเสียงตะเบ็งเยือกเย็นดังก้อง

“ข้าหมายตาแก่นโลหิตชั้นยอดนี้แล้ว ให้เวลาพวกเจ้าสิบลมหายใจ ไสหัวไปซะ!”

 

[1] 鲲 อ่านว่าคุน ปลาขนาดใหญ่ในหนังสือโบราณ

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset