หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1405 ปราบเฉวียนเทียน

การต่อสู้สั่นสะเทือนทวีปเทียนหลัวสิ้นสุดลง

แต่ระลอกคลื่นที่เกิดจากเรื่องนี้กระเทือนไปทั้งทวีปเลยทีเดียว

หากการต่อสู้ระหว่างตำหนักมู่และสามประมุขจักรวรรดิเหนือ ทำให้ชื่อของพวกเขาเพิ่มขึ้น

การต่อสู้ครั้งนี้ก็ดันตำหนักมู่ขึ้นสู่จุดสูงสุดของทวีป โดยมีขั้วอำนาจนับไม่ถ้วนรู้สึกเลื่อมใสพวกเขา

ในอนาคตจักรวรรดิเหนือจะเป็นดินแดนของตำหนักมู่เพียงหนึ่งเดียว ไม่มีใครกล้าละโมบมาคว้าอีกต่อไป สำหรับขั้วอำนาจสูงสุดของทวีปเทียนหลัว พวกเขาก็เริ่มหวาดเกรงมากต่อตำหนักมู่เนื่องจากเรื่องนี้

นั่นเป็นเพราะตำหนักมู่มีจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนและตัดสินจากพลังการต่อสู้ที่น่าตกใจของมู่เฉิน ซึ่งอาจกลายเป็นหนึ่งในขุมกำลังสูงสุดของมหาพันภพ หากไม่ใช่เพราะตำหนักมู่ยังขาดรากฐาน

หากอยู่ในทวีปอื่น พลังในปัจจุบันของมู่เฉินสามารถทำให้เขายึดครองทั้งทวีปเป็นดินแดนของตัวเองได้ โดยไม่มีใครกล้าที่จะคัดค้านแม้แต่คำเดียว

นั่นเป็นเพราะจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนในมหาพันภพคล้ายกับการดำรงอยู่ที่ยอดเยี่ยม เทียบเท่ากับจอมยุทธ์แห่งมหาพันภพ ด้วยการได้รับเกียรติจากการประกาศให้เป็นยอดยุทธ์และปกครองทวีป

แต่ทวีปเทียนหลัวเป็นหนึ่งในมหาทวีปของมหาพันภพ ทรัพยากรที่มีอยู่ก็ยากเกินจินตนาการ แม้แต่ขุมกำลังสูงสุดก็ยังปรารถนา ดังนั้นแม้ว่าจะไม่มีจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนอยู่ แต่ขั้วอำนาจสูงสุดก็มีผู้สนับสนุนพวกเขาอยู่เบื้องหลัง

ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนนี้ แม้ว่าตำหนักมู่จะแสดงอำนาจเหนือคนอื่นๆ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะปกครองทวีปเทียนหลัวทั้งหมด

หากพวกเขาทำจริงก็จะดึงดูดความไม่พอใจของขั้วอำนาจจำนวนมากอย่างแน่นอน คงไม่ง่ายเหมือนถ้ำรัศมีม่วง วิหารเสียงสายฟ้าและถ้ำคัมภีร์มังกร

หากพวกเขาดึงดูดความเกลียดชังมากเกินไป แม้แต่มู่เฉินก็คงจัดการไม่หวาดไหว เว้นแต่ว่ามู่เฉินจะเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่ง การยึดทวีปเทียนหลัวทั้งหมดก็จะเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา

ดังนั้นมู่เฉินจึงมีคำสั่งให้ยึดดินแดนทั้งหมดของจักรวรรดิเหนือเท่านั้น แต่ห้ามมิให้แตะต้องดินแดนอื่น เพราะกลัวว่าจะดึงดูดการต่อต้านจากขั้วอำนาจสูงสุดอื่นๆ

เนื่องจากพื้นที่จักรวรรดิเหนือที่กว้างใหญ่ ตำหนักมู่ก็ต้องใช้เวลาช่วงหนึ่งย่อยเลยทีเดียว…

 

ตำหนักมู่ วังสวรรค์บรรพกาล

ร่างแสงทะยานลงมาบนภูเขาที่ตั้งตระหง่านข้างทะเลสาบสวรรค์ มู่เฉินปรากฏตัวและนั่งลงบนยอดเขา เขามองลงไปก็จะเห็นทะเลสาบสวรรค์ทั่วทุกมุม ราวกับเข็มขัดสีเงินคาดภูเขาสง่างามเอาไว้

แท่นฝึกยุทธ์รอบทะเลสาบมีร่างเงามากมายนั่งอยู่ เมื่อมู่เฉินมาถึงก็ทำให้เกิดความปั่นป่วน ด้วยเหตุนี้จึงดึงดูดทุกสายตาเข้ามา

จอมยุทธ์ที่สามารถมาที่นี่ได้ล้วนแต่เป็นจอมยุทธ์รุ่นใหม่ของสำนักใต้การบังคับบัญชาของตำหนักมู่ นั่นเป็นเพราะมีเพียงจอมยุทธ์รุ่นใหม่เหล่านั้นที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากทะเลสาบสวรรค์

ดังนั้นจึงมีหนุ่มสาวมากมายอยู่รอบๆ ช่างราวกับอยู่ในสรวงสวรรค์

“ดูสิ! นั่นท่านประมุข!”

เมื่อมู่เฉินปรากฏตัว ก็ทำให้สายตาเคารพนับถือจ้องมองมาทันที

“ประมุขน่าเกรงขามอย่างแท้จริง เขาก้าวเข้าสู่ระดับเทียนจื้อจุนในตำนานได้ตั้งแต่อายุยังน้อย กลายเป็นหนึ่งในจอมยุทธ์ที่มีอำนาจสูงสุดในมหาพันภพ…” หญิงสาวหลายคนทำท่าเคลิ้มเมื่อมองดูร่างหล่อเหลาสง่างามพร้อมดวงดาวพริบพราวในดวงตา

“ฮิๆ ไม่ต้องส่งตาหวานขนาดนั้น ท่านประมุขเป็นใคร? เขาจะชอบเราได้ยังไง” หญิงสาวคนหนึ่งหัวเราะเสียงพลิ้ว

ชายหนุ่มคนหนึ่งถึงกับเค้นเสียงขึ้นจมูก “มีข่าวลือว่าประมุขมีคนรักอยู่แล้ว เทพธิดาคนนั้นฝึกฝนร่างเทพวารี ในอนาคตก็จะเป็นธิดาเทพแห่งมหาพันภพ เลิกเพ้อฝันกันได้แล้ว”

ทว่าชายที่พูดก็โดนถลึงตามองโดยหญิงสาวรอบๆ

ช่วงเวลานี้รอบทะเลสาบสวรรค์จึงปั่นป่วนนัก

แม้ว่าภูเขาจะอยู่ห่างไกลจากทะเลสาบสวรรค์พอสมควร แต่มู่เฉินก็ยังได้ยินเสียงหัวเราะจากกลุ่มคนเหล่านั้น ซึ่งเขาไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

แต่เมื่อมองไปที่จอมยุทธ์รุ่นใหม่เขาก็ระลึกถึงอดีต เขานึกถึงช่วงเวลาที่อยู่ในสำนักศึกษาเป่ยชาง ตอนที่เขาได้รับการฝึกฝนก็ไม่ต่างอะไรจากพวกเขาไม่ใช่เหรอ?

เขายิ้มค่อยๆ สงบใจลงจากนั้นประกายแสงก็พวยพุ่งออกมาจากนัยน์ตา กลายเป็นเจดีย์ผลึกแก้วใส

หลายวันที่ผ่านมาเขาอยู่ในตำหนักมู่ หลังจากที่ตำหนักมู่เข้าควบคุมดินแดนจักรวรรดิเหนือทั้งหมด เขาถึงได้มีเวลามาที่วังสวรรค์บรรพกาล เนื่องจากตอนนี้ถึงเวลาที่เขาต้องจัดการกับปัญหาในเจดีย์ก่อน

ตอนที่เขาสู้กับเฉวียนเทียนเมื่อไม่กี่วันก่อน เขาได้ผนึกอีกฝ่ายไว้ในเจดีย์แต่ไม่ได้เอาชนะ ดังนั้นตอนนี้เมื่อเขามีเวลาว่างก็ต้องจัดการกับปัญหานี้ก่อน ไม่เช่นนั้นเขาจะไม่สามารถใช้เจดีย์ต่อสู้กับคนอื่นได้

ขณะที่เจดีย์ลอยอยู่ตรงหน้ามู่เฉินก็เปล่งแสงศักดิ์สิทธิ์ออกมา

ภาพเงาของมู่เฉินเคลื่อนไหวกลายเป็นริ้วแสงทะยานเข้าไปในเจดีย์

เขากวาดสายตาไปโดยรอบ เกลียวแสงตกผลึกในเจดีย์ก็กำจายรัศมี ก่อร่างหมู่ผลึกดาวอัญมณีเต็มท้องฟ้าโดยมีภาพเงานั่งอยู่ภายใน กำลังใช้คลื่นหลิงในการต้านทาน

เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาของมู่เฉินที่จ้องมองมา ภาพเงานั้นก็ลืมตาโพลงด้วยใบหน้าเขียวคล้ำ ชายคนนี้ก็คือเฉวียนเทียนซึ่งถูกปราบอยู่ภายในเจดีย์

มู่เฉินไม่ได้สนใจใบหน้าของเฉวียนเทียน แต่กลับมองเจดีย์ด้วยความสนใจ ตั้งแต่เขาบรรลุระดับเทียนจื้อจุน เจดีย์ก็เกิดการเปลี่ยนไปเช่นกัน

ทุกเกลียวผลึกแสงที่ออกมาจากเจดีย์บรรจุด้วยสัญลักษณ์โบราณนับไม่ถ้วนที่มีความสามารถในการปิดผนึกที่ทรงพลัง

ดังนั้นแม้ว่าเฉวียนเทียนจะทรงพลัง ก็ได้แต่ต้องติดแหง็กอยู่ในนั้น ทุกครั้งที่เขาใช้คลื่นหลิง เขาก็จะต้องทนทุกข์ทรมานจากการห่อหุ้มของพลังปิดผนึกเพื่อยับยั้งคลื่นหลิงของเขาอีกที

“ความสามารถในการปิดผนึกของเจดีย์สามารถจัดการกับจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนได้แล้วเหรอ?” สายตาของมู่เฉินวูบไหว เจดีย์ของเขาไม่มีความสามารถเช่นนี้ในอดีต

“เผ่าฝูถูมีเอกลักษณ์จริงๆ สำหรับการยืนเป็นหนึ่งในห้าเผ่าโบราณแห่งมหาพันภพได้ ความสามารถในการปิดผนึกนี้ครอบงำอย่างแท้จริง” มู่เฉินถอนหายใจในใจ หากไม่มีเจดีย์คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่เขาจะกักขังเฉวียนเทียนเอาไว้ได้

“ตาเฒ่าเฉวียนเทียนสะดวกสบายในเจดีย์ของข้าไหม?” มู่เฉินจ้องเฉวียนเทียนด้วยรอยยิ้มอ่อน

ใบหน้าของเฉวียนเทียนดำคล้ำ ขณะที่เขาอยากจะระเบิดความเกรี้ยวกราด แต่ก็ต้องระงับและยอมจำนนต่อความอัปยศอดสู “ข้ายอมรับความพ่ายแพ้ ข้าผิดขอโทษตำหนักมู่ของเจ้าด้วย ข้าจะชดเชยให้ตราบใดที่เจ้าปล่อยข้าออกไปว่ายังไงล่ะ?”

เมื่อต้องรอความเมตตาของใครบางคน ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากก้มหน้ารับชะตากรรม ดังนั้นเขายอมแพ้หลังจากถูกมู่เฉินขังไว้ที่นี่

มู่เฉินยิ้มบาง “เจ้าเกือบทำลายตำหนักมู่ของข้า เจ้าคิดว่าค่าทำขวัญแบบนั้นสามารถชดเชยความสูญเสียได้เหรอ?”

เฉวียนเทียนหัวร้อนทันที “เจ้าต้องการอะไร? ข้าไม่ได้ฆ่าคนตำหนักมู่สักคนเลยนะ!”

สายตามู่เฉินกะพริบด้วยแสงเย็นเยือกขณะที่ตอบว่า “ถ้าเจ้าทำ ข้าคงบี้เจ้าให้ตายตอนนี้เลย!”

เมื่อรู้สึกถึงเจตนาฆ่าในคำพูดของมู่เฉิน เฉวียนเทียนก็รู้สึกหนาวสั่นในหัวใจ เขารู้ว่าตอนนี้มู่เฉินสามารถทำเช่นนั้นได้ ตราบใดที่เขาอยู่ในเจดีย์ ก็เป็นไปได้ที่จะปราบเขาไว้นานเท่านานจนกว่าความตายจะมาเรียกเขา

เมื่อนึกถึงผลลัพธ์แบบนั้น เฉวียนเทียนก็อดกลืนน้ำลายอึกใหญ่ไม่ได้ ก่อนที่ใบหน้าเขาจะเปลี่ยนเป็นมิตร “พี่ชายน้อยมู่ทำไมต้องทำขนาดนี้ด้วย เอาจริงเราก็ไม่มีความขุ่นเคืองใดๆ ต่อกัน ข้าแค่ถูกขอร้องโดยตาเฒ่าเฮยกวางเพื่อมาสร้างปัญหาให้กับเจ้า”

“เจ้าต้องการอะไรถึงจะยอมปล่อยข้าไป? ตราบใดที่ข้าทำได้ ข้าจะไม่ปฏิเสธแน่นอน!”

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นมู่เฉินก็หรี่ตา ตาแก่เฮยกวางจริงด้วยรึ? แต่เรื่องนี้คงไม่ได้ทำคนเดียวแน่ เนื่องจากเขามีตระกูลเฉวียนทรงพลังคอยหนุนหลังอยู่

“ก็ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะปล่อยเจ้าไป” มู่เฉินจ้องไปที่เฉวียนเทียนพลางกล่าว

แม้ว่าเขาจะสามารถจัดการเฉวียนเทียนได้โดยใช้ทั้งหมด แต่ก็ไม่เป็นประโยชน์สำหรับเขา

เมื่อได้ยินคำพูดของมู่เฉิน เฉวียนเทียนก็ดีใจ “เงื่อนไขของเจ้าคืออะไร?”

มู่เฉินยิ้ม “ถ้าเจ้ายอมสัญญาว่าจะเป็นผู้อาวุโสของตำหนักมู่ของข้าสักร้อยปี ข้าก็จะตัดหนี้ออกให้ในวันนี้”

“อะไรนะ?!” เฉวียนเทียนเบิกตากว้าง ใบหน้าบิดเบี้ยวจนน่าเกลียด “ข้ามีความสุขกับอิสระ ทำไมต้องถูกควบคุมโดยเจ้าด้วย!”

เขาเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุน เงื่อนไขนี้ไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องเป็นทาสของมู่เฉินหรือ?

มู่เฉินไม่แปลกใจกับปฏิกิริยาที่รุนแรงของอีกฝ่ายก็พูดขึ้นเบาๆ “ตำหนักมู่ของข้าจะจัดพิธีเชิญเจ้าในฐานะผู้อาวุโส นอกจากนี้ข้าจะไม่สั่งให้เจ้าไปไหนมาไหน ขอแค่อยู่ในตำหนักมู่เป็นเวลาหนึ่งร้อยปีเพื่อปกป้องมัน”

เฉวียนเทียนขมวดคิ้วและเริ่มลังเล

“ถ้าเจ้าไม่เต็มใจข้าก็ไม่บังคับนะ”

มู่เฉินหลุบตา ทว่าความเย็นชาสะสมในม่านตา “แต่เราก็ต้องชำระหนี้ระหว่างกัน”

ขณะที่พูดมือเขาก็ประสานเข้าหากัน เจดีย์สั่นสะท้านก่อนที่ผลึกแสงจะเปล่งประกาย

เมื่อเห็นการกระทำของมู่เฉิน หัวใจของเฉวียนเทียนก็สั่นสะท้าน เขากัดฟัน “สามสิบปี! ข้าจะเป็นผู้อาวุโสของตำหนักมู่ของเจ้าเป็นเวลาสามสิบปี ถ้าใครกล้ามาหาเรื่องภายในกรอบเวลานี้ข้าจะช่วยสุดกำลัง!”

เขาตระหนักดีว่ามู่เฉินเป็นคนเด็ดเดี่ยวและเด็ดขาดแค่ไหน ถ้าคุยกันไม่ลงตัว อีกฝ่ายฆ่าเขาแน่นอน

เมื่อได้ยินคำพูดของเฉวียนเทียนรอยยิ้มอบอุ่นก็ปรากฏบนใบหน้ามู่เฉินพลางพยักหน้าให้

“ตกลง”

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset