หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1403 ไม่ยอมอ่อนข้อ

“โปรดยั้งมือ!”

เสียงแกร่งกร้าวสามเสียงดังก้อง พร้อมกับพลังมหาศาลสามสายทะลุมิติยับยั้งเจดีย์ผลึกแก้วใสเพื่อช่วยเหลือเฉวียนเทียน

การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันทำให้หลายคนตกตะลึงกับสถานการณ์ เนื่องจากพวกเขาสามารถบ่งบอกตัวตนของคนเหล่านั้นได้จากการเรียกขานของเฉวียนเทียนแล้ว

จื่อชี่จากถ้ำรัศมีม่วง!

เหลยจุนเจ่อจากวิหารเสียงสายฟ้า!

หลงเตียวจากถ้ำคัมภีร์มังกร!

ทั้งสามขุมกำลังนี้เป็นขั้วอำนาจชั้นสูงในมหาพันภพ ซึ่งคนที่เคลื่อนไหวในครั้งนี้ก็คือจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนจากขั้วอำนาจสูงสุดทั้งสาม!

ตามกฎของทวีปเทียนหลัว ไม่อนุญาตให้จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนเข้าร่วมชิงชัยในทวีปนี้ แต่เห็นได้ชัดว่าทั้งสามไม่สามารถรั้งตัวเองได้อีกต่อไป

เมื่อพวกเขาเห็นว่ามู่เฉินทรงพลังเพียงใด หากพวกเขายอมให้ชายหนุ่มจัดการเฉวียนเทียนละก็จะไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้ จักรวรรดิเหนือทั้งหมดก็จะอยู่ในมือของตำหนักมู่

งานหนักทั้งหมดที่พวกเขาทำมาหลายปีก็จะละลายลงไปกับสายน้ำ

ดังนั้นพวกเขาต้องหาโอกาสที่จะยับยั้งแรงผลักดันของมู่เฉิน

ตามการคาดการณ์พวกเขาน่าจะสามารถจัดการกับมู่เฉินได้ ตราบใดที่พวกเขาทั้งสี่ร่วมมือกัน

“พวกท่านผู้อาวุโสเคลื่อนไหวแล้ว!”

เมื่อพวกประมุขจักรวรรดิเหนือทั้งสามเห็นฉากนี้ ความปีติยินดีก็กระจายบนใบหน้า จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนสามคนจะทำให้พวกเขาสามารถพลิกสถานการณ์นี้ได้ แม้แต่มู่เฉินก็ต้องถอยห่างจากการรวมตัวนี้!

เมื่อมองไปที่จอมยุทธ์ทั้งสามที่ทะยานมาจากระยะไกล ม่านตาสีดำของมู่เฉินก็กะพริบด้วยไอหนาวเย็น เขารู้โดยธรรมชาติเกี่ยวกับความตั้งใจของทั้งสามได้

“ในอดีตข้ายังไว้หน้าพวกเจ้า ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมข้าถึงยอมละมือ แต่ตอนนี้พวกเจ้าแส่เข้ามายุ่ง ก็อย่ามาโทษข้านะ”

มู่เฉินเค้นเสียงเย็นพลางก้าวออกไปปรากฏตัวเหนือเจดีย์ มือข้างหนึ่งสร้างตราประทับ แสงสีม่วงทองไร้ขอบเขตก็ระเบิดออกมา ร่างเงาขนาดใหญ่ก็ก่อตัวขึ้นข้างหลังเขาในพริบตา

ร่างเทพสุริยะนิรันดร์!

ตอนนี้ร่างเทพสุริยะนิรันดร์แข็งแกร่งกว่าก่อนที่มู่เฉินจะบรรลุระดับนี้ไม่รู้กี่เท่า แม้แต่ขนาดที่แท้จริงก็ยังขยายไปถึงสิบกว่าเท่าจากหนึ่งพันจั้งเป็นหลายหมื่นจั้งเห็นจะได้

นอกจากนี้แสงสีม่วงทองบนร่างเทพสุริยะนิรันดร์ยังได้รับการขัดเกลา หากในอดีตร่างเทพสุริยะนิรันดร์เป็นเพียงร่างลวงตา เวลานี้ก็คือพระพุทธรูปยักษ์แท้จริง!

ร่างเทพสุริยะนิรันดร์ขนาดมหึมาสลักด้วยอักขระโบราณบนตัว เปล่งประกายด้วยรัศมีอมตะ ราวกับว่ากาลเวลาไม่สามารถกัดกร่อนได้

เมื่อร่างเทพสุริยะนิรันดร์ปรากฏขึ้นด้านหลังมู่เฉิน มันก็เปิดปากและสายธารสีม่วงทองพุ่งออกมา ทำให้มิติถึงกับพังทลายลงจากแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง

มู่เฉินมองสายธารเชี่ยวกรากพลางพยักหน้าเบาๆ แม่น้ำนี้ถูกสร้างขึ้นจากรหัสเทพอมตะ ตามการประมาณของเขา จำนวนลวดลายที่สามารถสร้างได้ครั้งนี้มีถึงสี่ร้อยแปดสิบลายเลยทีเดียว

ต้องรู้ว่าขนาดมู่เฉินหลอมรวมกับร่างรองก่อนจะบรรลุระดับเทียนจื้อจุน เขาก็สามารถสร้างได้เพียงสามร้อยลายเท่านั้น

แต่ตอนนี้ร่างเทพสุริยะนิรันดร์สามารถปลดปล่อยรหัสเทพอมตะได้เกือบห้าร้อยลวดลาย เห็นได้ว่าพลังของเขาเพิ่มขึ้นมากเพียงใด

เพราะยิ่งหลังๆ รหัสเทพอมตะทุกลวดลายก็จะต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการสร้าง ไม่ต้องคิดถึงเกือบสองร้อยลายเลย…

ขณะที่แม่น้ำสีม่วงทองพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าก็คดโค้งไปตามรูปแบบที่มู่เฉินต้องการ ก่อร่างเป็นมังกรทองโหดร้าย

โฮก!

มังกรปลดปล่อยเสียงคำรามสั่นสะท้านชั้นฟ้า

ฟิ้ว!

มังกรทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยอานุภาพไร้ขอบเขตปะทะกับพลังยิ่งใหญ่สามสายที่พุ่งลงมา

จังหวะที่ปะทะกันนั้นสวรรค์และโลกก็เงียบกริบลง แม้ว่าจะไม่มีเสียงรบกวนทำให้พื้นดินโยกคลอน แต่มิติก็เริ่มถล่มลงบนท้องฟ้า ก่อนที่จะค่อยๆ ก่อตัวเป็นหลุมดำที่มีขนาดแสนจั้ง…

มังกรและพลังยิ่งใหญ่ทั้งสามสายถูกลบออกจากการปะทะกันนี้

เฮือก!

หลายคนอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงคอด้วยความหวาดผวาพล่านในดวงตา ไม่มีใครคิดว่ามู่เฉินจะสามารถต้านทานการโจมตีจากจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนสามคนได้

“เป็นไปได้ยังไง?!”

ประมุขจักรวรรดิเหนือทั้งสามตกตะลึง แม้ว่าจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนสามคนจะไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดออกมา ทว่าพวกเขาก็ยังได้เปรียบด้านจำนวน แต่ตอนนี้พวกเขาถูกมู่เฉินคนเดียวต้านได้ ดังนั้นแสดงให้เห็นว่ามู่เฉินมีความแข็งแกร่งปานใด

“หึ ใครกล้าท้าทายในพื้นที่ตำหนักมู่จะต้องถูกตำหนักมู่ของข้าจัดการ นี่ไม่ใช่ธุระกงการของพวกแก!” มู่เฉินยืนอยู่บนเจดีย์พร้อมสาดสายตาเย็นชา เสียงของเขาก็ดังก้องไปทั่วขอบฟ้าสอดแทรกด้วยพลังที่น่ากลัว

ทั่วบริเวณเงียบ ราวกับว่าจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนทั้งสามยังตกใจกับพลังของมู่เฉิน

ทว่ามู่เฉินไม่สนใจพวกเขา เขากระทืบเท้าบนเจดีย์ เจดีย์สั่นสะเทือนระเบิดผลึกแสงออกมาห่อหุ้มเฉวียนเทียนเอาไว้

“อ้ากๆๆๆ!”

เฉวียนเทียนร้องลั่นขณะที่ร่างเหนือสวรรค์จางลง ก่อนที่จะถูกดูดเข้าไปในเจดีย์

เจดีย์ตั้งตระหง่านอยู่ในอากาศเปล่งแสงศักดิ์สิทธิ์ออกมา ความกลัวทุกสายตาจับจ้องมองมา

เนื่องจากฉากจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนถูกปราบต่อหน้าช่างน่าตกใจแท้จริง

“ประมุขมู่!”

“ประมุขมู่สุดยอด!”

ความเงียบคงอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะมีเสียงคำรามที่ทำให้หูดับดังก้องไปทั่ว ทั้งตำหนักมู่เต็มไปด้วยเสียงโห่ร้องยินดี ดวงตาของพวกเขาอัดแน่นด้วยความเคารพขณะมองไปที่มู่เฉิน

ตำหนักมู่ถูกเฉวียนเทียนเหยียบหัวมานาน แต่ใครจะไปคิดว่าประมุขจะกลับมาอย่างทรงพลังเช่นนี้ กระทั่งสามารถจัดการกับจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนได้

ความสำเร็จนี้ทำให้ทุกคนในตำหนักมู่รู้สึกภาคภูมิใจในหัวใจ

ด้วยประมุขคนนี้ใครจะกล้าท้าทายตำหนักมู่ของพวกเขาในจักรวรรดิเหนือ? หรือแม้แต่ทวีปเทียนหลัว?

ขณะที่ตำหนักมู่ส่งเสียงร้อง ขั้วอำนาจอื่นๆ ก็มีใบหน้าดิ่งลง เพราะพวกเขาเป็นสำนักที่เลือกแยกตัวออกจากตำหนักมู่ เมื่อพวกเขาเห็นว่าตำหนักมู่ถูกปราบไว้ พวกเขาไม่มีความคิดที่จะยืนร่วมกับคนอ่อนแอต่อไป

ตอนแรกพวกเขาคิดว่าตำหนักมู่จะไม่สามารถช่วยตัวเองได้ในวันนี้ แต่ใครจะคิดว่าเหตุการณ์จะกลับตาลปัตรแบบนี้

“เราตายแน่… ในอนาคตไม่มีที่สำหรับเราในจักรวรรดิเหนืออีกต่อไป” ใบหน้าของพวกเขาซีดเผือดจนไม่น่าดู

เมื่อได้ยินเสียงโห่ร้อง มู่เฉินก็ยื่นมือออกไป เจดีย์หดตัวลงตกบนฝ่ามือของเขา

มู่เฉินเหลือบตามองเจดีย์ ตอนนี้เขาได้เปิดใช้งานวิชาเจดีย์แปดองค์เพื่อปราบเฉวียนเทียนไว้ภายใน เนื่องจากยังไม่ถึงเวลาที่จะจัดการอีกฝ่าย

มู่เฉินถือเจดีย์ในมือพลางเงยหน้าขึ้น เสียงสงบนิ่งสะท้อนออกไป “ในเมื่อพวกเจ้าทั้งสามเคลื่อนไหวก็แสดงตัวออกมา การซ่อนตัวไม่ใช่วิถีของจอมยุทธ์ระดับเทียนจื้อจุน”

เมื่อเสียงของมู่เฉินดังก้อง เสาแสงสามเสาก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้า กลายเป็นร่างเงาสามร่าง

เพียงแค่ยืนอยู่ที่นั่น รัศมีของพวกเขาก็ทำให้มิติแปรปรวน

เห็นได้ชัดว่าทั้งสามคนก็คือจื่อชี่ เหลยจุนเจ่อและหลงเตียวที่ปะทะกันก่อนหน้านี้

ตอนนี้ใบหน้าของทั้งสามไม่น่าดูเลย พวกเขาไม่คิดมาก่อนว่าไม่เพียงแต่จะไม่สามารถช่วยเฉวียนเทียนจากมือของมู่เฉินได้ แต่กลับถูกลูบคมด้วย

ทว่ามู่เฉินก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับใบหน้าเหี่ยวย่นไม่น่าดู เขากล่าวว่า “เฉวียนเทียนกำเริบคิดจะปราบตำหนักมู่ของข้าคงได้รับการสนับสนุนจากพวกเจ้าทั้งสามด้วยใช่ไหม? วันนี้พวกเจ้าต้องมีคำอธิบายกับข้า”

เมื่อได้ยินคำพูดของมู่เฉิน ทั้งสามก็หดดวงตาก่อนที่หลงเตียวจะเอ่ยเยาะ“โอ้? ตำหนักมู่ต้องการคำอธิบายอะไรจากเรา?”

“จากนี้ไปจักรวรรดิเหนือเป็นของตำหนักมู่เพียงผู้เดียว ใครไม่คิดสวามิภักดิ์ก็ไสหัวไป” มู่เฉินหลุบตาลงขณะที่ตอบอย่างสบายๆ

หลายคนตัวสั่นสะท้านจากคำพูดเหล่านั้น กระทั่งจอทยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนทั้งสามก็ออกอาการโกรธเกรี้ยว พวกเขาไม่คิดว่ามู่เฉินจะหยิ่งผยองแม้แต่ต่อหน้าพวกเขา

“คำพูดของประมุขมู่เกินไปรึเปล่า…” จื่อชี่ขมวดคิ้วขณะที่พูด

หลงเตียวหัวร้อนฉ่าอยู่แล้ว ดังนั้นจึงตอกเสียงเย็นชาใส่ว่า “เจ้าจะทำอะไรได้ถ้าเราไม่เต็มใจ”

“ทำอะไรได้เหรอ?”

ไอสังหารพวยพุ่งสูงขึ้นรอบตัว ร่างรองทั้งสองก็ทะยานออกไป มู่เฉินทั้งสามก็มองไปที่จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนทั้งสามอย่างเย็นชา

ทั่วฟ้าดินเงียบกริบ ทุกคนสามารถสัมผัสได้ถึงรังสีสังหารในดวงตาของชายหนุ่ม เห็นได้ชัดว่าเขาโกรธเฉวียนเทียนมากที่บังอาจมากลั่นแกล้งตำหนักมู่ถึงเพียงนี้

เพื่อข่มขู่คนทั้งทวีปเทียนหลัว เขาก็ไม่ยอมแม้จะเผชิญหน้ากับจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนสามคนก็ตาม

ภายใต้สายตาที่ตกตะลึง มู่เฉินก็ยิ้มน้ำเสียงเย็นชาสะท้อนออกมา

“ข้าจะทำอะไรได้? งั้นมาประลองกันว่าใครจะอยู่และใครจะตาย”

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset