หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1343 วิชาช่องแสงวิญญาณ

แสงหลิงกำจายระหว่างสวรรค์และโลก

ก่อนที่ร่างสง่างามจะปรากฏขึ้นในสนามรบ ทันใดนั้นทั้งสนามรบก็เหมือนจะหยุดชะงัก สายตานับไม่ถ้วนพุ่งมาที่ร่างเทห์สวรรค์ที่งดงาม ความอัศจรรย์ใจใจวูบไหวในดวงตาแต่ละคู่

ภาพเงาของลั่วหลียืนอยู่ตรงหน้าร่างเทพวารีก็เปล่งรัศมีหลิงห่อหุ้มกายเอาไว้ เรือนผมราวกับแม่น้ำสีเงินกระเพื่อมไหวโดยไม่มีสายลมพัดผ่าน กระโปรงของนางพลิ้วสะบัด ทำให้นางดูน่าทึ่งมาก

“ลั่วหลีงดงามนัก!” เวินชิงเฉวียนเอ่ยชม ยามนี้ลั่วหลีมองดูเหมือนภาพสะท้อนของลั่วเสินด้วยใบหน้าที่เปล่งประกาย แม้แต่รูม่านตาของนางก็ดูโปร่งใสมากขึ้น

ความงามของนางสยบทั้งสนามรบ แม้แต่เวินชิงเฉวียนและไป๋ซินเอ๋อก็ดูหมองลงเมื่อเปรียบเทียบกับนางในขณะนี้

“ช่างงดงามจริงๆ…”

จอมยุทธ์รอบตัวไป่ซินเอ๋อมองไปที่ลั่วหลีด้วยสายตาที่มึนเมาขณะที่อุทานลั่น

รอยยิ้มบนใบหน้าไป๋ซินเอ๋อแข็งกระด้างลงหลายส่วน ขณะที่มองไปที่ภาพเงางดงามชั่วครู่ ก่อนที่คำพูดจะเปล่งออกมาทีละคำ “ร่างเทพวารีแห่งลั่วเสิน?!”

ในฐานะเสมือนธิดาเทพเผ่าไท่หลิง นางมีความรู้มากมายจึงจดจำได้ในทันที ร่างเทพวารีเป็นวิชาที่โด่งดังที่สุดในมหาพันภพภายใต้ความงดงาม!

เพราะนอกจากนี่จะเป็นร่างเทห์สวรรค์ที่งดงามที่สุดในมหาพันภพยังมีพลังอันยิ่งใหญ่ คงมีแต่เทพเซียนเท่านั้นที่รู้ว่ามีหญิงสาวกี่คนที่ใฝ่ฝันที่จะฝึกฝน

ไป่ซินเอ๋อก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน

ดังนั้นเมื่อนางเห็นว่าลั่วหลีได้ฝึกฝนร่างเทพวารี แม้แต่คนอย่างนางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉานิดๆ หากนางสามารถฝึกฝนร่างเทห์สวรรค์แบบนั้นได้ นางจะกลายเป็นจอมยุทธ์หญิงที่เจิดจรัสที่สุดในอนาคตอันใกล้ของมหาพันภพ

“แต่นางนำมันออกมาเพื่ออะไร?” ไม่นานไป๋ซินเอ๋อก็มุ่นคิ้วก่อนจะพึมพำกับตัวเอง ดูเหมือนว่านางจะไม่รู้เรื่องระหว่างไท่หลิงและลั่วเสินเท่าไร

ทว่าถึงจะเป็นจุดรวมสายตาผู้คนโดยรอบ ลั่วหลีก็ไม่ได้สนใจ นางค่อยๆ เชื่อมโยงตัวเองกับร่างเทพวารี จากนั้นร่างเทพวารีก็ระเบิดเกลียวแสงพร่างพราวออกมานับไม่ถ้วน ขณะที่แสงหลิงกระจายออกก็พุ่งเข้าหาแท่นบูชาอย่างรวดเร็ว ปรากฏที่ด้านบนก่อนที่จะเทลงบนศิลาโบราณ

เมื่อแสงหลิงของร่างเทพวารีแตะต้อง ศิลาหินก็เริ่มสั่นสะเทือนรุนแรง

การสั่นสะเทือนนั้นไม่เหมือนกับของไป่ซินเอ๋อ มันรุนแรงและรุนแรงมากขึ้น เสียงก็แรงกล้ายิ่งขึ้น

เมื่อไป่ซินเอ๋อเห็นฉากนี้ หัวใจของนางก็ดิ่งลง นี่ช่างเกินความคาดหมายไปไกล นางไม่เคยคิดมาก่อนว่าร่างเทพวารีของลั่วหลีจะทำให้เกิดปฏิกิริยาสะท้อนกลับรวดเร็วเช่นนี้จากศิลาโบราณ

“แม่นางซินเอ๋อเราจะทำอย่างไรดี?” จอมยุทธ์ที่อยู่รอบตัวนางอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม

ขณะที่สายตาวูบไหว ไป๋ซินเอ๋อก็ถอนหายใจ “ดูเหมือนว่าครั้งนี้ข้าด้อยกว่านางไปเอง”

นางกัดริมฝีปากทำให้ดูน่าสงสารอย่างยิ่ง จอมยุทธ์โดยรอบรู้สึกปวดใจแทนนาง จากนั้นพวกเขากล่าวว่า “อย่าเพิ่งรีบร้อน เราสามารถขัดขวางพวกเขาไว้ ขณะที่แม่นางซินเอ๋อขึ้นไปบนแท่นบูชาเพื่อปลุกผู้อาวุโสไท่หลิง”

แววตาไป๋ซินเอ๋อฉายประกายความสุขวูบไหวแต่กลับส่ายหัว “ข้าจะปล่อยให้พวกเจ้าเสี่ยงอันตรายได้ยังไง? รอบตัวลั่วหลีเต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญเช่นกัน”

“ฮ่าๆ ก็แค่จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มสองคนไม่มีอะไรต้องกลัว” ชายหนุ่มที่พูดกับไป๋ซินเอ๋อหัวเราะด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความมั่นใจ เนื่องจากฝั่งพวกเขาจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มถึงสี่คน

“ลุยกันเลย!”

เห็นได้ชัดว่าเขามีความสุขมากกับสายตาชื่นชมที่มาจากไป่ซินเอ๋อ จากนั้นเขาก็โบกมือและจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มสามคนก็ทะยานออกไปมุ่งหน้าไปยังทิศทางของลั่วหลี

มองไปที่ภาพเงาของพวกเขาริมฝีปากของไป่ซินเอ๋อก็ยกขึ้น ก่อนที่นางจะมองไปที่ลั่วหลี จากนั้นก็หันกลับพุ่งตัวออกไป มุ่งหน้าไปที่แท่นบูชา

“ระวัง!”

เวินชิงเฉวียนและคนอื่นๆ รับรู้ทันทีเมื่อจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มสี่คนพุ่งเข้ามาในทิศทางของพวกเขาจึงรีบตะโกนเตือน

“พวกมันรนหาที่ตายจริงๆ!”

หลงเซี่ยงเค้นเสียงเย็นชาพุ่งตัวนำหน้าออกไป มังกรพลายคำรามรอบตัวมาพร้อมกับพลังอำนาจอันน่าสะพรึง พุ่งเข้าใส่จอมยุทธ์สี่คนจังใหญ่

เวินซื่อหยู่ตามมาอย่างรวดเร็ว ที่เบื้องหลังเกลียวแสงหลิงเปล่งประกายออกมาจากในแขนเสื้อของหลิงซีก่อนที่ค่ายกลทรงพลังจะก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ

ขณะที่หลิงซีและคนอื่นๆ เข้าโรมรันกับจอมยุทธ์ทั้งสี่ ลั่วหลีก็ไม่ได้วอกแวกกับสถานการณ์นี้ นางมุ่งเน้นไปที่การควบคุมร่างเทพวารี ระลอกคลื่นหลั่งไหลเข้าสู่เสาที่สั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง

ฮึ่ม ฮึ่ม

การสั่นสะเทือนทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

ไม่กี่นาทีต่อมาก็หยุดลง เมื่อมองฉากนี้ไป๋ซินเอ๋อซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปที่แท่นบูชาก็รู้สึกดีใจ แต่ก่อนที่ความสุขจะกระจายบนใบหน้า นางก็เห็นลำแสงโบราณไร้ขอบเขตทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าจากศิลาบนแท่น

แสงกลั่นตัวก่อร่างภาพเงาวัยกลางคนที่มีใบหน้าที่เข้มงวด แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีรูปลักษณ์หล่อเหลา แต่เขาก็ให้บรรยากาศแบบผ่านประสบการณ์ชีวิตมาแบบโชกโชนรอบตัว

เมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นก็มองทางร่างเทพวารี ก่อนที่ความปรารถนาจะลุกโชนในดวงตา “ไม่คิดเลยว่าหลังจากผ่านไปหลายหมื่นปีจะได้พบกับเทพธิดาอีกครั้ง”

แม้ว่าสายตาจะจับจ้องไปที่ร่างเทพวารี แต่ชัดว่าภาพที่ปรากฏในใจกลับเป็นร่างเงาในความทรงจำที่ห่างไกล

เมื่อมองไปที่ภาพเงานั้น เสียงของลั่วหลีก็ดังขึ้น “ผู้อาวุโสไท่หลิง หนึ่งในสี่ชั้นของเจดีย์สี่เทวะถูกล้างบางไปแล้ว โปรดให้ความช่วยเหลือแก่พวกเราในการทำลายล้างปีศาจ!”

ภาพเงาของผู้อาวุโสไท่หลิงไปปรากฏที่เบื้องหน้าลั่วหลีทันที สายตามองไปก่อนที่สีหน้าจะเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนทันที “เจ้ามีความสัมพันธ์อะไรกับลั่วเสิน?”

“นางเป็นบรรพบุรุษของข้า” ลั่วหลีตอบด้วยมารยาท

“มิน่ารูปลักษณ์ของเจ้าถึงคล้ายคลึงกับนางมาก” ไท่หลิงยิ้มพร้อมกับจ้องมองใบหน้าของลั่วหลีด้วยความรู้สึกลึกซึ้งในดวงตา ทว่าลั่วหลีรู้ดีว่านี่ไม่ใช่สำหรับนาง แต่เป็นลั่วเสิน

“ไม่คิดว่าวันหนึ่งสภาวะหลับใหลของข้าจะถูกปลุก… และคนที่ปลุกก็คือลูกหลานของนาง นางมักจะพูดเสมอว่าเราไม่มีโชคชะตาต่อกัน แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นอย่างนั้น” ไท่หลิงยิ้มอ่อนโยน

ลั่วหลีแอบแลบลิ้น ดูเหมือนว่านี่เป็นหนึ่งในผู้ไล่ตามบรรพบุรุษของนางและล้มเหลว

แต่โชคดีที่เจตจำนงของไท่หลิงไม่ได้ระลึกถึงอดีตมากเกินไป เขาหันไปมองรอบๆ เมื่อเห็นเผ่าปีศาจอยู่ทั่วทุกหนแห่งตรงแท่นบูชา ใบหน้าของเขาก็ดิ่งลง

“เจตจำนงของผู้อาวุโสเชียงถูกทำลายแล้วเรอะ ชั้นหนึ่งของเจดีย์สี่เทวะก็ล้มสลายลงแล้ว” สายตาของไท่หลิงวูบไหวจากนั้นก็หยุดชั่วครู่ ก่อนที่เขาจะอุทานด้วยความตกใจ “เศษวิญญาณจอมปีศาจเทียนเสี่ยเจียงถูกทำลาย? วิธีการของตาแก่ฝูถูรวดเร็วเด็ดขาดขนาดนั้นเชียวเหรอ?”

เมื่อลั่วหลีได้ยินหัวใจก็สั่นไหว เศษวิญญาณจอมปีศาจเทียนเสี่ยเจียงในชั้นของผู้อาวุโสฝูถูถูกทำลายเหรอ?

“มู่เฉินแน่!” แม้ว่านางจะยังไม่ทราบข้อมูลแน่ชัด แต่นั่นคือสิ่งที่ลั่วหลีใช้สัญชาตญาณผู้หญิงวัด งานนี้มู่เฉินเป็นคนทำแน่นอน

“แม่นางน้อยปลุกข้าได้ให้ทันเวลา มิฉะนั้นหากเศษวิญญาณของจอมปีศาจระดับเทียนเป็นอิสระ ผลลัพธ์ของชั้นนี้ก็คงเป็นเช่นเดียวกับตาแก่เชียงแน่นอน” ไท่หลิงยิ้มให้ลั่วหลี ในบรรดาบรรพบุรุษทั้งสี่ เขาเป็นคนที่ได้รับบาดเจ็บมากที่สุด ดังนั้นเจตจำนงจึงอ่อนแอที่สุดเช่นกัน ถ้าเศษวิญญาณจอมปีศาจระดับเทียนจากชั้นของเขาถูกปลดปล่อยออกไปละก็ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำเหมือนกับฝูถูที่ลบวิญญาณออกไปตลอดกาล

ไท่หลิงเหยียดนิ้วออกแตะลงเบาๆ ที่หว่างคิ้วของลั่วหลี แสงกำจายจากปลายนิ้วเทลงไป

“ฮึ่ม!”

เมื่อแสงหลิงหลั่งไหลเข้ามา ร่างลั่วหลีก็สั่นสะท้าน คลื่นหลิงกลุ่มใหญ่คำรามอยู่ภายในร่างกาย ทว่าพลังงานนี้ไม่ใช่สิ่งที่เป็นของนาง

“ช่วยข้าทำความสะอาดชั้นนี้หน่อยเถอะ”

ไท่หลิงมองไปที่ลั่วหลีอย่างลึกซึ้ง ความระลึกถึงลุกโชนในดวงตาอีกครั้ง จากนั้นร่างเขาก็ค่อยๆ หายไป

ลั่วหลีผงกศีรษะปรากฏตัวบนไหล่ของร่างเทพวารีมองไปที่สนามรบอันโกลาหลก่อนที่จะยกมือขึ้น

ซ่า ซ่า

ลำแสงพุ่งออกมาจากปลายนิ้วร่างเทพวารีแล้วขยายออก ทันใดนั้นก็กลายเป็นแม่น้ำสีเงินที่มีความยาวหลายหมื่นลี้ซึ่งแผ่ซ่านด้วยพลังงานหลิงไม่มีที่สิ้นสุด

แม่น้ำสีเงินพวยพุ่งอย่างแรกที่ทำก็คือส่งร่างจอมยุทธ์สี่คนที่กำลังต่อสู้กับหลงเซี่ยง เหวินซื่อหยู่และคนอื่นๆ กระเด็นออกไปพร้อมกับกระอักเลือดออกมา ใบหน้าของพวกเขาปกคลุมไปด้วยความกลัว

ทว่าลั่วหลีไม่ได้ใส่ใจพวกเขามาก นางแตะปลายเท้า แม่น้ำสีเงินก็เริ่มกวาดหายนะไปในสนามรบ ทันใดนั้นจอมยุทธ์เผ่าปีศาจก็ถูกแม่น้ำสีเงินกัดกร่อนกลายเป็นขี้เถ้า ไม่มีแม้แต่กระดูกเหลือไว้ต่างหน้า

การต่อสู้ที่ตึงเครียดตั้งแต่แรกเปลี่ยนเป็นเผ่าปีศาจเริ่มสูญเสีย ท้ายที่สุดพวกเขาไม่สามารถระงับความกลัวได้อีกต่อไปและเริ่มหนี

ส่วนจอมยุทธ์มหาพันภพก็ได้รับกำลังใจเพิ่มขึ้น พวกเขาพุ่งเข้าโรมรัน

ใต้แท่นบูชาไป่ซินเอ๋อหยุดลงพลางกัดริมฝีปากขณะกำมือแน่น นางรู้ว่าตัวเองล้มเหลวในการต่อสู้ครั้งนี้แล้ว

นางไม่คาดคิดมาก่อนว่าแม้จะใช้ทักษะการปลุกของเผ่าไท่หลิง ก็ยังไม่สามารถปลุกเจตจำนงที่ยิ่งใหญ่ของบรรพบุรุษได้ กลับกันเพียงแค่สัมผัสได้ถึงร่างเทพวารี ไท่หลิงก็ตื่นขึ้นอย่างรวดเร็ว

มองไปที่สนามรบที่ถูกกวาดล้างอย่างรวดเร็ว ลั่วหลีก็รู้สึกโล่งใจ เนื่องจากนางรู้สึกได้ว่าพลังงานหลิงกลุ่มใหญ่ในร่างกายกำลังหายไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อคลื่นหลิงเส้นสุดท้ายหายไป ดวงตาลั่วหลีก็สว่างวาบขึ้น เพราะในขณะนี้มีข้อมูลเก่าแก่มากมายหลั่งไหลเข้ามาในห้วงแห่งจิตของนาง

“นี่คือ…วิชาช่องแสงวิญญาณโบราณ”

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset