หนึ่งในใต้หล้า 大主宰
บทที่ 1311 ปะทะด้วยรัศมีจั้นยี่
“ฮ่าๆ เยี่ยม! ไอ้สารเลว แกช่างกล้า!”
เมื่อได้ยินคำตอบของมู่เฉิน หวู่ทงก็ระเบิดหัวเราะ เสียงหัวเราะเต็มไปด้วยไอสังหารที่ทำให้อุณหภูมิโดยรอบลดลง
ขณะที่เสียงหัวเราะหยุดลงช้าๆ หวู่ทงก็มองมู่เฉินด้วยสายตาดุร้ายราวกับงูพิษ จากนั้นเขาปรากฏตัวเหนือกองทัพมังกรดำโดยไม่พูดอะไรและนั่งลง
“จัดขบวน”
หวู่ทงตะโกนขณะที่ดวงตาหลับลง ความผันผวนไร้ขอบเขตแผ่ขยายออกไปสู่กองทัพมังกรดำอย่างรวดเร็ว
เหล่านักรบที่ถูกรัศมีห่อหุ้ม ส่วนใหญ่ก็ถึงกับเบ้ปาก หากพวกเขาต้องการต่อต้านคลื่นจิตนี้ หวู่ทงก็ไม่สามารถเร้ารัศมีจั้นยี่ได้แม้แต่น้อย
ทว่านักรบร่างกำยำก็แค้นเสียงเย็นขึ้น เมื่อเขาเห็นพรรคพวกไม่ยอมตอบสนอง
เมื่อเห็นท่าทางของแม่ทัพ นักรบกองทัพมังกรดำก็ยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ ยอมแพ้ที่จะต่อต้าน ทันใดนั้นร่างของพวกเขาก็ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าที่เบื้องหลังหวู่ทง
ฟิ้ว ฟิ้ว!
ในเวลาเพียงไม่กี่สิบลมหายใจก็มีนักรบของกองทัพมังกรดำแปดร้อยคนยืนอยู่ด้านหลังหวู่ทงแล้ว
แต่เมื่อจำนวนมาถึงประมาณหนึ่งพันคน หวู่ทงก็ตระหนักได้ว่าไม่สามารถเพิ่มจำนวนได้อีก นี่มาถึงขีดจำกัดของเขาแล้ว
“กองทัพมังกรดำสมคำร่ำลือแท้จริง!”
หวู่ทงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความชื่นชมในหัวใจ ในตระกลูหวู่ตัวเขาสามารถบัญชาการกำลังพลได้อย่างน้อยสองถึงสามแสนคน แต่เมื่อเป็นกองทัพมังกรดำเขาสามารถควบคุมได้เพียงหนึ่งพันคนเท่านั้น
นั่นหมายความว่าพันคนนี้เทียบเท่ากับกองทัพนับแสนจากตระกูลหวู่
นี่เทียบเท่ากับหนึ่งหมื่นต่อหนึ่งเลยทีเดียว
หลังจากสัมผัสได้ถึงความทรงอำนาจของนักรบกองทัพมังกรดำว่าเป็นอย่างไรด้วยตัวเอง ความโลภของหวู่ทงก็เพิ่มขึ้น ก่อนที่เขาจะมองมู่เฉินด้วยสายตาเย็นชา ดูท่าวันนี้เขาต้องกำจัดสิ่งขัดขวางที่อยู่ต่อหน้าให้ได้แล้ว
“นักรบมังกรดำหนึ่งพันคนรึ? ไม่เลว แต่แค่ไม่รู้ว่าเจ้าจะเร้ารัศมีจั้นยี่ได้มากแค่ไหน”
ดวงตาของแม่ทัพมังกรดำสั่นไหวกับฉากนี้ หวู่ทงเป็นจั้นเจิ้นซือที่ใช้ได้เลยทีเดียว แต่เขายังอ่อนไปมากเมื่อเทียบกับจักรพรรดิมังกรดำ
“ไอ้เวร แกยังไม่รวบรวมกำลังทหารอีกเรอะ? หรือว่ากลัว?” หวู่ทงมองไปที่มู่เฉินอย่างเย้ยหยัน
ทว่ามู่เฉินไม่ใส่ใจท่าทางดังกล่าว เขานั่งลงบนท้องฟ้าพร้อมกับหลับตา ก่อนที่คลื่นจิตทรงพลังจะระเบิดออกมาจากร่างของเขา
เมื่อคลื่นจิตเข้าห่อหุ้มกองทัพมังกรดำ เขาก็พบการต่อต้านตามที่คาดไว้ ท้ายที่สุดกองทัพมังกรดำไม่ใช่กองทัพที่เขาปั้นมากับมือ ดังนั้นจึงไม่คุ้นเคยกับรัศมีจั้นยี่ของพวกเขา ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะบรรลุความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันจากการติดต่อครั้งแรก
ฟิ้ว!
แต่การต่อต้านก็เกิดไม่นาน ก่อนที่ร่างเงาจะเริ่มลอยขึ้นไปรวมตัวกันอยู่เบื้องหลังเขา
ในเวลาสิบกว่าลมหายใจนักรบกลุ่มใหญ่ก็รวมตัวกันอยู่ด้านหลังมู่เฉิน จำนวนมีเกือบหนึ่งพันคนดูสูสีมากเมื่อเทียบกับหวู่ทง
“กองทัพมังกรดำแข็งแกร่งกว่ากองทัพสังหารวิญญาณแท้จริง แม้แต่กองทัพดับปีศาจก็ไม่สามารถเทียบได้”
เมื่อสัมผัสกับรัศมีจั้นยี่ไร้ขีดจำกัดที่รวบตัวจากนักรบพันคน มู่เฉินก็ต้องตกใจ หนึ่งพันคนยังทรงอำนาจขนาดนี้ ถ้าเขาสามารถควบคุมกองทัพมังกรดำทั้งหมด เขาอาจจะเผชิญหน้ากับจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนได้จริงๆ
แน่นอนว่ามู่เฉินรู้ว่าตนเองยังไม่มีความสามารถถึงขั้นนั้นในตอนนี้
“หึ ก็แค่ฝืนตัวเองรวบรวมกำลังพล แต่ถึงจำนวนจะเท่ากัน ก็จะแสดงพลังในระดับที่แตกต่างกันจากฝีมือของแต่ละคน!” เมื่อหวู่ทงเห็นนักรบเกือบพันคนที่เบื้องหลังมู่เฉิน เขาก็หดตาลงขณะที่เยาะเย้ย
จำนวนไม่ได้เป็นสิ่งเดียวที่จะส่งผลต่อพลังของรัศมีจั้นยี่ มันยังขึ้นอยู่กับว่าสามารถควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพไหม!
ไม่มีความลังเล คลื่นจิตของหวู่ทงก็หลอมรวมกับพลังหลิงในร่างกายกลายเป็นพลังเอกลักษณ์ห่อหุ้มกองทัพมังกรดำนับพันที่ข้างหลังไว้
“รูปแบบรัศมีจั้นยี่!”
เมื่อพลังเอกลักษณ์เทลงในร่างนักรบมังกรดำ ดวงตาของพวกเขาก็แดงฉานทันที เสียงคำรามดังขึ้นพร้อมเพรียง
ตู้ม!
ชั้นฟ้าและชั้นดินสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น ขณะที่รัศมีจั้นยี่ยิ่งใหญ่กวาดออกจากกองทัพมังกรดำพันคน สร้างความกดดันอันน่าสะพรึงกลัว
“ตาย!”
รัศมีจั้นยี่อัดแน่นในอากาศ ขณะที่สัมผัสกับความแข็งแกร่งที่ไม่เคยมีมาก่อน ดวงตาของหวู่ทงก็เปลี่ยนเป็นสีแดง เขาแสยะยิ้มน่ากลัวไปทางมู่เฉิน ก่อนที่จะวาดตราประทับด้วยมือข้างเดียว
ตึง!
มือขนาดใหญ่ยื่นเหยียดออกจากมหาสมุทรรัศมีจั้นยี่ปกคลุมไปด้วยลวดลายจั้นเหวิน บริเวณที่เคลื่อนผ่านมิติก็แสดงสัญญาณการยุบตัวลง
“ลวดลายจั้นเหวินเจ็ดล้านสามแสนลาย” แม่ทัพมังกรดำจ้องมองมือขนาดใหญ่ ด้วยการมองครั้งแรกก็สามารถบอกจำนวนลวดลายจั้นเหวินได้ในทันที
เมื่อมองดูมือใหญ่โตนั่น ใบหน้าของมู่เฉินก็ยังคงสงบ เขาวาดตราประทับด้วยมือข้างเดียวเช่นกัน
“รูปแบบรัศมีจั้นยี่!”
นักรบมังกรดำคำราม รัศมีจั้นยี่ที่ทรงพลังกวาดออกไป
“ตู้ม!”
กำปั้นขนาดมหึมาพุ่งออกมาจากเมฆรัศมีจั้นยี่ ลวดลายจั้นเหวินนับไม่ถ้วนกะพริบอยู่บนนั้น ทุกลวดลายบรรจุด้วยพลังแข็งแกร่งที่สามารถสั่นสะเทือนสวรรค์และโลกได้
“ลวดลายจั้นเหวินเจ็ดล้านลวดลาย” สายตาแม่ทัพมังกรดำวูบไหวอีกครั้ง
ครืน!
อึดใจมือและหมัดก็ปะทะกันอย่างรุนแรง ส่งผลให้เกิดคลื่นกระแทกขนาดใหญ่ที่จะทำให้แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มธรรมดายังต้องหลีกเลี่ยงออกไป
ทว่าเนื่องจากจำนวนลวดลายจั้นเหวินไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ดังนั้นแม้กำปั้นของมู่เฉินจะพังก่อน แต่ของหวู่ทงก็ยุบตัวลงติดๆ กันไป ไม่ได้เปรียบอะไรมาก
ใบหน้าของหวู่ทงมืดครึ้ม ความเคร่งขรึมวูบไหวในดวงตา ความเชี่ยวชาญของการเป็นจั้นเจิ้นซือที่มู่เฉินแสดงออกมานั้นชัดเจนว่าไปไกลจากความคาดหวังของเขา
“ไอ้เวรนั่น! ไม่เพียงแต่จะเชี่ยวชาญค่ายกล ในฐานะจั้นเจิ้นซือก็ไม่แพ้ใครเช่นกัน!”
หวู่ทงกัดฟันกรอดขณะที่ดวงตาของเย็นเยือกลง “ตัวข้าได้รับการปลูกฝังอย่างขมขื่นในศาสตร์จั้นเจิ้นซือมานานเป็นทศวรรษด้วยทรัพยากรมหาศาลของตระกูลหวู่ ข้าไม่เชื่อว่าตัวเองจะแพ้ไอ้เหลือขอนี่!”
กระบวนท่าในมือของหวู่ทงเปลี่ยนแปลงเร็วรี่ คลื่นหลิงและคลื่นจิตรวมเข้ากับรัศมีจั้นยี่ที่ไร้ขอบเขต
ครืน!
มหาสมุทรรัศมีจั้นยี่ดังก้องด้วยเสียงคำรามของสายฟ้าไม่รู้จบ พร้อมกับรัศมีจั้นยี่พวยพุ่งออกมา ลำแสงนับไม่ถ้วนก่อตัวขึ้นเป็นกระบี่จำนวนมากบนท้องฟ้า
กระบี่ถูกปกคลุมด้วยลวดลายจั้นเหวิน ทำให้เกิดความผันผวนที่น่าตกตะลึงยิ่งนัก
“ภาพกระบี่สงคราม!”
สายตาของหวู่ทงเปลี่ยนเป็นเฉียบคมขณะโบกแขนเสื้อ กระบี่ส่งเสียงหวีดหวิวยิงออกไปในทิศทางของมู่เฉิน
เผชิญกับการโจมตีที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ กระทั่งจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มยังต้องสิ้นชีพหากประมาท
เมื่อมองไปที่การโจมตีของตนเอง หวู่ทงก็พอใจมาก หากเป็นกองทัพตระกูลหวู่นี่อาจเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะปลดปล่อยพลังดังกล่าว แต่ด้วยกองทัพมังกรดำเขาสามารถผลักดันพลังของรัศมีจั้นยี่ได้ถึงขีดจำกัด
เขาตั้งใจจะใช้การโจมตีครั้งนี้ ส่งมู่เฉินไปยังจุดที่ไม่อาจพลิกสถานการณ์กลับมาได้!
“ตอนนี้ชักน่าสนใจแล้ว!” แม่ทัพมังกรดำพยักหน้าหงึกหงัก ขณะที่เอ่ยความคิดเห็น
ความเชี่ยวชาญของหวู่ทงในฐานะจั้นเจิ้นซือถือว่าค่อนข้างดี เขาเริ่มดึงพลังของกองทัพมังกรดำออกมาใช้ได้บ้างแล้ว
มู่เฉินยกเปลือกตาขึ้นมองกระบี่ที่พุ่งเข้ามา กระบี่ทุกเล่มมีลวดลายจั้นเหวินอย่างน้อยล้านลายเห็นจะได้ เขาสามารถระงับหนึ่งในนั้นได้อย่างง่ายดาย แต่ด้วยจำนวนมากมายกระทั่งจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มก็ยังหวาดกลัวกับการโจมตีดังกล่าว
ดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีครั้งนี้ สีหน้าของมู่เฉินก็เคร่งเครียดลง เขาต้องเทหมดหน้าตักแล้ว!
ฮา
มู่เฉินสูดหายใจเข้าลึก คลื่นจิตค่อยๆ ผสานเข้ากับรัศมีจั้นยี่กองทัพมังกรดำ เมื่อสัมผัสกับรัศมีจั้นยี่แข็งแกร่ง จิตใจของเขาก็สั่นสะท้าน
โฮก!
เสียงคำรามของมังกรดังขึ้นจากร่างกาย ถ่ายโอนพลังอำนาจของวิญญาณมังกรแท้จริงสู่รัศมีจั้นยี่ของกองทัพมังกรดำ
ขณะนั้นเองมู่เฉินก็สามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงร่างกายของเหล่านักรบมังกรดำที่สั่นไหว รัศมีจั้นยี่ของพวกเขาที่หนักหนาก็เปลี่ยนเป็นเบาบางขึ้นในเวลานี้
สองมือวาดตราประทับเร็วรี่ ภาพมายาบินว่อน เขาผลักรัศมีจั้นยี่ของตนเองไปถึงขีดจำกัด
ชั้นรัศมีจั้นยี่หนาแน่นกลิ้งไปมาอย่างรุนแรง ในช่วงเวลาต่อมากรงเล็บมังกรขนาดหนึ่งหมื่นจั้งที่ปกคลุมไปด้วยเกล็ดก็ยื่นออกมาจากหมู่เมฆ
กรงเล็บนั้นบรรจุด้วยรัศมีจั้นยี่เกินจินตนาการ
“กรงเล็บสงครามมังกร!”
เสียงลึกต่ำของมู่เฉินเปล่งออกมา กรงเล็บมังกรขนาดใหญ่ก็พุ่งทะลุขอบฟ้าด้วยพลังทำลายล้างปะทะเข้ากับห่ากระบี่ที่พุ่งเข้ามา
ทั้งสองราวกับอุกกาบาตชนกัน รัศมีการทำลายล้างอุบัติขึ้น
ใครแข็งแกร่งหรืออ่อนด้อยก็ขึ้นอยู่กับกระบวนท่านี้แล้ว!