หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1214 ความน่าสะพรึงกลัว

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 1214 ความน่าสะพรึงกลัว

ตู้ม!

ลำแสงสีเลือดสามสายทะยานผ่านสายตาสมาชิกชั้นสูงตระกูลลั่วเสินไป พวกเขาจ้องมองไปที่มู่เฉินด้วยสายตาโหดเหี้ยม

เบื้องล่างมีร่องสามร่องบนแม่น้ำลั่วเกิดขึ้นภายใต้ความเร็วสูงนั่น

พวกเขาทั้งสามเข้าใกล้มู่เฉินในพริบตา

สายตาทุกคู่พุ่งความสนใจไป แม้พวกเขารู้สึกว่ามู่เฉินชะตาขาดแล้ว ทว่าพวกเขาก็รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นการแสดงออกที่สงบนั่น หรือว่าชายหนุ่มคนนี้จะมีไพ่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อ?

วาบ!

ขณะที่ผู้คนเกิดความคิด ในที่สุดมู่เฉินก็เคลื่อนไหว แต่เขาไม่ได้ไปเผชิญหน้ากับจอมยุทธ์ทั้งสาม กลับพุ่งไปทางขวามือ

“ฮ่าๆ ไอ้เวร เมื่อครู่โอหังนักไม่ใช่รึ? วิ่งหนีตอนนี้ทำไม?” เมื่อเห็นมู่เฉินทะยานไปอีกทิศทางหนึ่งผู้อาวุโสตระกูลเสี่ยเสินก็ระเบิดเสียงหัวเราะเยาะเย้ย

การกระทำของมู่เฉินไม่แตกต่างไปจากการยอมรับความอ่อนแอในสายตาของพวกเขา

คนตระกูลลั่วเสินอดรู้สึกผิดหวังกับฉากนี้ไม่ได้ จากนั้นก็เยาะเย้ยตัวเอง เพราะจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้นทุกคนที่ต้องเผชิญหน้ากับจอมุยทธ์สามคนก็คงต้องหนีไปอยู่แล้ว

ทว่ามู่เฉินยังคงมีท่าทีสงบเมื่อเผชิญกับการเยาะเย้ยของผู้อาวุโสและสายตาผิดหวังของผู้คน เขาพุ่งออกไปด้วยความเร็วสูง ทำให้ระยะห่างระหว่างเขากับตาเฒ่าสามคนนี้ยืดออกไปเรื่อยๆ

เสี่ยยีเคลื่อนไหวเร็วสุด ช้ากว่ามู่เฉินเพียงเล็กน้อย โดยมีเสี่ยถงและเสี่ยโส่วติดตามอยู่ข้างหลังตามลำดับ

“ไอ้เวร ถ้าขืนแกยังวิ่งต่อไป พวกข้าย้อนไปจัดการนังลั่วหลีแน่” เสี่ยยีรู้สึกหงุดหงิดขณะที่คำรามเมื่อเห็นไม่ว่าพวกเขาจะพยายามอย่างไร ก็ไม่สามารถเข้าใกล้มู่เฉินได้

คำพูดนั่นดูมีประสิทธิภาพเนื่องจากมู่เฉินหยุดยืนเหนือแม่น้ำแล้วหันกลับมา ทว่าเสี่ยยีก็ต้องตกใจเมื่อเห็นการเยาะเย้ยบนใบหน้าของมู่เฉิน

“พวกแกคิดว่าข้ากำลังหนีจริงๆ หรือ?” มู่เฉินยิ้ม

ก่อนที่เสี่ยยีจะตอบกลับ ทุกคนก็เห็นฝ่ามือของมู่เฉินประสานกันสร้างตราประทับที่ลึกซึ้งขึ้น

“ตู้ม!”

ทันทีที่มู่เฉินวาดกระบวนท่า เสี่ยยีก็ได้เห็นแสงแวววาวไร้ขอบเขตระเบิดจากแม่น้ำลั่วพร้อมกับเสียงคำรามของมังกรดังก้อง

เสี่ยยีหันกลับไปทันที ดวงตาก็ต้องหดลงเมื่อเห็นแม่น้ำลั่วถูกแยกออกจากกันโดยสัญลักษณ์หลิงยิ่งนับไม่ถ้วนที่รวมเข้าด้วยกัน สายผนึกถักทอกลายเป็นค่ายกล

ค่ายกลประกอบด้วยมังกรเจ็ดตัวถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมกับคลื่นหลิงที่น่าสะพรึงกลัวเอิบอาบออกมา ขณะนี้เสี่ยถงที่อยู่ข้างหลังเขาถูกขังไว้โดยค่ายกลเรียบร้อย

โห!

การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันทำให้เกิดเสียงอุทานดังลั่น ทุกคนตกตะลึง พวกเขาสามารถรู้สึกถึงความผันผวนของคลื่นพลังที่แข็งแกร่งอย่างมากที่มาจากค่ายกล

“นี่คือค่ายกลระดับจงซือ!”

“สวรรค์ มู่เฉินเป็นหลิงเจิ้นจงซือด้วยเหรอนี่?!”

ทุกคนเบิกตากว้าง เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่คิดว่าจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้นคนนี้จะเป็นหลิงเจิ้นจงซือด้วย!

“ที่แท้เขาก็ไม่ได้วิ่งหนี เขาตั้งใจสร้างระยะห่างระหว่างตัวเขากับสามคนนั่นและใช้แม่น้ำลั่วช่วยปกปิดการจัดวางค่ายกล มิหนำซ้ำยังกระตุ้นค่ายกลขังเสี่ยถงให้ติดอยู่ในนั้นด้วย!”

ในที่สุดก็มีคนเข้าใจแรงจูงใจเบื้องหลังการกระทำของมู่เฉิน เสียงอุทานด้วยความตกใจกระจายเต็มใบหน้า ชายหนุ่มผู้นี้ช่างน่าสะพรึงเกินไปแล้ว เขาวางกับดักตั้งแต่ตาเฒ่าทั้งสามเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว

เขาฉลาดแกมโกงจริงๆ!

เสี่ยหลิงจื่อที่ใช้ร่างเวทสวรรค์ปราบปรามลั่วเทียนเสินก็มีสีหน้าก็ดิ่งลงกับฉากนี้ แต่ขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกหวาดกลัว เพราะแม้แต่เขาก็ยังไม่สามารถค้นพบได้ว่ามู่เฉินจัดตั้งค่ายกลระดับจงซือขึ้นมาได้อย่างไร ถึงส่วนหนึ่งจะเป็นเพราะแม่น้ำลั่วช่วยปกปิดไว้ แต่นี่ก็พิสูจน์ให้เห็นถึงความสำเร็จสูงส่งของมู่เฉินในศาสตร์ค่ายกล

“ไอ้เด็กปีศาจนี่มาจากไหน? ทำไมเขาถึงสำเร็จศาสตร์ค่ายกลระดับสูงแบบนี้ได้ด้วย?” เสี่ยหลิงจื่อตกตะลึงและโกรธแค้นในใจ คนธรรมดาในวัยเดียวกับมู่เฉินถือได้ว่าเป็นอัจฉริยะหากพวกเขาไปถึงระดับของมู่เฉินในศาสตร์ด้านใดด้านหนึ่ง ทว่ามู่เฉินประสบความสำเร็จทั้งสองอย่าง นี่ต้องการพรสวรรค์และโอกาสที่ยิ่งใหญ่ขนาดไหนกัน?

ถ้ามู่เฉินมีเวลามากขึ้นก็จะเติบโตเป็นยอดยุทธ์สูงสุดในอนาคตอย่างแน่นอน

เมื่อไรที่เขาไปถึงจุดนั้นตระกูลเสี่ยเสินก็จะถูกชำระแค้นและล้างบางแน่นอน

พอคิดได้ดังนี้ สายตาของเสี่ยหลิงจื่อก็น่าขนพองสยองเกล้ายิ่งขึ้น ด้วยสถานการณ์ดำเนินไปไกลถึงขนาดนี้ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะหยุดยั้ง ในเมื่อเป็นแบบนี้เขาก็ต้องฆ่าจอมยุทธ์หนุ่มอนาคตไกลคนนี้ซะ!

“เสี่ยยี เสี่ยโส่ว ฆ่ามัน!”

เสียงคำรามของเสี่ยหลิงจื่อดังก้อง

เมื่อเสี่ยยีได้ยินคำสั่งของเสี่ยหลิงจื่อ แววตาก็มืดมนลง “ต่อให้แกจะขังเสี่ยถงไว้ แต่ก็ยังง่ายสำหรับพวกข้าสองคนที่จะฆ่าแก!”

มู่เฉินมองไปที่เสี่ยโส่วที่ทะยานเข้ามาอย่างรวดเร็วก็ยิ้มอ่อน “มันไม่สามารถมาที่นี่ได้หรอก”

ม่านตาของเสี่ยยีหดลง จากนั้นเขาก็คลี่ยิ้มน่ากลัว “โอ้? แกจะบอกว่าได้สร้างค่ายกลสองค่ายกลในระดับนี้ด้วยเวลาสั้นๆ นี้รึ?”

“ไม่ใช่ค่ายกล”

มู่เฉินส่ายหัวเบาๆ ขณะที่ดีดนิ้ว แม่น้ำก็เดือดปุด วินาทีต่อมาร่างเงานับพันร่างก็พุ่งออกจากก้มแม่น้ำ ยืนเบื้องหน้าเสี่ยโส่วปิดกั้นไม่ให้สามารถร่วมพลังกับเสี่ยยีได้

ตู้ม!

เมื่อเงานับพันปรากฏขึ้น รัศมีจั้นยี่ที่น่าสะพรึงกลัวก็ระเบิดออกจากพวกเขา ก่อนที่พวกเขาจะกวาดตัวเหมือนพายุทอร์นาโดปิดกั้นเสี่ยโส่วเอาไว้

เมื่อรัศมีจั้นยี่ครอบครองท้องฟ้า ทั่วทั้งเมืองก็เงียบกริบ

ทุกคนตะลึงเมื่อมองไปที่ร่างเงานับพัน พวกเขาสามารถบอกได้ว่านี่เป็นกองทัพชั้นยอด ทว่ากองทัพนี้ไม่มีพลังชีวิตใดๆ ดังนั้นนี่คือร่างได้รับการเก็บรักษาหลังจากการเสียชีวิตลง

กองทัพนี้ทรงพลังจนสามารถขัดขวางจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้นได้ แต่นั่นไม่ใช่สาเหตุของความตกใจ เพราะถ้าต้องการควบคุมกองทัพชั้นยอดก็หมายความว่ามู่เฉิน…เป็นจั้นเจิ้นซือด้วย!

นอกจากนี้ยังเป็นไป่วั่นเหวินจั้นเจิ้นซืออีกด้วย!

ซื้ด!

ทั้งเมืองเงียบกริบ สายตาตกตะลึงจ้องมองไปที่ร่างเงาเหนือแม่น้ำลั่ว พวกเขาถึงกับสูดลมหายใจเย็น

ตอนนี้พวกเขารู้สึกได้เลือนรางว่ามู่เฉินน่าสะพรึงอย่างไร

จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้นที่อายุน้อยเช่นนี้หายาก แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาเหลือเชื่อ แต่ถ้าในขณะเดียวกันเขายังเป็นทั้งหลิงเจิ้นจงซือและไป่วั่นเหวินจั้นเจิ้นซืออีก ข้อมูลนี้ทำให้จิตใจของพวกเขาพังพินาศไปเลยทันที

ลั่วซิวและลั่วชิงหยาก็ตะลึงกับภาพนี้ พวกเขาพึ่งพาทรัพยากรจำนวนมากของตระกูลลั่วเสินกว่าจะสำเร็จในเส้นทางจั้นเจิ้นซือ ทว่าพวกเขาก็อยู่ในขั้นสือวั่นเหวินจั้นเจิ้นซือเท่านั้น แต่มู่เฉินกลับไปถึงขั้นไป่วั่นเหวินจั้นเจิ้นซือแล้ว

ยามนี้พวกเขาไม่มีความคิดที่จะแข่งขันกับมู่เฉินอีกแม้แต่น้อย

พวกเขาแลกสายตาพลางยิ้มอย่างขมขื่นก่อนที่จะรู้สึกโล่งใจ บางทีคนโดดเด่นเช่นนี้เท่านั้นที่คู่ควรกับลั่วหลี

“จั้นเจิ้นซือ”

ดวงตาของเสี่ยหลิงจื่อแดงก่ำจ้องเขม็งไปยังฉากนี้ ขณะที่พูดคำเหล่านี้ เขาก็กัดฟันแน่นระงับความพลุ่งพล่านในหัวใจ ยามนี้เปลือกตาของเขากระตุกอย่างรุนแรงด้วยจิตสังหารที่ไหลในหัวใจของเขา

ลั่วเทียนเสินก็อึ้งไปเช่นกัน ครู่ต่อมาเขาก็หายใจลึกเพื่อระงับอารมณ์ในหัวใจ ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมมู่เฉินถึงกล้ามาที่ตระกูลลั่วเสิน ตอนนี้มู่เฉินเติบโตกลายเป็นยอดยุทธ์ภายในเวลาแค่ไม่กี่ปี

เผชิญหน้ากับมู่เฉิน แม้แต่คนที่ทรงอำนาจอย่างลั่วเทียนเสินก็รู้สึกถึงร่องรอยแห่งความกลัว

ยามนี้เขานึกย้อนถึงคำพูดที่มู่เฉินพูดกับเขาตอนที่พาลั่วหลีกลับมา ‘ครั้งหน้าข้าจะไม่ปล่อยให้ใครหน้าไหนพานางไปจากข้าได้อีก’

เวลานั้นลั่วเทียนเสินไม่ได้สนใจคำพูดเหล่านั้นมาก แต่มู่เฉินทำงานหนักเพื่อเป้าหมาย ลั่วเทียนเสินนึกไม่ออกเลยว่ามู่เฉินฝึกฝนมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร แต่เขาเดาได้ว่ามู่เฉินต้องท้าความเป็นตายมามากมายนับไม่ถ้วน

เจ้าหนูคนนี้มีความยึดมั่นที่น่ากลัวและเหนียวแน่น

ท่ามกลางสายตาตกตะลึงนับไม่ถ้วน มู่เฉินประจันหน้ากับเสี่ยยีซึ่งมองฉากนี้ด้วยความไม่เชื่อ เสี่ยถงโดนขังอยู่ในค่ายกลระดับจงซือ ส่วนเสี่ยโส่วก็ตกในวงล้อมกองทัพน่าสะพรึง

ความได้เปรียบของพวกเขาหายวับไปกับตาเนื่องจากชายหนุ่มที่เบื้องหน้านี้

เมื่อมองไปที่มู่เฉินที่ยิ้มแย้ม แม้แต่เสี่ยยีก็รู้สึกกลัวขึ้นมาในใจ

ทว่าเผชิญกับเสี่ยยีที่สีหน้าเปลี่ยนไป มู่เฉินก็ยืดเอวก่อนที่จะเหยียดมือออกแตะลงเบาๆ

ฮึ่ม ฮึ่ม!

ริ้วสีทองไร้ขอบเขตพุ่งออกมา เปลี่ยนเป็นร่างยักษ์สีม่วงทองที่อยู่ด้านหลังเปล่งรัศมีลึกลับและอมตะ

ภายใต้การปกป้องของรัศมีสีม่วงทองมู่เฉินก็ส่งรอยยิ้มให้เสี่ยยี ก่อนที่เสียงของเขาจะทำให้หน้าผากของเสี่ยยีชุ่มโชกด้วยเหงื่อ

“ตอนนี้เราน่าจะสู้กันแบบตัวต่อตัวได้แล้วมั้ง?”

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset