หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1173 สู้กับจาโหลหลัว

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 1173 สู้กับจาโหลหลัว

เมื่อมู่เฉินก้าวเข้าไปในดวงดาว

เขาก็สัมผัสได้ว่าสภาพแวดล้อมรอบตัวเปลี่ยนไป มิติบิดเบือนและเมื่อสายตากลับมาเป็นปกติเขาก็สังเกตว่าถูกนำมาที่จัตุรัสที่เหมือนจะหลอมมาจากทองคำ

มีเสาทองคำตั้งตระหง่านอยู่บนลานกว้างพุ่งเสียดไปบนก้อนเมฆ ทั่วบริเวณเต็มไปด้วยกลิ่นอายรกร้างยิ่งใหญ่ที่ไม่อาจบรรยายได้

มู่เฉินยืนอยู่ในจัตุรัสมองไปที่แท่นบูชาสีทองตรงกลางพร้อมกับรัศมีสีทองล้อมรอบ หน้ากระดาษทองคำบางเบาลอยอยู่ในแสงสีทองอย่างเงียบๆ

มู่เฉินมองไปที่กระดาษทองคำก็รู้สึกว่าขมับกระตุกขึ้นด้วยความเจ็บปวด

อารมณ์ทั้งหมดบิดเกลียวจนถึงขีดสุดในขณะนี้

เพราะเป้าหมายที่ตามหามาเนิ่นนานในที่สุดก็ปรากฏที่เบื้องหน้าเขาแล้ว

ทว่ามู่เฉินไม่ได้สูญเสียสติที่เชื่อว่าสิ่งนี้เป็นของเขาแล้ว เขาคงฝันกลางวันถ้าคิดว่าสิ่งนี้จะรับไปได่อย่างง่ายดาย

ตามการคาดการณ์เขาอาจต้องได้รับการทดสอบเพื่อให้ได้มา ซึ่งไม่มีประโยชน์ที่จะคิดมากว่าเป็นการทดสอบแบบใด เพราะไม่ว่ายังไงวันนี้มู่เฉินก็สู้ไม่ถอยแน่

มู่เฉินปรับหัวใจให้สงบลง นั่งลงบนลานสีทองหลับตารอให้การทดสอบมาถึง

การรอคอยของเขากินเวลาไม่ได้นาน เขาลืมตาขึ้นมองไปอีกทางหนึ่งของจัตุรัส

มิติบิดเบี้ยว แสงสีทองกลั่นตัวเป็นเงา

มู่เฉินมองไปที่ภาพเงาที่คุ้นเคยด้วยสายตาสงบ ใบหน้าไม่มีความประหลาดใจแม้แต่น้อย เพราะชายคนนี้ก็คือจาโหลหลัวที่ได้ฝึกฝนร่างเทพสุริยะเช่นกัน

ในฐานะที่เป็นจอมยุทธ์ชั้นสูงที่ได้รับการเลี้ยงดูโดยจักรพรรดิปีศาจลู่หยวนและยังเป็นผู้ฝึกร่างเทพสุริยะ มู่เฉินไม่เชื่อว่าจาโหลหลัวจะไม่มีหนทางที่จะมาถึงที่นี่

ขณะที่มู่เฉินมองไปอย่างไม่แยแส จาโหลหลัวก็ลืมตาขึ้นและสังเกตเห็นมู่เฉิน

เมื่อเขาเห็นว่าอีกฝ่ายมาถึงที่นี่ใบหน้าเรียบเฉยก็เปลี่ยนไปอย่างไม่สามารถควบคุมได้

“แกยังไม่ตายเหรอ?” จาโหลหลัวหรี่ตาพลางขมวดคิ้ว

ผู้อาวุโสจั่วแห่งตำหนักเทพปีศาจเป็นคนหยุดมู่เฉินเอาไว้ แม้ว่าผู้อาวุโสจั่วจะจ่ายราคามหาศาลเพื่อเข้าสู่วังสวรรค์บรรพกาล แต่พลังที่เขามีก็เพียงพอจะสังหารจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าระยะเต็มได้ทันที

เดิมทีจาโหลหลัวคิดว่ามู่เฉินถึงวาระแล้ว ดังนั้นจึงจากไปโดยไม่ลังเล เพราะยังไงเขาก็ไม่สามารถนึกถึงวิธีใดๆ ที่มู่เฉินจะใช้เพื่อหลบหนีจากจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้นได้

ทว่าตอนนี้เรื่องที่เขาคิดว่าเป็นไปไม่ได้ กลับปรากฏต่อหน้าเขา ซ้ำยังมองมาด้วยอาการยิ้มเยาะ ทุกอย่างแสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายมีชีวิตรอดอยู่ได้ภายใต้เงื้อมมือของผู้อาวุโสจั่ว

“ข้ายังไม่ได้ร่างเทพสุริยะนิรันดร์ก็ไม่คิดจะตายอยู่แล้ว” มู่เฉินยิ้มอ่อน

ใบหน้าของจาโหลหลัวมืดครึ้ม แต่ก็เปลี่ยนการแสดงออกรวดเร็วและพูดอย่างไม่แยแสว่า “แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าแกใช้วิธีใดในการหลบหนีจากผู้อาวุโสจั่ว แต่ก็ไม่สำคัญเพราะผลลัพธ์จะเหมือนกันแม้ว่าจะเป็นข้าที่เคลื่อนไหว”

มู่เฉินยิ้มไม่เชิงยิ้มให้จาโหลหลัว “แกไม่คิดมั่งเหรอว่าอาจเป็นมันที่หนีไปแทน?”

ถ้าตาแก่นั่นไม่ได้วิ่งเร็วขนาดนั้นก็จะเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนคนแรกที่มู่เฉินสังหาร

จาโหลหลัวกอดอกขณะเยาะเย้ย “ถ้าแกมีความสามารถเช่นนั้น แกจะยอมให้ข้ายืนอยู่ตรงนี้ได้อีกรึ?”

มู่เฉินกำหมัดแน่นป้ายกองทัพก็ปรากฏขึ้น เขาเทคลื่นหลิงเข้าไปและเมื่อกำลังกระตุ้นเขาก็ต้องหรี่ตาพลางส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้

เนื่องจากเขาตระหนักว่าเกิดความล้มเหลวในการเรียกกองทัพสังหารวิญญาณ

เห็นได้ชัดว่าสถานที่แห่งนี้แยกการเชื่อมต่อของเขากับกองทัพสังหารวิญญาณ ซึ่งน่าจะเป็นผลงานของหอคัมภีร์เทพซ่อน

“ต้องการให้เราเปิดศึกมรณะอย่างยุติธรรมรึ?”

มู่เฉินพึมพำ แต่ก็ไม่ได้เศร้าอะไรแค่เสียดาย เพราะมีเพียงร่างเทพสุริยะที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นที่จะมีคุณสมบัติในการพัฒนา

ก็คล้ายกับการเลี้ยงแมลงพิษ ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดจะกัดกินผู้ที่อ่อนแอ ถ้าเขาใช้กองทัพสังหารวิญญาณเพื่อสังหารจาโหลหลัวก็จะขัดต่อกฎของร่างเทพสุริยะนิรันดร์

“ถ้าข้ารู้แบบนี้ก็ควรฆ่ามันไปก่อนหน้าแล้ว” มู่เฉินรู้สึกเสียดาย แต่อึดใจก็ส่ายหัว

เวลานั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใช้กองทัพสังหารวิญญาณ ดังนั้นเขาจึงไม่แน่ใจว่าจะเอาชนะผู้อาวุโสจั่วได้หรือไม่ ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย การให้จาโหลหลัวจากไปถือเป็นการดีที่สุด

ถ้าจาโหลหลัวและผู้อาวุโสจั่วร่วมมือกันใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเป็นเช่นนั้นการแยกจัดการทีละคนยังดีกว่า เพราะตอนนี้ต่อให้เขาจะไม่สามารถใช้กองทัพสังหารวิญญาณได้ แต่คนอย่างมู่เฉินก็ไม่กลัวจาโหลหลัวหรอก

จาโหลหลัวมองไปที่มู่เฉินที่กำลังถอนหายใจ ก็รู้สึกมั่นใจมากขึ้นว่ามู่เฉินโชคดีที่หนีรอดพ้นมาจากผู้อาวุโสจั่ว ทันใดนั้นเขาก็เยาะเย้ยเสียงเย็นชาขณะชี้ไปที่แท่นบูชา “แกรู้ไหมว่านั่นคืออะไร?”

“หืม?”

“นั่นคือแท่นบูชาบูชายัญ… แกรู้ไหมว่าต้องบูชาอะไร?” จาโหลหลัวเลียริมฝีปากขณะมองไปที่มู่เฉินด้วยสายตามืดครึ้ม “ต้องบูชาร่างเทพสุริยะ!”

ดวงตาของมู่เฉินหดลงไปกับคำพูดของจาโหลหลัว

“โดยการสังเวยร่างเทพสุริยะ เพลิงศักดิ์สิทธิ์จะถูกจุดขึ้นเพื่อปรับแต่งร่างเทพสุริยะอีกร่างจนเกิดวิวัฒนาการ”

จาโหลหลัวยิ้มน่าขนลุกขณะพูดต่อ “ดังนั้นนี่เป็นโชคดีสำหรับข้าที่แกสามารถมาถึงที่นี่ได้ มิฉะนั้นข้าจะต้องทนทุกข์ทรมานเพื่อจุดไฟแท่นบูชาด้วยตนเอง”

“เป็นอย่างนี้นี่เอง” มู่เฉินเข้าใจได้จากคำอธิบายของจาโหลหลัว ไม่คิดว่าแท่นบูชานี้จะต้องมีเครื่องสังเวยด้วย

ข้อมูลนี้น่าจะมาจากลู่หยวน เพราะชายคนนั้นเคยเป็นพาหนะของจักรพรรดิฟ้า ดังนั้นเขาต้องรู้ความลับหลายอย่างของวังสวรรค์บรรพกาล

“คำพูดของแกทำให้ข้ารู้สึกดีขึ้นเยอะเลย” มู่เฉินถอนหายใจ ที่แท้จะต้องมีเครื่องสังเวยเพื่อพัฒนาระยะสองเป็นร่างกลาง—ร่างเทพสุริยะนิรันดร์ นับว่าโชคดีที่เขาไม่ได้ฆ่าเจ้านี่ที่ข้างนอก

“โง่เง่า!”

ตอนแรกจาโหลหลัวต้องการทำลายความเชื่อมั่นของมู่เฉิน ทว่าใบหน้าเขาก็ต้องเปลี่ยนเป็นมืดครึ้มเนื่องจากล้มเหลว เขาไม่คิดจะพูดต่อไปอีกกระทืบฝ่าเท้าลงไปแทน

ตู้ม!

คลื่นหลิงเชี่ยวกรากพุ่งขึ้นราวกับพายุกวาดออกจากร่างจาโหลหลัว มิติก็สั่นสะเทือนเลื่อนลั่น

หลังจากการชำระล้างในทะเลสาบสวรรค์ ขุมพลังของจาโหลหลัวก็มีถึงขีดสุดของระดับจื้อจุนขั้นเก้าระยะเต็มแล้ว!

ในแง่ของพรสวรรค์หากเขาสามารถออกจากวังสวรรค์บรรพกาลทั้งที่มีชีวิตอยู่ได้ก็จะมีโอกาสสูงที่จะทะลุไปยังระดับตี้จื้อจุน

เมื่อสัมผัสได้ถึงคลื่นหลิงที่มาจากจาโหลหลัว ท่าทางของมู่เฉินก็ดูเคร่งขรึมลงเล็กน้อย หากปราศจากกองทัพสังหารวิญญาณจาโหลหลัวก็เป็นศัตรูที่เขาไม่สามารถประมาทได้

ฮา

มู่เฉินหายใจเข้าลึก ใบหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม ศึกครั้งนี้เกี่ยวข้องกับผู้ชนะคนสุดท้าย เนื่องจากมีเพียงหนึ่งในร่างเทพสุริยะของพวกเขาเท่านั้นที่สามารถผ่านวิวัฒนาการได้

ดังนั้นการต่อสู้ครั้งนี้จะต้องรุนแรงถึงที่สุด

ตู้ม!

ยามนี้คลื่นหลิงของระดับจื้อจุนขั้นเก้าระยะเต็มก็พวยพุ่งออกมาจากร่างของมู่เฉินในลักษณะของภูเขาไฟระเบิดพร้อมกับเกลียวแสงสีทองแล่นแปลบปลาบบนพื้นผิวร่างกาย เสียงคำรามของมังกรและหงส์ฟ้าดังก้องออกมา

จิตวิญญาณมังกรแท้จริงและหงส์ฟ้าแท้จริงที่สถิตบนผิวหนังของมู่เฉินนำพาความสามารถและความแข็งแกร่งในการป้องกันที่ทรงพลัง

มู่เฉินยืนอยู่เงียบๆ แต่ดูราวกับสัตว์อสูรดึกดำบรรพ์ที่เอิบอาบด้วยแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัว

“ฮ่าๆ ไม่คิดว่าพลังกายของแกจะมาได้ไกลถึงจุดนี้!” จาโหลหลัวมองไปที่มังกรแท้จริงและหงส์ฟ้าแท้จริงที่ปรากฏเลือนรางอยู่ด้านหลังมู่เฉินม่านตาก็หดเกร็ง ยิ่งเมื่อเห็นแรงกดดันทรงพลังที่มู่เฉินเปล่งออกมา เขาก็รู้สึกเสียใจในใจ ตอนที่เจอมู่เฉินครั้งแรก เขาไม่ได้รู้สึกกลัวอีกฝ่ายอะไร เพราะด้วยขุมพลังทั้งสองในตอนนั้น เขาไม่รู้สึกว่าจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าระยะต้นจะเป็นภัยคุกคามต่อเขาได้

แต่ใครจะคาดคิดว่ามู่เฉินจะก้าวเข้าสู่ขั้นเก้าระยะเต็มในระยะเวลาอันสั้นและยังสามารถหลบหนีจากผู้อาวุโสจั่วได้

ถ้าเขารู้เรื่องนี้ก็คงจะเคลื่อนไหวเต็มกำลังตอนที่มู่เฉินและเซี่ยหยู่ต่อสู้กันและฆ่ามู่เฉินให้เร็วที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต

แต่ตอนนี้…แม้ว่าอาจจะลำบากเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่สายเกินไป

“แกคิดว่ามีเพียงตัวเองเท่านั้นที่มีพลังกายแข็งแกร่งเรอะ?”

จาโหลหลัวยิ้มน่าขนลุกก่อนที่จะกำหมัดเข้าหากัน คลื่นหลิงสีดำมะเมื่อมระเบิดออกจากร่างกายขณะตัวเขาพองขึ้น ร่างกายเขาดูเหมือนว่าถูกหลอมมาจากโลหะสีดำที่มีพลังไม่อาจบรรยายได้ นอกจากนี้ยังมีลวดลายสีดำโบราณแผ่กระจายออกมาบนพื้นผิวของร่างกาย ทำให้เกิดพลังที่น่ากลัว

เสียงคำรามของจาโหลหลัวที่เต็มไปด้วยจิตสังหารหนาแน่นดังก้องไปทั่วจัตุรัสทองคำ!

กายาเทพปีศาจ!

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset