หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1124 ทำลายค่ายกล

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 1124 ทำลายค่ายกล

“นี่คือที่ตั้งของตำหนักสายลมหนึ่งในเก้าตำหนักเหรอ?”

จิ่วโยวและหลินจิ้งมองเกาะหินธรรมดาที่เบื้องหน้าพร้อมกับความสงสัยกะพริบในนัยน์ตา

ตำหนักทั้งเก้ามีสถานะที่สูงในวังสวรรค์บรรพกาล ซึ่งเป็นรองแค่เจ้าวังและเหล่าจอมพลผู้ดูแลหอเท่านั้น เมื่อเทียบกับขั้วอำนาจต่างๆ ในปัจจุบันก็เท่ากับขั้วอำนาจระดับต้นของทวีปเทียนหลัวเลยทีเดียว แล้วทำไมตำหนักถึงดูแสนธรรมดาขนาดนี้?

“นั่นคือจุดที่ระบุไว้บนแผนที่นะ” มู่เฉินยักไหล่ก่อนจะเคลื่อนเข้าไปใกล้เกาะหิน คลื่นหลิงยิงออกไป แต่เมื่อคลื่นอยู่ห่างจากเกาะหินลอยร้อยจั้ง มิติก็แปรปรวน ปราการพลังปรากฏขึ้นลบคลื่นหลิงออกไป

มู่เฉินเดินเข้าไปใกล้วางฝ่ามือบนปราการแล้วหลับตาลง ระลอกคลื่นที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่ากระจายออกจากฝ่ามือ ขยายออกตามปราการที่ห่อหุ้มเกาะหิน

ใช้เวลาไม่นานก่อนที่เขาจะค่อยๆ ลืมตาแล้วยิ้มให้หญิงสาวทั้งสอง “ค่ายกลนี้ยากที่จะจัดการ แต่โชคดีที่มีช่องโหวเกิดขึ้นตามร่องรอยกาลเวลา มิฉะนั้นคงไม่มีทางสำหรับเราที่จะฝ่าไปด้วยกำลังที่มี”

เมื่อพูดจบเขาก็ตบเบาๆ ที่ค่ายกล รอยแยกหนึ่งจั้งปรากฏขึ้น

“สะดวกจริงที่มีหลินเจิ้นซือ” เมื่อหลินจิ้งเห็นว่ามู่เฉินจัดการค่ายกลได้อย่างง่ายดายอย่างไร นางก็อมยิ้มแก้มตุ่ย หากเป็นพวกนางคงได้แต่ใช้กำลังในการทำลายค่ายกล ซึ่งจะเสียเวลามาก

“เชิญพ่ะย่ะค่ะองค์หญิง”

มู่เฉินยิ้มผายมือเชื้อเชิญ จิ่วโยวและหลินจิ้งแลกเปลี่ยนสายตากันพร้อมกับยิ้ม ก่อนที่จะเดินเข้าไปในรอยแตกโดยมีมู่เฉินปิดท้ายที่ด้านหลัง

เมื่อทั้งสามผ่านรอยแตกเข้ามาได้ก็ตระหนักว่าหมอกที่เบื้องหน้าจางหายไป ทั้งสามมองไปก็เห็นเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

เกาะหินที่ตอนแรกดูธรรมดา กลายเป็นเกาะขนาดใหญ่หลายหมื่นจั้งที่มีอาคารมากมายนับไม่ถ้วน! มีหอคอยหินตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเกาะ ตำหนักสีฟ้าอมเขียวล้อมรอบด้วยพายุทำให้มิติบิดเบี้ยวไปมา

“นี่สินะ ตำหนักสายลมที่แท้จริง…” มู่เฉินมองเกาะหินมหึมาที่ยิ่งใหญ่ก็ถอนหายใจโล่งอก ดูท่าแผนที่จะระบุไม่ผิด เกาะหินเบื้องหน้านี้เป็นตำหนักสายลมจริงๆ

ทั้งสามสบตากันแล้วทะยานเข้าไปอย่างระมัดระวัง ก่อนที่จะหยุดที่กลางอากาศมองลงไปที่เกาะ

สิ่งที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจก็คือความจริงที่ไม่มีซากปรักหักพังใดบนเกาะ อาคารต่างๆ ดูราวกับไม่มีความเปลี่ยนทั้งที่ผ่านมานับหมื่นปี

ทว่าในไม่ช้าพวกเขาก็พบสิ่งที่ผิดสังเกต

มีโครงกระดูกมากมาย ซึ่งชัดว่าเป็นของจอมยุทธ์แห่งตำหนักสายลมนี้ ทุกคนมีท่าทางมองขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับความกลัวฉาบบนใบหน้า

ความตายของพวกเขาเหมือนมาในชั่ววูบ สีหน้าถึงได้แข็งค้างไว้เช่นนี้

มู่เฉินก็เงยหน้าขึ้นเช่นกัน ภายในเกาะสามารถมองทะลุปราการคลื่นหลิง ดังนั้นจึงสังเกตเห็นรอยดำบางๆ บนขอบฟ้า แม้รอยนี้จะจางมากแล้ว แต่พวกมู่เฉินก็ยังคงรู้สึกคลุมเครือว่าเผ่าปีศาจต่างมิติน่าจะลงมาจากที่จุดนั้นในสมัยโบราณ…

พร้อมกันนั้นจะต้องมีนักรบปีศาจที่น่าสะพรึงมากมาด้วย ภายใต้รัศมีร้ายกาจนั้นทำให้ทุกคนในตำหนักสายลมซึ่งอยู่ใกล้มากที่สุดถูกฆ่าทันที

“ว่ากันว่าตอนที่เผ่าปีศาจเคลื่อนพลรุกรานทวีปเทียนหลัว มีนักรบราชันปีศาจที่ทรงพลังมาด้วยและสถานะของมันก็ไม่ได้ต่ำ ท่าทางจอมยุทธ์ตำหนักสายลมจะถูกกำจัดโดยนักรบราชันปีศาจนั้น” เสียงของหลินจิ้งดังก้อง

มู่เฉินพยักหน้า วังสวรรค์บรรพกาลเป็นดินแดนของจักรพรรดิฟ้าที่เป็นยอดยุทธ์ในสมัยโบราณ โดยเป็นหนึ่งในจักรพรรดิซึ่งถือได้ว่าเป็นเสาหลักของมหาพันภพ ดังนั้นหากเผ่าปีศาจต่างมิติไม่ส่งสุดยอดนักรบราชันปีศาจมาก็เป็นไปไม่ได้ที่จะล้างผลาญทวีปเทียนหลัว

“หลังจากสงครามครั้งนั้นจักรพรรดิฟ้าก็หายตัวไปพร้อมกับวังสวรรค์บรรพกาลถูกทำลาย ดูเหมือนว่าสุดท้ายพวกปีศาจจะทำสำเร็จ” จิ่วโยวถอนหายใจ

“นักรบราชันปีศาจที่มาต้องไม่ธรรมดา…” หลินจิ้งมุ่นคิ้วพลางพูดต่อ “ข้าได้ยินไม่ชัดนักจากท่านพ่อว่านักรบราชันคนนี้ได้รับการจัดอันดับสูงในหมู่เผ่าปีศาจต่างๆ ทั้งหมด แต่โชคดีที่มันหายไปพร้อมกับจักรพรรดิฟ้า ข้าว่าพวกเขาคงลากคอกันไปตายพร้อมกัน มิฉะนั้นมหาพันภพจะต้องจ่ายราคาที่มากขึ้นจากสงคราม”

หลินจิ้งไม่คิดพูดถึงสงครามในอดีตต่อ นางกวาดสายตาสำรวจแล้วเปลี่ยนหัวข้อ “ตำหนักสายลมดูเหมือนถูกกวาดจนเหี้ยนเต้ หากผู้บัญชาการตำหนักสายลมสิ้นชีพแล้วก็ไม่ยากที่เราจะคว้าป้ายมา แต่รัศมีชั่วร้ายของเผ่าปีศาจเป็นที่รู้กันดีว่าครอบงำมากและสามารถรุกรานจิตใต้สำนึกของผู้คน เมื่อรัศมีปีศาจบุกเข้ามาจิตใต้สำนึกก็จะกลายเป็นสิ่งชั่วร้าย ดังนั้นหวังว่าผู้บัญชาการตำหนักสายลมจะไม่ได้กลายเป็นปีศาจ…”

“หวังว่าจะไม่ซวยแบบนั้น”

มู่เฉินเบ้ปาก ไม่ว่าอย่างไรผู้บัญชาการตำหนักสายลมก็ยังเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้น แม้ว่าจะผ่านมานับหมื่นปีก็ไม่อาจประมาทได้ หากประหน้ากันจริงๆ ละก็งานนี้ปวดหัวหนักแน่นอน!

“ไปที่โถงกันเถอะ ที่นั่นน่าจะเป็นโถงใหญ่นะ” มู่เฉินมองไปที่เบื้องหน้าจับจ้องไปที่ใจกลางเกาะที่มีตำหนักสีฟ้าอมเขียวล้อมรอบด้วยพายุ ถ้าเขาเดาถูก ป้ายของผู้บัญชาการตำหนักสายลมมีโอกาสปรากฏที่นั่นสูงสุด

จิ่วโยวและหลินจิ้งพยักหน้าไม่ได้คัดค้าน

มู่เฉินทะยานนำออกไป ทว่านี่เป็นการเคลื่อนตัวที่แปลกประหลาดมากเพราะสลับไปมาระหว่างเร็วกับช้า บางครั้งถึงกับเดินวนไปรอบๆ เนื่องจากเขาสามารถตรวจจับความผันผวนของค่ายกลที่ยุ่งเหยิง หากก้าวเข้าไปอาจกระตุ้นการใช้งานการป้องกันและดึงดูดปัญหาเข้ามายกใหญ่

การหลบเลี่ยงเช่นนี้ทำให้ความเร็วทั้งสามลดลง ดังนั้นหลังจากผ่านไปสิบนาทีพวกเขาถึงได้เข้าใกล้โถงหลักซึ่งล้อมไปด้วยพายุและพลิ้วตัวลงไปอย่างระมัดระวัง

“นี่คือค่ายกลระดับจงซือ”

มู่เฉินหยุดเบื้องหน้าโถงแล้วเงยหน้าขึ้นมองพายุสีฟ้าอมเขียว เพราะนี่ไม่ใช่พายุธรรมดา แต่เป็นพายุที่ก่อตัวขึ้นโดยค่ายกลที่ทรงพลัง

ตามการคาดการณ์ของมู่เฉินนี่น่าจะเป็นค่ายกลระดับจงซือของแท้

เมื่อจิ่วโยวและหลินจิ้งได้ยินคำพูดของเขาก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป สมกับเป็นเขตในวังสวรรค์บรรพกาล แค่ค่ายกลโถงหลักของตำหนักยังอยู่ในระดับจงซือ

“ทำลายได้ไหม?” จิ่วโยวถาม

ด้วยความแข็งแกร่งของกลุ่มเป็นไปไม่ได้ที่จะทำลายค่ายกลระดับนี้โดยพละกำลัง ดังนั้นจะต้องพึ่งพาความสามารถของมู่เฉินในศาสตร์ค่ายกลอย่างเดียว

มู่เฉินมองไปที่ค่ายกลและนิ่งเงียบอยู่นานก่อนจะตอบว่า “การทำลายเป็นไปไม่ได้เลย แม้ว่าจะผ่านมานับหมื่นปี แต่นี่ก็ยังเป็นค่ายกลระดับจงซือ แต่ข้าสามารถลองตรวจสอบวิถีของมัน ถ้าหาช่องโหว่ได้ก็น่าจะเข้าไปได้ ไม่งั้นคงต้องยอมแพ้”

การตัดสินใจช่างเด็ดขาด เพราะพวกเขาไม่สามารถทำลายด้วยพละกำลัง ไม่งั้นจะต้องจ่ายราคาแพงระยับ แทนที่จะเป็นแบบนั้นก็น่าจะมองหาตำหนักที่เหลืออยู่ดีกว่า

“ระวังให้ด้วย”

มู่เฉินพูดกับทั้งสอง จากนั้นก็นั่งลงสะบัดนิ้วส่งสัญลักษณ์หลิงยิ่งออกไป

เมื่อสายผนึกเหล่านั้นเข้าใกล้ระยะร้อยจั้งที่ด้านหน้าห้องโถง ก็รวมเข้าในมิติปล่อยความผันผวนที่ไม่ธรรมดาออกมาอย่างคลุมเครือ

เมื่อจิ่วโยวและหลินจิ้งเห็นภาพนี้ก็ไปยืนอยู่ข้างหลัง หลินจิ้งโบกมือเรียกตุ๊กตาน้ำแข็งขึ้นมา ทั้งสามก่อตัวเป็นรูปครึ่งวงกลมล้อมรอบมู่เฉินไว้

ภายใต้การปกป้อง การควบแน่นของสัญลักษณ์หลิงยิ่งก็ขยายตัวเร็วขึ้น หลอมรวมเข้ากับมิติอย่างต่อเนื่อง

สิ่งที่ทำก่อให้เกิดความปั่นป่วนขึ้น พายุดูหมือนจะถูกดึงโดยบางสิ่งเสียงโหมกระหน่ำสะท้อนก้อง พร้อมกับเสียงฟ้าร้องคำรามเลือนราง

ขณะเดียวกันแรงกดดันทรงพลังพร้อมกับความผันผวนของคลื่นหลิงน่าอัศจรรย์ก็แผ่ออกมา ทำให้ใบหน้าของจิ่วโยวและหลินจิ้งเคร่งเครียดลงเรื่อยๆ หากค่ายกลโจมตี พวกนางคงต้องตกอยู่ในสภาพน่าสมเพช

แต่โชคดีที่พายุไม่ได้กระหน่ำทางทิศของพวกนาง ภายต้สายตาวิตกกังวลและความปั่นป่วนก็คงอยู่ชั่วครู่ก่อนทุกอย่างจะสงบลง

ทันใดนี้เองพวกนางก็เห็นมู่เฉินลืมตาขึ้น สีหน้าเขาเคร่งขรึมลง รอยเลือดปรากฏตรงปลายนิ้ว จากนั้นก็วาดลงบนอากาศเบื้องหน้าเบาๆ

ริ้วรอยเลือดปรากฏขึ้นพร้อมกับสัญลักษณ์หลิงยิ่งนับไม่ถ้วนรอบๆ จากนั้นหญิงสาวทั้งสองก็เห็นปราการแสงสีฟ้าปริแตกออกเล็กน้อยที่ด้านนอกโถง

“ไป!”

มู่เฉินร้องบอกขณะทะยานเข้าไปในรอยแตกโดยที่จิ่วโยวและหลินจิ้งตามมาไม่ห่าง

เมื่อทั้งสามเข้าไป รอยแตกก็ค่อยๆ กลับคืนสภาพปกติ

ทว่าไม่นานหลังจากทั้งสามเข้าไป มิติด้านหลังก็แปรกปรวน เท้าลาวาก้าวออกมา!

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset