หนึ่งในใต้หล้า 大主宰
บทที่ 851 กระบวนท่าย่อยเปิดสามตะวัน
หอกขนาดพันจั้งพุ่งลงมาจากท้องฟ้า
ราวกับดาวหางที่นำพาพลังทำลายล้างที่ไม่สามารถต้านทานได้มาด้วย ทำให้เหล่าจอมยุทธ์ที่อยู่ใกล้ต้องถอยหลบออกไปหลายช่วงตัว
ทุกคนบอกได้เลยว่าฟังยี่ตั้งใจฆ่ามู่เฉิน เนื่องจากเขาใช้พลังทั้งหมดในกระบวนท่านี้แล้ว
ปัง! ปัง!
ผืนโลกพังทลายต่อเนื่อง รอยแตกขนาดใหญ่ขยายตัวบนพื้นอย่างรวดเร็ว มองเหมือนปากใหญ่ที่น่าสะพรึงกลัว
บริเวณที่มู่เฉินร่วงลง หินใหญ่ร้อยจั้งจำนวนมากก็พังทลายกลายเป็นเถ้าถ่านภายใต้แรงกดดันน่าสะพรึงนั้น
ฟังยี่ใส่พลังทุกหยาดหยดลงในกระบวนท่านี้บวกกับร่างแสงดาวปฐมกาล คลื่นพลังในนั้นยิ่งเพิ่มความน่าสะพรึง แม้แจ่จอมยุทธ์อย่างจิ่วโยว สูป้าและเสี่ยยิงยังตื่นตะลึง
สายตานับไม่ถ้วนพุ่งไปตรงจุดที่ถูกทำลายที่ซ่อนร่างมู่เฉินไว้ นับตั้งแต่ถูกซัดลงไปก็ไม่เกิดการเคลื่อนไหวใดทั้งสิ้น ไม่มีใครรู้ว่าเขายังพอมีพลังที่จะต้านกระบวนท่านี้ของฟังยี่หรือไม่
ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่ม้ามืดจะท้าทายเจ้าบันทึกจริงๆ
“คิดว่าซ่อนตัวเหมือนหนูแล้วจะหลบพ้นไปได้เรอะ?!”
หอกแสงดาวซัดลงมา ฟังยี่ที่ยืนอยู่ด้านบนหัวร่างแสงดาวปฐมกาลก็สาดสายตาเย็นชามองไปที่จุดวินาศสันตะโร เขาสัมผัสได้ถึงรัศมีของมู่เฉินที่ซ่อนตัวอยู่ แม้ว่ามู่เฉินจะประสบการโจมตีของเขาไปก่อนหน้า แต่เขาก็รู้ว่าการโจมตีเช่นนั้นยังไม่สามารถทำให้มู่เฉินที่มีการป้องกันอันน่าทึ่งได้รับบาดเจ็บ
แต่ไม่ว่ามู่เฉินจะซ่อนตัวอย่างไร ผลลัพธ์วันนี้ก็ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว!
นั่นเพราะท่าพิฆาตไปถึงแล้ว!
“ออกมา!”
ฟังยี่กำมือเข้าหากัน หอกแสงดาวก็อยู่เหนือท้องฟ้าบนจุดวินาศสันตะโรพอดี จากนั้นแรงกระทบน่าสะพรึงกลัวก็แผ่ขยายออกไป ทำให้พื้นดินแตกกระจายมากขึ้นกว่าเดิม
ขณะที่พื้นดินถูกฉีกขาด ทุกคนก็เห็นร่างร่างหนึ่งยืนอยู่บนก้อนหินใหญ่ใต้ดิน เขาสวมชุดเกราะมังกรหงส์สีทองอร่าม แววตายากเกินหยั่งถึงจ้องมองไปที่การโจมตีที่น่ากลัวที่กำลังมาถึง
“เจอแล้ว ไอ้ลูกหนู!” รังสีสังหารพวยพุ่งขึ้นในดวงตาของฟังยี่ หอกแสงดาวสั่นสะเทือน ก่อนที่จะเล็งเป้าไปที่มู่เฉินแล้วซัดตรงลงมาเต็มแรง
ทุกคนกลั้นหายใจขณะจ้องมองร่างสวมชุดเกราะสีทอง พวกเขาไม่รู้ว่ามู่เฉินจะป้องกันการโจมตีจากฟังยี่ได้ด้วยวิธีอย่างไร
การประลองยืดยาวถึงตอนนี้ คลื่นหลิงของมู่เฉินคงใกล้ถูกใช้หมดไปแล้วมั้ง?
ฮา
ภายใต้สายตานับไม่ถ้วน มู่เฉินก็พรูลมหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะยกมือขึ้นแล้วกำแน่น!
“ค่ายกลบัวยมทูต!”
เสียงลึกต่ำเปล่งออกมาจากปากมู่เฉิน ทันทีที่สิ้นเสียง คลื่นหลิงอันน่าทึ่งก็พุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าจากจุดลึกของผืนโลกที่พังทลาย
แผ่นโลกสั่นสะเทือนขณะที่ดอกบัวสีดำเมื่อมสี่ดอกปรากฏขึ้นเบื้องล่างมู่เฉิน แต่ละดอกกระเพื่อมด้วยคลื่นหลิงที่ทรงพลังขณะที่หมุนคว้างช้าๆ
“นั่น…ค่ายกล?!”
ผู้คนบริเวณนี้ไม่สามารถยับยั้งเสียงอุทานได้ หลังจากเห็นดอกบัวสี่ดอกที่ด้านหลังมู่เฉินและสัมผัสถึงความผันผวนพิเศษของคลื่นหลิง นั่นเพราะพวกเขารู้สึกได้ว่าค่ายกลนี้ไม่ใช่สิ่งธรรมดาเลย
ทว่าสีหน้าฟังยี่ไม่เปลี่ยนแปลงใดๆ ถึงจะมีเสียงอุทานอัศจรรย์มากมาย เขาเคยหาข้อมูลเกี่ยวกับมู่เฉิน ดังนั้นจึงรู้ข้อมูลมาไม่น้อย หนึ่งในนั้นก็คือตัวตนที่เป็นหลิงเจิ้นซือ มิหนำซ้ำเขายังรู้ด้วยว่าในระหว่างพิธีมอบยศราชันมู่เฉินใช้สิ่งนี้เอาชนะชิวไท่ยิง
“ชิวไท่ยิงเป็นเพียงจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นห้าระยะต้น ขนาดเสถียรภาพคลื่นพลังยังไม่สามารถรักษาได้อย่างมั่นคง แกช่างไร้เดียงสาจริงๆ ที่จะใช้กระบวนท่าที่เคยจัดการมันกับข้า!”
รอยยิ้มเย็นเยือกโค้งขึ้นที่มุมปากของฟังยี่ เขากำกำปั้น หอกแสงดาวก็พุ่งลงไปหมายจะสังหารมู่เฉิน
ใบหน้าของมู่เฉินสงบนิ่ง ฝ่ามือวาดตราประทับฉับพลัน
ตู้ม!
ดอกบัวสี่ดำทั้งสี่สั่นไหว ทันใดนั้นกลีบดอกก็เริ่มคลี่บานพร้อมกับชั้นแสงมืดมิดรวมตัวกันอย่างรวดเร็วที่เกสรดอกบัว อึดใจเสาแสงสีดำทั้งสี่ก็ยิงออกมาจากเกสรดอกบัวทั้งหมด
ฮึ่ม! ฮึ่ม!
เสาแสงทั้งสี่ไขว้พันกันอย่างรวดเร็วบนท้องฟ้า ดูราวกับมังกรดำสี่ตัวคำรามจากนั้นก็ม้วนตัวเข้าด้วยกัน จากนั้นพร้อมกับความผันผวนของคลื่นหลิงที่น่าตกตะลึงก็พุ่งปะทะกับหอกเต็มแรง!
ตึง!
จังหวะที่เกิดการปะทะกัน พื้นดินก็ถูกทำลาย คลื่นกระแทกกระจายออกพร้อมกับชั้นของดินพังทลายลงอย่างรวดเร็ว ในเวลาไม่กี่อึดใจพื้นบริเวณนี้ก็กลายเป็นหลุมใหญ่หลายพันจั้ง
ในปากปล่องแสงมืดมิดไร้ขอบเขตปะทะกับหอกอย่างรุนแรง ทุกการกระทบจะทำให้ปล่องด้านล่างขยายตัวออกไป
ทุกคนตกตะลึงไปเมื่อมองการปะทะกันของกระบวนท่านี้ แต่ในสายตาพวกเขาส่วนใหญ่ตกใจกับการต้านทานที่ทรงพลังของมู่เฉิน
นั่นเพราะในมุมมองของพวกเขา หอกแสงดาวที่ควรชนะอย่างไร้ข้อกังขากลับแสดงสัญญาณถูกต้านจากการถูกขัดขวางของค่ายกลดอกบัวสีดำ ซึ่งนี่ทำให้พวกเขาอึ้งไปโดยไม่ต้องสงสัย
ลึกลงไปในปากปล่อง มู่เฉินมองไปที่การปะทะกันที่น่ากลัวบนท้องฟ้า ไม่มีระลอกคลื่นใดในดวงตา
ย้อนกลับไปตอนที่เขาต่อสู้กับชิวไท่ยิง เขาสามารถสร้างดอกบัวสี่ดอกของค่ายกลบัวยมทูตได้แล้ว ทว่าความจริงเนื่องจากเขาเพิ่งจะมีพัฒนาการในตอนนั้น คลื่นพลังในร่างกายจึงไม่สามารถควบคุมได้ในระดับที่ดี ดังนั้นดอกบัวทั้งสี่ในช่วงเวลานั้นจึงไม่ถือว่าสมบูรณ์นัก
แต่ตอนนี้มู่เฉินรักษาเสถียรภาพของคลื่นหลิงในร่างกายได้ยอดเยี่ยม บวกกับความช่วยเหลือของสภาวะฤทัยปีศาจขั้นต้น ดอกบัวทั้งสี่ที่เขาใช้ก็สมบูรณ์แบบและแข็งแกร่งกว่าครั้งก่อนอย่างชัดเจน
ดังนั้นหากฟังยี่ประเมินค่ายกลของเขาต่ำไปก็ต้องเจอปัญหาแน่นอน
“ไอ้เวร!”
เป็นไปตามที่มู่เฉินคาดการณ์ไว้ ใบหน้าฟังยี่ตอนนี้เขียวคล้ำลง ไพ่ตายหลายใบที่เขามั่นใจในการคว้าชัยชนะ สุดท้ายก็ไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ ในสายตาของเขานี่เป็นอะไรที่เกินทนจริงๆ
“ข้าไม่เชื่อว่าจะจัดการกับแกไม่ได้!”
จิตสังหารอัดแน่นในนัยน์ตาของฟังยี่ ตอนอยู่ในเขตหลงเฟิ่ง มู่เฉินใช้กลยุทธ์ทั้งหมดก็ทำได้แค่บีบโยวหมิงถอยไป มิหนำซ้ำสุดท้ายยังเกือบจะโดนโยวหมิงสังหารได้ ทว่าเพียงไม่กี่เดือนเขาก็เติบโตขึ้นถึงระดับนี้ แม้ว่าฟังยี่ก็ต้องเผยไพ่ตายหลายใบในการสู้ พัฒนาการที่เพิ่มขึ้นของมู่เฉินทำให้ฟังยี่รู้สึกตื่นกลัวในใจ หากสิ่งนี้ยังดำเนินต่อไปและเขาปล่อยให้มู่เฉินรอดมือไปได้ ก็ยากที่จะตัดสินว่าใครจะชนะในครั้งต่อไปแล้ว
ดังนั้นวันนี้มู่เฉินจะต้องตาย!
ไอเย็นเยือกวาบขึ้นในดวงตาฟังยี่ วินาทีต่อมาเขาก็กระทืบเท้า กระแทกฝ่ามือไปบนศีรษะของร่างแสงดาวปฐมกาล จากนั้นเลือดไหลออกมาจากฝ่ามือ แผนภาพดวงดาวที่ดูเหมือนวาดขึ้นจากเลือดก็ถูกสร้างขึ้นบนศีรษะร่างแสงดาวปฐมกาล
“ภาพหมู่ดาวกลั่นโลหิต”
เสียงดังกึกก้องเมื่อแสงสีโลหิตกระจายออกจากศีรษะร่างแสงดาวปฐมกาล ก่อนที่แสงโลหิตจะระเบิดออกปกคลุมหอกเอาไว้
ตู้ม!
คลื่นหลิงบนตัวหอกเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน ทำให้มิติสั่นคลอนรุนแรงราวกับน้ำเดือด พายุพลังงานที่น่ากลัวก็พัดออกไป!
ปัง!
เสาแสงสีดำที่ราวกับมังกรดำสี่ตัวที่ไขว้พันกันเริ่มแสดงสัญญาณพังทลาย รอยร้าวกระจายไปทั่วเสาแสง ก่อนที่จะระเบิดออกเบื้องหน้าสายตาตกตะลึงนับไม่ถ้วน
หอกฉีกขาดคลื่นหลิงปั่นป่วน พุ่งลงมาหามู่เฉินด้วยไอสังหารเชี่ยวกราก
ทว่าหลังจากจ่ายราคามหาศาลเพื่อที่จะทำลายค่ายกลดอกบัวยมทูตแล้ว แผนภาพดวงดาวที่ปกคลุมบนตัวหอกก็สลัวลงมาก
แต่กระนั้นกระบวนท่าโจมตีดังกล่าวก็เป็นสิ่งที่แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นห้ายังไม่กล้าเผชิญหน้าตรงๆ
มู่เฉินเงยหน้ามองหอกที่พุ่งเข้ามา แรงกดดันน่ากลัวที่ปกคลุมไปทั่วทำให้มู่เฉินรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่โถมเข้ามา แม้จะได้รับการปกป้องจากเกราะมังกรหงส์ก็ตาม
“ยังไม่พอเหรอ…”
มู่เฉินพึมพำกับตัวเอง ค่ายกลดอกบัวยมทูตทั้งสี่ยังไม่เพียงพอที่จะป้องกันการโจมตีจากฟังยี่ ดูท่าร่างแสงดาวปฐมกาลจะทรงพลังสมกับชื่อเสียงแท้จริง
แต่…ในแง่ร่างเทห์สวรรค์ มู่เฉินไม่กลัวใครหน้าไหนทั้งสิ้น
ฮา
มือของมู่เฉินประสานเข้าด้วยกัน แสงสีทองพร่างพราวระเบิดออกจากร่างกาย ร่างขนาดพันจั้งก็ปรากฏขึ้นในพริบตาพร้อมกับดวงตะวันสีทองลอยอยู่เบื้องหลังศีรษะ ทำให้เกิดแรงกดดันที่ไม่สามารถอธิบายได้
เมื่อร่างเทพสุริยะปรากฏขึ้น แม้แต่ฟังยี่ก็ยังต้องม่านตาหดเกร็ง นั่นเป็นเพราะในขณะนี้เขารู้สึกได้ถึงคลื่นผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างแสงดาวปฐมกาล ซึ่งเป็นความรู้สึกถึงอันตราย
“ทักษะเทห์สวรรค์ คลื่นเก้าตะวัน!”
ทันใดนั้นเสียงตะโกนก็ดังก้องในใจของมู่เฉิน
ฮึ่ม! ฮึ่ม!
ดวงตะวันสีทองสองดวงเคลื่อนขึ้นมาตรงหว่างคิ้วและหน้าอกของมู่เฉิน ขณะที่พลังงานน่าสะพรึงกลัวเริ่มไหลออกมา แต่นี่ไม่ใช่ขีดสุด เพราะในเวลาเดียวกันมีแสงสีทองโชติช่วงรวมตัวกันบนหน้าท้องของมู่เฉิน ผลึกเพลิงมหาตะวันอีกลูกกำลังก่อตัวขึ้น!
“คลื่นเก้าตะวัน—เปิดสามตะวัน!”
เสียงตะโกนทำให้จอมยุทธ์ที่อยู่ในบริเวณนี้สีหน้าเปลี่ยนแปลงรุนแรง ยามนี้พลังงานทรงประสิทธิภาพระเบิดออกจากร่างเทพสุริยะราวกับภูเขาไฟ!
ท้องฟ้าถึงกับแปรเปลี่ยนต่อกระบวนท่านี้!