กายามังกรหงส์
โฮก!
เสียงคำรามของมังกรและหงส์ฟ้าดูราวกับมีต้นกำเนิดมาจากยุคโบราณแว่วมาแต่ไกล ฉีกผ่านมิติขณะที่ดังก้องในใจของมู่เฉิน ภายใต้เสียงเทพอสูรทั้งสอง เลือดในกายเขาก็เหมือนจะเดือดพล่านขึ้นมา
แสงสีทองสุกใสกำจายออกมาจากหว่างคิ้วของมู่เฉิน อึดใจเดียวก็แผ่ขยายไปทั่วสรรพางค์กาย นอกจากนี้หลังจากแสงสีทองกำลังรวมเข้ากับเลือดเนื้อของเขา ความเจ็บปวดจากการเผาไหม้รุนแรงก็แผ่ซ่านออกมาทันที
ความเจ็บปวดนั้นทำให้ใบหน้าของมู่เฉินเหยเกไป ร่างสั่นเทิ้มอย่างต่อเนื่องขณะหยดเลือดผุดออกมาจากรูขุมขน
หยดเลือดเล็กสีทองเข้มได้แสดงครอบงำให้เห็นในตอนนี้แล้ว มันพยายามเผาเลือดทุกหยาดหยดที่มีในร่างกายของมู่เฉิน
ทว่าภาพนั้นไม่ใช่สิ่งที่มู่เฉินต้องการจะเห็นอย่างชัดเจน เขาต้องการหลอมรวมไม่ใช่เผาไหม้หนึ่งในนั้น เพราะถ้าเลือดของเขาถูกเผาไหม้ ก็จะทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ถึงตอนนั้นเมื่อเลือดแก่นมังกรและหงส์ฟ้าจะกลายเป็นสายเลือดหลักในร่างแทนที่จะเป็นสายเลือดเสริม ร่างของเขาอาจจะถูกทำลายได้
“ในเมื่อเข้ามาในร่างข้า ไม่ว่าเจ้าจะเป็นอะไร ก็ต้องอยู่เงียบๆ!” มู่เฉินกัดฟันขณะที่หัวใจบีบรัด คลื่นหลิงในร่างกายหมุนเวียนอย่างรวดเร็ว มากจนแม้แต่การไหลเวียนของเลือดในร่างกายก็ยังเร่งขึ้น
เขารู้ว่าตอนนี้จะมาทำตัวขลาดเขลาไม่ได้ ไม่ว่าแก่นเลือดเทพอสูรทั้งสองจะครอบงำปานใด เขาก็ไม่สามารถปล่อยให้พวกมันเผาเลือดของเขาได้
เส้นแสงสีทองส่องประกายในเลือดเนื้อ ย้อมจนเป็นสีทอง แต่ภายใต้การควบคุมของมู่เฉิน เลือดในร่างกายของเขาก็เริ่มตอบโต้โดยการช่วยเหลือจากคลื่นหลิงจนข่มแสงสีทองไว้ได้
ทั้งสองเริ่มต่อสู้กันในร่างกาย ทุกการปะทะทำให้ตัวเขาสั่นเทิ้ม พร้อมกับความเจ็บปวดแสนสาหัสแล่นริ้ว เกือบจะทำให้มู่เฉินทนไม่ไหวอีกต่อไป แทบจะร้องโหยหวนออกมา นั่นเพราะความเจ็บปวดเทียบได้กับการเฉือนเนื้อเขาออกแบบสดๆ ช่างเป็นความรู้สึกที่เกินจะทนรับได้
แต่ตอนนี้เขาหลังชนฝาแล้ว
หากเขาต้องการสร้างกายามังกรหงส์ เขาก็ต้องพุ่งชนกับอันตรายเช่นกัน
เมื่อมองจากภายนอกร่างกายของมู่เฉินตอนนี้จะเห็นได้ว่ามีการกำจายแสงสีแดงเลือดและสีทองออกมา ทั้งสองสีสัมผัสกันอย่างต่อเนื่องและพยายามกลืนกินอีกฝ่าย ภายใต้แสงสองสี ใบหน้าเหยเกของมู่เฉินก็ดูน่ากลัวยิ่งนัก
แม้ว่าแก่นเลือดมังกรและหงส์ฟ้าจะครอบงำรุนแรง แต่ยังไงก็อ่อนแอลงด้วยตัวเอง ดังนั้นการต่อสู้นี้จึงคงอยู่ระยะหนึ่งก่อนที่แสงสีทองจะเริ่มถอยกลับไป แต่ทันทีที่มู่เฉินผ่อนคลาย วงล้อมังกรหงส์ที่ด้านบนก็เริ่มลุกโชนด้วยแสงสีทอง หยดเลือดมังกรหงส์อีกร่วงลงบนหว่างคิ้วอีกครั้ง
“บ้าเอ๊ย!”
มู่เฉินมีเวลาเพียงได้สบถในใจก่อนที่จะอยู่ในความเจ็บปวดที่แล่นริ้วขึ้นมาอีกครั้งและอีกครั้ง เขาป้องกันห้วงแห่งจิตไม่ให้สติกระเจิดกระเจิงจากความเจ็บปวดรวดร้าวนี้
ดังนั้นในเวลาต่อไป มู่เฉินก็ได้เริ่มลิ้มรสชาติของการตายทั้งเป็นแบบสุดยอด ภายใต้ประสาทสัมผัส ทั้งร่างกายมีแต่บาดแผลจากการต่อสู้ ความรู้สึกนั้นราวกับว่าร่างถูกเฉือนด้วยใบมีดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เขาไม่รู้ว่าการต่อสู้กินเวลานานแค่ไหน เขารู้แค่ว่าตนเองสูญเสียประสาทสัมผัสไปในท้ายที่สุด มีเพียงร่องรอยของเจตจำนงที่ยังปกป้องจิตใจเพื่อไม่ให้สติสัมปชัญญะถูกทำลาย
ทว่าขณะที่สติมู่เฉินกำลังเลือนราง เขากลับไม่รู้เลยว่าตลอดการต่อสู้ทุกครั้งที่เกิดขึ้นในร่างกาย จะเกิดเส้นใยเลือดสีทองเข้มแทรกอยู่ทั่วร่างและกระดูก พลังชีวิตน่าสะพรึงกลัวแผ่ออกมาเมื่อเกิดการกระดุกกระดิกตัว
บนพื้นผิวร่างกายของมู่เฉินมีประกายสีทองเข้มเคลื่อนไหวอยู่ ดูเหมือนจะมีเกล็ดสีทองเข้มหนาแน่นปรากฏอยู่บนผิวของเขาอย่างเลือนรางเช่นกัน
มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงทั่วร่างกายของเขาในขณะนี้
ระดับน้ำในสระมังกรหงส์ชั้นยอดลดลงเรื่อยๆ แสงสีทองพราวระยับในตอนแรกหม่นลง เห็นชัดว่าเกิดจากการที่มู่เฉินดูดซับแก่นเลือดมังกรและหงส์ฟ้าเป็นจำนวนมาก
ไฉ่เซียวยืนอยู่ด้านนอกสระ มองระดับน้ำที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง เมื่อระดับน้ำลดลง สามารถมองเห็นร่างของมู่เฉินที่นั่งอยู่ตรงก้นบ่อได้เลือนราง
ทว่าเมื่อดูสถานการณ์แล้ว ก็มีทีท่าว่ายังไม่สิ้นสุด
“แก่นเลือดมังกรและหงส์ฟ้าในสระนี้ไม่อาจเพียงพอที่จะสร้างกายามังกรหงส์ได้” ไฉ่เซียวพึมพำกับตัวเองพลางขมวดคิ้ว นางไตร่ตรองครู่หนึ่งก่อนจะกำมือ ผลเทพมังกรหงส์ที่มีภาพมังกรและหงส์ฟ้าไขว้พันกันบนผิวก็ปรากฏขึ้น แสงสีทองเจิดจ้าระเบิดออกมาราวกับดวงอาทิตย์ดวงเล็ก อัดแน่นด้วยพลังงานที่ทำให้คนมองต้องน้ำลายสอ
ปริมาณแก่นเลือดมังกรและหงส์ฟ้าที่ใช้ในการสร้างกายามังกรหงส์เหนือความคาดหมายของไฉ่เซียวไป หากเป็นเช่นนี้ต่อไป มู่เฉินคงไปไม่ถึงสภาวะสมบูรณ์แบบแน่ เพราะทันทีที่แก่นเลือดหมดลง การฝึกยุทธ์ของเขาก็จะหยุดชะงักลงตาม หากเขาเสียโอกาสนี้ไป ก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่เขาจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้อีก
ดังนั้นไฉ่เซียวตัดสินใจหยิบผลเทพมังกรหงส์ออกมา
“เจ้านั่นทำอะไรเสียของชะมัด”
ไฉ่เซียวเหลือบมองมู่เฉินที่นั่งอยู่ในก้นสระก็เบ้ปาก จากนั้นนางพลิกนิ้วผลเทพมังกรหงส์ก็กลายเป็นลำแสงสีทองพุ่งเข้าไปในวงล้อมังกรหงส์เหนือศีรษะของมู่เฉิน
ทันทีที่ผลไม้เทพเข้าไปในวงล้อมังกรหงส์ แสงสีทองก็กำจายออกมาทุกทิศทาง เสาแสงสีทองขนาดราวร้อยจั้งทะยานขึ้น จนเห็นได้ชัดเจนจากภายในรัศมีพันลี้
โฮก!
เสียงคำรามของมังกรและหงส์ฟ้าอันเก่าแก่ดังออกมาจากเสาแสงขนาดใหญ่ สะท้อนก้องระหว่างฟ้าดิน ดูราวกับว่ามีมังกรแท้จริงและหงส์ฟ้าแท้จริงอยู่ภายในนั้น
บริเวณแหล่งกำเนิดเสาสีทอง มู่เฉินกำลังนั่งเงียบๆ เลือดมังกรและหงส์ฟ้าสีทองเข้มเทลงมาราวกับลำธารสายเล็กปกคลุมทั่วร่างเขา
ฉ่า! ฉ่า!
ขณะที่เลือดกลั่นมังกรและหงส์ฟ้าหลั่งไหลลงมา ผิวของมู่เฉินก็ราวกับถูกเผาไหม้จนเกิดเสียงฉ่าเสียดแทงแก้วหูดังขึ้น ความรู้สึกราวกับว่าแก่นเลือดนี้ ไม่ใช่เลือดแต่เป็นลาวาร้อนที่หลอมละลายโลหะได้…
พื้นผิวร่างกายของมู่เฉินสั่นสะท้านภายใต้การห่อหุ้มของแก่นเลือด เขาอดทนต่อความเจ็บปวดไม่สิ้นสุดพร้อมกับเสียงคำรามต่ำ หมัดกระแทกลงบนพื้นดินอย่างรุนแรง เกิดรอยร้าวที่ก้นสระแห่งนี้
ไฉ่เซียวมองร่างสั่นเทาก็อดไม่ได้ที่จะกำหมัด นางเตรียมพร้อมจะลากมู่เฉินออกจากสภาวะการฝึกเต็มที่แล้ว
เพราะหากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป ทันทีที่มู่เฉินทนไม่ได้ ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ร่างกายของเขาจะหลอมละลายจากแก่นเลือดมังกรหงส์ฟ้า
พวกเขาประมาทไปว่าเลือดแท้จริงของมังกรและหงส์ฟ้าทรงพลังรุนแรงเพียงใด
“อดทนไว้นะ” ไฉ่เซียวพูดเสียงต่ำ หากนางลากมู่เฉินออกมาจากสภาวะฝึกยุทธ์ตอนนี้ ความพยายามก่อนหน้าของเขาก็จะเป็นเรื่องสูญเปล่า พวกเขาจะเสียเปล่ากระทั่งผลเทพมังกรหงส์หนึ่งลูก
แผนเสียเปรียบนี้สามารถใช้ได้ก็ต่อเมื่อมีความจำเป็นอย่างแท้จริง
เสาแสงสีทองพุ่งทะยานขึ้นสู่ชั้นเมฆ แสงสีทองเจิดจ้ากินเวลาหลายชั่วโมง แต่ก็ไม่มีสัญญาณอ่อนกำลังลงเลย ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป เสียงปะทะกันรุนแรงก็เงียบลง ร่างมู่เฉินที่สั่นเทิ้มก็ค่อยๆ สงบลง
ไฉ่เซียวที่ไม่เห็นการเคลื่อนไหวใดๆ จากมู่เฉิน ก็อดไม่ได้ที่จะมีสีหน้าเปลี่ยนไป เพราะนางสัมผัสได้ว่าในตอนนี้รัศมีของมู่เฉินอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็ว
“ล้มเหลว?”
สายตาของไฉ่เซียวเปลี่ยนไป จากนั้นนางก็กัดฟันแน่นพลางแตะเท้า นางพุ่งตรงไปปรากฏตัวที่ก้นสระกำลังจะลากมู่เฉินออกมาจากแสงสีทอง
“มะ…ไม่…อย่า…”
ทว่าขณะที่ไฉ่เซียวกำลังดึงมู่เฉินออกจากแสงสีทอง เสียงแหบพร่าก็ดังออกมาจากภายในเสาแสง
มือไฉ่เซียวชะงักกลางอากาศ สายตาจับจ้องเสาแสงสีทองนิ่ง สุดท้ายนางก็ทำได้แต่กระทืบเท้าลงไปเบาๆ หดมือกลับ ความดื้อรั้นของมู่เฉินเหนือความคาดหมายของนางนัก
แสงสีทองยังคงเจิดจ้า แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็เริ่มอ่อนลง เสาแสงขนาดร้อยจั้งก็หดขนาดลงทีละน้อย…ละน้อยจนเปลี่ยนเป็นลำแสงบางๆ และจางหายไป
เมื่อแสงหายไป สถานการณ์ที่ก้นสระก็มองเห็นได้ชัดเจน นางเบนสายตาไปตรงนั้น ก็มองเห็นร่างมนุษย์ถูกปกคลุมด้วยแก้วผลึกสีทอง ร่างนั้นดูราวกับแมลงในก้อนอำพัน ร่างเขาถูกแช่แข็งพร้อมกับใบหน้าบิดเบี้ยว พลังชีวิตหายไปอย่างสิ้นเชิง
ไฉ่เซียวจับตามองร่างนั้น แม้แต่นางก็ไม่สามารถรับรู้ถึงรัศมีของมู่เฉินได้ในตอนนี้ นางจึงบอกไม่ได้ว่ามู่เฉินประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว…
เปรี๊ยะ!
ทว่าขณะที่ไฉ่เซียวข่มใจให้เย็นลงต่อไปไม่ได้ คิดจะทำลายชั้นแก้วผลึก จู่ๆ ก็มีรอยร้าวปรากฏบนชั้นแก้วผลึกแผ่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ในไม่กี่ลมหายใจรอยร้าวก็ปกคลุมพื้นผิวทั้งหมดของแก้วผลึก…
ภายในแก้วผลึกตอนนี้ ดวงตาที่ปิดสนิทของมู่เฉินก็กระตุกขึ้น ก่อนจะค่อยๆ ลืมขึ้นท่ามกลางสายตายินดีของไฉ่เซียว
ตู้ม!
แสงสีทองเจิดจ้าเปล่งออกจากดวงตาของมู่เฉินเมื่อเปิดตาขึ้น พร้อมกับเสียงกัมปนาท ชั้นแก้วผลึกสีทองก็ระเบิดออก เปลี่ยนเป็นแสงสีทองยิงออกไปทุกทิศทาง
จังหวะที่แสงสีทองระเบิด ร่างร่างหนึ่งก็ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้ากู่ร้องขึ้น เสียงของเขาบรรจุด้วยเสียงมังกรและหงส์ฟ้าผสมอยู่ภายใน เมื่อแสงสีทองกระจายออก มังกรและหงส์ฟ้าขนาดใหญ่ก็ก่อตัวขึ้นที่เบื้องหลังเขาจนมองเห็นได้เลือนราง แรงกดดันบีบคั้นที่น่ากลัวก็แผ่ซ่านออกไปในบริเวณนี้
ร่างสีทองยืนอยู่บนท้องฟ้าพร้อมกับมังกรและหงส์ฟ้า ช่างดูราวกับเทพเซียนที่ไร้ที่ติ