หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 773

ซูปี้เยี่ยและหงหยู

ที่ชั้นบนของหอหลงเฟิ่งหลิ่วเหยียนยืนขึ้น

ร่างเขาไม่ได้ใหญ่โต แต่กลับทำให้บรรยากาศในหอหลงเฟิ่งบีบกดอย่างรุนแรง

รัศมีกดดันไร้รูปลักษณ์กระจายออกไปบางจาง นี่คือแรงกดดันที่มาจากหลิ่วเหยียน

ในฐานะจอมยุทธ์อันดับสี่ของบันทึกมังกรหงส์ เกียรติยศของหลิ่วเหยียนในภูมิภาคทางเหนือก็ล้ำเลิศกว่ามู่เฉินหลายเท่า ในสายตาของคนจำนวนมาก ทั้งสองคนไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเลย

แม้มู่เฉินจะใช้กลยุทธ์ฉับไวในการเอาชนะหลู่หยาง แต่ก็ไม่มีใครคิดว่าเขาคือคู่ต่อสู้ของหลิ่วเหยียน

หลิ่วเหยียนยืนอยู่บนที่สูงมองลงมาที่มู่เฉินอย่างไม่แยแส ไอเย็นเยือกรวมตัวกันในดวงตา แรงกดดันที่มาจากเขาพุ่งซัดไปที่มู่เฉินทั้งหมด

บรรยากาศรอบกายมู่เฉินราวกับแข็งค้างฉับพลัน แรงกดดันคลื่นหลิงที่กดทับลงมาจากด้านบนราวกับจะครอบงำเขาเอาไว้

ด้วยพลังของหลิ่วเหยียน หากเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นสามธรรมดา คงมีสภาพน่าอนาถจากแรงกดดันคลื่นหลิงไปแล้ว แต่เห็นชัดว่ามู่เฉินไม่ได้อยู่ในกลุ่มคนพวกนั้น

สายฟ้าแล่นแปลบปลาบบนร่างมู่เฉิน ขณะเสียงฟ้าคำรามดังแว่วออกมาจากร่างกาย เมื่อแรงกดดันคลื่นหลิงปกคลุมลงมา ก็ไม่ได้สร้างแรงกดดันให้เขาแม้แต่น้อย

ทั้งคู่ประสานสายตากันกลางอากาศ ไอเย็นเยือกแผ่ซ่านทำให้อุณหภูมิในหอหลงเฟิ่งลดต่ำลง

“ดูเหมือนแกจะพัฒนาขึ้นจากครั้งล่าสุดนะ มิน่าล่ะถึงกล้าอวดเบ่งเช่นนี้!” หลิ่วเหยียนพูดเสียงเย็นชา น้ำเสียงอัดแน่นด้วยรังสีสังหาร จากนั้นสายตาเขาก็เปลี่ยนเป็นคมกริบพร้อมกับงอนิ้วทั้งสองชี้ลง

“แต่แค่ระดับจื้อจุนขั้นสามของแก ยังไม่มีสิทธิ์มาโอหังต่อหน้าข้า”

ตู้ม!

ทันทีที่หลิ่วเหยียนชี้นิ้วลง วงคลื่นที่มองเห็นได้ก็ก่อตัวขึ้นในมิติ จากนั้นแสงสีแดงก็กวาดตัวออกมาราวกับเปลวไฟลุกโชน

“ดัชนีปีศาจผลาญ”

เมื่อเสียงเย็นเยือกของหลิ่วเหยียนดังขึ้น ดัชนีใหญ่หนาก็ก่อตัวจากแสงสีแดงแล้วกวาดออก เปลวไฟลุกโชนพร้อมกับอุณหภูมิสูง ทำให้ทั้งหอหลงเฟิ่งแห้งร้อนไปหมด

ตู้ม!

เมื่อดัชนีขนาดใหญ่ควบแน่นก็ทะลวงผ่านมิติบดขยี้ลงมาหามู่เฉิน

จอมยุทธ์ที่อยู่ใกล้มู่เฉินถอยกรูด เนื่องจากกลัวโดนลูกหลงจากการโจมตีทรงพลังของหลิ่วเหยียน ทว่าไฉ่เซียวกลับไม่เคลื่อนไหวใดๆ

นางยิ้มมองการปะทะพลัง แต่ไม่มีเจตนาที่จะช่วยเหลือ ดวงตากระจ่างใสเปี่ยมไปด้วยความสนใจ

ครืน!

มองดัชนีเพลิงขนาดใหญ่ที่กดลงมา ม่านตาสีดำของมู่เฉินก็สงบนิ่ง อึดใจก็กำหมัดทั้งคู่ คลื่นหลิงแตกต่างกันสองสายปะทุออกจากฝ่ามือ

โฮก!

เสียงมังกรและคชสารคำรามลั่นในเวลาเดียวกัน ขณะที่ลำแสงทั้งสองพุ่งออกจากฝ่ามือของมู่เฉิน ก่อร่างเป็นมังกรและคชสารไขว้ที่เบื้องบน ควบแน่นจนกลายเป็นจานแสงมังกรคชสารปะทะกับดัชนีเพลิง

ปัง!

เสียงปะทะดังสนั่นขณะคลื่นหลิงรุนแรงกวาดออก ทำให้เกิดระลอกคลื่นในมิติ ก่อนที่จานแสงมังกรคชสารจะระเบิดออกด้วยแสงเจิดจ้าสลายลงไปพร้อมกับดัชนีเพลิง

ระลอกคลื่นหลิงกวาดเข้าใส่ทั้งสอง แต่ก็สลายลงในพริบตา

ความผันผวนของคลื่นหลิงกลางอากาศค่อยๆ จางหายไป สายตาของหลิ่วเหยียนก็เปลี่ยนเป็นคมกริบ แม้ว่านี่จะเป็นการโจมตีแบบปกติ แต่พลังนั่นก็เพียงพอที่จะสยบจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นสามทุกคน แต่ว่ากลับถูกมู่เฉินสลายลงได้อย่างง่ายดาย เห็นชัดว่าเขาไม่พอใจกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนี้

ทุกคนสามารถสัมผัสได้ถึงคลื่นกระแทกที่น่าตกใจและไอเย็นเยือกจากหลิ่วเหยียน ทำให้สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทันที

หญิงสาวชุดแดงที่ด้านข้างมีดวงตาวูบไหว แต่นางเลือกที่จะไม่ทำอะไรรับบทผู้สังเกตการณ์อย่างเดียว นางไม่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับหลิ่วเหยียนมาก แม้ว่าชายหนุ่มอ่อนวัยที่ชื่อมู่เฉินจะมีขุมพลังจื้อจุนขั้นสามเท่านั้น แต่คนที่คิดรอบคอบแบบนางย่อมไม่ประมาทเขา ดังนั้นจึงเป็นเรื่องดีที่สุดที่นางจะไม่ลงไปในน้ำที่ไม่รู้ความลึกชัดเจน

สายตามู่เฉินมองหลิ่วเหยียนด้วยประกายเย็นเยือกแล่นพล่าน เขารู้ว่าไม่ใช่เรื่องฉลาดหากต่อสู้กันที่นี่ แต่ถ้าหลิ่วเหยียนต้องการจริงๆ ละก็ เขาก็ไม่ขัดที่จะทำให้รู้ว่าคนอ่อนแอในสายตาของหลิ่วเหยียนไม่ได้เขี้ยวง่ายอย่างที่คิด

“ถ้าแกไม่อยากโดนโยนออกจากหอหลงเฟิ่งก็รีบไปด้วยตัวเองซะ” หลิ่วเหยียนมองมู่เฉินจากที่สูงพลางชี้ไปที่ประตูเอ่ยเสียงเบา

มู่เฉินยิ้มอ่อนตอบ “ถ้าอย่างนั้นคงต้องรบกวนประมุขน้อยหลิ่วเหยียนทำเองแล้ว”

“อวดดี!”

ดวงตาของหลิ่วเหยียนเปลี่ยนเป็นเย็นเยือกสุดขีด เขาเคลื่อนไหว คลื่นหลิงน่ากลัวก็กวาดออกจากร่างราวกับพายุ พร้อมกับคลื่นหลิงไร้ขอบเขต ร่างของเขาก็เปลี่ยนเป็นลำแสงพุ่งใส่มู่เฉิน

เขาลงมือจริงแล้ว

มู่เฉินหรี่ตาลงขณะที่มิติเบื้องหลังผันผวนพร้อมกับจุดจื้อจุนไห่ปรากฏเลือนราง คลื่นหลิงไร้ขอบเขตแผ่ซ่านในมือ คลื่นหลิงแตกต่างกันสองชนิดรวมตัวกันอย่างรวดเร็ว เสียงมังกรกับคชสารคำรามดังก้องในจุดจื้อจุนไห่

ร่างของมู่เฉินเร้ากระแสไฟฟ้าอย่างรวดเร็วพร้อมกับกระทืบเท้าทะยานตัวขึ้นพุ่งตรงไปที่หลิ่วเหยียนแบบไม่ยั้ง

ภายในหอหลงเฟิ่ง จอมยุทธ์นับไม่ถ้วนอกสั่นขวัญแขวนกับภาพนี้ หรือว่าก่อนจะเปิดศึกมังกรหงส์ การต่อสู้ระดับสูงจะระเบิดขึ้นที่นี่ก่อนแล้ว?

ภายใต้สายตานับไม่ถ้วนในหอหลงเฟิ่ง ร่างคนทั้งสองก็โรมรันพันตูกัน ทว่าขณะที่ทั้งคู่กำลังจะฟาดกัน เสียงนุ่มนวลก็ดังก้อง

“จอมยุทธ์ทั้งสอง หอหลงเฟิ่งไม่ใช่สถานที่ต่อสู้ หยุดซะเถอะ”

ขณะที่เสียงนุ่มนวลดังสะท้อน แสงสีขาวก็พลิ้วลงมาจากฟ้า ยืนอยู่ระหว่างมู่เฉินกับหลิ่วเหยียน แสงสีขาวอ่อนโยนกระจายออกมาหยุดการเคลื่อนไหวของทั้งสองเอาไว้

แม้พลังนี้ไม่อาจหยุดทั้งสองได้จริง แต่ดวงตาของหลิ่วเหยียนก็หดลงเมื่อเสียงนั้นดังขึ้น เขาหยุดกระบวนท่าทะยานถอยกลับขึ้นไปยังชั้นบน

มู่เฉินก็พลิ้วตัวลงบนพื้น คลื่นหลิงรอบตัวสลายไป สายตามองไปทางด้านซ้ายมือเบื้องบน ก็เห็นโฉมสะคราญคนหนึ่งยืนอยู่

นางสวมชุดขาว มีรูปลักษณ์ทรงเสน่ห์ไม่แพ้สาวชุดแดง หว่างคิ้วของนางมีลวดลายสีแดงวาดเอาไว้ทำให้นางดูราวกับเทพธิดาจำแลงลงมา

เมื่อนางปรากฏตัว มู่เฉินก็สัมผัสได้ถึงความปั่นป่วนภายในหอหลงเฟิ่ง สายตามากมายอัดแน่นด้วยความชื่นชอบลึกซึ้ง

“ทั้งสอง หอหลงเฟิ่งกำลังจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับเขตหลงเฟิ่งครั้งนี้ ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะหยุดลงมือกันก่อน” หญิงสาวชุดขาวยิ้มบางขณะมองทั้งสองคนเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

“ฮ่าๆ เทพธิดาซูปี้เยี่ยนี่เอง” หลิ่วเหยียนมองหญิงสาวชุดขาวก็เผยรอยยิ้มสง่างามบนใบหน้าพร้อมกับพยักหน้า “ในเมื่อเทพธิดาเอ่ยปากเช่นนี้ ข้าก็จะปล่อยมันไปก่อนแล้วกัน”

ที่เบื้องล่าง มู่เฉินหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว พอได้ยินเสียงหัวเราะ สายตาของหลิ่วเหยียนก็เปลี่ยนเป็นเย็นเยือก แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้ลงมือใดๆ ทว่ารังสีสังหารที่มีต่อมู่เฉินกลับแรงกล้าขึ้นในหัวใจ

มู่เฉินไม่สนใจหลิ่วเหยียน เพราะเขาเข้าใจว่าอีกฝ่ายก็แค่หาทางลงให้ตัวเองเท่านั้น หอหลงเฟิ่งเต็มไปด้วยพยัคฆ์หมอบมังกรซ่อน อย่างน้อยก็มีรัศมีสิบสายที่มู่เฉินรู้สึกว่าเป็นอันตราย ซึ่งหลิ่วเหยียนก็น่าจะสัมผัสได้เช่นกัน

หากเขาต้องปะทะกับมู่เฉินที่นี่จริง ไม่ว่าใครจะชนะก็ต้องจ่ายราคาแพงระยับ เมื่อถึงตอนนั้นอาจถูกคนอื่นคว้าผลประโยชน์ซะอีก เพราะพวกเขารู้ดีว่าทุกคนเป็นคู่แข่งทันทีที่เข้าไปในเขตหลงเฟิ่ง ยิ่งคู่แข่งทรงพลังอย่างหลิ่วเหยียนจะกลายเป็นเป้าให้ทุกคนเลือกที่กำจัดก่อนหากมีโอกาส

แต่สิ่งที่มู่เฉินไม่คาดฝันก็คือสตรีชุดขาวผู้นี้คือจอมยุทธ์อันดับสามของบันทึกมังกรหงส์ เทพธิดาจากยอดเขาหมื่นเทพ—ซูปี้เยี่ย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนางถึงมีพลังน่าตกใจขนาดนี้

“คิกๆ พี่สาวซู ทำไมถึงหยุดการแสดงดีๆ แบบนี้ซะล่ะ น่าผิดหวังนัก” เสียงหัวเราะอ่อนโยนดังออกมา สตรีชุดแดงมองซูปี้เยี่ยด้วยดวงตาหรี่แคบลง เรียวคิ้วที่มีเสน่ห์ทำให้คนอื่นๆ ถึงกับกลืนน้ำลายอย่างควบคุมไม่อยู่

“ถ้าเจ้าต้องการละครดี ๆ ก็มีไม่ขาดในเขตหลงเฟิ่ง ถึงตอนนั้นน้องหงหยูก็น่าจะสนุกได้สบาย” ซูปี้เยี่ยเอ่ยเสียงเบาด้วยรอยยิ้มบาง

“นั่นก็ดี แต่ครั้งนี้พี่สาวต้องระวังไว้ด้วยนะ ถ้ายังใช้ลูกไม้ตื้นๆ เหมือนครั้งก่อนเจ้าไม่สามารถเอาชนะได้แล้วนะ” หงหยูหัวเราะเบา

“ข้าก็หวังว่าอย่างนั้น” ซูปี้เยี่ยพยักหน้า

เมื่อหญิงสาวทั้งสองพูดคุยกัน ก็ทำเอาหอหลงเฟิ่งเงียบกริบยิ่งกว่าเดิม ทุกคนรู้สึกว่ามีใบมีดที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของพวกนาง แต่ก็ไม่ได้เหนือความคาดหมายนัก เรื่องกินแหนงระหว่างซูปี้เยี่ยกับหงหยูเป็นที่รู้กันดีในภูมิภาคทางเหนือ ดังนั้นจึงมีคนจำนวนมากสนใจการต่อสู้ระหว่างสตรีทรงเสน่ห์ทั้งสองมากกว่ามู่เฉินกับหลิ่วเหยียน

มู่เฉินไม่สนใจความขัดแย้งของพวกนาง หลังจากเห็นว่าหลิ่วเหยียนไม่คิดจะสู้ต่อ เขาก็ตัดสินใจกลับไปนั่งที่

“สหายจากอาณาเขตกงเวทสวรรค์ ถ้าเจ้าสนใจ ข้าใคร่เชิญเจ้าขึ้นไปที่ชั้นบนได้หรือไม่?” ขณะที่มู่เฉินกำลังหันหลังกลับ สายตาของซูปี้เยี่ยก็พุ่งตรงมาหาพร้อมกับรอยยิ้มบาง

ดูจากท่าทางของนางแล้ว ดูเหมือนจะสนใจในตัวของมู่เฉินไม่น้อย

“คิกๆ น้องชายสุดหล่อ มานั่งกับพี่สาวคนนี้ไหม?” หงหยูพุ่งสายตาทรงเสน่ห์ไปยังมู่เฉิน เรียวคิ้วที่ยกขึ้นทำให้กระดูกของคนมองอ่อนลงได้เลยทีเดียว

ควับ!

ในหอหลงเฟิ่ง สายตานับไม่ถ้วนยิงตรงมาที่มู่เฉิน แววริษยาในตาไม่อาจปกปิดได้เลย

มู่เฉินอึ้งไป จากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะมุมปากกระตุก พวกเจ้าสองคนทะเลาะกันแล้วเอาข้าเข้าไปเกี่ยวด้วยทำไม ถ้าไม่ดีขึ้นมาอาจทำให้เขากลายเป็นศัตรูทุกคนเลยนะ

เวลาแบบนี้ไม่ว่าเขาจะเลือกใครก็จะท้าทายบางคนเข้าให้

มู่เฉินเลือกที่จะท้าทายหลิ่วเหยียนมากกว่าโฉมงามปานล่มเมืองที่มีทั้งพลังและเล่ห์กล… ความอันตรายของพวกนางมากกว่าหลิ่วเหยียนสักโยชน์หนึ่งได้

แต่ขณะที่มู่เฉินกำลังรู้สึกปวดหัวกับสถานการณ์ ไฉ่เซียวที่นั่งดูอยู่จากด้านข้างก็ยิ้มบาง รอยยิ้มนั้นทำให้สายตานับไม่ถ้วนในหอหลงเฟิ่งเปล่งประกายขึ้นมาทันที มากจนแม้แต่ดวงตาของซูปี้เยี่ยกับหงหยูยังต้องเบิกกว้างเพราะรอยยิ้มของหญิงสาว

จากนั้นเสียงกังวานใสของหญิงสาวก็กำจายไปทั่วหอหลงเฟิ่ง

“พี่สาวทั้งสอง พวกเจ้าคิดจะแย่งเขาไปจากข้าหรือ?”

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset