หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – 940 สามสุดยอดคัมภีร์ร่างเทห์สวรรค์

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 940 สามสุดยอดคัมภีร์ร่างเทห์สวรรค์

ยืนอยู่บนท้องฟ้าเหนือทะเลสาบ

โยวหมิงและฟังยี่ก็สาดแววตาคมกริบราวกับใบดาบขณะจ้องมู่เฉินเหมือนเหยี่ยวจ้องมองเหยื่อ

คลื่นหลิงที่กระเพื่อมไหวรอบตัวพวกเขาทรงพลังในระดับที่น่าตกใจ โยวหมิงใช้เคล็ดวิชาลับ ส่วนฟังยี่ใช้เม็ดยา เพื่อให้มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นหกชั่วคราว

เห็นได้ชัดว่าพวกเขายอมจ่ายราคาก้อนใหญ่เพื่อที่จะกำจัดมู่เฉิน

ภายใต้การจ้องมองด้วยสายตาเย็นชาของพวกเขา มู่เฉินก็พรูลมหายใจสีขาวขุ่นออกมาช้าๆ สายตาที่จ้องมองทั้งสองคนก็ค่อยๆ คมชัดขึ้น ในเวลาเดียวกันเลือดในร่างก็เริ่มเดือด

ความต้องการสู้พลุ่งพล่านอยู่ในหัวใจของมู่เฉิน

เขากำหมัดขึ้นฉับพลัน เสาปีศาจราชันพระสุเมรุที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าก็กำจายรัศมีเชี่ยวกรากดุร้ายออกมา มือเขาจับเสาปีศาจไว้ขณะที่จ้องมองไปที่คู่ต่อสู้สองคนก็ยิ้มบาง “พวกเจ้าต้องการที่จะปราบข้า พอดีเลยข้าก็อยากใช้พวกเจ้าเป็นหินลับมีดเหมือนกัน!”

ในเส้นทางของจอมยุทธ์ต้องเอาชนะศัตรูทรงพลัง เพื่อก้าวผ่านความเป็นตาย ตอนนี้มู่เฉินคงขุมพลังอยู่ในระดับจื้อจุนขั้นห้า มิหนำซ้ำคลื่นหลิงในร่างกายก็แข็งแกร่งขึ้นและได้รับการขัดเกลาจากการต่อสู้ทุกครั้งในสมรภูมิหยุ่นลั้ว ดังนั้นตอนนี้เขาจึงโหยหาการต่อสู้ดุร้ายเช่นนี้มากขึ้น

“ปากดี คิดใช้พวกข้าเป็นหินลับ ไม่กลัวจะทำลายตัวเองรึไง?!” โยวหมิงเอ่ยเสียงเย็นชา

มู่เฉินยิ้มแต่ไม่พูดอะไร เขากำเสาปีศาจแน่นหนาขึ้น มิติที่ด้านหลังกระเพื่อมไหว จุดจื้อจุนไห่ของเขาปรากฏขึ้น คลื่นหลิงไร้ขอบเขตกวาดออกมาพร้อมกับแรงกดดันทรงพลัง

ถึงแม้ว่าตอนนี้โยวหมิงและฟังยี่จะเข้าสู่ระดับจื้อจุนขั้นหกแล้ว แต่มู่เฉินก็ไม่กลัว ในแง่ของพลังในการต่อสู้พยัคฆามังกรฟ้าที่พ่ายแพ้เขามาก่อนหน้านี้ก็แข็งแกร่งกว่าทั้งสองอย่างชัดเจน ความแตกต่างที่มีก็คือพยัคฆ์มังกรฟ้าไม่มีจิตสำนึกสักเท่าไร ขณะที่ทั้งสองคนมากเล่ห์กล

“ลงมือ!”

โยวหมิงปล่อยเสียงคำราม ร่างทั้งสองกลายเป็นลำแสงพุ่งออกมาในเวลาเดียวกัน โยวหมิงโจมตีมู่เฉินจากด้านหน้า ส่วนฟังยี่วาบมาที่เบื้องหลังในพริบตา

พวกเขาเป็นจอมยุทธ์ชั้นสูงในหมู่คนรุ่นใหม่ของภูมิภาคทางเหนือ ดังนั้นจึงประสานงานได้ดีทันทีที่เริ่มเคลื่อนไหว

“แสงอเวจี สลายดาว!”

ไอเย็นพวยพุ่งในดวงตาของโยวหมิงขณะที่แทงหอกออกไปราวกับมังกร จากนั้นคลื่นหลิงไร้ขอบเขตหลั่งไหลมารวมตัวกันที่ปลายหอก พริบตาก็เกิดหลุมดำขนาดเล็กปรากฏขึ้นบนปลายแหลมของหอก ขณะที่คลื่นกระเพื่อนไหว กระทั่งมิติยังฉีกออกเป็นเสี่ยง

หอกที่ดูไม่ได้รุนแรงของโยวหมิง กลับบีบอัดคลื่นหลิงไปอยู่ที่จุดเดียว พลังนี้เป็นสิ่งที่แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นหกธรรมดายังไม่กล้าที่จะปะทะ

“คัมภีร์เทพทงเทียน ตราประทับทะลุฟ้า!”

ขณะที่โยวหมิงเปิดการโจมตี ฟังยี่ก็แผดเสียงลั่น คลื่นหลิงทรงพลังระเบิดออก เขาสะบัดฝ่ามือพร้อมกับจุดศูนย์กลางของฝ่ามือก่อร่างเป็นตราประทับแสงโบราณ ซึ่งเหมือนจะบรรจุด้วยพลังงานไร้ขอบเขตและไม่อาจหยั่งรู้ได้

ทั้งสองเข้าใจเกี่ยวกับมู่เฉินถ่องแท้ ดังนั้นพวกเขารู้ว่ามู่เฉินครอบครองกลยุทธ์ที่น่าอัศจรรย์มากมาย จึงไม่มีการยั้งคิดหรือหยั่งเชิงใดๆ เมื่อเริ่มการโจมตี กระบวนท่าสังหารถูกปล่อยออกมาตั้งแต่เริ่มต้น ด้วยวิธีนี้แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถฆ่ามู่เฉินได้ แต่ก็บีบให้เขาเสียเปรียบได้แน่

การโจมตีสองประสานประกบหน้าหลังเขาเอาไว้ คลื่นพลังทรงประสิทธิภาพสองสายทำให้คิ้วของมู่เฉินกระตุกเบาๆ อึดใจถัดมาม่านตาสีดำของเขาก็เปลี่ยนเป็นหลุมลึก ซึ่งทำให้ผู้อื่นสะท้านจิต

สภาวะฤทัยปีศาจ!

มือขวามู่เฉินจับเสาปีศาจแน่น ขณะที่คลื่นหลิงไร้ขอบเขตครางกระหึ่มหลอมรวมกับรัศมีร้ายกาจของเสาปีศาจ มองจากระยะไกลดูเหมือนมีชั้นผลึกเลือดปรากฏอยู่บนพื้นผิวของเสาปีศาจนี้

นี่ไม่ใช่การตกผลึกของพลังงาน เนื่องจากวิธีดังกล่าวเป็นสิ่งที่มีเพียงจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนเท่านั้นที่จะประสบความสำเร็จในการสร้าง ชั้นผลึกนี้เป็นคลื่นหลิงของมู่เฉินที่หลอมรวมกับรัศมีร้ายกาจของเสาปีศาจ แต่ถึงแม้จะเทียบไม่ได้กับผลึกคลื่นหลิงที่สมบูรณ์ แต่พลังของมันก็ไม่ใช่สิ่งที่จะดูถูกได้

ฮึ่ม!

มู่เฉินกระตุกแขน เสาปีศาจก็ส่งเสียงหวีดหวิว ความผันผวนของเสาปีศาจเจาะผ่านมิติ ปะทะกับหอกยมโลกราวกับสายฟ้าฟาด

ทันทีที่เสาปีศาจและหอกปะทะกัน มู่เฉินก็เหวี่ยงฝ่ามือพร้อมกับคลื่นหลิงไร้ขอบเขตพวยพุ่งด้วยเพลิงสีม่วงออกมา เมื่อมองให้ชัดเจนในเปลวไฟสีม่วงยังบรรจุด้วยสายฟ้าไร้รูปลักษณ์ เมื่อพลังสองสายหลอมรวมเข้าด้วยกันก็ทำให้คลื่นหลิงของมู่เฉินทรงพลังมากขึ้น

เคร้ง!

ตึง!

เสียงปะทะกันระหว่างโลหะกับกำปั้นดังขึ้น สิ่งที่ตามมาคือคลื่นกระแทกขนาดมหึมา

ลูกคลื่นถูกยกขึ้นจากทะเลสาบเบื้องล่าง จอมยุทธ์บางคนได้รับผลกระทบ สายตาของพวกเขาเคลื่อนมาก่อนที่จะหดลง บนท้องฟ้าจอมยุทธ์สามคนยืนอยู่สามด้าน ก่อตัวการเผชิญหน้าเป็นรูปสามเหลี่ยม มู่เฉินใช้เสาปีศาจปะทะกับหอกของโยวหมิง ขณะที่ฝ่ามือปะทะกับฟังยี่

ตรงจุดที่พลังงานบวกกัน มิติก็ถึงกับสั่นพั่บออกมา

ทั้งสามสาดสีหน้าเย็นชา เห็นได้ชัดว่าต่างกำลังหมุนเวียนคลื่นหลิงอย่างบ้าคลั่งในร่างกาย พยายามเอาชนะคู่ต่อสู้

บึ้ม!

ในที่สุดคลื่นหลิงก็มาถึงขีดจำกัด พายุครอบงำก่อตัวขึ้นจากจุดที่พวกเขาทั้งสามประสานกัน ร่างทั้งสามสั่นสะเทือนก่อนที่จะถลากลับไป

มู่เฉินถลากลับไปร้อยจั้งก่อนที่ฝ่าเท้าจะกระแทกพื้นทรงตัวได้อย่างมั่นคง มิติผันผวนอยู่ใต้ฝ่าเท้าเขา เมื่อเขามองไปที่โยวหมิงและฟังยี่ก็เห็นทั้งสองถอยไปเพียงไม่กี่สิบจั้ง เห็นได้ชัดว่าพวกเขาสองคนได้เปรียบในการเผชิญหน้าเมื่อครู่

ทว่าถึงแม้จะได้เปรียบ แต่ใบหน้าทั้งสองกลับมืดครึ้ม พวกเขาสองคนอยู่ในขุมพลังจื้อจุนขั้นหก แต่ไม่สามารถเหนือกว่าแม้ว่าจะทำการโจมตีด้วยกัน นี่ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่ทั้งสองต้องการเลย

ท่ามกลางจลาจลนี้ จอมยุทธ์จากกองทัพอื่นก็หันมาให้ความสนใจต่อสถานการณ์นี้ เมื่อพวกเขาเห็นว่าทั้งโยวหมิงและฟังยี่ไม่สามารถปราบมู่เฉินได้อย่างสมบูรณ์แม้จะร่วมมือกัน ร่องรอยความอัศจรรย์ใจก็ฉายอยู่บนนัยน์ตาของพวกเขา

แม้ทุกคนจะรู้ว่าเมื่อมู่เฉินควบคุมรัศมีจั้นยี่ กระทั่งจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นหกก็สู้เขาไม่ได้ แต่ตอนนี้เขาสามารถพึ่งพาขุมพลังจื้อจุนขั้นห้าของตนได้เท่านั้น ในแง่ของจำนวนโยวหมิงกับฟังยี่มีข้อได้เปรียบ ในแง่ขุมพลังทั้งสองก็ได้เปรียบ แต่ถึงแม้จะมีการรวมตัวกันเช่นนี้ ทั้งคู่ก็ไม่สามารถปราบปรามศัตรูได้ตามที่หวัง

“มู่เฉินไม่ธรรมดาจริงๆ ดูท่าการเผชิญหน้าของทั้งสามชักจะน่าสนใจแล้ว”

ขณะที่กองทัพอื่นๆ ต่างให้ความสนใจในการประจันหน้านี้

โยวหมิงและฟังยี่แลกเปลี่ยนสายตากันอย่างรวดเร็วพลางขมวดคิ้วและส่งเสียงสื่อสารกัน

“เจ้านี่มีพลังอยู่ในขั้นห้าเท่านั้น แต่การควบคุมคลื่นหลิงนั้นยอดเยี่ยมมาก ไม่มีสูญเปล่าเลยสักนิด”

“นอกจากนี้เขายังรวมเอาเปลวไฟและสายฟ้าที่เป็นเอกลักษณ์ในคลื่นหลิง ทำให้คุณภาพสูงและแข็งแกร่งกว่าจอมยุทธ์ที่มีระดับเดียวกัน”

“ไอ้นี่ตัวปัญหาจริงๆ”

“…”

ทั้งคู่แลกเปลี่ยนสายตากันก็อดไม่ได้ที่จะกัดฟันกรอด ทำไมไอ้ตัวหายนะนี้ถึงยากจะรับมือนัก

“อย่ายั้งมือ ใช้พลังทั้งหมดกำจัดมัน!”

แววเย็นเยือกวูบไหวในดวงตาของทั้งคู่ อึดใจต่อมาพวกเขาก็วาดตราประทับ คลื่นหลิงทรงพลังกวาดออกมาจากร่างกายอย่างรวดเร็วโดยไม่มียั้ง ทำให้เกิดลมสลาตันขึ้นในบริเวณนี้

“ร่างเทพใต้พิภพ!”

“ร่างแสงดาวปฐมกาล!”

พร้อมกับเสียงตะโกนก้อง คลื่นหลิงในฟ้าดินก็กวาดเข้าหาทั้งสองอย่างบ้าคลั่ง ในเวลาไม่กี่อึดใจร่างใหญ่โตสองร่างก็ปรากฏขึ้นนอกตัวพวกเขา ปลดปล่อยแรงกดดันทรงพลังออกมา

สายตามู่เฉินหดลงเมื่อเห็นร่างมหึมาทั้งสองที่ปรากฏขึ้นกะทันหัน เขาเคยเห็นร่างแสงดาวปฐมกาลของฟังยี่มาก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นร่างเทพใต้พิภพของโยวหมิง

ร่างเทพใต้พิภพนี้มีสีดำ มองจากที่ไกลดูเหมือนเป็นเทพปีศาจยืนตระหง่านอยู่ระหว่างฟ้าดิน ขณะที่หายใจคลื่นหลิงก็ราวกับก่อเป็นพายุส่งเสียงครวญครางอย่างไม่รู้จบ

หลังจากนำร่างเทห์สวรรค์ออกมา คลื่นหลิงรอบร่างฟังยี่และโยวหมิงก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัย

“มู่เฉินบีบโยวหมิงกับฟังยี่ให้ใช้ร่างเทห์สวรรค์ได้ ทั้งสองร่างนี้ติดอันดับกระทั่งในทำเนียบคัมภีร์ร่างเทห์สวรรค์เก้าสิบเก้าร่างเลยนะ” เมื่อจอมยุทธ์คนอื่นสังเกตเห็นความผันผวนของคลื่นหลิง สีหน้าของแต่ละคนก็เปลี่ยนไป

“ลำดับที่หกสิบแปดของทำเนียบคัมภีร์ร่างเทห์สวรรค์ ร่างเทพใต้พิภพเรอะ?” มู่เฉินพึมพำ ร่างเทพใต้พิภพค่อนข้างมีชื่อเสียง มีเพียงบางสำนักที่ทรงพลังเท่านั้นที่จะมีทักษะในการฝึกฝน

ดูท่าโยวหมิงและฟังยี่ไม่คิดจะยื้อการต่อสู้นี้ต่อไป เพราะยังไงตอนนี้เป้าหมายคือของเหลวหลิงเสิน ไม่ใช่การต่อสู้

“รีบจบให้เร็วเรอะ…ก็ดี”

แสงเย็นไหลมารวมกันในดวงตาของมู่เฉิน จากนั้นเขาสูดหายใจเข้าลึก สองมือวาดตราประทับ ทันใดนั้นคลื่นหลิงป่าเถื่อนก็กวาดออกมาราวกับพายุ รัศมีแสงสีทองเปล่งประกายประหนึ่งดวงอาทิตย์โชติช่วงปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน

จอมยุทธ์สำนักต่างๆ เงยหน้าขึ้นมองด้วยความตกใจ พวกเขาเห็นร่างยักษ์สีทองค่อยๆ ปรากฏเคลือบอยู่นอกร่างกายของมู่เฉิน ด้านหลังศีรษะของเงาขนาดใหญ่มีดวงอาทิตย์สีทองเปล่งประกายซึ่งก่อให้เกิดแรงกดดันไม่รู้จบ ทำเอาหัวใจของผู้คนสั่นสะเทือน

แรงกดดันที่มาจากร่างเทห์สวรรค์ของของมู่เฉินแข็งแกร่งยิ่งกว่าของฟังยี่และองค์ชายโยวหมิงเสียอีก!

เว้นแต่ไม่มีใครรู้ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรเมื่อร่างเทห์สวรรค์ทั้งสามปะทะกัน!

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset