หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – 912 ทักษะดูดกลืนปีศาจ

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 912 ทักษะดูดกลืนปีศาจ

รัศมีจั้นยี่ป่าเถื่อนกวาดอาละวาดราวกับพายุทั่วมิติ

ภูเขาโดยรอบสั่นสะเทือนจากพลังรัศมี หินก้อนใหญ่กลิ้งหล่นลงมาไม่หยุด ทำให้พื้นดินด้านล่างเต็มไปด้วยหลุมบ่อ

ร่างสองร่างยืนประจันหน้ากันบนขอบฟ้า ที่เบื้องหลังพวกเขามีมหาสมุทรรัศมีจั้นยี่ขนาดมหึมาสองแห่งที่สร้างแรงกดดันทรงพลัง กระทั่งจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นหกยังต้องหวาดกลัว

ขั้วอำนาจอื่นๆ ล้วนฉายสีหน้าเคร่งเครียดรุนแรง ขณะมองการเผชิญหน้าบนขอบฟ้า นี่เป็นศึกนระหว่างจั้นเจิ้นซือซึ่งเป็นการต่อสู้ที่หาดูได้ยากมาก เนื่องจากมีจำนวนจั้นเจิ้นซือน้อยยิ่งกว่าหยิบมือในภูมิภาคทางเหนือ

แม้ว่าจะเคยมีจั้นเจิ้นซือในภูมิภาคทางเหนือในอดีต แต่สุดท้ายพวกเขาก็ออกเดินทางไปทวีปที่ใหญ่กว่าที่นี่ นั่นเป็นเพราะที่เหล่านั้นทำให้พวกเขาสามารถได้รับทรัพยากรที่ดีขึ้น

แม้ว่าภูมิภาคทางเหนือจะมีขนาดใหญ่มากในมุมมองของหลายคน แต่ก็เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของทวีปเทียนหลัวซึ่งเป็นหนึ่งในสิบทวีปหลักของมหาพันภพเท่านั้น

“ไอ้เวรนั่นบรรลุการเป็นจั้นเจิ้นซือจริงๆ!” ฝั่งหมู่ตึกเทวะ ท่าทางของฟังยี่มืดมนลงหลายส่วน ขณะจ้องมองรัศมีจั้นยี่พลุ่งพล่านที่ด้านหลังมู่เฉิน ย้อนกลับไปตอนที่เขาพบกับมู่เฉินในเขตหลงเฟิ่ง อีกฝ่ายไม่ได้มีคุณสมบัติที่จะถูกมองว่ามีความสำคัญอะไร แม้ท้ายที่สุดก็เป็นเพียงเพราะมู่เฉินได้รับความช่วยเหลือจากธิดาเทพจักรพรรดิอัคคี ดังนั้นจึงกลายเป็นผู้ได้รับประโยชน์ใหญ่ที่สุดในเขตหลงเฟิ่ง

ทว่าเขาจะไปคิดได้อย่างไรว่าเมื่อพบกันอีกครั้ง คนที่เขาดูแคลนในอดีตจะสามารถเผชิญหน้ากับเขาได้ มิหนำซ้ำตอนนี้มู่เฉินก็บรรลุการจั้นเจิ้นซือ ทิ้งเขาในกองฝุ่นด้วยพลังรัศมีจั้นยี่ยิ่งใหญ่

จินไถหลิวหลีมองภาพนี้ด้วยท่าทางสงบ แม้ว่ามู่เฉินจะไม่ได้รับมรดกของจักรพรรดิเทียนเจิ้น แต่เขาก็ได้รับมรดกของราชันสงครามจิ่วเจี๋ยที่น่าเกรงขามยิ่งกว่า แม้ว่ามรดกจะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่การไม่สมบูรณ์ก็จะไม่ปรากฏผลสะท้อนใดในช่วงเวลาสั้นๆ นี้

“มู่เฉินเป็นจอมยุทธ์ที่มีพรสวรรค์จริงๆ ดูเหมือนศึกนี้จะเป็นการต่อสู้ที่โหดเหี้ยมของยักษ์ แต่นี่ก็ดีเช่นกัน หนึ่งในสองคนนี้จะได้รับบาดเจ็บแน่นอน ซึ่งเป็นข่าวดีของหมู่ตึกเทวะ” เทียนหลงจู่จ้องมองฉากนี้เรียบเฉย เป็นธรรมชาติที่เขาจะเต็มใจยิ่งกว่าเมื่อเห็นการเผชิญหน้าระหว่างอาณาเขตกงเวทสวรรค์และจวนยมโลก แม้ว่าพวกเขาจะมีเรื่องบาดหมางกับอาณาเขตกงเวทสวรรค์ด้วย แต่ก็ไม่ได้เป็นมิตรกับจวนยมโลกเช่นกัน

“ตอนนี้มาดูกันสิว่าใครจะหัวเราะเป็นคนสุดท้ายในการต่อสู้ครั้งนี้ระหว่างจั้นเจิ้นซือ”

“แกก็เป็นจั้นเจิ้นซือรึ…”

หลินหมิงยืนอยู่บนท้องฟ้าขณะจ้องมองมู่เฉินด้วยสายตาเย็นชาก่อนที่จะหัวเราะเสียงชั่วร้าย “แต่ก็ช่างเถอะ ไม่รู้ว่าจะเกิดพัฒนาการมากแค่ไหนกับคลื่นจิตของข้าหลังจากที่ดูดกลืนคลื่นจิตของจั้นเจิ้นซือตัวจริง!”

สิ้นเสียงพูดปลายเท้าก็ก้าวไปในอากาศ ทำให้มิติถึงกับกระเพื่อมไหว ที่ด้านหลังมหาสมุทรรัศมีจั้นยี่ที่ไร้ขอบเขตก็ส่งเสียงคำราม จากนั้นทุกคนสัมผัสได้ถึงการกดขี่ทรงพลังที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วจากมหาสมุทรรัศมีจั้นยี่ที่พลุ่งพล่าน

คลื่นยักษ์ม้วนตัวบนพื้นผิวมหาสมุทรรัศมีจั้นยี่ ที่ใจกลางเกิดการก่อตัวของหลุมวน ภายในนั้นสามารถมองเห็นหัวกะโหลกสีดำขนาดใหญ่ลอยขึ้นมาช้าๆ

หัวกะโหลกดำเต็มไปด้วยลวดลายจั้นเหวินหนาแน่น ม่านตาสีดำสนิทกะพริบวาบ มองจากที่ไกลราวกับปีศาจยาตรามาจากนรก กระจายความผันผวนที่ทำให้คนอื่นรู้สึกหวาดกลัว

เมื่อหัวกะโหลกสีดำปรากฏขึ้น ทุกกองทัพก็มีท่าทางแสดงออกเปลี่ยนไป พวกเขาสัมผัสได้ถึงการคุกคามที่เกิดขึ้นจากหัวกะโหลกดำนี้

“นั่นคือวิญญาณสงครามของหลินหมิงรึ?” จอมยุทธ์บางคนฉายสีหน้าหนักหน่วง เนื่องจากพวกเขาสัมผัสได้ว่าวิญญาณสงครามที่หลินหมิงสร้างแข็งแกร่งกว่าวิญญาณสงครามของกองทัพอื่นไม่รู้กี่เท่า

นี่คือพลังของจั้นเจิ้นซือ ในมือของคนเหล่านี้รัศมีจั้นยี่รุนแรงจะแสดงพลังน่าสะพรึงกลัวที่สุด

“ลำแสงสงครามมรณะ!”

ใบหน้าของหลินหมิงฉายรอยยิ้มชั่วร้ายสายหนึ่งขณะวาดตราประทับ หัวกะโหลกดำอ้าปาก ลำแสงสีดำสนิทขนาดร้อยจั้งยิงออกไป เส้นทางที่ลำแสงพุ่งผ่าน มิติจะแตกสลายทันที ช่างสงบนิ่งแต่ก็เต็มไปด้วยพลังทำลายล้างที่น่ากลัว

เมื่อวิญญาณสงครามก่อร่าง พลังอำนาจก็เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว ลำแสงที่ดูเรียบง่ายแต่พลังดุดันยิ่งกว่าใบดาบเมื่อครู่อีก

ลำแสงขยายอย่างรวดเร็วในม่านตาของมู่เฉิน จากนั้นเขาก็ประสานมือกันฉับพลัน

ครืน!

พริบตาลำแสงสีดำก็มาถึงพร้อมกับระเบิดเบื้องหน้ามู่เฉิน ขณะที่แสงสีดำพล่านออกมากลืนกินร่างของมู่เฉิน

มิติบริเวณนี้กระเพื่อมและบิดเบี้ยว

จอมยุทธ์นับไม่ถ้วนมองเหตุการณ์นี้อย่างอึ้งไป มู่เฉินถูกหลินหมิงโจมตีโดยกระบวนท่าที่ราวกับสายฟ้าฟาดเหรอ?

หลินหมิงหรี่ตาลงมองตรงแสงสีดำแผ่ออกมา ทันใดนั้นม่านตาก็หดเกร็ง เมื่อมวลลมทรงพลังกวาดผ่าน แสงสีดำสลายหายไปทันที

เบื้องหลังแสงสีดำ มู่เฉินยืนอยู่อย่างใจเย็นพร้อมกับฝ่ามือรัศมีจั้นยี่ขนาดใหญ่ที่ถูกปกคลุมไปด้วยลวดลายจั้นเหวินซึ่งทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันให้ที่เบื้องหน้า

การโจมตีที่ทรงพลังจากหลินหมิงได้รับการต่อต้านจากฝ่ามือรัศมีจั้นยี่นี้

“นั่นคือฝ่ามือวิญญาณสงครามที่สร้างขึ้นโดยรัศมีจั้นยี่ของห้ากองทัพเรอะ? จำนวนลวดลายค่อนข้างน่าตกใจทีเดียว” จอมยุทธ์หลายคนมองฉากนี้อย่างตะลึงลานในใจ

ม่านตาดำของมู่เฉินจับจ้องไปที่หลินหมิงที่ไกลออกไป จากนั้นแสงเย็นยะเยือกก็วูบไหวในดวงตาเขา ฝ่ามือรัศมีจั้นยี่ขนาดใหญ่ที่มีขนาดราวพันจั้งก็พุ่งออกมา ปรากฏขึ้นเหนือร่างหลินหมิง ก่อนที่จะตบลงมาอย่างโหดเหี้ยมและหนักหน่วง

นี่เป็นฝ่ามือที่เรียบง่ายไม่มีลูกเล่นใด ลวดลายจั้นเหวินมากมายแล่นแปลบปลาบบนฝ่ามือใหญ่โต รัศมีจั้นยี่น่าสะพรึงกลัวกวาดออกไป ราวกับภูเขามหึมาบีบกดลงมาจากท้องฟ้า พลังอำนาจสามารถทำลายมิติได้เลยทีเดียว

การโจมตีดังกล่าวเป็นสิ่งที่แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นหกก็ต้องห้ำหั่นเต็มกำลัง

“หึ!”

ทว่าหลินหมิงเค้นกลับเสียงเย็นชาใส่การโจมตีนี้ขณะกระแทกฝ่าเท้าลงไป กะโหลกดำที่ด้านหลังเปิดปากชั่วร้ายออก ก่อนที่จะเปล่งเสียงกรีดร้องบาดแก้วหู

ฮือ! ฮือ!

คลื่นเสียงสีดำที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่ากระจายออกไป ทุกระลอกคลื่นบรรจุพลังงานที่น่ากลัวซึ่งระเบิดอย่างรุนแรงเมื่อฝ่ามือรัศมีจั้นยี่ขนาดใหญ่เคลื่อนตัวลงมา ภายใต้การระเบิดทำให้ฝ่ามือไม่สามารถเลื่อนลงมาได้

เมื่อกระบวนท่าถูกสกัด ดวงตาของมู่เฉินก็กะพริบวูบวาบ มือทั้งสองประสานเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว ลำแสงรัศมีจั้นยี่นับไม่ถ้วนถูกยิงขึ้นจากมหาสมุทรที่ด้านหลัง ก่อนที่จะพุ่งทะลุเส้นขอบฟ้า ห่อหุ้มร่างหลินหมิงและกองทัพเบื้องหลังไว้

ช่างเป็นการโจมตีที่ยิ่งใหญ่มาก

“แกคิดว่าข้าจะกลัวที่จะแข่งในเรื่องรัศมีจั้นยี่รึ?” เผชิญหน้ากับการโจมตีครั้งใหญ่จากมู่เฉิน หลินหมิงก็ไม่มีอาการกลัวสักนิดขณะเค้นเสียงเย้ยหยันเย็นชา เขาสะบัดมือลง มหาสมุทรรัศมีจั้นยี่ที่ด้านหลังก็ปลดปล่อยคลื่นพลังกวาดไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะกลายเป็นชั้นคลื่นยักษ์หมื่นจั้งมากมายม้วนตัวไปในมิติ ปะทะเข้ากับลำแสงที่โอบล้อมทุกทิศทาง

ปัง! ปัง! ปัง!

บนท้องฟ้า การประจันหน้ากันระหว่างกองทัพน่าสะพรึงกลัวของรัศมีจั้นยี่แยกขอบฟ้าออกเป็นสองฝั่ง จุดที่เกิดการชนกัน มีรอยร้าวซึ่งมีความยาวหมื่นจั้งปริออก

ทุกกองทัพอยู่ในอาการตกตะลึง ขณะที่เฝ้ามองการห้ำหั่นที่รุนแรง แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นหกระยะปลายสุดยังมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการเข้าถึงระดับนี้ ซึ่งทำให้บางคนต้องร้องอุทาน ในแง่ของด้านขุมพลังมู่เฉินอยู่ในระดับจื้อจุนขั้นห้า ส่วนหลินหมิงก็อยู่ในขั้นสี่ ถ้าเป็นเวลาปกติคงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะเผชิญหน้ากับจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นหก แต่ตอนนี้ด้วยความช่วยเหลือของรัศมีจั้นยี่ แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นหกก็ต้องถอยด้วยความกลัวพวกเขา

ความลึกซึ้งของรัศมีจั้นยี่คุ้มค่าที่จะอุทานอย่างแท้จริง

“หลิวหลี เจ้าคิดว่าคนไหนมีโอกาสชนะสูงกว่ากัน?” ฝั่งหมู่ตึกเทวะ เทียนหลงจู่มองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยรัศมีจั้นยี่ป่าเถื่อนก็ถามจินไถหลิวหลีที่ยืนอยู่ด้านข้าง

แม้ว่าเทียนหลงจู่จะเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเจ็ด แต่ก็ไม่เคยมีอะไรที่ต้องกลัวในสายตา ทว่าเขาไม่คุ้นเคยกับพลังลึกซึ้งของรัศมีจั้นยี่ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเห็นว่าระหว่างมู่เฉินกับหลินหมิงใครจะได้เปรียบกว่ากัน

จินไถหลิวหลีคิดครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดออกมา “โดยฐานจำนวนของรัศมีจั้นยี่ วิญญาณสงครามที่สร้างโดยหลินหมิงมีลวดลายจั้นเหวินหนึ่งหมื่นหนึ่งพันลาย ขณะที่มู่เฉินมีหนึ่งหมื่นห้าร้อยลาย ความแตกต่างระหว่างพวกเขาเล็กมาก ดังนั้นหากขึ้นอยู่กับการต่อสู้ระหว่างรัศมีจั้นยี่อย่างเดียวก็ยากที่จะตัดสินผู้ชนะได้ แต่พวกเขาสองคนไม่ใช่จอมยุทธ์ธรรมดา ดังนั้นจึงมีไพ่ตายมากมายซ่อนอยู่ในแขนเสื้อแน่นอน จากนี้ก็ขึ้นอยู่กับทักษะของพวกเขาที่จะตัดสินว่าใครจะเป็นผู้ชนะ”

เมื่อเทียนหลงจู่ได้ยินคำพูดของนางก็พยักหน้าเบาๆ แล้วหันไปมองการต่อสู้บนท้องฟ้าต่อ

ครืน!

ภายใต้สายตาตื่นตะลึงนับไม่ถ้วน การเผชิญหน้ากันบนท้องฟ้าที่กินเวลาไปหลายนาที ในที่สุดก็ค่อยๆ ถอยกลับ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาตระหนักว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับชัยชนะด้วยการโจมตีระดับนี้

“แกมีทักษะบางอย่าง แต่ยิ่งแกทรงพลังมากเท่าไร ก็หมายความว่าคลื่นจิตจะอร่อยมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นวันนี้ข้าจะเขมือบคลื่นจิตของแกให้ได้…”

หลินหมิงเลียริมฝีปาก ความกระหายอยากเผยในแววตา อึดใจรอยยิ้มชั่วร้ายก็แย้มออก “แต่การอุ่นเครื่องจบแล้ว ข้าชักอยากจะดูดกลืนคลื่นจิตของเจ้าแล้ว!”

พร้อมกับเสียงของหลินหมิง สายตาเขาก็เย็นเยือกลงหลายส่วน มือวาดตราประทับแปลกประหลาด

ทันทีที่ตราประทับถูกสร้างขึ้นน้ำเสียงเย็นชาก็เปล่งออกมาจากปากเขา

“ทักษะดูดกลืนปีศาจ ตราประทับสงครามเขมือบปีศาจ!”

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset