NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 959 มาตามหาคนที่บาร์

“ลงมือ ลงมือพร้อมกัน ฆ่ามันให้ตาย!” เจ้าสามจางหันไปตวาดกับลูกน้องของตัวเองด้วยความโมโห ฝากความหวังไว้ว่าพวกเขาจะสามารถบุกเข้าไปหยุดหลี่ฝางเอาไว้ เพื่อให้เขาพอได้มีเวลาหลบหนีไป
เขารู้ดี วันนี้หลี่ฝางไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่ ถ้าหากหยุดหลี่ฝางเอาไว้ไม่ได้ วันนี้เขาต้องตายอย่างแน่นอน
ส่วนลูกน้องของเจ้าสามจางหลังจากได้ยินที่เขาพูด กลับไม่มีใครที่บุกเข้าไปเลยสักคน ในทางกลับกันต่างก็ได้ก้าวถอยหลังไปเล็กน้อย
ไม่มีใครเป็นคนโง่ เผชิญหน้ากับคนวิปริตน่าหวาดกลัวที่แม้แต่ลูกปืนก็ทำอะไรไม่ได้อย่างหลี่ฝาง ยังจะกล้าเอาชีวิตเข้าไปทิ้ง
ไม่นาน เจ้าสามจางก็ได้พบว่า ลูกน้องของตัวเองต่างก็หลบอยู่ด้านหลังของเขา พยายามอยู่ให้ห่างจากตรงนี้เอาไว้ มีบางคนถึงขั้นเตรียมที่จะหลบหนีเลยด้วยซ้ำ
ความหวาดกลัวบวกกับความโมโห ในที่สุดเจ้าสามจางก็ไม่ได้สนใจคำสั่งอะไรนั่นของเฮียติงอีกต่อไป เขายกปืนขึ้นและเล็งไปที่ฉินวี่เฟยทันที
ถ้าหากหนีไปจากที่นี่ไม่ได้ เขาก็จะต้องตายในอีกไม่นาน แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปนึกถึงเรื่องของอนาคต
“อย่าขยับนะ ถ้าแกดินเข้ามาอีกก้าว ฉันจะฆ่าเธอซะ!”
เจ้าสามจางตะโกนขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง: “ไม่เชื่อก็ลองดูสิว่าแกจะเร็วกว่า หรือปืนของฉันเร็วกว่ากันแน่!”
เจ้าสามจางคิดว่า ต่อให้หลี่ฝางสามารถหยุดลูกปืนได้ ฉินวี่เฟยก็คงหยุดไว้ไม่ได้หรอก ไม่อย่างนั้นละก็ก็คงไม่โดนพวกเขาจับตัวมาที่นี่
ส่วนหลี่ฝางที่เต็มใจมาเสี่ยงอันตรายถึงที่นี่เพื่อฉินวี่เฟย ก็จะต้องไม่ยินดีที่จะเห็นฉินวี่เฟยได้รับบาดเจ็บเป็นแน่
แต่ทว่าหลี่ฝางที่อยู่ตรงข้ามกับเขานั้น ในเวลานี้จู่ ๆ ก็ได้ยิ้มขึ้นมาอย่างเย็นชา
รอยยิ้มที่เย็นชาเช่นนั้น เพียงพอที่จะทำให้วิญญาณของผู้คนแข็งทื่อเป็นก้อนน้ำแข็ง เป็นรอยยิ้มที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก
รัศมีอันน่าเกรงขามสายหนึ่ง ได้ครอบคลุมไปทั่วทั้งบริเวณในวินาทีนี้ ให้ทุกคนตกลงสู่เหวแห่งความเป็นตายที่ไร้ขอบเขต
และนั่นเป็นรัศมีแห่งความอาฆาตที่หลี่ฝางได้ปล่อยออกมา
รัศมีของปรมาจารย์กำลังภายใน มากพอที่จะให้ทุกคนเกิดภาพลวงตาได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงรัศมีของปรมาจารย์แดนเตา และนั่นก็คือ ไออาฆาตที่น่าสะพรึงกลัวที่เกิดจากความโมโหของหลี่ฝางในเวลานี้นั่นเอง
มังกรมีเกล็ด ใครแต่เป็นต้องตาย และฉินวี่เฟยก็คือเกล็ดมังกรของหลี่ฝาง ในตอนนั้นหวางซีหมิงก็ได้เคยพิสูจน์มาแล้ว เจ้าสามจางในตอนนี้ ยังต้องการที่จะพิสูจน์อีกครั้ง
ภายใต้รัศมีความน่าสะพรึงกลัวที่หาที่เปรียบไม่ได้เช่นนี้ คนธรรมดาไม่มีแม้แต่คุณสมบัติที่จะต่อต้าน
ทันใดนั้นเอง ดวงตาทั้งสองข้างของเจ้าสามจางก็ได้สูญเสียสีสันไป เขาล้มหงายหลัง ลงไปกองบนพื้นทันที และได้สูญเสียสติสัมปชัญญะไป
ทุกคนที่อยู่ภายในโรงงานแห่งนี้ ต่างตกอยู่ในการครอบงำของรัศมีอันทรงพลังนี้ คนทั้งหมดสูญเสียพลังในการรับรู้ไปทันที ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างไม่ขยับเขยื้อน
มีเพียงฉินวี่เฟยที่ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เธอมองทั้งหมดนี่อยู่ตรงนั้นอย่างโง่ ๆ เธอได้มึนงงไปหมดแล้ว
พวกอันธพาลที่ก่อนหน้านี้มีท่าทีโหดเหี้ยมดุร้ายพวกนั้น ตอนนี้กลับเหมือนได้โดนวิชาอาคมที่ทำให้ขยับไม่ได้อย่างไรอย่างนั้น ทั้งหมดได้กลายเป็นรูปปั้น ยืนแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น สถานการณ์เช่นนี้ ช่างน่าสยองขวัญยิ่งนัก
เมื่อก่อน เธอรู้เพียงเลือนรางว่าหลี่ฝางนั้นแข็งแกร่งมาก แข็งแกร่งจนถึงขั้นที่สี่ตระกูลใหญ่ไม่สามารถทำอะไรเขาได้อีก
แต่พอมาถึงวันนี้ เธอถึงเข้าใจ ความแข็งแกร่งของหลี่ฝางนั้นเกินกว่าที่เธอจะจินตนาการได้
หลี่ฝางยิ้มเล็กน้อย และยื่นมือออกมาแก้เชือกที่มัดฉินวี่เฟยไว้ออก และพาฉินวี่เฟยไปจากที่นี่ เขากล่าวติดตลก: “นี่พวกเขากำลังกราบบูชาผมอยู่เหรอ?”
เมื่อสิ้นสุดคำพูดลง ผู้คนทั้งหมดที่ยืนอยู่ตรงนั้น ต่างก็ได้คุกเข่าลงไปบนพื้นทันที
ปรากฏการณ์ในเวลานี้ ทำให้ฉินวี่เฟยมึนงงไปโดยสิ้นเชิง
หลี่ฝางเพิ่งจะพาฉินวี่เฟยเดินออกมาจากโรงงาน ก็ได้รับสายโทรเข้าจากหลิวฮุย
“ฮัลโหล! หลี่ฝางเหรอ? นายอยู่ที่เมืองเซี่ยงไฮ้เหรอ? ได้ยินว่านายได้เจอปัญหาเข้าใช่ไหม?”
ทันใดนั้นเสียงที่รีบร้อนของหลิวฮุยก็ได้ดังขึ้น
ตั้งแต่ตอนที่หลี่ฝางกลับมาจากบ้านตระกูลชิว ต้าเซี่ยหลงเช่วก็ได้เพิ่งรับความสนใจที่ที่มีต่อหลี่ฝางขึ้นอย่างลับ ๆ และได้ยกระดับความสำคัญของหลี่ฝางขึ้นไปอีกหลายขั้น
ดังนั้นเรื่องของหลี่ฝาง ก็ได้ถูกคนของต้าเซี่ยหลงเช่วสืบรู้โดยทันที จากนั้นก็ได้รายงานให้กับหลิวฮุยที่พึ่งกลับมาจากนอกพื้นที่
ส่วนหลิวฮุยเมื่อได้ยินว่าเป็นเรื่องของหลี่ฝาง ก็ไม่กล้าชักช้า จึงได้รีบติดต่อหลี่ฝางทันที
“หลี่ฝาง ใจเย็น ๆ นะ เรื่องนี้ฉันจะต้องให้คำตอบกับนายอย่างแน่นอน ยังไงก็อย่าก่อเรื่องที่เมืองเซี่ยงไฮ้เด็ดขาด ได้ไหม?” หลิวฮุยเกลี้ยกล่อมอย่างรีบร้อน เกรงว่าลีฟังจะไม่สนใจอะไร และก่อเรื่องใหญ่ขึ้นมา ทำให้เมืองเซี่ยงไฮ้เกิดความโกลาหลอลหม่าน
เพราะหลี่ฝางคนที่เขารู้จักนั้น ไม่ใช่คนที่จะมีนิสัยดีอะไร คนอื่นทำร้ายเขา เขาจะไม่ตอบโต้กลับได้ยังไง เรื่องแบบนี้ แม้แต่หลิวฮุยเองยังทำไม่ได้เลย
ดังนั้นเขาถึงต้องมาเกลี้ยกล่อมหลี่ฝางให้เร็วที่สุด ในขณะเดียวกันนั้นก็แอบด่าพวกคนที่มาหาเรื่องหลี่ฝางอยู่ใน ใจหาเรื่องใครไม่ไปหาเรื่อง ทำไมต้องมาหาเรื่องดาวร้ายคนนี้ด้วย
คิดว่าตัวเองมีชีวิตอยู่นานเกินไปหรือยังไง หรือว่าชีวิตเล็ก ๆ ของตัวเองนั้นสุขสบายเกินไป?
หลิวฮุยไม่กล้าจินตนาการเลยว่า อยู่ที่เมืองเซี่ยงไฮ้แห่งนี้ ถ้าหากทำให้เป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา ผลที่ตามมาจะหนักหนาสาหัสเพียงใด คนข้างบน ต้องโกรธขนาดไหน
อย่างน้อยหลิวฮุยก็ต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการถูกปลดจากตำแหน่งเลย เกรงว่าคงไม่ต่างอะไรนัก
สิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้ในตอนนี้ ก็คือรอคำตอบจากหลี่ฝาง หวังว่าหลี่ฝางจะยังไม่ทันได้มีการเคลื่อนไหว และสามารถเห็นแก่หน้าของเขา
ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะก็ เขาก็คงทำได้เพียงยกผู้อาวุโสออกมาแล้ว
“พอเถอะน่า มาจัดการล้างพื้นเถอะ” หลี่ฝางฟังหลิวฮุยกล่าวอยู่ครึ่งค่อนวัน จึงได้กล่าวขึ้นมาอย่างรำคาญเล็กน้อย
หลิวฮุยหัวใจหนักอึ้ง เขากลัวคำว่าล้างพื้นคำนี้ขึ้นมาโดยสัญชาตญาณทันที
หรือว่าหลี่ฝางจะฆ่าจนเลือดเต็มพื้นไปหมดแล้ว?

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

พ่อแม่ที่หายตัวไปหลายปีจู่ๆ ก็โทรมา บอกว่าตัวเองเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของดูไบ………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset