NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 725 หลี่ฝางรู้สึกกลัวแล้ว

ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าดื่มไปเยอะ หรือว่าคิดถึงเรื่องราวในอดีตกันแน่……
หยิ่นเจิ้งในตอนนี้ จู่ๆก็ร้องไห้ออกมา
“เหอะๆ ลุงหยิ่น คุณโตขนาดนี้แล้ว ยังจะร้องไห้ทำไม?”หลี่ฝางยิ้มๆ พูดถามขึ้น
หยิ่นเจิ้งส่ายหัว พูดตอบ”เงินมันไม่ได้เป็นสิ่งที่ดีเลย มันทำให้คนสูญเสียสติลืมตัวตนของตัวเอง”
“คุณร้องไห้ให้ตัวเอง? หรือว่าร้องไห้ให้กับพี่น้องของคุณ?”หลี่ฝางถามขึ้น
หลี่ฝางรู้สึกไม่เข้าใจ ว่าหยิ่นเจิ้งเป็นอะไรกันแน่
รู้สึกว่าตัวเองสูญเสียความเป็นตัวเองไปไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ก็เลยร้องไห้ออกมา?
หรือว่าพี่น้องของเขาใกล้จะตาย รู้สึกอาลัยอาวรณ์ก็เลยร้องไห้?
“น่าจะเป็นอันหลังนะ”
หยิ่นเจิ้งพูดขึ้น”นอกจากคนในครอบครัวของผมแล้ว เสี่ยวถิงก็เป็นคนที่สนิทที่สุดของผม”
“ตอนนี้เขากำลังจะตายแล้ว หรือผมไม่ควรจะร้องไห้อย่างนั้นเหรอ?”หยิ่นเจิ้งพูดขึ้นด้วยความเจ็บปวดใจอย่างยิ่ง
หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ พร้อมกับพูดขึ้น”ถ้าคุณเจ็บปวดหัวใจจริงๆ ก็ไม่ควรร้องไห้ แต่ควรจะโทรไปบอกลูกน้องของคุณ ให้พวกเขาหยุดลงมือซะ”
“เสี่ยวถิงไม่ตาย ก็จะกลายเป็นอันตรายกับฉันภายหลัง”หยิ่นเจิ้งส่ายหัว พูดขึ้น
หลังจากที่หยิ่นเจิ้งพูดจบแล้ว น้ำตาที่ใบหน้า ก็แห้งหายไปทันที แทนที่ด้วย สีหน้าที่ทะเยอทะยานอย่างแรงกล้าเหมือนกับก่อนหน้านี้ หลี่งฝางส่ายหัว พูดขึ้น”น้ำตาที่ไหลออกมาของคุณเมื่อตะกี้ มันคือน้ำตาจระเข้ใช่ไหม?”
หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ พูดขึ้น”เจ้าเล่ห์จริงๆ”
หยิ่นเจิ้งพูด”นี่ไม่ได้เรียกว่าเจ้าเล่ห์ แต่เรียกว่าผู้ที่กระทำการใหญ่ไม่ใส่ใจกับเรื่องเล็กน้อยต่างหากล่ะ ควรจะมีจิตใจที่โหดเหี้ยมและไม่อ่อนไหวง่ายๆ คุณชายหลี่ คุณยังเด็ก อาจจะไม่เข้าใจสิ่งนี้ก็ได้”
“คุณแทบไม่รู้เลยว่าการที่ผมจะสามารถอยู่มาถึงทุกวันนี้ได้ มันไม่ได้ง่ายๆเลย ผมต้องปีนขึ้นมาทีละก้าวๆ กว่าจะมาถึงจุดๆนี้ ผมไม่อยากร่วงลงไปอีกแล้ว ไม่ว่าใครหน้าไหนที่อาจจะทำให้ผมร่วงหล่นลงไปได้ ผมก็ต้องกำจัดทิ้งให้หมด แม้ว่าคนคนนั้น จะเป็นเพื่อนสนิทอันเป็นที่รักของผมก็ตาม”
หยิ่นเจิ้งพูดขึ้นอย่างเยือกเย็น”ตั้งแต่สมัยโบราณ พวกเหล่าจักรพรรดิต่างก็โหดเหี้ยมไร้จิตใจกันทั้งนั้น”
หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ”พอแล้ว พูดแก้ต่างให้กับความเห็นแก่ตัวของเองให้มันน้อยๆหน่อย ผมรู้สึกว่ามันไม่คุ้มค่าแทนเสี่ยวถิงเลยสักนิด
เขารวมหัวจมท้ายอยู่กับคุณมาตลอดทั้งทาง ผ่านอุปสรรคความทุกข์ยากมากมายมาตั้งเท่าไร เกรงว่าเขาก็ไม่ได้ทุกข์ยากน้อยไปกว่าคุณเหมือนกัน แต่ ตอนที่เขากำลังจะได้เริ่มใช้ชีวิตของเขา กลับถูกพี่น้องของตัวเองฆ่าตายเสียอย่างนั้น ให้ผมเดานะ เสี่ยวถิงจะต้องนอนตายตาไม่หลับแน่นอน”
“จริงๆแล้ว คำถามที่คุณถามผมก่อนหน้านี้ มันเกินความจำเป็นมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ต่อให้ไม่ใช่เสี่ยวถิงเป็นคนทำก็เถอะ คุณก็ฆ่าเขาอยู่ดี”
หลี่ฝางพูดขึ้นอย่างนิ่งๆ
หยิ่นเจิ้งไม่ได้พูดแก้ต่างอะไร ในตอนนี้เอง ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นมาจากในบ้านของเสี่ยวถิง
มีพวกคนสองสามคน สวมชุดสีดำทั้งตัว หนีออกมาจากบ้านของเสี่ยวถิง พวกเขาโทรศัพท์มาหาหยิ่นเจิ้ง บอกเขา ว่าทุกคนไม่เว้นแต่คนเฒ่าคนแก่ลูกเด็กเล็กแดงของครอบครัวเสี่ยวถิง ถูกระเบิดตายจนหมดแล้ว
ตอนที่ได้ฟังข้อมูลนี้ หยิ่นเจิ้งก็ยกเหล้าขึ้นมา ดื่มไปสองคำ
เขาเงยหน้ามองท้องฟ้า มองดวงดาวที่กระจัดกระจายไปทั่วท้องฟ้า พร้อมกับพูดขึ้น”เสี่ยวถิง อย่าว่าพี่เลยนะ ชาติหน้า พี่จะเป็นม้าเป็นวัวให้กับนายเอง เพื่อชดเชยให้กับสิ่งที่ทำกับนายในชาตินี้”
หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ”ลุงหยิ่น คุณนี่ใจเหี้ยมโหดจริงๆ ทั้งครอบครัวคนแก่และเด็ก คุณก็ไม่ปล่อยไปแม้แต่คนเดียว”
“พวกเขาอาจจะรู้ความลับของผม ถ้าขืนผมปล่อยไว้ ก็จะเป็นอันตรายต่อผมภายหลังได้ แถมถ้าลูกชายของเขามีชีวิตอยู่ แล้วต่อไปได้รู้ความจริงขึ้นมา จะต้องมาแก้แค้นผมแน่นอน”
หยิ่นเจิ้งพูดขึ้น”คุณชายหลี่ ผมไม่ใช่คนดีอะไร ผมรู้อยู่แก่ใจ คุณอย่าต่อว่าอะไรผมเลย”
“เหอะๆ แค่คำเยาะเย้ยไม่กี่คำก็รับไม่ได้แล้ว”หลี่ฝางรู้สึกเสียดายแทนเสี่ยวถิง
ในตอนนี้เอง หยิ่นเจิ้งก็รับโทรศัพท์จากบริษัท หลังจากที่วางสายแล้ว สีหน้าของหยิ่นเจิ้งก็ดูนิ่งขรึมเข้มงวดขึ้นมาผิดปกติทันที
เขาขมวดคิ้วพูดขึ้น”ไอ้แมงป่อง คงจะบ้าไปแล้ว”
“มันทำไมเหรอ?”หลี่ฝางถามขึ้นต่อ
หยิ่นเจิ้งตอบ”เมื่อตะกี้พนักงานของผมบอกผมว่า คนของแมงป่อง กำลังสืบหาเบาะแสผู้บริหารระดับสูงของบริษัทผมอยู่ ดูท่าแล้ว มันคงคิดจะลงมือกับพวกตำแหน่งสูงๆของบริษัทผมแน่ๆ”
เพิ่งจะพูดจบ จู่ๆหยิ่นเจิ้งก็หัวเราะออกมา”ผมกำลังเศร้าที่หาแพะรับบาปไม่ได้อยู่เลย ฮ่าๆ พอดีเลย การตายของเสี่ยวถิง ผมจะได้ยกความผิดทุกอย่างไปให้กับแมงป่องเลยแล้วกัน”
หลี่ฝางส่ายหัวพูดอะไรไม่ออก
ตอนนี้ หยิ่นเจิ้งกับแมงป่องกำลังสู้รบกัน ช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้ บ้านของเสี่ยวถิงก็เกิดการระเบิดขึ้น แน่นอนว่าผู้คนมากมายจะต้องคิดว่าเป็นฝีมือของแมงป่องแน่นอน
ต่อให้ไม่เกิดสงครามขึ้น ก็ไม่มีใครสงสัยว่าเป็นฝีมือของหยิ่นเจิ้งอยู่ดี
ต่อให้เป็นจ้าวโหย่วฉาย ก็ยังไม่เชื่อ
หลี่ฝางมองหยิ่งจู้น ก่อนจะพูดขึ้น”ดูท่าแมงป่องคงจะเริ่มรู้สึกโมโหแล้ว ช่วงหลายวันมานี้ คุณระวังตัวหน่อยก็ดี”
“ผมไม่เป็นห่วงพวกผู้บริหารระดับสูงของบริษัทพวกนั้นหรอก เทียบกับพวกเขาแล้ว ผมเป็นห่วงลูกชายของผมมากกว่า ดูท่าครั้งนี้แมงป่องคงจะโกรธจริงๆแล้ว มันจะต้องบ้าคลั่งแน่ๆ”หยิ่นเจิ้งพูด”แมงป่องในตอนนี้ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น”
หลี่ฝางพยักหน้า พูดขึ้น”แล้วมันยังไง พวกเราใช้เวลาทั้งคืนในการทำลายธุรกิจของแมงป่องตั้งหลายแห่งขนาดนั้น เกรงว่าต่อจากนี้ไป สถานที่ทั้งหมดของแมงป่องจะต้องเข้าสู่สภาพรกร้างอย่างแน่นอน”
“แมงป่องมีลูกน้องมากมายที่ต้องเลี้ยงดู ไม่มีพวกแขกพวกลูกค้าแล้ว มันจะต้องบ้าแน่ๆ”
หลี่ฝางพูดแนะนำหยิ่นเจิ้ง”ถ้าคุณเป็นห่วงลูกชายล่ะก็ ส่งตัวลูกชายคุณมาให้กับผมสิ ส่งไปที่เมืองเอก ตระกูลหลี่ของพวกเรามีสถานตากอากาศอยู่หนึ่งหลัง ปลอดภัยมาก อย่าว่าแต่แมงป่องเลย ต่อให้เป็นตระกูลลู่ ก็บุกเข้าไปไม่ได้”
หยิ่นเจิ้งส่ายหัว พูดขึ้น”ช่างเถอะ เอาเขาไว้ในบ้านของจ้าวโหย่วฉาย ผมก็วางใจได้แล้ว”
หลี่ฝางมองหยิ่นเจิ้ง จู่ๆก็ขมวดคิ้ว พูดขึ้น”ลุงหยิ่น คุณคงจะไม่ตั้งหน้าตั้งรอแมงป่องบุกเข้าไปแย่งตัวลูกชายคุณจากในบ้านของจ้าวโหย่วฉายอย่างใจจดใจจ่ออยู่หรอกนะ?”
“ถ้าเป็นแบบนั้นแล้ว จ้าวโหย่วฉายก็จะรวมเป็นหนึ่งเดียวกับคุณ ช่วยคุณต่อกรกับแมงป่องอย่างสุดหัวใจ”
“ผมช่วยเรื่องคน คุณช่วยเรื่องเงิน บวกกับจ้าวโหย่วฉายไปอีกล่ะก็ ต่อให้แมงป่องจะสุดยอดแค่ไหน ก็คงจะต่อสู้รับมือได้อยู่ไม่กี่วันหรอกใช่ไหม?”
หลี่ฝางพูดจบ จู่ๆก็ตัวสั่น
ตอนแรกก็สั่งให้คนไปฆ่าพรรคพวกพี่น้องของตัวเอง จากนั้น ก็ยังหลอกใช้ลูกชายของตัวเองอีก หรือว่าหยิ่นเจิ้งคนนี้ ไม่สนใจใยดีชีวิตของลูกชายตัวเองเลยอย่างนั้นเหรอ?
หลี่ฝางขมวดคิ้ว มองหยิ่นเจิ้ง”เขาเป็นลูกชายแท้ๆของคุณนะ แม้แต่เขาคุณก็ยังหลอกใช้อย่างเหรอ?”
หยิ่นเจิ้งพูดขึ้นอย่างนิ่งๆ”นอกจากเขาจะสร้างปัญหาให้กับผมแล้ว ยังทำอะไรให้กับผมได้อีก? แล้ว เขาในตอนนี้ ไม่ใช่ลูกของผมแล้วด้วย พูดให้ถูกต้องก็คือ เขาไม่ใช่ผู้ชายแล้ว แล้วผมจะเอาเขาไปทำไมอีก?”
หยิ่นเจิ้งหันไปมองหลี่ฝาง แววตาเต็มไปด้วยความโกรธเกลียดเคียดแค้น
“ถ้าเขาช่วยให้ผมทำการใหญ่ได้สำเร็จ ก็ถือว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณที่ผมเลี้ยงดูเขาในช่วงหลายปีที่ผ่านก็แล้วกัน”หยิ่นเจิ้งพูดขึ้นอย่างเย็นชา
หลี่ฝางมองหยิ่นเจิ้ง พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น”ดูท่า คงจะไม่ใช่แมงป่องหรอกที่บ้า เป็นคุณต่างหากที่บ้าคลั่ง ลุงหยิ่น คุณในตอนนี้ เปลี่ยนไปเป็นอีกคนแล้ว คุณในตอนนี้ ไม่ใช่คนแล้วจริงๆ”
ในเวลานี้ หลี่ฝางเริ่มรู้สึกว่าหยิ่นเจิ้งน่ากลัวขึ้นมาแล้ว
หยิ่นเจิ้งไม่ได้พูดอะไร แต่โทรศัพท์ไปหาพวกตำแหน่งสูงๆของบริษัทตัวเอง ลาหยุดให้กับพวกเขา ให้คนเหล่านั้น ออกไปพักผ่อนที่ต่างประเทศ รอถึงตอนที่รู้ผลแพ้ชนะของตัวเองกับแมงป่องเมื่อไร เมื่อนั้นค่อยกลับมา
ส่วนเรื่องบริษัท เอาไว้ก่อน ตอนนี้หยิ่นเจิ้งก็ขี้เกียจที่จะหาเงินแล้วเหมือนกัน เป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวในตอนนี้ของเขา ก็คือละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อที่จะกำจัดแมงป่องคนเดียว
พอหลังจากที่แมงป่องถูกกำจัดแล้ว เขาก็จะเริ่มทำการล้างบางครั้งยิ่งใหญ่ ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างในอำเภอหลินเป็นของตัวเองทั้งหมด
พูดได้เลยว่า หยิ่นเจิ้งมีจิตใจที่ทะเยอทะยานมาก
หยิ่นเจิ้งหันไปมองหลี่ฝาง ก่อนจะพูดขึ้น”ถึงไม่ใช่คนผมก็ยอม คนที่ไม่เห็นแก่ตัวเองยอมโดนเอารัดเอาเปรียบก็จะตายเพราะพฤติกรรมของตัวเอง ผมไม่ได้รู้สึกว่าผมทำอะไรผิด หลายปีมานี้ ผมก็เป็นคนที่มีความทะเยอะทะยานชอบความท้าทายแบบนี้มาโดยตลอด คุณชายหลี่ ผมยังมีธุระอีก ขอตัวก่อนแล้วกันครับ”
“ใช่แล้ว สถานที่แห่งนี้ไม่ปลอดภัย คุณสามารถพาพวกลูกน้องของคุณไปพักที่โรงแรมของผมได้นะครับ หรือไม่ก็กลับไปที่เมืองหลักซะ”
ตอนที่กำลังจะเดินไป หยิ่นเจิ้งหันมาพูดแนะนำหลี่ฝาง”โรงแรมของผมไม่ใช่แค่ปลอดภัยอย่างเดียว สภาพแวดล้อมก็ดีด้วยนะครับ”
หลี่ฝางส่ายหัว ปฏิเสธ”ขอโทษครับ ลุงหยิ่น ตอนนี้ผมชักจะเริ่มกลัวคุณแล้ว ดังนั้นจึงอยากจะอยู่ให้ห่างจากคุณสักหน่อย”
หลี่ฝางไม่ได้โง่ ไปที่โรงแรมของเขา ก็เท่ากับว่าถูกหยิ่นเจิ้งจับตาดูอยู่ไม่ใช่หรือไง?
ถ้าเป็นแบบนี้ เวลาหลี่ฝางทำอะไร ก็จะถูกหยิ่นเจิ้งรู้หมด หลังจากที่หยิ่นเจิ้งจากไปแล้ว หลี่ฝางก็หยิบมือถือออกมา โทรไปหาไอ้หน้าหนวด
หลังจากรับสายแล้ว หลี่ฝางก็เปิดปากพูดทันที”ช่วยมาแล้วยัง?”
“ช่วยมาเรียบร้อยแล้วครับ สมาชิกในครอบครัวสี่คน ช่วยออกมาหมดแล้วครับ”ไอ้หน้าหนวดหัวเราะแหะๆ พูดขึ้น”คุณชายหลี่ คุณนี่ช่างคาดการณ์ได้อย่างกับเทพจริงๆนะครับ”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

พ่อแม่ที่หายตัวไปหลายปีจู่ๆ ก็โทรมา บอกว่าตัวเองเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของดูไบ………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset