แค่การปะทะกันง่ายๆ โค้ชตัวสูงก็รู้สึกได้ ตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ส้าวส้วยแน่นอน
เดิมทีโค้ชอีกคนคิดมาช่วย แต่พอเห็นส้าวส้วยลงมือ จึงล้มเลิกความคิด
คาราเต้ของส้าวส้วย ไม่ได้มาจากการฝึกทหาร แต่ความเร็วเร็วกว่า กระบวนท่าประหลาดกว่า
ต่อให้โค้ชสองคนขึ้นพร้อมกัน ก็ไม่แน่ว่าจะสู้ส้าวส้วยคนเดียวได้
ลองคิดดู โค้ชคนหนึ่งโดนนักเรียนใช้คาราเต้ล้ม เป็นเรื่องที่น่าขายหน้าขนาดไหน
การฝึกทหารคราวต่อไปจะทำอย่างไร
มีโค้ชคนหนึ่งถึงขั้นแอบหนีออกไปจากกลุ่มคน
ในตอนที่หนีออกไป เขายังแอบควักมือถือออกมา ทำเหมือนมีคนโทรหาเขา
“แก……แกกล้าลงมือกับโค้ชงั้นหรือ”โค้ชแสดงสีหน้าเย็นชา
“โค้ช ผมแค่อยากได้รับการชี้แนะจากโค้ชเท่านั้น”
ส้าวส้วยปล่อยโค้ชลง พูดขึ้น“โค้ช พ่อผม ก็เป็นทหารเหมือนกัน ผมเรียนคาราเต้กับพ่อแต่เด็ก แต่แค่ฝีมือไม่โดดเด่นแค่นั้น หวังว่าโค้ชจะชี้แนะ”
ส้าวส้วยพูดจบ ไม่รอให้โค้ชเห็นชอบด้วย จึงลงมือเลย
ส้าวส้วยกำหมัดแน่น ปล่อยหมัดออกไป ราวพยัคฆ์ท้าลม
โค้ชขมวดคิ้ว ท่าทางปล่อยหมัดของส้าวส้วย แม้จะดูเหมือนทหาร แต่ในความเป็นจริง เท่ห์กว่าทหารเยอะ
โค้ชหดแววตาลง รวบรวมกำลังทั่วกาย
โค้ชดูออก ว่านักเรียนคนนี้ เป็นคนที่คุมยากทีเดียว
ถ้าหากขัดใจขึ้นมาหน่อย แพ้ราบแน่นอน
โค้ชโดนส้าวส้วยรัดรึง จึงไม่มีเวลาไปวุ่นวายกับเรื่องหลี่ฝางและหลิวเสี่ยวเทา
“ยังไม่ยอมพูดอีก นิ้วมือแก ใกล้หักแล้วนะ”หลี่ฝางมองหลิวเสี่ยวเทาอย่างสงบ
หลิวเสี่ยวเทาดูสับสน มองหลี่ฝาง อ้อนวอน“พี่ใหญ่ ปล่อยผมไปเถอะ ไม่ใช่ว่าผมไม่พูด แต่ผมไม่กล้าพูด”
“ถ้าผมพูดไป ผมตายแน่เลย”หลิวเสี่ยวเทาพูดสีหน้าลำบากใจ。
หลี่ฝางหัวเราะหึๆ เขาพอจะเดาออกแล้ว
เพียงแต่ว่าคนที่หลี่ฝางล่วงเกินมีมากเกินไป มู่เสี่ยวไป๋ สวีเถิงเฟย ตู้เฟย หยูเถิง……
คนเหล่านี้ล้วนมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นผู้บงการเบื้องหลัง
เดิมทีหลี่ฝางสงสัยเฉินเสี้ยวด้วยซ้ำ แต่ในจังหวะนี้ หลี่ฝางตัดเขาออกไปแล้ว
ถ้าเป็นเฉินเสี่ยว หลิวเสี่ยวเทาคงไม่กลัวที่จะบอกว่าเป็นเขาหรอก
“หลิวเสี่ยวเทา นายมีหลิวเหล่าซานอาของนายคุ้มกะลาหัวอยู่ นายกลัวอะไร”หวางเสี่ยวโก๋ถาม
หลี่ฝางหัวเราะหึๆ“ดูท่าคนบงการ น่าจะร้ายกาจกว่าหลิวเหล่าซาน”
“ถ้าหลิวเสี่ยวเทาหักหลังเขา เกรงว่า ต่อให้หลิวเหล่าซานออกหน้า ก็คุ้มหัวไม่อยู่”หลี่ฝางพูด
“คนอะไรน่ากลัวขนาดนี้”หวางเสี่ยวโก๋หน้าถอดสี
“ฉันเองก็อยากรู้”หลี่ฝางหัวเราะหึๆ มองหลิวเสี่ยวเทาเย็นชา
“ไม่บอกใช่ไหม ไม่บอกฉันจะหักนิ้วแก ให้แกลิ้มรสความร้ายกาจฉันบ้าง”พูดจบหลี่ฝางออกแรง
เสียงกร๊วบดังขึ้น เสียงร้องโหยหวนราวหมูถูกเชือดตามมา
หลิวเสี่ยวเทา ร้องเหมือนหมูถูกเชือด
“ในเมื่อแกไม่พูด ฉันก็ต้องบังคับแกพูด”
หลี่ฝางหักนิ้วหลิวเสี่ยวเทา จากนั้นก็เตรียมกุมมืออีกมือหลิวเสี่ยวเทาขึ้น
หลิวเสี่ยวเทาตกใจพัลวัน เงยหน้ามองหลี่ฝาง แววตาเต็มไปด้วยความหมดหวัง
เดิมทีหลิวเสี่ยวเทาคิดว่าหลี่ฝางแค่ขู่ คิดไม่ถึงว่า หลี่ฝางพูดจริงทำจริง หักนิ้วเขาจริงๆ
เวลานี้ ในใจหลิวเสี่ยวเทา พูดอะไรไม่ออกโดยสิ้นเชิง
คนๆนี้เป็นใครกัน
คุณอาของตนเอง เขาก็ไม่กลัว!
โค้ชมา ก็ไม่กลัว!
“คนอื่นมีแต่ไม่เห็นโค้ชไม่หลั่งน้ำตา ส่วนแก เห็นโค้ชก็ยังไม่หลังน้ำตาอยู่ดี ยังไม่ยอมพูดใช่ไหม”หลี่ฝางสีหน้าเย็นชา“บังคับให้ฉันหักนิ้วที่สองใช่ไหม”
“ฉัน……ฉันพูด”
หลี่ฝางแค่ออกแรง หลิวเสี่ยวเทาก็ทนไม่ไหว
“เป็นสวีเถิงเฟย สวีเถิงเฟยเป็นคนบงการให้มาหาเรื่อง”ในใจหลิวเสี่ยวเทาล่มสลายขั้นสุด เขาได้บอกผู้บงการเบื้องหลังออกมา
“สวีเถิงเฟยเหรอ”หวางเสี่ยวโก๋ถอนหายใจยาว
หวางเสี่ยวโก๋โดนหลี่ฝางหยิกจนเหงื่อแตกเหงื่อแตน สวีเถิงเฟยเริ่มแก้แค้นหลี่ฝางแล้ว
หลี่ฝางยิ้มเบา ปล่อยหลิวเสี่ยวเทา
“แกกลับไปบอกสวีเถิงเฟย ถ้าคิดหาเรื่องฉัน ก็มาแบบเปิดเผยหน่อย อย่าหลบๆซ่อนๆ เหมือนเต่าหดหัว”หลี่ฝางบอกหลิวเสี่ยวเทา
พอหลี่ฝางหมดธุระที่นี่ ส้าวส้วยก็ล้มพับลงพื้น เหมือนมะเขือเผา พูดกับโค้ชว่า
“โค้ช โค้ชเก่งกว่า”
“หมัดทหารของนาย เก่งกาจกว่าฉันเยอะ”
“ผมแพ้แล้ว”
ส้าวส้วยมือทาบอก สีหน้าเจ็บปวด
สีหน้าโค้ช มีแต่ความสงสัย
เขามองส้าวส้วยด้วยความงุนงง คิดในใจ เขาชนะหรือ
ชนะยังไงอ่ะ
ตอนปะทะฝีมือเมื่อกี้ ส้าวส้วยกดเขาไว้ตลอด
และบังคับจังหวะได้ดีมาก ทำให้เขาอยู่ใต้ลมตลอด ไม่กล้าล้มตัวเองแม้แต่น้อย
โค้ชรู้ แค่ส้าวส้วยคิดจะทำ เขาล้มตนเองได้ตลอด
เพียงแต่ เขาไม่ลงมือก็แค่นั้น จึงได้แต่กดไว้
โค้ชตัวสูงเงยหน้า“หมัดทหารของนายไม่เลว ฝึกอีกสองปี จะต้องล้ำหน้าฉันแน่”
โค้ชตัวสูงเดินมา ดึงมือส้าวส้วยขึ้น
“ขอบใจนะ เจ้าหนู”โค้ชตัวสูงขอบคุณข้างหูส้าวส้วยเสียงเบา
โค้ชตัวสูงแสดงสีหน้าขอบคุณ ถ้าส้าวส้วยคิดจะล้มเขา เขาคงขายหน้าเต็มประดา
ส้าวส้วยปัดก้นลุกขึ้นยืน มองโค้ชตัวสูง หัวเราะแหะๆ“เรื่องเล็กๆ”
“โค้ช เราแค่เล่นกัน โค้ชอย่าหักคะแนนผมนะ”ส้าวส้วยถามหยั่งเชิง
“หักคะแนนอะไรเล่า เล่นกันแค่นั้น มีคะแนนอะไรให้หัก”โค้ชตัวสูงโบกมือ ไม่มองหลิวเสี่ยวเทาแม้แต่น้อย แล้วเดินจากไป
หลิวเสี่ยวเทาหน้าเหมือนคนตาย เขามองหลี่ฝาง แล้วก็ไปเช่นกัน
“เถ้าแก่ เมื่อกี้ผมแสดงเป็นไงบ้าง”
“การวางท่าเมื่อกี้ ธรรมชาติดีใช่ไหม”
หลังจากกลุ่มคนสลายตัว ส้าวส้วยจึงถามหลี่ฝาง
เมื่อมองส้าวส้วยที่กำลังปรีดา หลี่ฝางหัวเราะหึๆ“ฝีมือการแสดงของนาย สมจริงกว่าลู่ฮั่นนักแสดงชั้นยอดอีก”
“ลู่ฮั่นเหรอ เขาคือใคร ผมรู้จักแต่เฉิงหลง หลี่เหลียนเจี๋ย พวกเขาเป็นไอดอลผม”ส้าวส้วยตะลึง
จากนั้น ส้าวส้วยฉีกปากยิ้ม“แต่ว่าในเมื่อเป็นนักแสดงชั้นนำ ฝีมือการแสดงต้องสุดยอด”
หลี่ฝางส่ายหน้าอย่างหมดคำพูด
ท่าหกล้มของส้าวส้วยเมื่อกี้ ตอแหลเหลือเกิน นักเรียนไม่น้อยรุมล้อมเข้ามา ส้าวส้วยขายหน้าแล้ว
แต่ต่อให้ดูออก ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไร
ถ้าเรื่องนี้รู้ไปถึงหูโค้ช มีหวังจบเห่
“เถ้าแก่ เมื่อไหร่จะเลี้ยงแฮมเบอร์เกอร์สักที”ส้าวส้วยคลึงท้อง ถามอย่างหิวโหย
“ไป ไปกินกันตอนนี้”
หลี่ฝางพูดจบ จึงโบกมือให้เหยนเสี่ยวน่ากับหวางเสี่ยวโก๋ ชวนพวกเขาไปโรงอาหารด้วยกัน
“นายจะกินแฮมเบอร์เกอร์กี่อัน ฉันไปซื้อให้”หลี่ฝางถาม
“สิบอันแล้วกัน”ส้าวส้วยตอบ
หลี่ฝางขมวดคิ้ว“สิบอันเลยเหรอ แกกินไหวเหรอ”
“หรือไม่ก็ เก้าอัน”ส้าวส้วยเม้มปาก“ไหนๆเมื่อกี้กินไปแล้วอันหนึ่ง”
หลี่ฝางส่ายหน้าอย่างหมดคำพูด“สิบอันแล้วกัน”
หลี่ฝางมาถึงโรงอาหาร ซื้ออาหารมังไปสองจาน ผัดผักสองจาน แล้วเดินไปซุปเปอร์ ซื้อแฮมเบอร์เกอร์สิบอันให้ส้าวส้วย
ตอนกินข้าว หวางเสี่ยวโก๋อดถามไม่ได้“หลี่ฝาง นายมีแก่ใจกินข้าวเหรอ”
“ไม่ล่ะ”
“สวีเถิงเฟยไม่ปล่อยนายแน่”หวางเสี่ยวโก๋พูดสีหน้าหวาดกลัว“เขาจะมาหาเรื่องเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า”
“ตอนเรียนมอปลาย คนที่ล่วงเกินสวีเถิงเฟย ถ้าไม่ย้ายโรงเรียน ก็ลาออกไม่เรียนไปเลย”
“ถ้าไม่หนี ก็จะโดนสวีเถิงเฟยเล่นจนเข้าโรงพยาบาล คนอย่างเขา โหดเหี้ยมอำมหิต”หวางเสี่ยวโก๋พูด
หลี่ฝางพยักหน้า เขารู้นานแล้ว
ถ้าสวีเถิงเฟยไม่อำมหิต หลิวเสี่ยวเทาจะกลัวลนลานแบบนี้เหรอ
ยอมนิ้วหักนิ้วนึง ก็ไม่ยอมบอกว่าสวีเถิงเฟยเป็นคนทำ!
เห็นชัดว่า สวีเถิงเฟยเป็นคนอำมหิตคนหนึ่ง
เหยนเสี่ยวน่าก็พูดขึ้น“หลี่ฝาง ยังมีที่นายต้องระวัง สวีเจิ้งหรงพ่อของสวีเถิงเฟย เป็นอธิการบดีของสุ่ยมู่ เพราะงั้น ไ่ม่ว่าสวีเถิงเฟยจะทำไรที่สุ่ยมู่ ก็ไม่เป็นไรทั้งนั้น”
“แต่นายไม่แน่”
หลี่ฝางยิ้มขึ้น“ไม่แน่เสมอไป”
NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 180 ผู้บงการเบื้องหลัง
Posted by ? Views, Released on September 29, 2021
, NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง
พ่อแม่ที่หายตัวไปหลายปีจู่ๆ ก็โทรมา บอกว่าตัวเองเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของดูไบ………….
Recommended Series
Comment
Facebook Comment