เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 308 งานแต่งงานของอภิมหาเศรษฐีย่อมต้องยิ่งใหญ่แบบนี้แหละ

หลินเช่อครุ่นคิด ดูเหมือนว่าลู่ชูเซี่ยจะไม่รู้เกี่ยวกับอาการป่วยของชายหนุ่ม
 
 
เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ก็เพราะว่าเธอสามารถสัมผัสเขาได้โดยที่เขาไม่มีอาการกำเริบนี่แหละ ที่ใช้ได้ผลมากกว่าเล่ห์กลมารยาใดๆ แถมอาการป่วยของเขาก็ไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้นด้วย เพราะอย่างนี้หลินเช่อจึงไม่เคยต้องกังวลใจว่าเธอจะถูกใครคนอื่นมาแทนที่
 
 
เว้นเสียแต่ว่า จะมีซักวันที่กู้จิ้งเจ๋อจะสามารถสัมผัสผู้หญิงอื่นได้เท่านั้น…
 
 
ลู่ชูเซี่ยหัวฟัดหัวเหวี่ยงอย่างยิ่งเมื่อต้องถูกดูหมิ่นจากดาราหางแถวคนหนึ่ง
 
 
แต่เมื่อหวนคิดถึงกู้จิ้งเจ๋อ หญิงสาวก็ยังคงบอกตัวเองว่าจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
 
 
แต่ในเมื่อเธอไม่สามารถทำอะไรได้เมื่ออยู่ในบ้านตระกูลกู้ เธอจึงตัดสินใจที่จะกลับบ้าน
 
 
กู้จิ้งเหยียนเดินมาส่งผู้เป็นเพื่อนและก็ได้เห็นว่าลู่ชูเซี่ยมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก เธอจึงยิ้มและบอกว่า “เอาละ วันแต่งงานของฉันเธอต้องมานะ”
 
 
“ต้องมาสิจ๊ะ ฉันจะไม่มาร่วมงานแต่งงานพี่ชายตัวเองได้ยังไงกันล่ะ”
 
 
เมื่อกู้จิ้งเจ๋อกลับออกมาจากห้องของคุณปู่ เขาก็พาหลินเช่อกลับบ้าน
 
 
หลินเช่อนั่งเงียบไปตลอดทางที่อยู่บนรถ จ้องมองออกไปนอกหน้าต่าง
 
 
ชายหนุ่มรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างไม่ปกติ จึงถามขึ้นว่า “เป็นอะไรรึเปล่า ทำไมถึงนั่งเงียบนักล่ะ”
 
 
หลินเช่อรู้สึกตัวอีกครั้งและหันมามองเขา
 
 
ชายหนุ่มผู้เป็นที่หมายปองของผู้หญิงมากมายอย่างเขา กลายมาเป็นสามีของเธอ
 
 
หลายคนคงอดคิดไม่ได้ว่าเธอคงมีเส้นสายพิเศษบางอย่างที่ทำให้มาอยู่ตรงนี้ได้
 
 
ในสายตาพวกเขาแล้ว คงคิดว่าการแต่งงานของเธอและเขาครั้งนี้ไม่น่าจะยืนยาวนัก
 
 
หลินเช่อยกมือลูบผมให้เข้าที่และพูดว่า “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ฉันแค่อยากจะบอกว่าใกล้จะถึงงานแต่งของจิ้งเหยียนแล้ว ฉันยังไม่รู้ว่าจะให้อะไรเธอเป็นของขวัญดี”
 
 
ชายหนุ่มตอบว่า “ช่างเถอะ ถึงยังไงก็ไม่มีอะไรที่จะต้องให้หรอก เขามีหมดทุกอย่างแล้วละ แค่ให้การ์ดเขียนคำอวยพรก็พอ”
 
 
“แบบนั้นจะไม่ดูขี้เหนียวเกินไปหรือคะ”
 
 
“ถ้างั้นเธอจะทำอะไรได้อีกล่ะ ลำพังแค่สินเดิมที่จิ้งเหยียนได้ติดต่อไปในงานแต่งครั้งนี้ก็มหาศาลแล้ว เขาได้บริษัทลงทุนสองแห่ง รีสอร์ตพักร้อนสามแห่ง แล้วก็เหมืองถ่านหินอีก ทั้งหมดนี้เป็นของเขาหมดแล้ว เธอยังจไปซื้ออะไรให้เขาได้อีกล่ะ”
 
 
“ว้าว สินเดิมเยอะจังเลยค่ะ…” หลินเช่ออึ้งสนิท “ใครที่ได้มาแต่งงานด้วยน่าจะเป็นคนที่โชคดีมากๆ เลยนะคะ”
 
 
“ใช่แล้วละ ผู้ชายจากตระกูลลู่คนนี้โคตรโชคดีเลยจริงๆ แต่ทางตระกูลลู่เองก็ให้ของรับไหว้มาไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันหรอก”
 
 
“งานแต่งงานของพวกมหาเศรษฐีนี่ยิ่งใหญ่จนสั่นสะเทือนได้ทั้งระบบเศรษฐกิจเลยนะคะเนี่ย” หลินเช่อว่า
 
 
กู้จิ้งเจ๋อบอก “มันก็ไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนั้นหรอก แต่อีกสองสามวันก็คงเห็นการเปลี่ยนแปลงในตลาดหุ้นแน่ แต่จะดีหรือร้ายนั่นยังคาดเดาไม่ได้”
 
 
“ไม่ต้องแปลกใจเลยนะคะ ที่เขาพูดกันว่าการเคลื่อนไหวใดๆ จากตระกูลกู้น่ะส่งผลต่อประเทศซีทั้งประเทศได้เลย อา ว่าแต่แล้วงานแต่งงานจะมีพวกคนจากบริษัทสื่อมาร่วมด้วยหรือเปล่าคะ”
 
 
“เราอนุญาตให้บริษัทสื่อแค่ไม่กี่แห่งเข้ามาในงานและทำการสัมภาษณ์ได้ แต่ฉันเดาว่าที่ด้านนอกของงานน่าจะมีสื่อมาออกันอยู่เยอะมากทีเดียวละ”
 
 
เมื่อหลินเช่อได้ยินก็รีบพูดขึ้นว่า “ถ้างั้นฉันว่าคงเป็นความคิดที่ไม่ดีนักหรอกค่ะถ้าจะให้ฉันไปร่วมงาน ถ้าเกิดฉันถูกถ่ายรูปขึ้นมาล่ะคะ…”
 
 
“ไม่เป็นหรอก พวกสื่อคงจะไม่ได้เข้ามาอยู่ในพื้นที่ส่วนกลาง พอถึงตอนนั้นเธอก็หลบๆ หน่อยก็แล้วกัน ถึงยังไงวันนั้นก็คงมีแขกมาร่วมงานเยอะมาก คงไม่มีใครเห็นเราตอนที่เดินเข้างานหรอก”
 
 
“โอเคค่ะ ฉันจะพยายามไม่ให้ใครเห็น แต่ถ้าคุณหายไปละก็ คงจะต้องมีคนรู้แน่ๆ ค่ะ”
 
 
“ทำไมล่ะ”
 
 
“ก็เพราะว่า…” หลินเช่อคิด ก็เพราะว่าเขาคือกู้จิ้งเจ๋อน่ะสิ เขาจะต้องกลายเป็นจุดสนใจเสมอ สายตาทุกคู่จะต้องจับจ้องมาที่เขาในทุกการเคลื่อนไหว “ก็เพราะคุณเป็นพี่เจ้าสาว เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวน่ะสิคะ ทุกคนก็ต้องสังเกตเห็นอยู่แล้วละ”
 
 
กู้จิ้งเจ๋อเลิกคิ้ว “แล้วถ้าฉันไปซ่อนตัวอยู่ข้างหลังในที่ที่จะไม่มีคนเห็นฉันล่ะ”
 
 
“…” อีตาเศรษฐีหัวดื้อคนนี้ก็ช่างไม่แคร์เสียเลยว่าคนเขาจะมองตัวเองยังไง
 
 
หลินเช่อเตรียมตัวและกลับไปที่สตูดิโอเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์ต่อ
 
 
เมื่อเธอไปถึง หยางหลิงซินและอวี๋หมินหมิ่นต่างก็ออกมารับ
 
 
ที่สตูดิโอ ทุกคนกำลังวุ่นวายกันมาก เพราะเมื่อหลินเช่อกลับมาแล้ว ผู้กำกับจึงสั่งให้ทีมงานเตรียมการสำหรับการถ่ายฉากต่อไป
 
 
หยางหลิงซินบอกว่า “ตอนที่พี่ไม่อยู่ ทุกคนก็เอาแต่พูดว่ากู้จิ้งอวี่ดีกับพี่ขนาดไหน พี่แค่ของ่ายๆ ก็ลางานหายไปได้เลย โดยที่ไม่ถูกเขาตำหนิ”
 
 
หลินเช่อว่า “แล้วมันเป็นยังไงล่ะ ก็คือการลางานไง…ไม่ว่าใครก็มีเรื่องด่วนเกิดขึ้นกันได้ทั้งนั้น แล้วทำไมฉันถึงจะไปไม่ได้”
 
 
อวี๋หมินหมิ่นว่า “ไม่ใช่ว่าเธอไปไม่ได้ แต่สำหรับงานของกู้จิ้งอวี่แล้วมันไม่เคยมีใครนึกจะมาจะไปได้ง่ายๆ แบบนี้มาก่อน กู้จิ้งอวี่ไม่ใช่คนแสดงอารมณ์หรือวางท่าใหญ่โต ถ้าเขาไม่ชอบเขาก็แค่เปลี่ยนตัวเธอออกให้คนอื่นแสดงแทน นี่เป็นเรื่องปกติมากๆ แต่เธอไม่ต้องกังวลเรื่องนี้หรอกนะ ในเมื่อความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาดีขนาดนี้ เขาคงจะไม่อาละวาดใส่เธอหรอก”
 
 
หยางหลิงซินแทรกเข้ามา “ใช่ค่ะ ใช่ ฉันได้ยินพวกเขาพูดกันว่า ไม่ว่าพี่จะอยู่ในสถานะอะไร แต่ตราบใดที่ตอบรับที่จะเข้ามาแสดงหนังของกู้จิ้งอวี่แล้วละก็ พี่จะต้องเชื่อฟังคำสั่งของเขา ไม่ใช่จะแค่มาบอกว่ามีงานโฆษณา หรือมีถ่ายรายการ หรือมีกิจกรรมอะไรแล้วก็หายไปเฉยๆ ได้ ถ้าพี่ทำให้กู้จิ้งอวี่โกรธ เขาจะเปลี่ยนตัวพี่ออกทันทีไม่ว่าพี่จะอยู่ในสถานะสำคัญแค่ไหนก็ตาม เพราะแบบนี้ทุกคนถึงได้บอกว่ากู้จิ้งอวี่ดีกับพี่เช่อเป็นพิเศษกว่าใครน่ะค่ะ”
 
 
นี่เขาพูดกันแบบนี้หรือนี่
 
 
หลินเช่อตอบอายๆ ว่า “ฉันต้องขอโทษด้วยนะที่ทำให้ทั้งสองคนต้องตกที่นั่งลำบาก ตอนนั้นมันเป็นการตัดสินใจปุบปับน่ะ ฉันไม่ทันได้คิดให้รอบคอบ”
 
 
“ไม่เป็นไรหรอก กู้จิ้งอวี่แค่ถามว่าเธอจะกลับมาเมื่อไหร่เท่านั้นเอง ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย” อวี๋หมินหมิ่นตอบ
 
 
ไม่ช้านักแสดงของเรื่องอีกสองสามคนก็เดินเข้ามา
 
 
ฉินเสี่ยวหยวนกำลังดื่มน้ำแร่เมื่อหล่อนมองตรงมาที่หลินเช่อ ก่อนจะทำสีหน้าเยาะๆ และพูดขึ้นว่า “ในที่สุดแม่นางเอกใหญ่ของเรากลับมาได้แล้วเหรอ”
 
 
หลินเช่อและคนของเธอไม่อยากจะทะเลาะด้วยจึงพากันเดินเข้าไปด้านใน
 
 
ฉินเสี่ยวหยวนถ่มน้ำลาย “นังนี่มันหาทางนอนกับกู้จิ้งอวี่อีท่าไหนนะ ถึงได้ทำตัวยโสเหลือเกิน”
 
 
“พอทีเถอะค่ะพี่เสี่ยวหยวน อย่าโมโหไปเลย แม่นั่นน่ะคิดว่าตัวเองดังเสียเต็มประดา ไม่ได้คิดเลยว่าตัวเองเพิ่งจะดังมาได้เท่าไหร่กันเชียว”
 
 
ไม่ช้ากู้จิ้งอวี่ก็ได้ข่าวว่าหลินเช่อกลับมาแล้ว เมื่อเขามาถึงกองถ่าย ก็ได้เห็นฉินเสี่ยวหยวนนั่นอยู่ หล่อนรีบลุกขึ้นมาทักทายเขา “จิ้ิ้งอวี่คะ”
 
 
กู้จิ้งอวี่มองหน้าหล่อนและตอบรับคำทักทายด้วยสีหน้าเฉยชา หลังจากนั้นก็รีบตรงดิ่งเข้าไปด้านในทันที
 
 
เมื่อฉินเสี่ยวหยวนเห็นว่าอีกฝ่ายมุ่งมั่นแต่จะตามหาหลินเช่อโดยไม่แม้แต่จะมีมารยาทกับหล่อน ดาราสาวก็โกรธจัดเสียจนบีบขวดน้ำในมือเต็มแรง
 
 
นังหลินเช่อ…นังนี่มันมีดีอะไรนักนะ ทำไมผู้ชายทุกคนถึงได้ไปสยบแทบเท้ามันกันหมด ฮึ
 
 
กู้จิ้งอวี่เข้ามาและเอ่ยทักว่า “เธอกลับมาซะที ฉันคิดว่าเธอหนีไปแล้วซะอีก”
 
 
หลินเช่อถาม “จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงล่ะคะ ฉันจะทิ้งหนังของดาราใหญ่อย่างกู้จิ้งอวี่ไปได้ยังไงกัน”
 
 
แต่ถึงกระนั้นหลินเช่อก็ยังมองเขาด้วยสายตาขอบคุณ “ขอบคุณมากนะคะที่อนุญาตให้ฉันลาพักได้เสียหลายวัน”
 
 
“เธอหยุดไปแค่หกวันเท่านั้น ไม่ได้นานอะไรขนาดนั้นซักหน่อย ยังไงทุกคนก็ต้องมีธุระส่วนตัวอยู่แล้ว แล้วเป็นยังไงบ้างล่ะ ทุกอย่างเรียบร้อยดีหรือเปล่า” กู้จิ้งอวี่ถามอย่างใจดี ทำให้ทีมงานที่กำลังเงี่ยหูฟังพูดไม่ออกไปตามๆ กัน
 
 
นี่กู้จิ้งอวี่กลายเป็นคนพูดจาดีกับคนอื่นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
 
 
หลินเช่อตอบ “ค่ะ เรียบร้อยค่ะ ทุกอย่างจัดการเรียบร้อยดี ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกค่ะ ก็แค่…ออกนอกเมืองไปช่วยคุณยายของฉันจัดการเรื่องบ้านนิดหน่อยเท่านั้นเอง”
 
 
“จริงเหรอ ดีแล้ว งั้นก็มาทำงานกันดีกว่า”
 
 
“ค่ะ ค่ะ ขอบคุณนะคะ กู้จิ้งอวี่”
 
 
“ถ้าเธอขอบคุณฉันจริงๆ ละก็ ต้องหาของขวัญให้ฉันสิ ไม่ใช่ขอบคุณแต่ปากแบบนี้”
 
 
“อา…ให้ของขวัญ…คุณเหรอคะ” หลินเช่อมึนตึ้บ “ให้อะไรล่ะคะ”
 
 
“ก็ขึ้นอยู่กับว่าเธอให้คุณค่ามิตรภาพของเราขนาดไหน มาถามว่าจะต้องให้อะไรฉันก็เท่ากับว่าถามว่าฉันอยากได้อะไรน่ะสิ ยัยบ๊อง หัดคิดเองซะบ้างสิ!” เขาเขกหัวเธอ
 
 
“อา เข้าใจแล้วค่ะ เข้าใจแล้ว ฉันจะให้ของขวัญคุณ แล้วนี่มาเขกหัวฉันทำไมล่ะ”

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก

หลินเช่อ สาวน้อยนักแสดงปลายแถวตัดสินใจวางยาลักหลับดาราชายชื่อดังอย่าง กู้จิ้งอวี่ เพื่อหาทางไต่เต้าขึ้นไปในวงการบันเทิง แต่สุดท้ายทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้เมื่อเหยื่อผู้โชคร้ายของเธอดันกลายมาเป็น กู้จิ้งเจ๋อ พี่ชายของเขาแทน! ทว่าหลังผ่านค่ำคืนอันเร่าร้อนไป การแยกทางกันแต่โดยดีกลับไม่ใช่บทสรุปของคนทั้งคู่ เพราะกู้จิ้งเจ๋อมีโรคประจำตัวสุดประหลาดอย่างหนึ่ง นั่นคือเขาไม่สามารถแตะต้องผู้หญิงคนไหนได้ หากสัมผัสตัวเพศตรงข้ามเมื่อไหร่ เขาจะคลื่นไส้และมีผื่นขึ้นทันที ดังนั้นเมื่อพบว่าเขาและหลินเช่อสามารถนอนร่วมเตียงกันได้โดยไม่มีอาการใดๆ ทั้งสิ้น ครอบครัวของกู้จิ้งเจ๋อจึงใช้อำนาจบีบบังคับให้ทั้งคู่แต่งงานกัน! เมื่อระฆังวิวาห์ลั่นแบบสายฟ้าฟาด หลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อจึงต้องสวมบทบาทคู่สามีภรรยาและเก็บข้าวของย้ายมาอยู่ใต้ชายคาเดียวกันในที่สุด

Options

not work with dark mode
Reset