โม่ฮุ่ยหลิงตวัดสายตากราดเกรี้ยวใส่ผู้ชายตรงหน้า ก่อนที่จะหมุนตัวและเดินหนีมาง่ายๆ เสียอย่างงั้น
“เฮ้ ฮุ่ยหลิง นั่นเธอจะไปไหนน่ะ งานเลี้ยงยังไม่เลิกเลยนะ”
“ช่างเถอะ ไม่ต้องคอยตามฉันไปไหนๆ อีกแล้วละ เห็นคุณแล้วมันน่าหงุดหงิด”
สายตาของหลี่หมิงอวี่เป็นประกายขึ้นมาแว่บหนึ่งเมื่อเขามองดูโม่ฮุ่ยหลิง เธอดูสวยดีก็จริง แต่ก็มีผู้หญิงอีกมากที่ดูสวยกว่าเธอด้วยซ้ำ เขาเองก็รู้สึกได้ว่าโม่ฮุ่ยหลิงไม่ใช่ผู้หญิงที่จะสามารถกุมหัวใจของเขาไว้ได้ดีที่สุดเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ทุกคนรู้ดีถึงความสัมพันธ์ระหว่างโม่ฮุ่ยหลิงและกู้จิ้งเจ๋อ และเหตุผลที่เขาชอบและหลงใหลเธอมากก็เป็นเพราะเขารู้ว่าเธอคือผู้หญิงของกู้จิ้งเจ๋อนั่นเอง
ผู้หญิงที่สามารถกุมผู้ชายอย่างกู้จิ้งเจ๋อไว้ในมือได้จะต้องเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์อย่างร้ายกาจ
หลี่หมิงอวี่มองดูโม่ฮุ่ยหลิงอย่างครุ่นคิด ไม่ว่าหล่อนจะเจ้าอารมณ์ซักแค่ไหน เขาก็ทนรับได้เพราะว่าเธอเป็นผู้หญิงของกู้จิ้งเจ๋อ
“เอาละ ฮุ่ยหลิง นี่เธอยังหึงกู้จิ้งเจ๋ออยู่ละสินะ เธอหึงก็เพราะว่าเขาพาผู้หญิงอื่นมาด้วยใช่มั้ยล่ะ”
“เหอะ ฉันเป็นฝ่ายบอกเลิกก่อนต่างหากล่ะ เพราะฉะนั้นแน่นอนว่าฉันไม่ได้หึง ต่อให้มีผู้หญิงอื่นอยู่เคียงข้าง แต่ใจเขาก็ยังต้องการฉันอยู่ดีนั่นแหละ คุณไม่เห็นเหรอว่าเมื่อกี้เขาโกรธแค่ไหนน่ะ”
โม่ฮุ่ยหลิงนึกถึงท่าทีหงุดหงิดโกรธขึ้งของกู้จิ้งเจ๋อก่อนหน้านี้แล้วก็รู้สึกเป็นสุข
ดูเหมือนว่าแผนการนี้ของเธอจะสำเร็จลงด้วยดีอย่างไม่ต้องสงสัย ผู้ชายหน้าไหนบ้างล่ะที่จะไม่ชอบการแก่งแย่งแข่งขัน
อีกด้านหนึ่ง กู้จิ้งเจ๋อก็เฝ้ามองหลี่หมิงอวี่และโม่ฮุ่ยหลิงเดินหายไปพร้อมกันในห้องจัดงาน
เขาไม่ได้ไล่ตามทั้งคู่ไปอีก ได้แต่เพียงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม นึกสับสนว่าทำไมตัวเองถึงได้โกรธอยู่ลึกๆ ในใจ
บางทีเขาอาจจะโกรธเพราะว่าเขายังคงแคร์เธอละมัง
ด้วยแก้วแชมเปญในมือ หลินเช่อเหลียวมองไปรอบๆ กาย โม่ฮุ่ยหลิงนั้นหายตัวไปแล้วอย่างไร้ร่องรอย ส่วนกู้จิ้งเจ๋อยืนอยู่ในชุดสีดำตั้งแต่หัวจรดเท้า สีหน้าบึ้งตึงของเขาดูขัดกันกับบรรยากาศอบอุ่นรื่นเริงภายในงาน
หลินเช่อเรียก “กู้จิ้งเจ๋อคะ คุณ…”
กู้จิ้งเจ๋อหันหน้ามาและบอกว่า “ฉันโกรธมาก แน่นอนว่าฉันรู้ดีว่าเราเลิกกันไปแล้ว เพราะฉะนั้นฉันไม่มีอะไรที่ควรจะต้องโกรธ แต่ฉันก็ยังโกรธ โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นผู้ชายสวะอย่างหลี่หมิงอวี่…”
โม่ฮุ่ยหลิงเห็นดีเห็นงามไปกับการคบหาผู้ชายเลวทรามแบบนั้นได้ยังไงกัน
ความคิดนี้ทำให้เขารู้สึกแย่หนัก โม่ฮุ่ยหลิงเคยชอบเขา แต่ตอนนี้เธอกลับไปคบหาผู้ชายแบบนั้น เรื่องนี้ทำให้ชายหนุ่มอดสงสัยไม่ได้ว่า แล้วตัวเขาเองก็จัดเป็นผู้ชายประเภทเดียวกับหมอนั่นหรือไม่
หลินเช่อปลอบประโลมว่า “เป็นธรรมดาค่ะที่คุณจะโกรธ มันเป็นเรื่องปกติ คุณไม่ใช่พ่อพระแล้วก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูนด้วย คุณเองก็เป็นคนธรรมดา เพราะฉะนั้นคุณก็โกรธเป็นค่ะ”
หญิงสาวอดคิดกับตัวเองไม่ได้ ทั้งเขาและโม่ฮุ่ยหลิงไม่ได้เลิกกันเพราะว่าการทะเลาะเบาะแว้ง แต่เพราะเหตุการณ์ที่พวกเขาไม่อาจทำอะไรได้ต่างหาก จึงเป็นธรรมดาที่ชายหนุ่มจะทั้งโกรธและเสียใจ
กู้จิ้งเจ๋อหันมองเวลา เขาไม่อยากจะอยู่ในงานนี้เพื่อมองดูโม่ฮุ่ยหลิงทำลายตัวเองต่อไป เขาจึงเอ่ยกับหลินเช่อว่า “กลับกันเถอะ ฉันว่าฉันให้เกียรติคุณแม่มากพอแล้ว ในเมื่อเราก็มาปรากฏตัวในงานแล้ว งั้นก็กลับกันเถอะ”
“โอ้ โอเคค่ะ”
ผู้จัดงานไม่กล้าทัดทานอะไรเมื่อเห็นหลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อแสดงท่าทีว่าต้องการจะกลับก่อน เขาพาทั้งสองเดินออกจากงาน และเฝ้าดูจนกระทั่งขึ้นรถจากไปเป็นที่เรียบร้อย แล้วจึงกลับเข้างานไป
ที่คฤหาสน์ตระกูลกู้
คืนนั้น กู้จิ้งเจ๋อออกจากบ้านไปทันทีที่เขาส่งหลินเช่อแล้ว
หญิงสาวจึงเข้าห้องนอนเพียงลำพัง เธอไม่รู้เหมือนกันว่ากู้จิ้งเจ๋อออกไปทำอะไรที่ไหน เขาบอกเพียงแต่ว่าจะออกไปพบใครบางคนเท่านั้น
นั่นทำให้หลินเช่ออดคิดไม่ได้ เขาจะไปพบใครกันนะ โม่ฮุ่ยหลิงงั้นเหรอ
ก็น่าจะเป็นหล่อนนั่นแหละ
ถึงตอนนี้เขาคงนึกเสียใจละสินะ นี่เขาจะไปพบเธอเพื่อขอคืนดีหรือเปล่านะ
หลินเช่อรู้ดีว่าเธอไม่มีสิทธิ์อะไรที่จะไปก้าวก่ายในเรื่องนี้ แต่ลึกๆ ข้างในนั้นเธอกำลังโกรธไม่น้อย ความรู้สึกขมขื่นใจนี้ทำให้เธออดคิดไม่ได้ว่า นี่เธอหึงงั้นเหรอ
นี่เป็นเพราะว่าเธอมีใจให้เขาจริงๆ ใช่มั้ยนะ
เธอรู้ดีว่าเขาที่เขาอยู่กับเธอก็เป็นเพียงเพราะหน้าที่และความรับผิดชอบ
ความรู้สึกผิดของเขาที่มีต่อเธอทำให้เขายอมเลิกรากับผู้หญิงที่ตัวเองรัก และความรับผิดชอบของเขาก็ทำให้เขาปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี
แล้วนี่เธอยังจะโง่เผลอปล่อยใจให้เขาอีกได้ยังไงกันนะ
หรือที่เธอรู้สึกแบบนี้เป็นเพราะความเคยชิน
เฉินอวี่เฉิงยังคงอยู่ในห้องแล็ปเมื่อกู้จิ้งเจ๋อสาวเท้ายาวๆ เข้าไป
“เฮ้ ดึกดื่นป่านนี้แล้ว ทำไมท่านประธานกู้ถึงยังไม่ไปนอนกอดภรรยาอีกล่ะครับ มาหาผมถึงห้องแล็ปที่ทั้งเย็นทั้งเงียบเหงานี่ทำไม”
กู้จิ้งเจ๋อยืนพิงโต๊ะตัวหนึ่งเอาไว้ “เหลือเชื่อมากเลยละ ที่แฟนใหม่ของโม่ฮุ่ยหลิงคือหลี่หมิงอวี่น่ะ”
“อา…หมอนั่นเอง คุณเคยพูดถึงเขาแล้ว ผู้ชายคนนี้ใช้วิธีสกปรกสารพัดรูปแบบกับคุณ ทั้งวางยา แล้วก็ส่งผู้หญิงมาให้ใช่รึเปล่าครับ”
“ใช่แล้วละ”
“คุณโม่ชอบผู้ชายแบบนี้เหรอเนี่ย”
“คุณหมอเฉิน!” กู้จิ้งเจ๋อพยายามเตือนสติเฉินอวี่เฉิงให้ยังระลึกได้ว่าตัวเองเป็นหมอ
“โอ้ จริงสิ ถ้างั้น ตอนนี้คุณคงจะโกรธมากเลยสินะครับ”
“ใช่ ฉันโกรธมากจริงๆ นั่นแหละ” กู้จิ้งเจ๋อพูดต่อ “แล้วฉันก็รู้สึกผิดต่อหลินเช่อด้วย ฉันสัญญากับเธอแล้วว่าฉันจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับโม่ฮุ่ยหลิงอีก แต่ถึงอย่างนั้น…ฉันก็ห้ามตัวเองไม่ได้น่ะ”
“ท่านประธานกู้ครับ คุณจะต้องแน่ใจเสียก่อนนะครับว่าทำไมคุณถึงได้โกรธคุณโม่ มันเป็นแค่เพราะคุณไม่พอใจกับผู้ชายคนนั้นที่เธอคบหา หรือว่าคุณไม่พอใจไม่ว่าเธอจะคบหาใครก็ตาม”
“ฉันไม่พอใจผู้ชายที่เธอคบหา”
“ถ้างั้น แล้วคุณจะทำยังไงล่ะครับ”
“ฉันต้องการให้พวกเขาเลิกกัน”
“ถ้างั้นก็ไปจัดการซะสิครับ จะมาหาผมทำไมล่ะ”
“ที่ฉันเป็นแบบนี้เพราะว่าฉันยังมีใจให้โม่ฮุ่ยหลิงอยู่หรือเปล่า” กู้จิ้งเจ๋อมองหน้าผู้เป็นนายแพทย์
เฉินอวี่เฉิงว่า “ท่านประธานกู้ครับ ถึงคุณจะยังมีใจให้เธอก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรนี่ครับ เพราะถึงอย่างไร คุณกับเธอก็คบหากันมานานหลายปี เป็นธรรมดาที่จะรู้สึกแบบนี้ ความเคยชินน่ะมันไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามวัน เพราะฉะนั้นคุณจะตัดใจลืมเธอในเวลาแค่ไม่กี่วันก็ทำไม่ได้เหมือนกันนั่นแหละ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้คิดอะไรกับเธอแล้ว ก็เป็นปกติครับที่จะยังมีความรู้สึกแบบนี้หลงเหลืออยู่”
กู้จิ้งเจ๋อว่า “ช่างเถอะ เดี๋ยวฉันจะรอจนกว่าตัวเองจะคิดออกก็แล้วกัน…”
ชายหนุ่มคิด นี่เป็นเรื่องเร่งด่วน เขาหวังว่าโม่ฮุ่ยหลิงจะหยุดเสียเวลากับผู้ชายสวะแบบนั้นซะ ผู้ชายเลวทรามแบบนั้น เขาจะทำให้โม่ฮุ่ยหลิงเลิกกับหมอนั่นให้ได้ เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เขาก็อดรู้สึกไม่ได้ว่าเธอกำลังดูถูกทั้งตัวเธอเอง แล้วก็ดูถูกความรู้สึกที่เธอและเขาเคยมีร่วมกันมาในอดีตด้วย
เมื่อโม่ฮุ่ยหลิงได้รับสายจากกู้จิ้งเจ๋ออย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย มันก็ยิ่งทำให้เธอยินดีอย่างที่สุด
เธอทิ้งหลี่หมิงอวี่ไว้และรีบออกไปพบกู้จิ้งเจ๋อทันที
โม่ฮุ่ยหลิงใช้เวลาแต่งเนื้อแต่งตัว และนัดพบเขาที่ร้านขนมที่เปิดบริการตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง อันเป็นร้านที่เธอและเขามักไปด้วยกันบ่อยๆ แน่นอนว่าทันทีที่ก้าวเข้าไปในร้าน เธอก็ได้เห็นกู้จิ้งเจ๋อรออยู่แล้ว เธอยิ้มและโผเข้ากอดเขาจากทางด้านหลัง ยกแขนขึ้นโอบเขาไว้ทันที
กู้จิ้งเจ๋อรู้สึกได้ถึงความรู้สึกขยะแขยงที่แล่นปราดขึ้นมา เขารีบดันเธอออกห่าง เมื่อระงับความรู้สึกรังเกียจไว้ได้ เขาก็ถามเธอว่า “ฮุ่ยหลิง นี่เธอทำอะไรน่ะ”
โม่ฮุ่ยหลิงเงยหน้าขึ้นมอง “แล้วคุณเรียกฉันมาหากลางดึกแบบนี้ทำไมล่ะคะ”
ไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่ชอบใจที่เธอมีแฟนหรอกเหรอ หญิงสาวคิดกับตัวเองว่าเขาคงจะมาที่นี่เพื่อขอร้องให้เธอเลิกกับหลี่หมิงอวี่อย่างแน่นอน
กู้จิ้งเจ๋อมองหน้าหญิงสาว “เธออยากจะคบหากับหลี่หมิงอวี่จริงๆ น่ะหรือ”
โม่ฮุ่ยหลิงหัวเราะคิกคัก ก่อนจะเชิดหน้าอย่างถือดี ถึงแม้ว่าข้างในใจเธอจะพลุ่งพล่านไปด้วยความยินดี แต่เธอก็ยังพยายามรักษาสีหน้าให้เคร่งขรึมเอาไว้ “ทำไมคะ คุณจะมาสนใจทำไมว่าฉันจะคบใคร”
“จริงอยู่ว่าฉันไม่สามารถบังคับเธอให้เลือกคบใครได้ แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็คิดว่าฉันควรจะมาพูดกับเธอเสียหน่อย ไม่อย่างนั้น ถ้าฉันรอจนกระทั่งเธอทำลายตัวเองจนย่อยยับไปแล้วค่อยมาหาเธอ มันก็คงจะสายเกินไป แล้วฉันก็คงต้องโทษตัวเองไปตลอดชีวิต ฮุ่ยหลิง ถ้าเธอถอนตัวจากเรื่องเสี่ยงๆ นี่เสียตั้งแต่ตอนนี้ มันก็ยังไม่สายนะ”
เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 239 ฉันเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม
Posted by ? Views, Released on September 30, 2021
, เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก
หลินเช่อ สาวน้อยนักแสดงปลายแถวตัดสินใจวางยาลักหลับดาราชายชื่อดังอย่าง กู้จิ้งอวี่ เพื่อหาทางไต่เต้าขึ้นไปในวงการบันเทิง แต่สุดท้ายทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้เมื่อเหยื่อผู้โชคร้ายของเธอดันกลายมาเป็น กู้จิ้งเจ๋อ พี่ชายของเขาแทน!
ทว่าหลังผ่านค่ำคืนอันเร่าร้อนไป การแยกทางกันแต่โดยดีกลับไม่ใช่บทสรุปของคนทั้งคู่ เพราะกู้จิ้งเจ๋อมีโรคประจำตัวสุดประหลาดอย่างหนึ่ง นั่นคือเขาไม่สามารถแตะต้องผู้หญิงคนไหนได้ หากสัมผัสตัวเพศตรงข้ามเมื่อไหร่ เขาจะคลื่นไส้และมีผื่นขึ้นทันที ดังนั้นเมื่อพบว่าเขาและหลินเช่อสามารถนอนร่วมเตียงกันได้โดยไม่มีอาการใดๆ ทั้งสิ้น ครอบครัวของกู้จิ้งเจ๋อจึงใช้อำนาจบีบบังคับให้ทั้งคู่แต่งงานกัน! เมื่อระฆังวิวาห์ลั่นแบบสายฟ้าฟาด หลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อจึงต้องสวมบทบาทคู่สามีภรรยาและเก็บข้าวของย้ายมาอยู่ใต้ชายคาเดียวกันในที่สุด