หลินเช่อส่ายหน้า “นี่…ถือว่าเป็นเงินของฉันในฐานะคุณผู้หญิงตระกูลกู้ก็แล้วกันค่ะ ไม่เป็นไรหรอก”
อวี๋หมินหมิ่นยิ้ม “ถ้าพวกเขาสามารถห้ามพ่อฉันไม่ให้เข้าบ่อนได้จริงละก็ บางทีอนาคตข้างหน้าก็น่าจะสดใสแล้วละมั้ง ยิ่งเธอกำลังโด่งดังแบบนี้ด้วย เงินเดือนฉันก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น บางทีฉันอาจจะใช้เงินเธอได้ครบเร็วๆ นี้ก็ได้นะ”
แต่แล้วอวี๋หมินหมิ่นก็เลิกคิ้วและหันมาพูดกับหลินเช่อว่า “ว่าแต่ ท่าทางกู้จิ้งเจ๋อจะดีกับเธอมากๆ เลยนะเนี่ย”
หลินเช่อชะงัก กู้จิ้งเจ๋อนั้นเป็นคนดีก็จริง แต่บางครั้งเขาก็เย็นชาเหลือเกิน และบางครั้งเขาก็ดูเหมือนจะเย็นชาแต่เพียงภายนอก แต่ลึกๆ ข้างในนั้นกลับอบอุ่นเหลือเกิน
หลินเช่อตอบไปเพียงว่า “แต่เขา…ผู้ชายคนนั้นเอาใจยากออกค่ะ เขามีแต่ปัญหาเต็มไปหมด ฉันไม่ขอกวนใจพี่ด้วยเรื่องนี้ก็แล้วกันนะคะ ฉันต้องกลับแล้วล่ะ มีงานเลี้ยงวันเกิดต้องเตรียมตัวน่ะค่ะ”
เมื่อหลินเช่อกลับมาจากโรงแรม เธอยืนนิ่งอยู่ที่ประตูบ้านและเฝ้าดูเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่คอยระแวดระวังภัยอยู่โดยรอบตัวบ้านตระกูลกู้ แล้วอยู่ๆ หญิงสาวก็รู้สึกตัวว่าเธอได้รับการดูแลเป็นอย่างดีตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ สิ่งนี้ทำให้หลินเช่ออดรู้สึกอายขึ้นมาหน่อยๆ ไม่ได้
ก็เธอเป็นผู้หญิงเจ้าปัญหาจอมก่อเรื่องนี่นะ
เมื่อได้เวลาเข้านอน กู้จิ้งเจ๋อก็เดินออกมาจากห้องน้ำ เขาเห็นหลินเช่อกำลังมองหน้าเขาด้วยท่าทีกระอักกระอ่วน
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นแล้วถามว่า “เธอมามองหน้าฉันทำไม”
หลินเช่อยิ่งกระดากหนักเมื่อมองหน้าเขา “ฉันคิดว่า…นับตั้งแต่วันนี้ไป เรามาเปลี่ยนกันดีกว่าค่ะ คุณมานอนบนเตียงนี่แทนแล้วเดี๋ยวฉันจะไปนอนโซฟาเอง”
กู้จิ้งเจ๋อมองด้วยสายตาประหลาดใจ “ทำไมล่ะ”
หลินเช่อให้เหตุผลว่า “ก็คุณน่ะตัวสูงออก นอนบนโซฟามันไม่สบายสำหรับคุณ ฉันตัวเล็กกว่า นอนตรงนี้ได้สบาย หรืออย่างน้อยเราก็น่าจะผลัดกันนะคะ คุณนอนเตียงคืนหนึ่ง แล้วก็ให้ฉันนอนเตียงคืนหนึ่งสลับกัน ให้คุณนอนตรงนี้ไปตลอดก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เราจะได้หย่ากัน มันไม่ยุติธรรมกับคุณเลยค่ะ”
ดวงตาของกู้จิ้งเจ๋อเป็นประกาย เขายิ้มให้เธอและเลิกคิ้วถามต่อไปว่า “งั้นเธอกำลังจะบอกว่า เธอทนเห็นฉันต้องนอนแบบนี้ต่อไม่ได้สินะ”
“…” นี่มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องนั้นเลยสักนิด!
หลินเช่อตอบ “ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นค่ะ ฉันแค่จะบอกว่า…ช่างเถอะ ถ้าคุณชอบนอนโซฟานักก็นอนไปแล้วกัน”
หลินเช่อชักใจคอไม่ดี เธอเชื่อว่าที่ตัวเองพูดแบบนี้ไม่ใช่เพราะเธอทนเห็นเขาต้องลำบากนอนบนโซฟาไม่ได้แน่ๆ
ถ้าอย่างนั้นเธอจะพูดทำไมกันล่ะ หรือเป็นเพราะเธอมักจะคอยหาเรื่องให้ตัวเองแบบนี้อยู่เรื่อยกันแน่นะ หญิงสาวนึกตำหนิตัวเอง
เธอรู้สึกแย่จัง
เธอทำตาขวางใส่คนตัวใหญ่กว่าแล้วหันกลับไปที่เตียงนอน แต่กู้จิ้งเจ๋อเดินตามหลังมาติดๆ และนั่งลงบนเตียงข้างๆ เธอ
เธอมองเขา “คุณเปลี่ยนใจแล้วเหรอคะ”
กู้จิ้งเจ๋อตอบว่า “อันที่จริง เตียงนี่ใหญ่พอนะ เราสองคนนอนด้วยกันได้สบายมาก”
“อะไรนะคะ” หลินเช่อคิดว่าเธอหูฝาดไป
แต่ขณะที่พูด ชายหนุ่มก็รวบเธอไว้ในอ้อมกอดแล้วทั้งคู่ก็หงายหลังล้มลงบนเตียงนอน
มันเป็นเตียงคู่ขนาดมหึมาและแน่นอนว่ามีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับสองคน แต่ไอ้ที่บอกว่านอนด้วยกันได้นี่หมายความว่ายังไงน่ะ
หญิงสาวดิ้นขลุกขลักพยายามจะยันตัวลุกขึ้น “ไม่ ไม่นะ กู้จิ้งเจ๋อ เราจะนอนเตียงเดียวกันแบบนี้ไม่ได้!”
เขาคว้าเอวเธอไว้แล้วรั้งกลับลงมา แม้จะพยายามฝืนตัวอย่างไร แต่เธอก็กลับเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนเขาอย่างง่ายดายอยู่ดี
กู้จิ้งเจ๋อก้มลงถามว่า “ทำไมล่ะ เธอกลัวอะไรหรือไง หรือกลัวว่าจะควบคุมตัวเองไม่ได้”
หน้าหลินเช่อเริ่มร้อนผะผ่าว “หมายความว่ายังไงที่บอกฉันควบคุมตัวเองไม่ได้น่ะ!”
“เธอกลัวห้ามใจตัวเองไม่ให้ลุกขึ้นมาจัดการฉันไม่ได้น่ะสิ” เขาบอก
หลินเช่อทำตาเขียวปั้ด “ไร้สาระ! ทำไมฉันจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ผู้ชายต่างหากล่ะที่น่ากลัว!”
“อ้อ ถ้าเธอกลัวว่าฉันจะควบคุมตัวเองไม่ได้ละก็ เธอคิดมากเกินไปแล้วล่ะ ฉันอยู่ห้องเดียวกับเธอมาตั้งนานแต่ยังไม่เคยแตะต้องเธอด้วยซ้ำ รับรองได้ว่าฉันไม่ได้จะเป็นคนที่ขาดสติตอนอยู่บนเตียงแน่นอน เชื่อใจได้เลย! ”
“…” ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่อยากนอนเตียงเดียวกับเขาอยู่ดีนั่นแหละ
“ไม่ค่ะ ไม่ ฉันทำไม่ได้จริงๆ ” เธอบอกอย่างยุ่งยากใจ
แต่กู้จิ้งเจ๋อไม่สนใจ เขากดร่างเธอให้ล้มลงนอนแล้วขยับเบียดเข้ามาจนใกล้ ตระกองกอดเธอไว้
“เลิกยุกยิกได้แล้ว นอนซะ!”
“ฉัน…” ทำอย่างกับว่าเธอจะหลับลงอย่างนั้นแหละ
“มัวแต่คิดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่อีกล่ะ นอนสักที!” กู้จิ้งเจ๋อพูดขึ้นจากด้านหลัง
หลินเช่อไม่อาจตอบโต้อะไรได้ เธอไม่กล้าขยับตัวและทำได้แค่เพียงนอนหายใจอย่างหนักหน่วงอยู่อย่างนั้น หญิงสาวรู้สึกได้ว่าผู้ชายที่นอนอยู่ข้างหลังเธอเริ่มที่จะผ่อนคลายลง แม้ดวงตาของเขาจะยังเบิกกว้าง จ้องเธอแทบไม่กะพริบก็ตาม จนกระทั่งเวลาผ่านไป ความเหนื่อยล้าก็เริ่มคืบคลานเข้ามา
น่าแปลกที่เขาหลับไปได้ทั้งแบบนั้น
เธอเองก็ชักจะเริ่มเพลียเหมือนกัน และในไม่ช้าหญิงสาวก็หลับไปทั้งที่ยังอยู่ในสภาพนั้นเช่นกัน
วันต่อมา กู้จิ้งเจ๋อตื่นนอนด้วยความสดชื่นตามปกติ
หลินเช่อชักสังหรณ์ใจว่าเขาคงจะไม่ยอมย้ายกลับไปนอนที่โซฟาอีกต่อไปแล้ว…
บางทีโซฟานั่นคงจะนอนไม่สบายจริงๆ และเขาก็ทนไม่ไหวอีกแล้ว เพราะฉะนั้นต่อให้เธอนอนดิ้นยังไงก็คงไม่อาจขัดขวางเขาไม่ให้กลับมานอนบนเตียงได้อีก
มาคิดๆ ดูแล้ว บางทีการยอมให้เขามานอนบนเตียงอาจจะเป็นสิ่งที่ถูกแล้วก็ได้
แต่ถึงอย่างนั้น ตอนแรกหลินเช่อก็ตั้งใจว่าเธอจะย้ายไปนอนโซฟาเสียเอง แต่กลับกลายเป็นว่าเธอกับเขากลับมานอนร่วมเตียงเดียวกันเสียแบบนี้…
งานเทศกาลประกาศผลรางวัลแพนด้ากำลังจะเริ่มต้นในอีกไม่นาน
และเพราะหลินเช่อได้รับการเสนอชื่อข้าวของรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ ทางบริษัทจึงทุ่มเทความสำคัญให้กับเรื่องนี้ พวกเขาถึงขั้นลงทุนจ้างมืออาชีพมาช่วยเทรนเธอสำหรับการเข้าร่วมงานประกาศผลรางวัลเลยทีเดียว
หญิงสาวแต่งตัวเรียบร้อยตั้งแต่ที่บ้าน เธอมองดูชุดกระโปรงยาวที่ผ่าสูงขึ้นมาถึงหน้าขา ซึ่งไม่ใช่การแต่งกายที่เธอคุ้นเคยสักเท่าไหร่ แต่ก็เป็นชุดที่ทางบริษัทจัดหามาให้ พวกเขาบอกเธอว่าในงานนี้เป็นโอกาสสำคัญ ถ้าเธออยากจะเป็นที่สนใจ เธอก็ต้องยอมทำหลายอย่างที่ไม่เคยทำ และด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงจัดแจงเลือกชุดที่สะดุดตาอย่างที่สุดนี้มาให้เธอสวม หลินเช่อนั้นไม่ได้อยากจะเป็นจุดสนใจสักเท่าไหร่ เพียงแค่มีโอกาสได้เข้าร่วมงานใหญ่ๆ แบบนี้ เธอก็พอใจมากแล้ว
หญิงสาวมองดูตัวเองในกระจกและรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ค่อยจะลงตัวนัก
กู้จิ้งเจ๋อเดินเข้ามาเห็นเธอกำลังยืนจับโน่นขยับนี่อยู่ที่หน้ากระจกพอดี รูปร่างผอมบางของเธอในชุดเข้ารูปแบบนี้ ช่วยขับให้หลินเช่อดูสวยสง่าและเซ็กซี่ไม่น้อยทีเดียว
ชายหนุ่มหรี่ตาแล้วเดินเข้ามาหาพลางถามว่า “เธอกำลังทำอะไรอยู่”
หลินเช่อหันมาหาเขา “คุณคิดว่าฉันดูแปลกมั้ยคะ”
กู้จิ้งเจ๋อพินิจดูโดยละเอียดอีกครั้ง ชุดกำมะหยี่สีดำนั้นผ่าสูงขึ้นไปจนเผยให้เห็นหน้าขาขาวผ่องทั้งสองข้างอย่างน่ามอง ก่อนจะบอกว่า “แปลกยังไงล่ะ เธอก็ดูดีนี่”
“คุณคิดว่าฉันดูดีเหรอคะ” หลินเช่อถามอีก
ชายหนุ่มยิ้มแล้วเคลื่อนตัวเข้ามาประชิด เสียงของเขาทุ้มนุ่มละมุนละไมเมื่อพูดขึ้นว่า “ฉันคิดว่าเธอจะยิ่งดูดีกว่านี้ถ้าไม่ได้สวมอะไรเลย…”
“…” หลินเช่อหน้าแดง “ไปให้พ้นเลยนะ!”
กู้จิ้งเจ๋อหัวเราะ “ก็เธอถามฉันเองนะ”
หน้าเธอแดงแล้วแดงอีก “ใครจะไปคิดล่ะว่าคุณจะเป็นพวกทำตัวเกกมะเหรกเกเรแบบนี้! ”
เขายิ้มแล้วพิศดูเธออีกครั้ง รอยผ่าสูงที่ชุดนั่นก็ไม่เลวหรอกนะ ดูเหมือนชุดนี้น่าจะฉีกออกจากตัวได้ง่ายดายทีเดียว…
หัวใจเขาเริ่มเต้นถี่จนชายหนุ่มต้องรีบหมุนตัวและตั้งท่าจะเดินออกไป เขานึกสงสัยว่าช่วงนี้เขาดูพยายามที่จะสะกดความรู้สึกตัวเองมากเกินไปหรือเปล่านะ ไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่รู้จะหาวิธีอธิบายได้อย่างไรว่าทำไมความคิดของเขาถึงได้วนเวียนอยู่กับเรื่องซุกซนทุกครั้งที่เขามองดูเธอแบบนี้
บางทีอาจเป็นเพราะอายุของเขาก็ได้ ร่างกายของเขาโหยหาผู้หญิงโดยสัญชาตญาณงั้นหรือ
หลินเช่อหันไปหากู้จิ้งเจ๋อ “อ้อ จริงด้วยสิ เรายังมีบัตรเข้างานสำหรับวันนี้เหลืออีกใบหนึ่งน่ะค่ะ ถ้าคุณสนใจก็แวะไปได้นะคะ”
กู้จิ้งเจ๋อหลุดจากภวังค์กลับเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริง เขามองดูบัตรเข้างานที่เธอยื่นให้ ชายหนุ่มรับไว้และพูดว่า “ตกลง ถ้ามีเวลาฉันจะแวะไปดู”