หลินเช่อมองกู้จิ้งเจ๋อด้วยสายตาชื่นชม
เธอไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะเก่งกาจขนาดนี้
นี่เป็นครั้งแรกที่ทำอาหารแท้ๆ แต่เขากลับทำมันออกมาได้เหมือนในตำราอาหารไม่ผิดเพี้ยน
ดูเหมือนการเป็นคนเจ้าระเบียบย้ำคิดย้ำทำนี่น่าจะเป็นข้อดีสินะ
เธอไม่อาจปฏิเสธได้ว่ากู้จิ้งเจ๋อนั้นฉลาดกว่าคนทั่วไป ไม่ว่าเขาจะทำอะไร มันก็จะออกมาดีงามไปเสียหมดทุกอย่าง และไม่ว่าเขาจะเรียนรู้อะไร เขาก็สามารถทำมันได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อเทียบกันแล้ว เธอนั้นสมองทึบกว่ามาก
หลินเช่อคิด ไม่แปลกใจหรอกที่เขาชอบบอกว่าเธอซื่อบื้อน่ะ
เวลาที่เขายืนถือตะหลิวคาดผ้ากันเปื้อนแบบนี้ทำให้เขาดูเหมือนพ่อบ้านไม่มีผิด หนุ่มหล่อที่ทำอาหารในชุดผ้ากันเปื้อนแบบนี้ ดูมีเสน่ห์ยากจะต้านทานจริงๆ
หลินเช่อเอียงคอมองภาพชวนน้ำลายสอตรงหน้าอย่างเพลิดเพลินเจริญใจ เธอเอาคางเกยไว้บนมือแล้วจ้องมองเขาด้วยความหลงใหล
กู้จิ้งเจ๋อพูดขึ้นขณะที่ยังคงทำอาหารต่อ “อันที่จริง ปัญหาของผู้จัดการเธอน่ะจัดการไม่ได้ยากอะไรเลย”
“หือ”
“ฉันช่วยได้”
“อา งั้นเหรอคะ”
หลินเช่อรีบเอ่ยต่อ “จริงๆ นะคะ ถ้าช่วยได้แบบนั้นก็เยี่ยมไปเลย…กู้จิ้งเจ๋อ ขอบคุณนะคะที่เสนอความช่วยเหลือ”
เขาหันมายิ้มให้เธอ “เธอก็รู้นี่ว่าฉันไม่อยากได้คำขอบคุณที่เป็นแค่คำพูดน่ะ”
“…”
ชายหนุ่มตักอาหารใส่จานอย่างรวดเร็วแล้วเดินเข้ามาใกล้เธอ เขามองดูเธอและสวมกอดจากทางด้านหลัง
หลินเช่อตกใจเมื่อได้ยินสิ่งที่เขากระซิบเข้าข้างหูว่า “อันที่จริง เธอเองก็ใส่ผ้ากันเปื้อนแล้วดูดีเหมือนกันนี่นะ แล้วในเมื่อเธอทำอาหารไม่เสร็จ อย่างน้อยเธอก็น่าจะให้รางวัลฉันหน่อยนะที่อุตส่าห์ทำงานหนัก”
เขาเป่าลมใส่หูเธอเบาๆ ทำเอาหลินเช่ออึดอัดไม่เป็นสุข
เธอตอบไปว่า “นี่คุณ…คุณต้องการรางวัลอะไร”
กู้จิ้งเจ๋อตอบด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ฉันอยากเห็นเธอสวมแค่ผ้ากันเปื้อนนี่…”
“…” หลินเช่อนึกภาพตามในหัว มันคงเหมือนในนิตยสารวาบหวิวไม่มีผิด แทบปกปิดเนื้อตัวไม่มิดแบบนั้น…
เธอรีบแหวกลับทันทีว่า “ไปให้พ้นเลยนะ กู้จิ้งเจ๋อ คนอันธพาล! ”
เขาหัวเราะขณะที่เธอพยายามผลักไส ก่อนที่จะเดินหลบไป
แต่ถึงอย่างไร เขาก็แอบพิจารณาเธอในชุดผ้ากันเปื้อนนี้มาตั้งแต่ต้นแล้ว และเขาคิดว่าถ้าเธอเดินไปไหนต่อไหนในบ้านโดยที่สวมเฉพาะผ้ากันเปื้อนเท่านั้น คงจะเป็นภาพที่น่าดูไม่น้อยเลยทีเดียว
แม้ว่าภาพที่ว่าออกจะน่าอายไปสักหน่อย แต่เขาก็เฝ้ารอที่จะได้เห็นมันอยู่ลึกๆ ในใจ
หลินเช่อนึกจินตนาการภาพตัวเธอในสภาพที่ว่า แล้วก็พลอยคิดไปว่าผู้ชายคนนี้ช่างร้ายกาจสิ้นดี
“ไปไกลๆ เลยนะ ฉันไม่มีทางทำแบบนั้นเด็ดขาด! ”
“อา แล้วนั่นเธอจะวิ่งหนีไปไหน กลับมานี่ก่อนสิ” กู้จิ้งเจ๋อรั้งเธอกลับมา คว้าเอวบางเอาไว้ แล้วยกร่างเธอขึ้นวางบนโต๊ะ
หลินเช่อตะโกนลั่น แม้ว่าจะนั่งอยู่บนโต๊ะ แต่หน้าเธอก็ยังคงอยู่แค่เพียงอกเขาเท่านั้น
เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง เธอก็ได้เห็นเพียงใต้คางของเขา
กู้จิ้งเจ๋อก้มลงมามองหน้าเธอ เขาปลดผ้ากันเปื้อนที่สวมอยู่ออก แล้วสวมให้เธอ
“โอเค” เขายิ้มขณะมองดู
นี่น่ะเหรอ
เธอก้มลงดูตัวเองในชุดผ้ากันเปื้อนโดยไม่พูดอะไร ไม่เห็นจะมีอะไรต่างจากเดิมตรงไหนเลยสักนิด
หลินเช่อมองตัวเองงงๆ มือเขายังคงเกาะอยู่ที่เอวของเธอหลวมๆ หน้าเขาก้มลงมาจนใกล้
“อา คุณอยากให้ฉันใส่ผ้ากันเปื้อน ฉันคิดว่าคุณหมายถึงแค่ผ้ากันเปื้อนอย่างเดียวเท่านั้นเสียอีก…” หลินเช่อว่า
กู้จิ้งเจ๋อตอบ “ใส่แค่ผ้ากันเปื้อนหมายถึงว่าฉันแค่อยากให้เธอใส่ผ้ากันเปื้อนก็เท่านั้นเอง” เขาเลิกคิ้วขณะมองหน้าเธอ “ทำไมล่ะ เธอดูผิดหวังมากเลยนะ เธอไม่ได้คิดแบบนี้หรอกเหรอ”
เมื่อเห็นเขามองมาแบบนั้น เธอก็เริ่มที่จะขัดเขิน
หญิงสาวทำตาเขียวใส่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั่น โดนเขาหลอกซะสนิทเลย
ให้ตายเถอะ ผู้ชายคนนี้ชักจะหนักข้อขึ้นทุกทีแล้ว ถึงตอนนี้เขาเริ่มใช้ความเจ้าเล่ห์กับเธอสารพัดอย่าง
หน้าของหลินเช่อแดงก่ำทีเดียวเมื่อหันมองเขา แต่คนตัวใหญ่ยังคงทำเป็นไขสือไม่รู้ชี้ด้วย แถมยังเลิกคิ้วถามอีกต่างหากว่า “เธอกำลังคิดอะไรอยู่ อย่าเพิ่งบอกฉันนะ…ว่าเธอกำลังคิดว่า…”
เขาทำทีเป็นมองเธอขึ้นๆ ลงๆ และพูดว่า “ถ้าเธออยากจะใส่แบบนั้น ฉันก็ยอมรับได้อยู่นะ”
“ไปให้พ้นเลย อย่ามาพูดนะว่าฉันอยากใส่น่ะ”
“เอาน่า ถึงเธอจะใส่ฉันก็ไม่กลัวหรอก ไหนลองหน่อยซิ”
“ไปเลยนะ นี่ยังอยากจะกินอยู่หรือเปล่าเนี่ย อาหารเย็นหมดแล้วนะคะ! ”
หลินเช่อรีบกระโดดผลุงลงจากโต๊ะ ไม่ยอมให้เขายั่วโมโหอีกต่อไป
กู้จิ้งเจ๋อยิ้มขณะมองอีกฝ่ายที่พยายามหนีเอาตัวรอด
ชายหนุ่มส่ายหน้าแล้วคิดว่าหลินเช่อนี่แม้ว่าจะไม่ค่อยรู้ประสีประสาอะไรนัก แต่ถ้าเป็นเรื่องการเอาตัวรอดนี่ก็นับว่าเธอใช้ได้ทีเดียว
อย่างไรก็ตามเมื่อกู้จิ้งเจ๋อบอกกับเธอเอาไว้แล้วว่าเขาจะช่วยเรื่องอวี๋หมินหมิ่น เขาก็ได้ลองสืบดูเรื่องนี้จนได้เรื่องได้ราวขึ้นมาจริงๆ
วันต่อมาเขาบอกกับเธอว่า “ฉันเจอตัวผู้หญิงที่โดนทำร้ายที่เธอพูดถึงแล้วนะ เขาอยู่ที่โรงพยาบาล เราจะแวะไปดูกันก็ได้”
“จริงเหรอคะ ดีจังเลย คุณน่ารักที่สุดเลยค่ะกู้จิ้งเจ๋อ”
หลินเช่อยิ้มแล้วกระโดดกอดแขนเขาด้วยความดีใจ
ที่โรงพยาบาล
อวี๋ชิ่งหลง พ่อของอวี๋หมินหมิ่นเดินเตร็ดเตร่อยู่ด้านนอก
ในวอร์ดคนไข้ คุณชายน้อยแห่งตระกูลลู่กำลังเฝ้าดูแลคนรักของเขาด้วยการบรรจงเป่าโจ๊กในชามให้เย็นเพื่อที่จะตักป้อนให้เธอ “นานะ กินนี่หน่อยนะ ระวังล่ะ มันยังร้อนอยู่”
“ที่รักคะ ทำไมหมอนั่นถึงยังวนเวียนอยู่ข้างนอกอีกล่ะ เราไล่เขาไปไม่ได้เหรอคะ ใครจะอยากเห็นหน้าเขาอีกล่ะ เขาควรจะชดใช้ให้เราไม่ใช่เหรอคะ ตาแก่น่ารังเกียจนั่นน่ะ”
ลู่ชิงหงกัดฟันแน่นแล้วเดินออกไปนอกห้อง เขายกเท้าเตะอวี๋ชิ่งหลงเข้าที่หน้าอก “ไสหัวไปเดี๋ยวนี้ เห็นหน้าแกแล้วมันน่าขยะแขยงที่สุด เลือกเอาว่าจะให้ลูกสาวแกมาขายตัวให้เราหรือจะยอมให้เมียแกทำงานเป็นแม่ครัวไปตลอดชีวิต มันขึ้นอยู่กับแกนะ แล้วนี่ทำไมถึงยังมาเสนอหน้าอยู่ที่นี่อีก”
“ละ…ลูกสาวผมไม่ยอมมาครับ” อวี๋ชิ่งหลงทำหน้าสลดรันทดท้อ
นับตั้งแต่วันที่เขาไปหาอวี๋หมินหมิ่นถึงที่ทำงาน เธอก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เขาไม่สามารถหาตัวเธอได้และไม่รู้จะทำอย่างไรดี
“งั้นก็ไสหัวไปให้พ้นๆ ซะ ไม่มีใครอยากเห็นหน้าอุบาทว์ของแก รอให้ถึงวันที่ต้องติดคุกไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน! ” ลู่ชิงหงปิดประตูโครมใส่ อวี๋ชิ่งหลงได้แต่จ้องมองบานประตูอย่างหมดอาลัยตายอยาก
ประตูเปิดออกอีกครั้ง
ลู่ชิงหงหันขวับมาตะคอกด้วยเสียงอันดังว่า “ใครกัน คิดว่านี่เป็นที่ที่แกจะมาเข้าออกตามอำเภอใจแบบนี้ได้งั้นเรอะ”
เมื่อเงยหน้าขึ้น เขากลับได้เห็นหลินเช่อในชุดเสื้อกันหนาวสีดำและกางเกงยีนสกินนี่ขาดๆ เธอดูสวยสะดุดตามากทีเดียว
ยิ่งเมื่อได้เห็นดวงหน้าสวยหวานของเธอเข้า น้ำเสียงนั้นก็อ่อนลงทันตา “เอ่อ เธอมาทำอะไรที่นี่”
หลินเช่อเดินเข้ามาและได้เห็นหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังนอนอยู่บนเตียง ข้างตัวเธอคือชายร่างสูงใหญ่
ทันทีที่นานะเห็นหลินเช่อ ดวงตาของเธอก็พลันเบิกโพลงด้วยความหวาดหวั่น หญิงสาวรีบลุกพรวดพราดขึ้นจากเตียงทันที
กู้จิ้งเจ๋อเดินตามหลังเข้ามาสมทบอย่างเงียบๆ สร้างความประหลาดใจให้กับทุกคน
หลินเช่อมองดูหญิงสาวผู้ไม่ลืมที่จะแต่งหน้าจนเต็มอัตราแม้ว่าจะกำลังนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลก็ตาม หลินเช่อสาวเท้าเข้าไปหาอีกฝ่ายแล้วถามว่า “เป็นเธอเองเหรอที่สร้างปัญหาให้ครอบครัวอวี๋น่ะ”
ลู่ชิงหงยิ้ม “ใช่แล้วล่ะ เธอมาที่นี่เพราะเรื่องนี้งั้นเหรอ เขาทำร้ายผู้หญิงของฉัน เพราะงั้นเขาต้องจ่ายค่าเสียหายมาก็ถูกต้องแล้วไม่ใช่เหรอ”
หลินเช่อมองหาร่องรอยการถูกทำร้ายบนตัวของอีกฝ่ายแต่ไม่พบเลยแม้แต่น้อย
เธอเหลือบมองหญิงสาวบนเตียงแล้วถามว่า “คุณต้องการเท่าไหร่”
ชายหนุ่มคนนั้นตอบโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อยว่า “ฉันต้องการห้าล้าน”
“ฮ่า…” นี่เธอต้องยอมจ่ายแพงถึงขนาดนั้นเลยรึ หน้าไม่อายสิ้นดี “ถ้าคุณต้องการห้าล้าน งั้นก็แปลว่าอาการบาดเจ็บของเธอคงจะสาหัสรุนแรงมาก! ”