เฉินอวี่เฉิงตรวจดูอาการของกู้จิ้งเจ๋อ “ผมคิดว่าทั้งหมดมันเป็นสิ่งที่คุณจินตนาการไปเอง ดูสิครับ ไม่มีผื่นอะไรเลย ครั้งนี้ยาอาจจะช่วยได้ แต่ดูเหมือนว่าน่าจะเป็นเพราะคุณยังไม่คุ้นเคยกับการสัมผัสตัวผู้หญิงมากกว่า”
กู้จิ้งเจ๋อเงยหน้ามองคนเป็นหมอ
“อืม อวี่เฉิง คุณช่วยโทรตามหมอประเภทอื่นมาด้วยได้มั้ย”
“หมอประเภทอื่นเหรอครับ ผมเชี่ยวชาญทุกด้าน แม้แต่ปัญหาสุขภาพเฉพาะทางแบบนี้ ไม่ว่าคุณจะมีคำถามเรื่องอะไรนะครับ คุณกู้ คุณถามผมได้ทั้งนั้น”
กู้จิ้งเจ๋อมองอีกฝ่ายด้วยสายตาไม่เชื่อนัก
แต่ถึงกระนั้นเขาก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “ฉันมีคำถามเกี่ยวกับอวัยวะในพื้นที่ซ่อนเร้นน่ะ”
ความเงียบเขาปกคลุมเนิ่นนาน
เฉินอวี่เฉิงมองหน้ากู้จิ้งเจ๋อเงียบๆ “คุณกู้ครับ เมื่อคืนนี้เกิดรุนแรงเกินไปหน่อยงั้นเหรอครับ ผมเข้าใจว่าพวกคุณสองคนเพิ่งแต่งงานกัน และนี่ก็เป็นความสัมพันธ์แบบโรแมนติกครั้งแรกของคุณเสียด้วย แต่ถ้ารุนแรงเกินไปมันก็ไม่ดีต่อร่างกายนะครับ บางครั้งคุณก็ต้องหักห้ามใจเอาไว้บ้าง”
เฉินอวี่เฉิงแปลกใจไม่น้อยทีเดียวที่กู้จิ้งเจ๋อมีอาการบาดเจ็บที่บริเวณนั้น นี่เขาจัดหนักไปขนาดไหนกันนี่
สีหน้าของกู้จิ้งเจ๋อยิ่งบึ้งตึงหนักขึ้นไปอีก “หลินเช่อกับฉันไม่ได้มีความสัมพันธ์กันแบบนั้น เราไม่เคยนอนร่วมเตียงกัน!”
นายแพทย์มองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่อยากจะเชื่อ “นี่คุณพูดจริงเหรอครับ คุณไม่เคยลองเลยสักครั้งเลยงั้นเหรอ”
กู้จิ้งเจ๋อจ้องหน้าเขาโดยไม่ตอบอะไร
เฉินอวี่เฉิงจึงพูดต่อไปว่า “น่าแปลกจริง ผมคิดว่าคุณสองคนเรียบร้อยไปแล้วซะอีก”
นี่เขาควบคุมตัวเองทั้งที่ต้องอยู่ร่วมบ้านกับผู้หญิงได้ยังไงกัน เขาน่าจะต้องหงุดหงิดงุ่นง่านสุดๆ ไปเลยสิ!
แล้วเฉินอวี่เฉิงก็นึกเห็นใจกู้จิ้งเจ๋อขึ้นมา ผู้ชายคนนี้คงจะต้องหักห้ามใจอย่างยากเย็นทีเดียว เขาช่างมีความอดทนอะไรอย่างนี้!
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเคยเห็นหลินเช่อแล้ว เธอทั้งสวย สะอาดสะอ้านและน่ารักเชิญชวนออกอย่างนั้น การต้องอยู่กับภรรยาสาวคนสวยแบบเธอน่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่ชายหนุ่มจะควบคุมตัวเองได้เลย
“คุณกู้ครับ ผมคิดว่าการที่คุณจะคอยห้ามใจตัวเองและเก็บกดเอาไว้มากๆ แบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องดีอีกเหมือนกันนะครับ การออกกำลังกายอย่างเหมาะสมน่าจะช่วยได้มากสำหรับสุขภาพอารมณ์และโรคเดิมของคุณ”
“ตกลง ในเมื่อไม่มีอะไรนอกเหนือไปจากนี้อีกแล้ว งั้นหน้าที่ของนายก็หมดแค่นี้แหละ”
คำพูดของอีกฝ่ายยิ่งทำให้กู้จิ้งเจ๋อหงุดหงิดมากขึ้นกว่าเดิม
เฉินอวี่เฉิงยังพูดบางอย่างต่อ แต่กู้จิ้งเจ๋อหันหลังและเดินออกมาเสียแล้ว เขาส่ายหน้าอย่างไม่อาจทำอะไรได้
พูดตามตรงแล้ว คนทั่วไปคงไม่แปลกใจอะไรถ้าผู้ชายอย่างเขาจะมีผู้หญิงมากกว่าหนึ่งคนอยู่เคียงข้าง
เขาไม่จำเป็นที่จะต้องคบหาใครเพียงคนเดียว
กู้จิ้งเจ๋อรู้ว่าเขาไม่อยากเปิดเผยอะไรเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขาและหลินเช่อ ความรู้สึกของเธอ ตลอดจน รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างอื่นให้เฉินอวี่เฉิงได้รู้
เขาแค่ไม่อยากบอก
ราวกับว่าหลินเช่อเป็นของเขาเพียงคนเดียวและเขาไม่อยากจะแบ่งปันเธอกับใครอื่น
ความลับระหว่างเขาและเธอจะต้องเป็นของเขาเพียงคนเดียว เขาไม่อยากบอกให้ใครรู้ทั้งนั้น
นี่เป็นความรู้สึกที่แปลกเหลือเกิน แต่มันมีบางอย่างที่ถูกสลักลึกเอาไว้ในหัวใจเขาซึ่งไม่อาจลบเลือนไปได้
เมื่อเป็นเรื่องของหลินเช่อ เขาไม่อาจห้ามตัวเองได้ แม้เขาจะรู้ดีว่ามันผิด แล้วโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น
กู้จิ้งเจ๋อก้มลงดู เป็นโม่ฮุ่ยหลิงนั่นเอง
เมื่อสงบสติอารมณ์ลงได้ เขาก็ตัดสินใจที่จะยกโทษให้โม่ฮุ่ยหลิง เขาเข้าใจว่าที่เธอทำลงไปแบบนั้นก็เป็นเพราะรักเขา นั่นไม่ใช่สิ่งที่ปกติแล้วคนอย่างเธอจะทำ
เขารู้จักโม่ฮุ่ยหลิงมาตั้งแต่เด็ก แม้เธอจะหัวดื้อและอารมณ์ร้อนในบางครั้ง แต่เธอก็ไม่ใช่คนเลวร้าย
ชายหนุ่มรับสาย
[จิ้งเจ๋อยังโกรธอยู่หรือเปล่าคะ] เสียงนั้นน่าสงสารยิ่ง
“ไม่หรอก” เขาถอนหายใจ
[แล้วนี่คุณอยู่ที่ไหนคะ]
“ผมอยู่ที่บ้านหมอเฉิน”
โม่ฮุ่ยหลิงรู้ดีว่าเขาจะไปหาเฉินอวี่เฉิงทุกครั้งที่มีปัญหา นายแพทย์ผู้นี้เป็นแพทย์ประจำตัวของกู้จิ้งเจ๋อมานานหลายปีแล้ว
โม่ฮุ่ยหลิงพูดขึ้นว่า [ฉันขอโทษนะคะที่ทำให้คุณอาการป่วยของคุณต้องกำเริบแบบนี้ นี่เป็นความผิดของฉันเอง ฉันควบคุมตัวเองไม่ได้แล้วก็ลืมเรื่องอาการป่วยของคุณไปสนิทเลย]
“ไม่เป็นไร” กู้จิ้งเจ๋อตอบ
โม่ฮุ่ยหลิงพูดต่อไปว่า [ครั้งนี้เป็นความผิดของฉันจริงๆ ค่ะ ฉันจะไม่ทำอีกแล้ว ฉันรู้ว่าฉันไม่ควรจูบคุณแบบนั้น]
“ฮุ่ยหลิง ฉันเคยบอกว่าฉันจะหย่าก็จริง แต่สำหรับตอนนี้ ฉันยังไม่ได้หย่า”
[ฉันรู้ค่ะ ฉันจะรอคุณ ฉันจะรอจนถึงวันที่คุณกับเขาแยกทางกันด้วยดี]
“เธอไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น”
[ไม่ค่ะ ฉันจะรอคุณค่ะ จิ้งเจ๋อ ฉันรักคุณ ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อนคุณ!]
เมื่อเขาวางสาย ชายหนุ่มก็อดรู้สึกผิดต่อโม่ฮุ่ยหลิงขึ้นมานิดๆ ไม่ได้
แต่ถึงยังไง เขาก็ไม่อาจทำอะไรได้อีกเช่นกัน
อีกด้านหนึ่ง
เมื่อวางสาย โม่ฮุ่ยหลิงก็ปาโทรศัพท์ลงกับพื้นและกระทืบซ้ำจนแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
สาวใช้ที่ยืนอยู่ด้านข้างไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเธอ
โม่ฮุ่ยหลิงคิดอย่างเกรี้ยวกราดอยู่ในใจ นังหลินเช่อนั่นสมควรตายจริงๆ
เธอต่างหากที่คู่ควรจะเป็นภรรยาที่ถูกต้องของกู้จิ้งเจ๋อ เธอนี่แหละคือคุณนายกู้ผู้น่ายกย่อง
ทุกคนในวงสังคมล้วนรู้ดีว่าเธอกับกู้จิ้งเจ๋อคบหากันมานานหลายปี แต่แล้วเขากลับไปแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น!
ช่างน่าอับอายขายหน้าอะไรอย่างนี้
แต่ถึงอย่างนั้น ผู้ชายอย่างกู้จิ้งเจ๋อก็ไม่ใช่ของที่จะยอมตัดใจได้ง่ายๆ
เธอเคยคิดมาก่อนหน้านี้ว่าควรจะเลิกรากับเขาไปซะหากว่าไม่สามารถอยู่ร่วมกันฉันสามีภรรยาได้ แต่หลังจากที่ได้รู้จักผู้ชายอีกมากมายในชีวิตแล้ว โม่ฮุ่ยหลิงก็พบว่าไม่มีใครที่ดีพอที่เธอจะทำให้ยอมทิ้งกู้จิ้งเจ๋อได้เลย ไม่มีใครที่จะเทียบได้ทั้งกับเขาและกับตระกูลกู้
ตระกูลกู้นับเป็นตระกูลผู้ยิ่งใหญ่และทรงอิทธิพลที่สุดในประเทศนี้ กู้จิ้งเจ๋อเองก็เป็นสุดยอดบุรุษของประเทศนี้เช่นกัน ถ้าไม่ใช่เขาแล้ว ก็ไม่มีใครอีกที่จะสามารถมอบชีวิตที่ดีที่สุดให้กับเธอและทำให้คนทั้งประเทศอิจฉาเธอได้
กู้จิ้งเจ๋อกลับมาถึงบ้าน แต่มองไม่เห็นหลินเช่อที่ปกติแล้วมักจะนอนเอกเขนกอยู่บนโซฟา ด้วยความแปลกใจเขาจึงเอ่ยถามสาวใช้ “คุณผู้หญิงอยู่ไหนล่ะ”
สาวใช้ตอบ “คุณผู้หญิงบอกว่าเธอเหนื่อยมากและอยากเข้านอนแต่หัวค่ำค่ะ”
ชายหนุ่มรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างไม่ปกติ
คนอย่างหลินเช่อเนี่ยนะจะง่วงเร็วถึงขนาดนี้ทั้งๆ ที่ปกติแล้วมักจะนั่งตาสว่างโพลงอยู่จนดึกดื่น
เมื่อเขาเปิดประตูห้องนอนแล้วก้าวเข้าไป เขาก็เห็นเธอนอนอยู่บนเตียง เหมือนจะหลับแล้วจริงๆ ตัวขดงอเป็นกุ้ง แตกต่างจากท่านอนตามปกติ
สายตาของกู้จิ้งเจ๋อกวาดมองไปรอบๆ เมื่อเขาเดินเข้าไปที่เตียง
“เธอหลับแล้วเหรอ” เขาถาม
“อืม” ร่างที่นอนอยู่บนเตียงตอบ
ชายหนุ่มยิ้ม “เธอหลับแต่ก็ยังตอบคำถามได้อยู่อีกน่ะนะ นี่เธอนอนละเมอหรือไง”
ด้วยความอาย หลินเช่อจึงลืมตาขึ้น
เธอรู้สึกได้ว่ากู้จิ้งเจ๋อกำลังยกผ้าห่มขึ้นและสอดตัวเข้ามานอนข้างเธอ
“นี่ กู้จิ้งเจ๋อ ใครบอกว่าให้คุณเข้ามานอนได้น่ะ”
หลินเช่อรู้ดีว่าเขาออกไปกับโม่ฮุ่ยหลิง ถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าเขาไปไหนมา แต่เธอก็แน่ใจว่าพวกเขาจะต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลาอย่างแน่นอน
“นี่เตียงฉันนะ ทำไมฉันจะนอนไม่ได้” มือของกู้จิ้งเจ๋อจับร่างของหลินเช่อที่พยายามดิ้นรนผลักไสเอาไว้