หลังจากนั้นไม่กี่นาที ภายใต้พลังอำนาจของไตน้อยนั้น ในที่สุดทันเมิงลู่ก็ได้ปรองดองกับไตน้อยและก็ต้องยอมรับอย่างโศกเศร้าว่าไตน้อยมีตำแหน่งเหนือกว่าตนเอง จำเป็นที่จะต้องเรียกเธอว่าพี่สาว
ทันเมิงลู่ก็โมโหจนกัดฟันอย่างแน่น ทว่าก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ใครกันที่ทำให้ไตน้อยมีพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่กว่าเธอ ต่อให้เธอจะแสดงความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของเทาเที่ยออกมา ก็ยังคงไม่ใช่คู่มือของไตน้อย พ่ายแพ้ไปอย่างเต็มรูปแบบ
สำหรับเจ้าคนใจมารอย่างเซี่ยปิงที่มองดูอย่างสนุกสนานนั้น เธอปรารถนาที่จะกินเขาเข้าไปราวกับเกี๊ยว ช่างเป็นคนใจยักษ์ใจมารจริงๆ ไม่คาดคิดว่าจะยืนมองดูเธอถูกคนอื่นรังแกโดยที่ไม่ทำอะไร
“ไตน้อย ทำไมเจ้าถึงตื่นขึ้นมา เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ?”
เซี่ยปิงถามขึ้นมาอย่างสงสัย
“อื้ม มีเสียงดังจนข้านอนไม่ได้”
ไตน้อยพยักหน้า
“เสียงดัง? เจ้าหมายความว่าอะไร?” เซี่ยปิงก็ถามอย่างละเอียด เขาก็ล่วงรู้ในที่สุดว่าทำไมไตน้อยถึงได้ตื่นขึ้นมาอย่างกะทันหัน เหตุผลเป็นเพราะว่าประชากรจำนวนนับล้านล้านคนที่ถูกดูดกลืนเข้าไปในดาวเคราะห์ไกอาก่อนหน้านี้
ท่ามกลางผู้คนจำนวนมากนั้น ก็มียอดฝีมือในระดับแตกฉานอยู่เป็นจำนวนหนึ่งเช่นกัน พวกเขาสามารถที่จะบินออกจากชั้นบรรยากาศได้
อย่างไรก็ตาม การที่พวกเขาอยู่ภายในดาวเคราะห์ไกอาซึ่งมีบาเรียห้วงมิติอยู่ทุกหนแห่งนั้น พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะทะลวงผ่านชั้นบรรยากาศออกมาได้ ทำได้เพียงแค่ถูกกังขังไว้ในดาวเคราะห์ดวงนี้
ยิ่งไปกว่านั้นผู้บ่มเพาะในระดับแตกฉานเหล่านี้ก็ไม่ได้ตัดใจ ดื้อดึงอย่างมาก พวกเขาต้องการที่จะหาวิธีการทุกอย่างเพื่อที่จะฝ่าทะลวงออกไปจากสถานที่แห่งนี้ให้ได้ ระเบิดบาเรียห้วงมิตินี้ พยายามที่จะทำลายการป้องกันนี้ให้สิ้นซาก
แน่นอนว่าการโจมตีเหล่านี้สำหรับไกอานั้น ไม่ใช่สิ่งที่คู่ควรแก่การกล่าวถึงด้วยซ้ำ
แต่ปัญหาก็คือว่าสำหรับไตน้อยที่กำลังหลับใหลอยู่นั้น มันก่อให้เกิดความรำคาญใจอย่างมาก มันเหมือนกับการที่กำลังนอนหลับปุย แต่มีบางคนที่เข้ามาเคาะประตูเสียงดังอย่างต่อเนื่อง ตึบ ตึบ ตึบ มีผลกระทบต่อคุณภาพการนอนของเธอ
“พี่ชาย ข้ากำจัดพวกเขาได้หรือไม่?”
ไตน้อยตื่นขึ้นมาด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิด หากไม่ใช่เป็นเพราะเซี่ยปิง บางทีเธอก็อาจจะสังหารกลุ่มคนเหล่านี้ไปแล้ว
“ไม่ต้องรีบร้อนไป ดูเหมือนว่าจะต้องคิดหาทางแก้ไขปัญหานี้” เซี่ยปิงก็เอามือเท้าคาง ต่อให้จะทำลายกลุ่มของผู้บ่มเพาะในระดับแตกฉานเหล่านั้นไปจนหมดสิ้น ทว่าในอนาคตก็จะต้องมีสถานการณ์เช่นนี้ปรากฏขึ้นมาอีก
เพราะว่าถึงอย่างไรไตน้อยก็พัฒนาอย่างต่อเนื่อง บางทีในอนาคตก็อาจจะจับผู้บ่มเพาะในระดับกฎเทวรูปและระดับลงทัณฑ์สายฟ้ามา หรืออาจจะมีแม้กระทั่งเซนต์ ดังนั้นในตอนนี้จะต้องคิดถึงวิธีการแก้ไขปัญหานี้ไห้ได้
เขาก็มีความคิดคร่าวๆอยู่ในใจ นั่นก็คือการพึ่งพาพลังอำนาจของทักษะภาพลวงตาเสมือนจริง ทำให้ดาวเคราะห์ไกอาแข็งแกร่งขึ้น อีกทั้งก็สามารถที่จะเปลี่ยนให้กลายเป็นโลกที่แตกต่างไปได้
ทว่าตอนนี้พลังอำนาจของเขาก็อ่อนแอเกินไป ยังไม่สามารถที่จะใช้วิธีการนี้ได้
“พี่ชายมีวิธีการอะไรหรือ?”
ไตน้อยมองไปที่เซี่ยปิง
“นี่เป็นเรื่องที่ง่ายมาก การที่จะจัดการไม่ให้กลุ่มคนเหล่านี้รบกวนเจ้าได้อีกนั้น ก็เพียงแค่เริ่มการทำงานของค่ายกลผนึกมังกรสวรรค์ห้าธาตุ ยับยั้งการบินเหนือชั้นบรรยากาศ นี่จะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้”
เซี่ยปิงยิ้มออกมาเล็กน้อย วิธีการการแก้ไขปัญหานี้ของเขาเป็นวิธีการที่ง่ายมาก เป็นการใช้ค่ายกลที่ยิ่งใหญ่ที่ผู้นำนิกายประตูแห่งดวงดาวได้ทิ้งเอาไว้ จัดตั้งค่ายกลยิ่งใหญ่เพื่อยับยั้งพื้นที่ขึ้นมา จำกัดไม่ให้สิ่งมีชีวิตในดาวเคราะห์ไกอาบินออกมาได้
ภายใต้ระยะความสูงหนึ่งหมื่นเมตร มนุษย์จะสามารถบินได้อย่างอิสระ ทว่าหากเหนือหนึ่งหมื่นเมตรขึ้นไป จากนั้นจะกลายเป็นพื้นที่ปิดกั้นทางอากาศ หากเป็นเช่นนั้น ก็จะไม่มีใครที่บินออกไปจากชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์ไกอาได้อีก จะไม่รบกวนการนอนของไตน้อยอีกต่อไป
เมื่อคิดได้แบบนี้ เซี่ยปิงก็เคลื่อนไหวทันที เข้าไปในดาวเคราะห์ไกอา เริ่มการทำงานของค่ายกลยับยั้งที่อยู่ภายในร่างกายของไตน้อย ค่ายกลที่ลึกลับขนาดใหญ่ได้ปรากฏขึ้นมา ครอบคลุมไปทั่วทั้งดาวเคราะห์
เหล่าผู้บ่มเพาะในระดับแตกฉานที่ยังคงพยายามโจมตีนั้น พวกเขาต่างก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่ยิ่งใหญ่ทันที ร่างกายของเขาพวกเขาเริ่มร่วงลงมาเหมือนกับว่าว ตกลงไปสู่พื้นดิน
“บัดซบ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน?!”
“การกระทำของพวกเราเป็นการยั่วยุผู้ปกครองของโลกนี้ กำลังจะจัดการกับพวกเราอย่างนั้นหรือ?”
“ไอ้บัดซบ นี่มันเป็นความคิดที่โง่เขลาของพวกเจ้า ข้าบอกแล้วว่าอย่าทำให้ผู้ปกครองของโลกนี้หงุดหงิดขึ้นมา ไม่อย่างนั้นพวกเราจะต้องตาย”
“ผายลม ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะหลบหนีออกไปจากโลกแห่งนี้ได้อย่างไร ข้าไม่ต้องการที่จะอยู่เฝ้ารอความตายภายในโลกนี้ไปตลอดชีวิต”
“หุบปาก รีบหลบหนีเร็ว ไม่อย่างนั้นพวกเราจะต้องตาย”
ผู้บ่มเพาะในระดับแตกฉานจำนวนมากต่างก็สะดุ้งตกใจ แต่ละคนต่างก็หลบหนีออกไป พวกเขารู้สึกได้ว่าค่ายกลยับยั้งเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะต้านทานได้ หากยังคงดื้อดึงอยู่บนอากาศต่อไป อาจจะถูกแรงกดดันบดขยี้จนถึงแก่ชีวิตได้
ทว่าการที่ค่ายกลยับยั้งมีพลังอำนาจถึงขั้นนี้ก็เป็นเรื่องที่ธรรมดามาก เพราะว่าถึงอย่างไรนี่ก็เป็นค่ายกลที่เซนต์ได้ติดตั้งไว้ แม้แต่เซนต์ด้วยกันก็ไม่สามารถต้านทานได้ เป็นไปได้อย่างไรที่ผู้บ่มเพาะในระดับแตกฉานที่ต่ำต้อยจะต่อกรกับมัน
กลุ่มของผู้คนต่างก็ตกลงมาที่พื้น พวกเขามีสีหน้าที่บิดเบี้ยวอย่างมาก ล่วงรู้ว่าตนเองไม่สามารถที่จะทะยานขึ้นไปบนชั้นบรรยากาศได้อีก ผู้ปกครองของโลกใบนี้ได้แสดงให้พวกเขาเห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าต้องการที่จะกักขังพวกเขาไว้ที่นี่
“น่าสนใจจริงๆ”
หลังจากที่ใช้พลังอำนาจของไตน้อย เซี่ยปิงก็ค้นพบว่าดาวเคราะห์ไกอาได้เปลี่ยนแปลงไปจากก่อนหน้านี้ราวกับฟ้ากับเหว สิ่งมีชีวิตนับล้านๆชีวิตที่อาศัยอยู่ได้ทำการเปลี่ยนแปลงสถานที่แห่งนี้ไปอย่างสมบูรณ์
ถึงแม้ว่ามนุษย์ในสถานที่แห่งนี้จะไม่ได้มีอะไรตั้งแต่จุดเริ่มต้น เครื่องมือเครื่องใช้และอาวุธทุกอย่างได้หายไป ทว่าท่ามกลางกลุ่มของผู้คนเหล่านี้ก็ยังคงมีปรมาจารย์ด้านการหล่อหลอมอยู่เป็นจำนวนมาก เชี่ยวชาญด้านการสร้างเครื่องมือเครื่องใช้ที่น่าอัศจรรย์ทุกรูปแบบ
ดังนั้นพวกเขาจึงปรับตัวเข้ากับดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์นี่ได้อย่างรวดเร็ว สร้างเครื่องมือเครื่องใช้ขึ้นมามากมาย เริ่มที่จะสร้างเมืองขึ้นมา ยึดครองพื้นที่ทุกหนแห่ง ก่อตั้งเป็นเมืองมนุษย์ขึ้นมา
ผู้คนที่แตกต่างกันแต่ละกลุ่มก็ได้ก่อตัวกลายเป็นกลุ่มอิทธิพลต่างๆนาๆ ไม่ว่าจะเป็นอาณาจักร องค์กรและอิทธิพลอื่นๆ
อีกทั้งสำหรับทรัพยากร อาหารและอาณาเขตนั้น พวกเขาก็ได้เริ่มต้นทำสงครามเช่นกัน มีผู้บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน
หลังจากที่คนเหล่านี้ตายไป จิตวิญญาณของพวกเขาก็ถูกดูดซับเข้าไปโดยไกอา ทำให้พลังอำนาจของไตน้อยเติบโตขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง พื้นที่ดินแดนของดาวเคราะห์ก็ขยายกว้างขึ้นมาด้วยความเร็วที่บ้าคลั่ง
ก่อนหน้านี้ในช่วงเวลาที่อยู่ภายในอาณาเขตดวงดาวหมอกทึบนั้น ตอนนี้ดาวเคราะห์ของไตน้อยมีขนาดใหญ่กว่าในช่วงเวลานั้นถึงสามเท่าตัว เป็นความเร็วในการเจริญเติบโตที่รวดเร็วอย่างน่าอัศจรรย์ เหนือจินตนาการอย่างมาก
นี่ไม่ใช่ความตั้งใจของไตน้อย ทว่ามันเป็นการที่ดาวเคราะห์ไกอาเจริญเติบโตขึ้นมาตามธรรมชาติของมัน
………….
ทว่าในตอนนี้ หลังจากที่ชีวิตของมนุษย์จำนวนมากมั่นคงขึ้นมานั้น พวกเขาก็เริ่มสงสัยว่าทำไมตนเองถึงได้ปรากฏขึ้นมาในโลกใบนี้อย่างกะทันหัน แต่ละคนต่างก็ทำการคาดเดาอย่างต่อเนื่อง
“บัดซบ อันที่จริงเกิดอะไรขึ้นกัน? ก่อนหน้านี้ข้าอาศัยอยู่ในดาวเคราะห์ ไม่ได้ท้าทายใครทั้งสิ้น ทว่าทำไมจู่ๆถึงได้ปรากฏตัวขึ้นมาในสถานที่แห่งนี้อย่างกะทันหัน?”
“อันที่จริงนี่เป็นฝีมือของยอดฝีมือที่ยิ่งใหญ่คนใดกัน?”
“บอกตามตรง การที่สามารถดูดกลืนดาวเคราะห์ได้อย่างกะทันหัน เคลื่อนย้ายมนุษย์นับล้านๆคนมาที่โลกแห่งนี้อย่างรวดเร็วนั้น ความสามารถเช่นนี้จะต้องเป็นยอดฝีมือในระดับเซนต์อย่างแน่นอน”
“ไม่มีทาง ทำไมเซนต์ถึงได้จับจ้องมาที่พวกเราคนธรรมดาเหล่านี้ ช่างเป็นเรื่องที่โชคร้ายจริงๆ”
“บัดซบ ทำไมข้าถึงโชคร้ายเช่นนี้ กำลังจะกลายเป็นผู้นำของนิกายแท้ๆ มีอนาคตที่สดใส ทว่าเมื่อเดินทางไปที่ดาวเคราะห์ดวงนั้น กลับถูกจับตัวมาที่นี่ ใครกันที่จะโชคร้ายไปกว่าข้าอีก หากข้ารู้ล่วงหน้าล่ะก็ จะไม่มีทางเดินทางไปที่ดาวเคราะห์ดวงนั้นเด็ดขาด”
“เวรเอ๊ย ในตอนนั้นข้ากำลังเพลิดเพลินกับการร่วมเตียงกับนางสนม2-3คน ทว่าทันใดนั้นข้าก็ปรากฏตัวขึ้นมาในสถานที่แห่งนี้ที่แม้แต่นกก็ไม่เข้ามาเยี่ยว มันทำให้ข้าตื่นกลัวเป็นระยะเวลาหลายเดือน”
“ฮือฮือ เรื่องของเจ้าก็ยังไม่เลวร้ายเท่ากับข้า ข้าเป็นนักเก็งกำไรอสังหาริมทรัพย์ ได้ลงทุนมากมายจนออกดอกออกผล ร่ำรวยอย่างมหาศาล ทว่าในตอนนี้ความมั่งคั่งทั้งหมดที่ได้ลงทุนมากลับหายไปทั้งหมด เหมือนกับตื่นขึ้นมาจากความฝัน บ้านไม่มี รถก็ไม่มี แม้แต่กระเป๋ากางเกงก็สะอาดยิ่งกว่าใบหน้าเสียอีก ใครกันที่จะมีชะตากรรมที่น่าสิ้นหวังเท่ากับข้าอีก”
“อันที่จริงพวกเราจะออกไปจากสถานที่บัดซบแห่งนี้อย่างไรกัน?”
“ออกไป? เจ้ายังคิดที่จะออกไปอีกหรือ ยอดฝีมือในระดับแตกฉานที่ต้องการจะบินออกไปจากโลกนี้และเจาะทะลวงผ่านชั้นบรรยากาศนั้น ทว่าก็ไม่มีทางที่จะผ่านบาเรียห้วงมิติที่อยู่รอบๆได้ อย่างไม่ต้องสงสัย นี่คือกรงขังห้วงมิติ ต้องการกักขังพวกเราไว้”
“ข้าเป็นเพียงแค่คนธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้น ทว่าถึงกับต้องกักขังข้าด้วยกรงขังห้วงมิติ ช่างเป็นการทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ ความยุติธรรมอยู่ที่ไหนกัน?”
ผู้คนต่างก็พูดคุยกันด้วยอารมณ์ที่ล้นหลาม รู้สึกว่าตนเองโชคร้ายจริงๆ ไม่คาดคิดว่าจะมาพบเจอกับเรื่องที่เลวร้ายเช่นนี้