“เอาล่ะ ทีนี้ก็ถึงตาของพวกเจ้า พวกเจ้าต้องการความตายแบบไหน?!”
เซี่ยปิงมองไปที่ซูเหลียงอิงและคนอื่นๆด้วยสายตาที่ดูถูก
“ต้องการความตายแบบไหน? ผู้ที่ต้องตายก็คือเจ้า อู๋ไท่โต่ว!”
ผู้พิทักษ์คนหนึ่งคำรามออกมา
ผู้พิทักษ์คนอื่นๆก็เริ่มลงมือทันที ประสานมือทั้งสองข้างเข้าด้วยกัน อั่ก พวกเขาได้พ่นเลือดออกมา ทันใดนั้นเลือดก็ได้ไหลไปหลอมรวมเข้ากับค่ายกล พลังงานที่น่าสะพรึงกลัวได้หลั่งไหลเข้าไป
หล่ง หล่ง หล่ง~
ทั่วทั้งเมืองคริสตัลสั่นสะเทือนอีกครั้ง บนลานกว้าง บนท้องถนนและบนตึกต่างก็ปรากฏเป็นฐานค่ายกล บางอันเป็นรูปดาวหกแฉก บางอันเป็นดาวห้าแฉก บางอันเป็นสัญลักษณ์แผนผังแปดทิศ บางอันเป็นดาวเก้าดวงและอื่นๆ ค่ายกลประเภทต่างๆได้ปรากฏขึ้นมา จากนั้นก็รวมเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว
บนอากาศ ลวดลายแต่ละอย่างได้เชื่อมโยงกันอย่างรวดเร็ว ก้อนเมฆที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าเหมือนกับเป็นปรอทก็ว่าได้ เต็มไปด้วยออร่าของความหดหู่ เหมือนกับว่าจะก่อตัวขึ้นมากลายเป็นอาณาเขตบางอย่าง
ลึกลงไปใต้ดินออร่าความชั่วร้ายที่ไร้ที่สิ้นสุดได้เอ่อล้นออกมาจากทิศตะวันออก ทิศใต้ ทิศตะวันตกและทิศเหนือทั้งสี่ทิศทาง ภายใต้แรงดึงดูดของค่ายกลนี้ มันก็ได้รวมตัวขึ้นไปบนท้องฟ้าเหนือเมือง เปลี่ยนกลายเป็นมังกรดำอย่างรวดเร็ว
ผู้บ่มเพาะในระดับหล่อหลอมสมบัติทั้งเจ็ดคนได้ใช้พลังชีวิตที่เหลือในการขับเคลื่อนค่ายกลภาพอสูรสี่ทิศ แสดงพลังอำนาจที่มหาศาล ฐานค่ายกลแต่ละจุดในเมืองคริสตัลได้เพิ่มพลังขึ้นมาจนถึงขีดจำกัด
เห็นได้ชัดว่าในการที่จะสังหารเซี่ยปิงนั้น ผู้พิทักษ์เหล่านี้ได้รวบรวมพลังอำนาจค่ายกลของเมืองคริสตัล ควบแน่นออร่าความชั่วร้ายทั้งหมดเข้าด้วยกัน ปล่อยการโจมตีที่ทรงอำนาจออกมา
ต่อให้เป็นผู้บ่มเพาะในระดับเปลวไฟที่แท้จริงที่เผชิญกับการโจมตีนี้ ก็ไม่สามารถที่จะประมาทได้
“ทรงพลังจริงๆ”
ผู้คนจำนวนนับไมถ้วนในเมืองคริสตัลต่างก็มองอย่างตกตะลึง เมื่อค่ายกลนี้ได้ไหลเวียนพลังอำนาจทั้งหมดออกมา อากาศก็เหมือนกับเปลี่ยนกลายเป็นปรอท พวกเขาเหมือนกับตกลงไปในบึงโคลนก็ว่าได้ การที่ต้องการจะขยับออกไปแม้แต่ก้าวเดียวนั้นจะต้องใช้พลังอำนาจที่มหาศาล
หากเป็นพวกเขาที่เผชิญหน้ากับพลังอำนาจของฐานค่ายกลนี้ล่ะก็ บางทีอาจจะถูกสังหารไปในระยะเวลาอันสั้น
โดยเฉพาะออร่าความชั่วร้ายที่ไร้ที่สิ้นสุดนั้น มันเป็นเหมือนกับพลังอำนาจที่เป็นปรปักษ์ต่อผู้บ่มเพาะทุกๆคน เมื่อใดที่ออร่าความชั่วร้ายเหล่านี้เข้าสู่ร่างกาย แม้แต่พลังเวทมนตร์ของพวกเขาก็ยากที่จะขจัดมันออกไปได้ อีกทั้งมันก็ยังสามารถกัดกร่อนพลังเวทมนตร์ได้ ทำลายรากฐานวิทยายุทธ
คำราม!
ภายใต้การควบคุมของซูเหลียงอิงและคนอื่นๆ มังกรดำตัวนี้ที่ควบแน่นมาจากออร่าความชั่วร้ายก็ได้คำรามออกมา หางขนาดใหญ่ของมันได้สะบัดออกไป มุ่งเป้าไปที่เซี่ยปิง
“พลังอำนาจเช่นนี้ยังไม่เพียงพอ!”
เซี่ยปิงมีสีหน้าที่นิ่งเฉย หากเป็นผู้คนปกติธรรมดาที่เผชิญกับออร่าความชั่วร้ายที่ไร้ที่สิ้นสุดเช่นนี้ บางทีอาจจะถูกสังหารไปในพริบตา น่าเสียดายที่เขานั้นมีพลังอำนาจหลายอย่างที่สามารถรับมือกับออร่าความชั่วร้ายได้
เรียกได้ว่าพวกเขานั้นได้ท้าทายศัตรูผิดคน!
ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของขุมนรก—หอกกำราบปีศาจนรก!
เขาได้กำหอกอเวจีขึ้นมา แสดงความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของขุมนรกนี้ พลังเวทมนตร์ได้หลั่งไหลเข้าไป ทันใดนั้นก็ได้กระตุ้นพลังอำนาจในส่วนลึกของหอกอเวจีออกมา ฐานค่ายกลได้ปรากฏขึ้นมาบนอากาศ
บนท้องฟ้าเหนือเมืองคริสตัลปรากฏเป็นภาพของขุมนรกแต่ละชั้นขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นอเวจี นรกหิวโหย นรกน้ำแข็ง นรกตัดลิ้น กระทะทองแดงและอื่นๆปรากฏขึ้นมา
ชั้นต่างๆของขุมนรกนี้ต่างก็ทับซ้อนกัน นำพาออร่าที่น่าสะพรึงกลัวมา แอบแฝงไปด้วยพลังทำลายล้าง ดูเหมือนว่าจะเอ่อล้นออกมาจากส่วนลึกของขุมนรก เปลี่ยนทั่วทั้งโลกให้กลายเป็นอาณาจักรแห่งนรก
“นี่มันคืออะไรกัน?!”
ผู้บ่มเพาะจำนวนมากของเมืองคริสตัลต่างก็หนาวสั่น พวกเขารู้สึกได้ถึงออร่าของขุมนรกเหล่านี้ เหมือนกับว่าเสือ สิงห์ กระทิง แรดปรากฏขึ้นมา ต้องการดึงจิตวิญญาณของพวกเขาเข้าไปในขุมนรก
“นี่คือพลังอำนาจของหอกอเวจีหรือ? ช่างมหัศจรรย์จริงๆ”
ในช่วงเวลานี้ เซี่ยปิงก็รู้สึกได้ถึงความลึกลับซับซ้อนเช่นกัน เมื่อเขาได้กระตุ้นพลังอำนาจทั้งหมดของหอกอเวจีขึ้นมา จิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ผสมผสานเข้ากับอาวุธนี้อย่างสมบูรณ์ รู้สึกได้ถึงความลึกซึ้งและปริศนาของขุมนรก เหมือนกับว่าจะเข้าใจทักษะหอกของขุมนรกมากขึ้น
เขารู้สึกว่าความเข้าใจของตนเองในหอกกำราบปีศาจนรกนั้นลึกซึ้งขึ้นมาก ในส่วนลึกของความว่างเปล่า พลังอำนาจของขุมนรกได้เอ่อล้นออกมา หลั่งไหลเข้าไปในพื้นที่ราชวังสีม่วง ทำให้พลังเวทมนตร์ของเขาเพิ่มขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง
ภายในไม่กี่ลมหายใจ เขาก็ได้พัฒนามาอยู่ในจุดสูงสุดของระดับหล่อหลอมสมบัติขั้นเริ่มต้น เหมือนกับว่าในไม่กี่วินาทีต่อไปก็จะสามารถเลื่อนขั้นไปในระดับหล่อหลอมสมบัติขั้นกลางได้ เหมือนกับว่าไม่มีจุดก้าวผ่านอยู่ เหมือนกับว่าความสำเร็จอยู่ใกล้แค่เอื้อม
เห็นได้ชัดว่ายิ่งแสดงพลังอำนาจของหอกอเวจีได้มากแค่ไหน มันก็ยิ่งมีผลประโยชน์ต่อเขามากเท่านั้น
“ตายไปซะ!”
เซี่ยปิงได้กระตุ้นพลังอำนาจออกมา พลังเวทมนตร์ที่มหาศาลได้ปะทุออกมา เกือบที่จะเป็นพลังอำนาจขีดจำกัดของหอกกำราบปีศาจนรก แสงที่แหลมคมของหอกยาวได้ปะทุออกมา ก่อตัวเป็นสสาร
บนอากาศเหมือนกับว่ามีพญามารที่ถือหอกยาวปรากฏขึ้นมาลางๆ พลังอำนาจของขุมนรกนับไม่ถ้วนกำลังหลอมรวมกันที่ปลายหอก พลังอำนาจนี้เหมือนกับว่าจะสามารถกำราบทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าศัตรูใดๆก็ไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงไปได้ จะต้องถูกกำราบอย่างสมบูรณ์
ตึบ!
การโจมตีเพียงครั้งเดียว มังกรดำที่ก่อตัวขึ้นมาจากออร่าความชั่วร้ายนั้นก็ไม่มีทางที่จะต้านทานได้ ร่างกายของมันถูกเจาะทะลวงไปอย่างกะทันหัน เจาะเข้าไปตั้งแต่หัวจนถึงหาง เหมือนกับเป็นไม้เสียบก็ว่าได้
แม้แต่ออร่าความชั่วร้ายที่สัมผัสเข้ากับออร่าของขุมนรก ก็เป็นเหมือนกับน้ำแข็งที่ละลายไปก็ว่าได้ ออร่าเหล่านี้ถูกกลืนกินอย่างรวดเร็วโดยเดวิลจำนวนนับไม่ถ้วน ดูเหมือนว่าจะเป็นยาชูกำลังสำหรับพวกมันก็ว่าได้
ปัง!
หลังจากที่ได้เจาะทะลวงมังกรดำตัวนี้ ทั่วทั้งเมืองคริสตัลก็ไม่สามารถที่จะต้านทานพลังอำนาจเช่นนี้ได้ เหมือนกับว่าฐานค่ายกลจะล่มสลาย ตึกแต่ละตึกมีรอยแตกร้าวปรากฏขึ้นมาเล็กน้อย
แม้แต่ถนนแต่ละสายก็มีร่องรอยของความเสียหายมากมายปรากฏขึ้นมา เศษหินแตกกระจายออกไป นี่ก็ส่งผลกระทบต่อค่ายกลภาพอสูรสี่ทิศเช่นกัน ไม่สามารถที่จะแสดงพลังอำนาจเหมือนก่อนหน้านี้ได้อีกต่อไป
ทันใดนั้นเพราะว่าค่ายกลล่มสลายนั้น ซูเหลียงอิงและคนอื่นๆต่างก็เผชิญกับผลสะท้อนกลับของค่ายกลทันที ออร่าความชั่วร้ายที่น่าสะพรึงกลัวได้ท่วมท้นเข้าไปในร่างกายของพวกเขาอย่างกะทันหัน ปกคลุมไปทั่วทั้งร่างกาย
เพ่ง เพ่ง เพ่ง!!!
ภายในระยะเวลาอันสั้น ผู้พิทักษ์สามคนก็ไม่สามารถที่จะต้านทานพลังสะท้อนนี้ได้ ร่างกายของพวกเขาบวมพองออกมาเหมือนกับเป็นลูกโป่ง จากนั้นก็ระเบิดออกมาอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนกลายเป็นกลุ่มก้อนเนื้อบด
ผู้พิทักษ์ที่เหลือก็กระเด็นปลิวออกไป บาดเจ็บสาหัส กระอักเลือดออกมาอย่างต่อเนื่อง
“ตายซะ!”
ร่างกายของเซี่ยปิงได้กระพริบหายไป ทันใดนั้นก็ต้องการที่จะสังหารผู้พิทักษ์ที่เหลือให้สิ้นซาก สะสางปัญหาให้จบสิ้น
“หยุด!”
ทันใดนั้นคลื่นเสียงก็ระเบิดออกมาจากส่วนลึกของเมืองคริสตัล ทั่วทั้งเมืองสั่นสะเทือน สั่นสะท้านไปทั่วสวรรค์และแผ่นดิน เหมือนกับว่าพญามัจจุราชได้ปรากฏตัวออกมาก็ว่าได้ แม้กระทั่งอากาศก็เหมือนจะกลายเป็นปรอท
ผู้บ่มเพาะจำนวนนับไม่ถ้วนต่างก็รู้สึกว่าร่างกายของตนเองกำลังแบกรับภูเขาไว้ ปัง พวกเขาต่างก็ถูกกดจนลงไปนอนกับพื้น เกือบที่จะขยับเขยื้อนไม่ได้แม้แต่ก้าวเดียว
“หืมม?!”
เซี่ยปิงขมวดคิ้ว เขารู้สึกได้ถึงความน่าสะพรึงกลัวของออร่านี้ เหมือนกับว่าอยู่เหนือกว่าระดับของเขา ไม่ใช่สิ่งที่ผู้บ่มเพาะในระดับหล่อหลอมสมบัติจะเทียบด้วยได้ มีความเป็นไปได้ว่าคนๆนี้จะเป็นยอดฝีมือในระดับเปลวไฟที่แท้จริง!
ตึบ!
ภาพเงาได้แหวกอากาศเข้ามา พุ่งลงมาจากบนท้องฟ้าและลงเหยียบพื้นตรงหน้าของเซี่ยปิงอย่างกะทันหัน กระแทกลงที่พื้นจนกลายเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่ซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลางหลายกิโลเมตรอย่างกะทันหัน ตึกที่อยู่รอบๆต่างก็ถล่มทลายลงมา
ออร่าของเขานั้นน่าสะพรึงกลัวอย่างถึงที่สุด แม้แต่ก้อนหินที่พื้นก็ถูกบดทำลายกลายเป็นผุยผงไปอย่างรวดเร็ว
นี่คือชายชราที่สวมใส่ชุดคลุมสีขาว
เขายืนไขว้มือไว้ข้างหลังทั้งสองข้าง เพียงแค่ยืนอยู่บนพื้นดิน เหมือนกับว่ามีออร่าที่ไม่มีวันสั่นคลอน ทั่วทั้งดาวเคราะห์กำลังสั่นสะเทือนเล็กน้อย
“มีพลังอำนาจทางจิตวิญญาณที่ทรงพลังทีเดียว”
เซี่ยปิงเผยสายตาที่เป็นประกาย เขารู้สึกได้ถึงพลังอำนาจทางจิตวิญญาณที่ทรงพลังจากชายชราชุดขาวคนนี้ มันแตกต่างจากจิตวิญญาณอื่นๆที่เขาเคยเจอ มันกำลังเผาไหม้อย่างร้อนระอุเหมือนกับเป็นเปลวไฟก็ว่าได้
เหมือนกับว่าตราบใดที่ก้าวเข้าไปเพียงหนึ่งก้าว จิตวิญญาณของตนเองจะถูกเผาไหม้ไปอย่างสมบูรณ์
“ผู้ปกครองเมืองคริสตัล เจี๋ยงจุน!”
บางคนที่ล่วงรู้ถึงตัวตนของชายชราชุดขาวคนนี้ได้อย่างกะทันหัน