God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ – ตอนที่ 1306

“ช่างทรงพลังยิ่งนัก”

“เป็นเปลวไฟที่น่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง”

หลังจากที่ได้ปะทะกันอย่างต่อเนื่อง ประเคนหมัดใส่กันนับร้อยหมัด ดราโกเนี่ยนระดับจักรพรรดิทั้งสี่ต่างก็รู้สึกทึ่ง พวกเขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังอำนาจที่ไร้ที่สิ้นสุดซึ่งออกมาจากร่างกายของเซี่ยปิง เหมือนกับว่าไม่มีขีดจำกัดก็ว่าได้

เห็นได้ชัดว่าเป็นเพียงแค่ราชัน ไม่สามารถที่จะยืมพลังอำนาจของสวรรค์และโลกได้ ทว่าการที่พึ่งพาอาศัยเพียงแค่พลังอำนาจของตนเองนี้ ก็เพียงพอที่จะต่อกรกับพลังอำนาจในระดับจักรพรรดิของพวกเขาได้ อีกทั้งยังโต้ตอบกลับมาจนมือและเท้าของพวกเขาสั่นเทาและด้านชา

ไม่จำเป็นต้องคิด หากพวกเขาอยู่ในระดับราชันเหมือนกันล่ะก็ บางทีเพียงแค่หมัดๆเดียวของฝ่ายตรงข้ามก็เพียงพอที่จะระเบิดร่างกายของพวกเขาได้

สิ่งที่ทำให้พวกเขามีอาการแตกตื่นมากที่สุดนั้นก็คือพลังอำนาจเปลวไฟของฝ่ายตรงข้าม พลังอำนาจเช่นนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าเปลวไฟมังกรเลย ก่อนหน้านี้โชคดีที่พวกเขาหลบหลีกได้ทันได้เวลา ไม่อย่างนั้นคาดการณ์ได้ว่าคงจะถูกเปลวไฟนี้แผดเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่าน

นอกจากนี้พวกเขาก็ยังรู้สึกว่าสถานการณ์ตึงมืออย่างมาก เหมือนกับว่าหากประมาทไปเพียงแค่ชั่วขณะและสัมผัสกับเปลวไฟของฝ่ายตรงข้ามนั้น พวกเขาจะต้องตายไปจริงๆ ถูกสังหารไปด้วยหมัดของฝ่ายตรงข้าม

ในช่วงเวลานี้ดราโกเนี่ยนระดับจักรพรรดิทั้งสี่ต่างก็เข้าใจได้ถึงความอ่อนแอของจักรพรรดิเก๋อหลันก่อนหน้านี้ เจ้ามนุษย์นี่เป็นปีศาจอย่างแท้จริง ภายในร่างกายเหมือนกับว่ามีมังกรที่แท้จริงอาศัยอยู่

“ดำเนินต่อไป!”

เทียบกับดราโกเนี่ยนระดับจักรพรรดิเหล่านี้ เซี่ยปิงกลับมีความตื่นเต้นที่หาที่เปรียบไม่ได้ เลือดเดือดระอุ การที่ได้ต่อสู้กับดราโกเนี่ยนระดับจักรพรรดิเหล่านี้ เขาสามารถสัมผัสได้ถึงความหมายที่แท้จริงของพลังอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ

โดยเฉพาะในการต่อสู้ที่มีชีวิตเป็นเดิมพันเช่นนี้ ค่ายกลของโลกนั้นก็ยิ่งปรากฏขึ้นมาต่อจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ของเขาอย่างชัดเจนมากขึ้น

ภายใต้การสัมผัสของจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ เขาสามารถสัมผัสได้ถึงค่ายกลของโลกภายในร่างกายของดราโกเนี่ยนระดับจักรพรรดิทั้งสี่ เหมือนกับว่าจะเชื่อมโยงกับพลังอำนาจของลม เปลวไฟ สายฟ้าและดินของโลก

ค่ายกลเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ความคิดแต่เป็นการใช้สัญชาตญาณ ในความว่างเปล่ามีชีพจรจำนวนมากปรากฏขึ้นมา ทว่าชีพจรเหล่านี้ก็ได้รวมเข้าด้วยกันและก่อตัวขึ้นมาโดยธรรมชาติ นี่คือค่ายกลของสวรรค์และโลก

การที่สามารถทำความเข้าใจค่ายกลเช่นนี้ได้ จากนั้นก็จะสามารถดึงพลังอำนาจของสวรรค์และโลกมาได้

“ช่างลึกลับจริงๆ น่าอัศจรรย์” เซี่ยปิงมีจิตใจที่สงบเยือกเย็นมากยิ่งขึ้น เขาไม่ได้มีความสุขหรือว่าความทุกข์ ทั้งสี่ธาตุนั้นต่างก็เป็นสิ่งที่ว่างเปล่าทั้งสิ้น เหมือนกับว่าในช่วงเวลานี้จิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์กำลังผสมผสานเข้ากับความว่างเปล่า สัมผัสถึงศักยภาพของโลกรอบๆตัว

เดิมทีพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของโลกนั้นเป็นสิ่งที่ยากมากที่จะทำความเข้าใจได้ ทว่าภายใต้การต่อสู้ที่ดุเดือดเช่นนี้ ในช่วงเวลานี้มันกลับเผยออกมาอย่างชัดเจน เป็นเหมือนกับผู้หญิงงดงามที่เปลื้องผ้าให้ผู้ชายมองก็ว่าได้

เซี่ยปิงรู้สึกเหมือนกับว่าโลกนี้ไม่มีความลึกลับซ่อนอยู่ ออร่ากำลังผสมผสานเข้ากับธรรมชาติรอบๆตัว การเคลื่อนไหวสอดคล้องกับก้อนเมฆและสายน้ำ ก้าวเข้าสู่ขอบเขตที่เป็นหนึ่งเดียวกับโลก เสมือนกับเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ พลังอำนาจของเขาก็เพิ่มขึ้นมาอย่างมาก

การที่ความเข้าใจชัดเจนมากขึ้น นี่ก็ทำให้เขามีความมั่นใจมากขึ้นสำหรับการที่จะก้าวเข้าไปในระดับหล่อหลอมสมบัติ

เรียกได้ว่าเทียบกับการที่กินเม็ดยาเข้าไปเป็นจำนวนมหาศาลนั้น การต่อสู้นี้ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าไม่รู้กี่เท่า

เพ่ง เพ่ง เพ่ง!!!

เซี่ยปิงและดราโกเนี่ยนระดับจักรพรรดิทั้งสี่ได้ต่อสู้กันต่อไป บนอากาศปรากฏเป็นภาพเงาห้าภาพ ปะทะกันอย่างบ้าคลั่ง เสียงที่ดังสนั่นปะทุออกมา เป็นเหมือนกับการพุ่งชนของอุกกาบาตก็ว่าได้

“บัดซบ!”

“เจ้ามนุษย์นี่มีพลังอำนาจที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ”

“เวรเอ๊ย เขากำลังใช้พวกเราเป็นหินลับในการขัดเกลาวิทยายุทธของตนเอง”

“เป็นเพียงแค่ระดับราชันแต่ทำไมถึงได้น่าสะพรึงกลัวถึงขั้นนี้ หากเขาก้าวเข้าสู่ระดับจักรพรรดิจริงๆ พวกเราจะสามารถทำอะไรได้อีก?!”

ดราโกเนี่ยนระดับจักรพรรดิสี่คนต่างก็บูดบึ้งอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ รู้สึกไม่พึงพอใจ ในฐานะที่เป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ เป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดของทวีปแห่งนี้ ไม่มีใครที่เป็นศัตรูด้วยได้ ทว่าตอนนี้กลับถูกฝ่ายตรงข้ามเล่นสนุก ถูกมองว่าเป็นหินลับ

นี่มันคือความอัปยศอดสูประเภทใดกัน!

หากเป็นไปได้ พวกเขาปรารถนาที่จะตบเจ้ามนุษย์ที่อวดดีนี่ด้วยฝ่ามือ เห็นพวกเขาดราโกเนี่ยนระดับจักรพรรดิเป็นอะไรกัน เป็นคู่ฝึกซ้อมของเจ้ามนุษย์บัดซบนี่หรือ เป็นขั้นบันไดให้เหยียบก้าวขึ้นไปหรือ?!

ทว่าเจ้ามนุษย์คนนี้ก็แข็งแกร่งมากเกินไป แม้ว่าพวกเขาจะไม่ต้องการยอมรับ ก็ยังคงทำได้เพียงแค่ช่วยในการบ่มเพาะของเซี่ยปิง เป็นดั่งคู่ฝึกซ้อมที่ช่วยให้ฝ่ายตรงข้ามพัฒนาตนเองขึ้นมา

ยิ่งต่อสู้ พวกเขาก็ยิ่งกระวนกระวายใจ หากเป็นเพราะว่าการต่อสู้ครั้งนี้ทำให้เซี่ยปิงเลื่อนขั้นขึ้นไปในระดับจักรพรรดิ จากนั้นใครกันที่จะสามารถต่อกรกับเขาได้?

เมื่อถึงเวลานั้นมีที่ไหนที่เผ่าพันธุ์ดราโกเนี่ยนของพวกเขาจะปกครองทวีปแห่งนี้ได้อีก

ทันใดนั้น เมื่อเซี่ยปิงวางแผนที่จะประเคนหมัดออกไปและกระแทกให้ดราโกเนี่ยนระดับจักรพรรดิทั้งสี่กระเด็นออกไป เขาก็รู้สึกได้ถึงอันตรายที่ยิ่งใหญ่อย่างกะทันหัน ขนของเขาลุกตั้งขึ้นมา เหมือนกับว่าตกเข้ามาในกับดักแห่งความตายบางอย่าง

ปัง!

ทันใดนั้น บนอากาศก็มีกลุ่มเงาปรากฏขึ้นมา กลุ่มเงานี้เป็นสีดำที่มืดสนิท เหมือนกับว่าบิดเบือนรังสีรอบๆ อีกทั้งยังกลืนกินเข้าไป

การโจมตีได้ปะทุออกมาอย่างกะทันหัน เล็งไปที่ช่องโหว่ของเซี่ยปิง เป็นการโจมตีที่ฉับพลันดั่งสายฟ้าแลบ

หมัดได้ประเคนออกมา มีพลังอำนาจของความมืดมิด ดูเหมือนว่าจะกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่าง มีพลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัว สามารถที่จะเจาะทะลวงแผ่นดิน พุ่งตรงไปที่ร่างกายของเซี่ยปิง

ตึบ!

นี่คือหมัดที่มีพลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัว เป็นการโจมตีขั้นสูงสุดของระดับจักรพรรดิ แม้แต่วิชาการป้องกันนรกกลืนกินของเซี่ยปิงก็ไม่สามารถที่จะต้านทานได้ ถูกเจาะทะลวงผ่านไปอย่างกะทันหัน

อีกทั้งพลังหมัดนี้ก็ได้เจาะผ่านเข้ามา เจาะทะลวงเข้าไปที่หน้าท้องของเซี่ยปิงในทันที ทำให้หน้าท้องของเซี่ยปิงปรากฎเป็นรูขนาดใหญ่

วิซ!

ทันใดนั้น เงานี้ก็ได้ยืนตระหง่านอยู่บนอากาศ แสดงให้เห็นถึงรูปลักษณ์ที่แท้จริงของตนเอง

นี่คือชายชราที่สวมใส่ชุดคลุมสีดำ ร่างกายสูงสามเมตร ผมและดวงตาเป็นสีน้ำเงิน ร่างกายมีออร่าของผู้ปกครองที่เผด็จการแผ่ออกมา เหมือนกับว่าจะเป็นตัวตนในระดับสูงสุด ควบคุมชีวิตของคนหลายร้อยล้านคน

“ท่านจักรพรรดิซีซ่าร์!”

ผู้อาวุโสจำนวนมากต่างก็ตะโกนออกมาอย่างประหลาดใจ พวกเขาต่างก็มองออกไป ผู้ที่ได้เคลื่อนไหวออกมานี้ก็คือจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ที่เก่าแก่และแข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาเผ่าพันธุ์ดราโกเนี่ยน จักรพรรดิซีซ่าร์

จักรพรรดิซีซ่าร์นั้นมีตำนานมากมาย ถูกยกให้เป็นยอดฝีมือระดับจักรพรรดิที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของเผ่าพันธุ์ดราโกเนี่ยน เป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ เป็นเสาหลักที่ค้ำจุนเผ่าพันธุ์ดราโกเนี่ยน เป็นผู้ปกครองที่แท้จริง

ในช่วงเวลาปกตินั้น จักรพรรดิซีซ่าร์จะทำการบ่มเพาะอยู่ภายในพื้นที่เขตหวงห้ามของเทพเจ้ามังกร ศึกษาถึงสิ่งที่เทพเจ้ามังกรหลงเหลือไว้ ไม่มีทางปรากฏขึ้นมาหากไม่ใช่เป็นช่วงเวลาวิกฤติที่เผ่าพันธุ์ดราโกเนี่ยนกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย

ทว่าในตอนนี้พวกเขาไม่คาดคิดว่าจักรพรรดิซีซ่าร์จะปรากฏตัวขึ้นมา ยิ่งไปกว่านั้นยังลอบโจมตีเจ้ามนุษย์เซี่ยปิงอย่างโหดเหี้ยม เจาะทะลวงผ่านหน้าท้องของเจ้ามนุษย์คนนี้ไปอย่างกะทันหัน

“ไม่คาดคิดว่าท่านซีซ่าร์จะลงมือด้วยตนเอง ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการลอบโจมตี?!”

ดราโกเนี่ยนระดับจักรพรรดิทั้งสี่ต่างก็ประหลาดใจอย่างมาก พวกเขาไม่คาดคิดว่าจักรพรรดิซีซ่าร์ที่บ่มเพาะอยู่ในส่วนลึกของเมืองเทพเจ้ามังกรจะเคลื่อนไหวออกมาเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นยังใช้ทักษะจ้าวแห่งศาสตร์มืดในการหลบซ่อนภายในความว่างเปล่า ไม่ได้ปรากฏตัวออกมา อดทนรออย่างใจเย็น รอให้มีโอกาสที่จะโจมตีอย่างฉับพลัน

เห็นได้ชัดว่าการลอบโจมตีของจักรพรรดิซีซ่าร์ประสบความสำเร็จอย่างมาก สังหารเจ้ามนุษย์คนนี้ในระหว่างที่ไม่ทันได้ระวังตัว

ทว่าสิ่งที่ทำให้พวกเขาไม่อยากเชื่อก็คือ จักรพรรดิซีซ่าร์ผู้ยิ่งใหญ่ ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของเผ่าพันธุ์ดราโกเนี่ยน ไม่คาดคิดว่าจะกระทำเรื่องที่ไร้ยางอายเช่นนี้ ลอบโจมตีเจ้ามนุษย์คนนี้ทีเผลอ นี่เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าเจ้ามนุษย์คนนี้นำพาความกดดันมาสู่ดราโกเนี่ยนระดับจักรพรรดิมากแค่ไหน

เห็นได้ชัดว่าจักรพรรดิซีซ่าร์ก็คิดว่าเจ้ามนุษย์คนนี้อันตรายอย่างถึงที่สุด ทรงอำนาจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ หากไม่ได้ลอบโจมตี คงเป็นเรื่องยากมากที่จะหาโอกาสในการสังหารเจ้ามนุษย์คนนี้

ถึงแม้ว่าการลอบโจมตีนั้นจะเป็นวิธีการที่ชั่วร้ายและสกปรก ทว่านี่คือวิกฤติความเป็นความตายของเผ่าพันธุ์ดราโกเนี่ยน นี่คือสงครามของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ไม่ว่าจะทำอย่างไร สุดท้ายแล้วผู้ชนะก็คือราชา ผู้แพ้ก็คืออาชญากร นี่คือความเป็นจริงของโลกนี้

ต้องกล่าวโทษเจ้ามนุษย์คนนี้ที่อ่อนหัดเกินไป ไม่คาดคิดว่าจะบุกเข้ามาที่เมืองเทพเจ้ามังกรด้วยตัวคนเดียว หากเขาไม่ตายไปนั้น ใครกันที่จะตายไป

“เผ่าพันธุ์มนุษย์เซี่ยปิง? เจ้าเป็นมนุษย์ที่อันตรายอย่างแท้จริง แม้แต่ข้าซีซ่าร์เองก็ยังต้องปกปิดตนเองเป็นระยะเวลานานกว่าที่จะหาช่องโหว่ของเจ้าได้”

จักรพรรดิซีซ่าร์ยืนไขว้มือไว้ข้างหลังทั้งสองข้าง มีสีหน้าที่ยโสโอหัง “ต่อให้เจ้าจะแข็งแกร่ง ทว่าหมัดๆนี้ของข้าก็ได้ทำลายพลังชีวิตของเจ้าไปครึ่งหนึ่ง เจ้ายอมตายซะโดยดีเถอะ หลังจากนี้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเจ้าจะหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ตลอดกาล กลายเป็นเพียงแค่ขั้นบันไดให้เผ่าพันธุ์ดราโกเนี่ยนของข้าเหยียบย่ำขึ้นไปสู่อำนาจ เป็นเพียงแค่บุคคลที่น่าสมเพชอีกคนที่คิดท้าทายเผ่าพันธุ์ดราโกเนี่ยนของข้า”

เขามองเซี่ยปิงด้วยสายตาที่เหมือนกับกำลังมองซากศพก็ว่าได้

“เป็นหมัดที่ดีจริงๆ ทว่าการที่ต้องการจะปลิดชีวิตข้านั้น แค่นี้ยังไม่เพียงพอ” เซี่ยปิงมองจักรพรรดิซีซ่าร์ด้วยสีหน้าที่ดูถูก

อะไรนะ?!

จักรพรรดิซีซ่าร์และดราโกเนี่ยนคนอื่นๆมีสีหน้าที่ตื่นตระหนกขึ้นมา เพราะว่าพวกเขาเห็นว่าเดิมทีหน้าท้องของเซี่ยปิงที่เป็นรูขนาดใหญ่นั้น ไม่คาดคิดว่าจะไม่มีเลือดหยดออกมาแม้แต่หยดเดียว เผยให้เห็นเพียงแค่ลาวาที่เป็นของเหลวเท่านั้น ทุกๆส่วนต่างก็มีเปลวไฟที่แผดเผาอยู่

อีกทั้งไม่รู้ว่าเซี่ยปิงได้ทำอะไร ภายในไม่กี่ลมหายใจ ลาวาก็กระจายตัวออกไปรอบๆ หน้าท้องของเซี่ยปิงก็ได้ฟื้นฟูกลับมาสู่สภาพเดิม เหมือนกับว่าก่อนหน้านี้ไม่ได้เกิดอะไรขึ้น

God Level Demon | ระบบความเกลียดชังปีศาจ

God Level Demon | ระบบความเกลียดชังปีศาจ

บุคคลที่ 1: “เซี่ยปิง!!! เจ้าขโมยวิทยายุทธของข้าไม่พอ เจ้ายังเอาความเป็นอมตะและคู่หมั้นของข้าไปด้วย เจ้ากับข้าจะได้เห็นดีกัน!”บุคคลที่ 2: “เขาช่างเป็นความอับอายของวงการศิลปะการต่อสู้จริงๆ”บุคคลที่ 3: “ปีศาจ! แม้แต่ลูกกวาดของเด็กเล็กๆก็ไม่เว้น”นักวิทยายุทธต่างๆของดวงดาวหยานหวงที่มีความฝันที่จะหักกระดูกของเจ้าเซี่ยปิงให้เป็นล้านๆชิ้นและดื่มเลือดของเขาให้หมดเซี่ยปิงเกาคาง: “ด้วยคะแนนความเกลียดชังที่มากขนาดนี้ ข้าจะเอาไปใช้ทำอะไรดี ข้าจะแลกเปลี่ยนคัมภีร์ที่ไร้เทียมทาน สิ่งประดิษฐ์จากสวรรค์หรือว่าวิชาบ่มเพาะอมตะ”

Options

not work with dark mode
Reset