“ร้ายกาจเพียงนั้นเลยรึ? ถ้าอย่างนั้นมันจะมีมูลค่าเท่าไหร่กัน?”
เซี่ยปิงถามออกไปทันที หากติดตั้งระบบตาข่ายแห่งสวรรค์ไว้ที่โลกแห่งเมฆานั้น ไม่ว่ากลุ่มโจรสลัดจักรวาลจะนำยานอวกาศจักรวาลมาเป็นจำนวนมากแค่ไหน ก็จะถูกโจมตีและพังพินาศภายในพริบตา
อีกทั้งโลกแห่งเมฆาก็จะกลายเป็นรังที่ปลอดภัยของเขา ไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลว่าจะมีศัตรูเข้ามาโจมตีอีก
“ราคาประมูลเริ่มต้นที่ห้าพันล้านเหรียญจักรวาล”
แมวนักปราชญ์พูดออกมา
“ห้าพันล้านเหรียญจักรวาล?!” เซี่ยปิงสะดุ้งตกใจ เขาไม่ได้รู้สึกว่ามันแพงเกินไป ทว่ากลับรู้สึกว่ามันถูกเกินไป เพราะว่าระบบอาวุธระดับสุดยอดเช่นนี้อย่างน้อยก็ต้องมีมูลค่าอยู่ที่หมื่นล้านเหรียญจักรวาล
การที่ตอนนี้ราคาเริ่มต้นของมันอยู่ที่ห้าพันล้านเหรียญจักรวาลนั้น เป็นราคาที่ต่ำเกินไปจริงๆ ดูเหมือนว่าจะเป็นการมอบให้ฟรีก็ว่าได้
“ครั้งหนึ่งระบบตาข่ายแห่งสวรรค์นี่เคยเป็นระบบการป้องกันของดาวเคราะห์หลักของอาณาจักรเครื่องกล ปกป้องดาวเคราะห์หลักของมันไว้ ปลอดภัยเสมอมา ไม่มีใครกล้าที่จะโจมตี”
แมวนักปราชญ์อธิบายออกมา “โชคร้ายที่อาณาจักรเครื่องกลนี่ได้ท้าทายเซนต์ ทำให้เซนต์เดือดระอุขึ้นมา ในที่สุดเซนต์ก็ได้ใช้การโจมตีศักดิ์สิทธิ์ผ่านห้วงอวกาศ ทำลายดาวเคราะห์หลักดวงนี้จนระเบิดออกมา”
“ด้วยความเสียหายที่ใหญ่หลวงเช่นนี้ ก็ทำให้อาณาจักรเครื่องกลเผชิญกับการล่มสลายและถูกกลุ่มอิทธิพลอื่นๆเข้ายึดครอง ดังนั้นระบบตาข่ายแห่งสวรรค์นี้ซึ่งเป็นสิ่งที่หลงเหลืออยู่ของอาณาจักรเครื่องกลจึงถูกนำมาประมูล”
เซนต์ช่างน่าสะพรึงกลัวจริงๆ อ๊าก!
เซี่ยปิงไม่คาดคิดว่าระบบตาข่ายแห่งสวรรค์ที่ทรงอำนาจเช่นนั้น แต่กลับไม่สามารถที่จะต้านทานการโจมตีของเซนต์ได้ ทว่าก็เป็นไปไม่ได้เช่นกันที่โลกแห่งเมฆาจะท้าทายบุคคลระดับเซนต์ นี่คือตัวตนที่สูงส่งและมีบารมีระดับสูงสุด ไม่มีโอกาสที่จะบังเอิญได้พบเจอกับบุคคลในระดับนี้
แน่นอนว่าหากท้าทายบุคคลระดับนี้ขึ้นมา ก็ทำได้เพียงแค่หลบหนีออกไปหรือไม่ก็หลับตารอคอยความตายเท่านั้น
การที่เขาต้องการครอบครองระบบตาข่ายแห่งสวรรค์นี้มานั้น ก็เพื่อที่จะปกป้องโลกแห่งเมฆาจากกลุ่มโจรสลัดจักรวาลหรือว่ากลุ่มอิทธิพลอื่นๆที่มีเจตนามุ่งร้าย ดังนั้นการป้องกันของระบบตาข่ายแห่งสวรรค์นี้ก็ถือว่ามากเกินพอ หากไม่ได้เผชิญกับตัวตนในระดับเซนต์ มันก็ถือว่าเป็นระบบการป้องกันที่ไร้เทียมทาน
“ทว่าต่อให้เป็นเช่นนั้น ก็เป็นไปไม่ได้ที่ระบบอาวุธนี้จะมีราคาที่ถูกเช่นนี้ได้” เซี่ยปิงถามขึ้นมาอย่างงุนงง
แมวนักปราชญ์ยิ้มออกมาเล็กน้อย “หากพูดตามตรง อันที่จริงอาวุธเช่นนี้ภายในจักรวาลนั้นไม่ได้ถือว่าทรงอำนาจมากนัก ในความเป็นจริงกลุ่มอิทธิพลระดับสุดยอดที่มีทรัพยากรทางการเงินที่มั่งคั่งนั้นจะมีระบบอาวุธที่ทรงอำนาจกว่านี้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นค่ายกลยับยั้งต่างๆหรือว่ารังสีสังหารที่ทรงอำนาจ ซึ่งบางทีต่อให้จะเป็นเซนต์เองก็สามารถที่จะถูกสังหารโดยระบบการป้องกันเหล่านี้ เพียงแค่ระบบตาข่ายแห่งสวรรค์นั้นไม่ถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง”
“อีกทั้งบรรดากลุ่มอิทธิพลระดับล่างนั้น พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะใช้เงินจำนวนมากเช่นนี้ได้ สำหรับพวกเขานั้นเงินหนึ่งร้อยล้านเหรียญจักรวาลก็ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าอัศจรรย์ ยิ่งเงินในจำนวนหนึ่งพันล้านเหรียญจักรวาลนั้นก็เป็นเงินที่พวกเขาไม่สามารถควักออกมาจ่ายได้อย่างแน่นอน”
“ในความเป็นจริง ระบบตาข่ายแห่งสวรรค์นี้ก็ถูกทำการประมูลหลายครั้ง ทว่าแต่ละครั้งนั้นก็ไม่มีใครซื้อ ไม่มีใครเต็มใจที่จะใช้เงินจำนวนมากเพื่อซื้อระบบอาวุธเช่นนี้ ดังนั้นราคาของมันจึงได้ลดลงเรื่อยๆตามกาลเวลาที่ผ่านไป”
เซี่ยปิงพยักหน้า เขาก็เข้าใจถึงข้อเท็จจริงนี้ อันที่จริงระบบอาวุธซึ่งก็คือระบบตาข่ายแห่งสวรรค์นั้นไม่ได้มีประโยชน์สำหรับการใช้งานส่วนตัว ไม่มีผลกับการเพิ่มพลังอำนาจส่วนบุคคล มันจะมีประโยชน์ใช้งานเพียงแค่สำหรับกลุ่มอิทธิพลและองค์กรบางกลุ่มเท่านั้น
เพราะว่าถึงอย่างไรการที่สามารติดตั้งไว้ในสถานที่แห่งเดียวได้เท่านั้น หากไม่มีอาณาเขตเป็นของตนเอง ต่อให้ซื้อไปก็จะไม่มีประโยชน์ใช้งานใดๆ ควรที่จะใช้เงินจำนวนนี้ในการซื้อสมบัติและวัสดุที่ล้ำค่าอื่นๆเสียดีกว่า เพิ่มพลังอำนาจให้กับตนเอง
ดังนั้น ผู้ที่จำเป็นต้องใช้ระบบอาวุธนี้และผู้ที่มีทรัพยากรทางการเงินที่มากพอนั้นจึงมีจำนวนที่น้อยมาก การที่จะไม่มีใครซื้อในการประมูลหลายครั้งที่ผ่านมานั้นก็เป็นเรื่องที่ปกติอย่างมาก
“ทว่าในตอนนี้ข้ามีเงินเพียงแค่สี่พันล้านเหรียญจักรวาลเท่านั้น ต่อให้จะต้องการซื้อ ก็คงจะมีเงินไม่มากพอ”
เซี่ยปิงพูดออกมาอย่างเคร่งขรึม หากรวมเงิน590ล้านเหรียญจักรวาลก่อนหน้านี้เข้ากับเงิน3.5พันล้านเหรียญจักรวาลที่ได้มาจากการยอดขายของหนังสือนั้น ในตัวของเขาก็จะมีเงินทั้งหมด4.09พันล้านเหรียญจักรวาล ซึ่งอย่างน้อยก็ขาดไปถึงหนึ่งพันล้านเหรียญจักรวาล
แมวนักปราชญ์ยิ้มออกมาเล็กน้อย “เจ้าลืมไปแล้วหรือ? เจ้าเป็นสมาชิกวีไอพีของธนาคารจักรวาล ยิ่งไปกว่านั้นการที่สามารถฝากเงินได้ถึงสี่พันล้านเหรียญจักรวาลนั้น มูลค่าเครดิตของเจ้าก็จะต้องเพิ่มขึ้นมาอย่างมากเช่นกัน”
“ในตอนนี้เจ้ามีโควตาในการกู้ยืมเงินมาจากธนาคารจักรวาลถึงหนึ่งหมื่นล้านเหรียญจักรวาล!”
มันได้ชูนิ้วขึ้นมา
“เยี่ยม รีบเดินทางไปที่ดาวกวางน้อยกันเถอะ” เซี่ยปิงตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ไม่สามารถที่จะพลาดโอกาสนี้ไปได้ ควรที่จะใช้เงินนี้ในการซื้อระบบตาข่ายแห่งสวรรค์ คลี่คลายปัญหาที่ดาวเคราะห์บ้านเกิดของเขา
เงินนั้นสามารถที่จะหามาใหม่เมื่อไหร่ก็ได้ ทว่าสมาชิกครอบครัวของเขานั้นไม่สามารถที่จะหามาใหม่ได้อีกแล้ว
ดังนั้นนี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ เมื่อใดที่ซื้อระบบตาข่ายแห่งสวรรค์ เขาก็จะสามารถโลดแล่นไปตามจักรวาลโดยที่ไร้ความกังวล ไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลว่ากลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงจะลอบโจมตีโลกแห่งเมฆาอีกต่อไป
…………….
ภายในส่วนลึกของจักรวาล ดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างออกไป รอบๆดาวเคราะห์ดวงนี้มียานอวกาศจำนวนกว่าหลายหมื่นลำที่กำลังล้อมรอบอยู่ เป็นเหมือนกับป้อมปราการโดยธรรมชาติก็ว่าได้ เป็นเหมือนกับปีศาจที่น่าสะพรึงกลัวซึ่งกำลังเฝ้ารังของตนเองอยู่
ทว่าบนยานอวกาศเหล่านี้มีสัญลักษณ์ผ้าคาดหัวสีแดงอยู่ สถานที่แห่งนี้ก็คือรังของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงนั่นเอง
ในช่วงเวลานี้ ภายในห้องประชุมของยานอวกาศขนาดใหญ่ลำหนึ่ง สมาชิกระดับสูงของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงต่างก็ปรากฏอยู่ในสถานที่แห่งนี้ บรรยากาศรอบๆนั้นตึงเครียดอย่างมาก กลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงคนอื่นๆที่อยู่ข้างนอกห้องนั้นต่างก็ไม่กล้าที่จะหายใจเสียงดัง เกรงกลัวว่าจะทำให้ผู้มีอิทธิพลเหล่านี้หงุดหงิดขึ้นมา
“อันที่จริงเกิดอะไรขึ้นกัน? ทำไมถึงยังไม่มีข่าวคราวใดๆจากยานอวกาศของเจ้าหู่และคนอื่นๆ หรือว่าจะเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้น?” หัวหน้าของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงพูดออกมาด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียว “ล่วงรู้หรือไม่ว่าบนยานอวกาศลำนั้นมีข้าวคริสตัลที่เป็นมูลค่าถึงสามร้อยล้านเหรียญจักรวาล? หากเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นมา นั่นจะเทียบเท่ากับการที่สูญเสียเงินไปถึงสามร้อยล้านเหรียญจักรวาล สามร้อยล้านเหรียญจักรวาลพวกเจ้าเข้าใจหรือไม่?!”
แม้แต่สำหรับกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงที่ร่ำรวยและเผด็จการนั้น เงินจำนวนสามร้อยล้านเหรียญจักรวาลก็ถือว่าเป็นจำนวนเงินก้อนใหญ่เช่นกัน
“ตามข้อมูลที่ได้รับมาในตอนนี้ สัญญาณจากยานอวกาศของเจ้าหู่นั้นได้หายไปอย่างสมบูรณ์ คาดการณ์ได้ว่าคงจะถูกทำลายไปแล้ว” ชายชราคนหนึ่งพูดออกมาอย่างเคร่งขรึม
“ถูกทำลาย? อันที่จริงเป็นฝีมือของใครกัน สุนัขที่ไหนกันที่กล้าโจมตีคนของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงของข้า?!” หัวหน้าคนนั้นโมโหอย่างมาก ดวงตาเป็นประกายไฟ
“ไม่สามารถที่จะทำการสืบสวนหาเบาะแสอย่างละเอียดได้ พื้นที่บริเวณนั้นอยู่ห่างไกลเกินไป ในตอนนี้ล่วงรู้เพียงแค่ว่าเจ้าหู่และคนอื่นๆคงจะถูกจัดการไปบนดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์ดวงหนึ่ง นอกจากนี้พวกเราก็ไม่ได้มีข้อมูลใดๆอีก” ผู้อาวุโสคนนั้นส่ายหน้า บ่งบอกว่าข้อมูลที่มีในตอนนี้น้อยเกินไป
อีกทั้งเพื่อที่จะทำการตรวจสอบเรื่องนี้ พวกเขาก็ได้ส่งคนออกไป ณ ดาวเคราะห์ที่เกิดเหตุเช่นกัน ทว่ากลับไม่พบอะไรเลย แม้แต่เศษซากของยานอวกาศก็ไม่พบ มีเพียงแค่ร่องรอยความเสียหายบางอย่างเท่านั้น เหมือนกับว่าเกิดการต่อสู้ที่ดุเดือดขึ้นในสถานที่แห่งนั้น
“พวกเราจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้?”
ผู้อาวุโสคนหนึ่งที่พูดออกมาอย่างจริงจัง “เงินสามร้อยล้านเหรียญจักรวาลนั้นไม่ใช่จำนวนเงินที่ต้องคำนึงถึง ทว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือนี่เป็นสินค้าที่พวกเราขายให้กับตระกูลที่ยิ่งใหญ่เหล่านั้น การที่ข้าวคริสตัลที่มีมูลค่าสามร้อยล้านเหรียญได้หายไปอย่างกะทันหันนั้น พวกเราอาจจะไม่มีสินค้าไปส่งพวกเขาได้”
“หากตระกูลที่ยิ่งใหญ่เหล่านั้นโมโหขึ้นมาและคิดว่าพวกเราผิดสัญญาการค้าขายนั้น บางทีกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงของพวกเราอาจจะเผชิญกับการทำลายล้างได้”
เขาคิดว่านี่เป็นจุดสำคัญ เทียบกับการที่จะยั่วยุตระกูลโบราณเหล่านี้นั้น การที่สูญเสียเงินไปสามร้อยล้านเหรียญจักรวาลนั้นกลายเป็นเรื่องที่เล็กน้อยไปเลย การที่ไม่สามารถส่งสินค้าให้กับพวกเขาได้นั้น นี่เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก
ได้ยินเช่นนี้ หัวหน้าและผู้คนที่อยู่รอบๆก็มีสีหน้าที่มืดมน พวกเขาก็ล่วงรู้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างมาก
“ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ จะต้องรวบรวมข้าวคริสตัลมาจากสถานที่ต่างๆ ไม่สามารถที่จะทำให้การค้าขายครั้งนี้ล้มเหลวอย่างแน่นอน จะต้องไม่มีข้อผิดพลาดใดๆเกิดขึ้น” หัวหน้าของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงได้พูดออกมาอย่างเคร่งขรึม จิตสังหารกำลังเดือดดาลออกมา
ความสูญเสียในครั้งนี้ของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงนั้นทำให้เขารู้สึกโมโหอย่างมาก ทว่าต่อให้จะโมโหแค่ไหน ก็ยังคงต้องทำให้การค้าขายครั้งนี้ดำเนินไปได้ด้วยดี ไม่อย่างนั้นการที่ได้ยั่วยุตระกูลโบราณเหล่านี้ มันจะไม่ใช่เรื่องที่ตลกแม้แต่น้อย
เทียบกับตระกูลโบราณเหล่านี้ที่ได้ดำรงอยู่มาอย่างยาวนานไม่รู้กี่ปีนั้น กลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงของพวกเขายังืถือว่าอ่อนหัดเกินไป
“รับทราบ หัวหน้า”
ผู้อาวุโสจำนวนมากต่างก็พยักหน้า ล่วงรู้ถึงน้ำหนักของเรื่องนี้