God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ – ตอนที่ 1202

วิซ!

เซี่ยปิงเคลื่อนไหวความคิด จากนั้นเขาก็ได้เข้ามาในเครือข่ายเสมือนจริงและมาถึงที่พื้นที่เสมือนจริงแห่งหนึ่ง

พื้นที่เสมือนจริงแห่งนี้นั้นสามารถที่จะตั้งค่าได้ตามความต้องการของผู้ใช้ ซึ่งพื้นที่เสมือนจริงแห่งนี้ได้ถูกเซี่ยปิงตั้งค่าให้เป็นเหมือนกับห้องนั่งเล่นโดยที่ข้างในมีโซฟา มีโต๊ะน้ำชา มีทีวีและอื่นๆอีกมาก เป็นการตกแต่งที่มีรสนิยมอย่างมาก

จากนั้น ก็มีภาพเงาปรากฏขึ้นมาในพื้นที่แห่งนี้

เซี่ยปิงหันไปมอง ค้นพบว่าภาพเงานี้มีความสูงสองเมตร มีรูปร่างอ้วนท้วนอย่างมาก ดูเหมือนจะหนักหนึ่งตันก็ว่าได้ ศีรษะนั้นมีเขางอกออกมา มีจมูกหมู สวมใส่ชุดสูทสีดำพร้อมกับผูกเนคไทสีแดง สวมใส่แว่นตาขอบสีทอง มีรูปลักษณ์ที่เหมือนกับนักธุรกิจเจ้าเล่ห์ก็ว่าได้

ซึ่งสามารถเห็นได้ว่านี่คือปีศาจหมู

ทว่าภายในจักรวาลนั้นนี่ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องที่ใหญ่อะไร เผ่าพันธุ์มนุษย์และเผ่าพันธุ์ปีศาจนั้นได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมานาน มีเผ่าพันธุ์ที่แตกต่างกันต่างๆนาๆที่อยู่ร่วมกันภายในจักรวาล ซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติแต่อย่างใด

“คุณอู๋ ในที่สุดคุณอู๋ก็เต็มใจที่จะติดต่อพูดคุยกับข้า เป็นเรื่องที่ดีจริงๆ ข้ามีชื่อว่าเจียเอ่อหม่า เป็นผู้ดูแลบริษัทหนังสือจักรวาลสาขาย่อยภายในอาณาเขตดวงดาวเมฆาสายธาร”

เจียเอ่อหม่ายิ้มออกมาเล็กน้อยและได้แนะนำตัวออกไป เผยสีหน้าที่อบอุ่นอย่างมาก

“ไม่ต้องพูดจาไร้สาระอะไรมากมาย ข้าจะพูดเข้าประเด็นทันที เจ้าต้องการให้ข้าร่วมมือทำอะไร?” เซี่ยปิงพูดอย่างตรงไปตรงมา

เจียเอ่อหม่าพยักหน้า “คุณอู๋ช่างเป็นคนที่พูดจาตรงไปตรงมาจริงๆ ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะไม่อ้อมค้อม เหตุผลที่ข้าต้องการติดต่อคุณอู๋ก็เพราะต้องการที่จะขอให้คุณอู่เขียนหนังสือเกี่ยวกับเคล็ดลับการหลอกลวงขึ้นมา”

“ด้วยชื่อเสียงของคุณอู๋ในตอนนี้นั้น หากสามารถที่จะเขียนหนังสือประเภทนี้ออกมา จะต้องมียอดขายที่มหาศาลอย่างแน่นอน”

สายตาของเขาเผยให้เห็นถึงความเจ้าเล่ห์ของนักธุรกิจ

บอกตามตรง เขานั้นหวังที่จะเกาะชื่อเสียงของเซี่ยปิง ไม่ว่ามันจะเป็นชื่อเสียงที่ดีหรือไม่ดีนั้น สุดท้ายแล้วหากเป็นที่รู้จักก็เพียงพอที่จะทำกำไรได้

มันดูเหมือนกับดาราก็ว่าได้ การที่มีชื่อเสียงที่มหาศาล ก็ย่อมที่จะมีแฟนคลับในจำนวนที่มหาศาลเช่นกัน

ทว่าเพียงแค่ชื่อเสียงนั้นไม่เพียงพอ ไม่ว่าจะมีชื่อเสียงที่มากแค่ไหนมันก็กินไม่ได้ ดังนั้นจะต้องรู้จักการใช้ชื่อเสียงให้เป็นประโยชน์เช่นกัน

ซึ่งการตีพิมพ์หนังสือขึ้นมานั้น ก็เป็นวิธีการหนึ่งในการใช้ชื่อเสียงให้เป็นประโยชน์

เซี่ยปิงก็ล่วงรู้เช่นกัน ในชีวิตชาติที่แล้วของเขาในโลกมนุษย์นั้น ดาราจำนวนมากก็เลือกที่จะตีพิมพ์หนังสือของตนเองขึ้นมาหรือว่าทำหนังสือชีวประวัติ จากนั้นก็ให้คนอื่นเขียนในนามของตนเอง

ไม่ว่าหนังสือจะดีหรือไม่ สุดท้ายแล้วด้วยชื่อเสียงของดาราเหล่านี้ มันก็สามารถที่จะดึงดูดความสนใจของสาธารณะได้และดึงดูดความสนใจของแฟนคลับจำนวนมาก ซึ่งหนังสือเช่นนี้ขายได้อย่างแน่นอน ทำเงินได้มหาศาล

อย่างเช่นในอดีตนั้น หนังสือที่เป็นที่นิยมมากที่สุดที่ตีพิมพ์ขึ้นมาโดยคนดังในโลกมนุษย์นั้นก็คือหนังสือที่ตีพิมพ์ขึ้นมาโดยประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา เมื่อประธานาธิบดีลาออกนั้น เขาก็ได้ตีพิมพ์หนังสือขึ้นมาที่เป็นชีวประวัติของตนเอง ซึ่งเพียงแค่ค่าต้นฉบับของคนดังในระดับนี้นั้นก็เป็นเงินอย่างน้อย10ล้านดอลล่าร์

นี่คือรายได้ที่ผู้คนปกติธรรมดาไม่มีวันที่จะได้มาทั้งชีวิต

เห็นได้ชัดว่าเจียเอ่อหม่านั้นหวังที่จะเกาะชื่อเสียงของเซี่ยปิงที่โด่งดังภายในอาณาเขตดวงดาวต่างๆในช่วงเวลานี้ ดังนั้นจึงต้องการที่จะติดต่อเซี่ยปิงเพื่อร่วมทำธุรกิจกัน เป็นการคว้าโอกาสจากกระแสนิยมที่มีอยู่ในตอนนี้เพื่อทำผลกำไรให้กับตนเอง

หากพูดออกมาอย่างหยาบคาย การที่มีชื่อเสียงนั้น ต่อให้เจ้าจะเขียนหนังสือขยะๆออกมา ก็ยังมีผู้คนจำนวนมากที่จะซื้อมัน

“ตีพิมพ์หนังสือ? น่าสนใจอยู่เหมือนกัน ข้าต้องการรายละเอียดมากกว่านี้”

เซี่ยปิงหรี่ตามอง เขาไม่ได้สนใจจุดประสงค์ของเจียเอ่อหม่าเลย ผู้ที่ไม่มีประโยชน์ใช้งานนั้นโดยปกแล้วก็คือคนไร้ค่า โลกของธุรกิจนั้นก็คือการใช้ประโยชน์จากกันและกัน

ไม่ว่าสุดท้ายแล้วเจียเอ่อหม่าจะคิดใช้ประโยชน์จากเขาหรือไม่ ทว่าหากเรื่องนี้สามารถที่จะนำพาความมั่งคั่งมหาศาลมาให้กับเขาได้นั้น นี่ก็เป็นเหตุผลเพียงพอที่เขาจะยอมร่วมมือด้วย

เห็นเซี่ยปิงที่มีท่าทางสนใจ เจียเอ่อหม่าก็พูดออกมาทันที “ใช่ ตีพิมพ์หนังสือ แน่นอนว่าหากคุณอู๋ไม่ต้องการเขียนเอง ทางบริษัทของพวกเราก็ยังมีนักเขียนที่มีความสามารถมากมาย พวกเขาสามารถที่จะเขียนในนามของคุณอู๋ได้”

“พวกเราสามารถที่จะเซ็นสัญญาในการแบ่งปันรายได้ หากหนังสือขายได้ คุณอู๋จะได้รับกำไร30%จากกำไรทั้งหมด”

เขาได้ชูนิ้วขึ้นมาสามนิ้ว เห็นได้ชัดว่าเขานั้นไม่ได้สนใจแม้แต่น้อยว่าเซี่ยปิงมีความสามารถในการเขียนหนังสือหรือไม่ เขาเพียงแค่ต้องการทำเงินจากชื่อเสียงของเซี่ยปิง

“30%ของกำไร?”

เซี่ยปิงมองไปที่เจียเอ่อหม่าพร้อมกับยิ้มอย่างไม่เต็มใจ “ใช้ชื่อเสียงของข้าเพื่อผลกำไร แต่ให้ข้าเพียงแค่30% นี่มันไม่มากเกินไปหน่อยหรือ? อย่างน้อยก็ต้อง90%!”

“คุณอู๋ ข้าคิดว่าคุณอู๋เป็นฝ่ายที่เรียกร้องมากเกินไป”

เจียเอ่อหม่าพูดออกมา “บริษัทของพวกเราจะรับผิดชอบในการโปรโมทและโฆษณา กระจายช่องทางการตลาด อีกทั้งยังหาคนมาเขียนในนามของคุณอู๋ เดินเรื่องอนุมัติโดยบรรณาธิการ การตีพิมพ์และอื่นๆ สิ่งจำเป็นเหล่านี้ล้วนเป็นต้นทุนที่สูงมาก คุณอู๋นั้นแทบที่จะไม่ได้ทำอะไรเลย แต่กลับต้องการ90% นี่ไม่คิดจะให้พวกเราได้กินอะไรเลยหรือ? นี่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน ไม่สามารถที่จะตอบตกลงได้”

เซี่ยปิงส่ายหน้า “ไม่จำเป็นต้องหาใครมาเขียนในนามของข้า ข้าสามารถที่จะเขียนเองได้ ยิ่งไปกว่านั้นหากปราศจากชื่อเสียงของข้าที่ดึงดูดความสนใจของผู้คน เจ้าก็ไม่สามารถที่จะทำเงินได้เช่นกัน”

“90%นั้นสูงเกินไป อย่างมากข้าก็ให้ได้50% มากกว่านี้ข้ายอมรับไม่ได้จริงๆ”

เจียเอ่อหม่าส่ายหน้า เขาไม่สามารถยอมรับข้อเสนอเช่นนี้ได้อย่างแน่นอน หากพวกเขาได้ไปเพียงแค่10%นั้น นี่มันจะเป็นการทำเงินอย่างไรอีก นี่ไม่ใช่เป็นการทำงานอย่างหนักให้กับฝ่ายตรงข้ามอย่างนั้นหรือ?!

ยิ่งไปกว่านั้นในฐานะที่เขาเป็นผู้จัดการดูแลบริษัทหนังสือจักรวาลสาขาย่อยภายในอาณาเขตดวงดาวเมฆาสายธารนั้น เขามีหน้าที่รับผิดชอบผลกำไรในทุกๆปีของบริษัท หากไม่ได้ผลกำไรตามเป้าหมาย บางทีอาจจะถูกลดตำแหน่งและอาจจะถูกลงโทษได้เช่นกัน

แน่นอนว่าหากทำตามเป้าได้ดี จากนั้นก็จะได้รับการชื่นชมจากสำนักงานใหญ่ บางทีก็อาจจะถูกย้ายไปอยู่ที่สำนักงานใหญ่ก็เป็นได้ เป็นการทะยานขึ้นท้องฟ้าภายในก้าวเดียว นี่ก็ถือว่าเป็นเป้าหมายหลักของผู้จัดการบริษัทสาขาย่อยทุกคน

“70%!”

เซี่ยปิงมองไปที่เจียเอ่อหม่า “อย่างน้อยข้าก็ต้องได้ผลกำไร70% ข้าไม่สามารถที่จะยอมรับเปอเซ็นต์ที่ต่ำกว่านี้ได้ หากเจ้าไม่ตกลงอีกล่ะก็ การร่วมทำธุรกิจของพวกเราก็คงจะล้มเหลว”

เขาต้องการที่จะกอบโกยผลประโยชน์ให้ได้มากที่สุดเช่นกัน 50%นั้นเป็นไปไม่ได้ สิ่งที่เรียกว่าการร่วมทำธุรกิจกันนั้น ทุกๆฝ่ายจะต้องได้รับผลประโยชน์ตามที่ต้องการ

ซึ่ง70% คือข้อเสนอสุดท้าย!

“แน่นอนว่าข้าก็ไม่อยากทำให้เจ้าอึดอัดใจ ข้ามีข้อเสนอ หากหนังสือนี้ไม่ได้มียอดขายเกินสิบล้านเล่มล่ะก็ ข้าจะไม่รับเงินแม้แต่แดงเดียว” เซี่ยปิงบอกว่าตนเองสามารถที่จะเซ็นสัญญาในการเดิมพันกับฝ่ายตรงข้ามนี้ได้

ยอดขายสิบล้านเล่ม?!

เจียเอ่อหม่าสะดุ้งตกใจ ต้องรู้ด้วยว่าในยุคนี้นั้นหนังสือความรู้ปกติธรรมดานั้นไม่สามารถที่จะขายได้มากนัก สิ่งที่มียอดขายดีที่สุดนั้นก็คือคัมภีร์วิทยายุทธ ซึ่งสามารถที่จะทำให้แข็งแกร่งขึ้นได้

ทว่าคัมภีร์วิทยายุทธเหล่านี้ต่างก็อยู่ในการมือของนิกายระดับเซนต์จำนวนมาก พวกเขานั้นไม่มีสิทธิ์ที่จะได้รับส่วนแบ่ง

ดังนั้นการที่ต้องการให้หนังสือเล่มนี้มียอดขายถึง10ล้านเล่มนั้น นี่เป็นเรื่องที่ยากมาก ตั้งแต่ที่เขาได้กลายมาเป็นซีอีโอของบริษัทหนังสือจักรวาลสาขาอาณาเขตดวงดาวเมฆาสายธารเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วจนถึงตอนนี้นั้น หนังสือที่มียอดขายมากเช่นนี้ก็มีเพียงแค่ไม่กี่เล่ม

ถึงแม้ว่าเจ้าอู๋ตี่นี่จะเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังภายในอาณาเขตดวงดาวจำนวนมาก ทว่าการที่ตีพิมพ์หนังสือประเภทนี้นั้น จะมีผู้คนจำนวนสิบล้านคนที่คิดจะซื้อจริงๆหรือ?!

ด้วยการคาดการณ์ของเขา การที่ขายได้เพียงแค่หนึ่งล้านเล่มนั้นก็ถือว่าดีมากแล้ว นี่ก็ถือว่าเหนือความคาดหมายของเขาไปมาก

หากต้องการให้ขายได้สิบล้านเล่มจริงๆ มีเพียงแค่การที่ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นเท่านั้นที่จะมีโอกาสเป็นไปได้

“เอาล่ะ ในเมื่อคุณอู๋มีความมั่นใจเช่นนี้ แน่นอนว่าข้าก็จะไม่ปฏิเสธ” คิดได้แบบนี้ เจียเอ่อหม่าก็ตัดสินใจที่จะยอมรับเงื่อนไขของเซี่ยปิงทันที

หากยอดขายไม่ถึงสิบล้านเล่ม จากนั้นเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมอบเงินให้กับเซี่ยปิงแม้แต่แดงเดียว นี่เป็นการจับเสือมือเปล่า

ต่อให้ยอดขายจะถึงสิบล้านเล่มจริงๆ เขาก็จะไม่เผชิญกับความสูญเสียเช่นกัน

ไม่ว่าจะมองอย่างไร นี่ก็เป็นการทำธุรกิจที่คุ้มค่าอย่างมาก ไม่มีเหตุผลที่จะต้องปฏิเสธ

“เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นก็เซ็นสัญญา” เซี่ยปิงยิ้มออกมาเล็กน้อย

เจียเอ่อหม่าก็ดำเนินการอย่างรวดเร็ว้ เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงที่ความล่าช้าจะก่อให้เกิดปัญหาตามมา เขาได้สั่งการให้เลขาของตนเองร่างหนังสือสัญญาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

จากนั้นแมวนักปราชญ์ก็ได้ทำการตรวจสอบสัญญานี้อย่างรอบคอบ ด้วยประสบการณ์ที่มากมายหลายปีของมัน มันก็คิดว่าไม่มีปัญหาใดๆกับสัญญานี้ ยุติธรรมอย่างมาก ฝ่ายตรงข้ามก็ไม่ได้ใช้ลูกไม้หรือเล่ห์เหลี่ยมอะไร สามารถที่จะเซ็นสัญญานี้ได้

ดังนั้นเซี่ยปิงจึงได้เซ็นสัญญานี้กับเจียเอ่อหม่าทันที

“คุณอู๋ วางแผนที่จะเขียนหนังสือออกมาอย่างไรหรือ?” เจียเออหม่าถามขึ้นมาอย่างสงสัย เพราะว่าชื่อเสียงนั้นเป็นเพียงแค่ส่วนเสริมให้ขายดี เนื้อหาของหนังสือนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด หากหนังสือมีคุณภาพต่ำ เป็นไปไม่ได้ที่ยอดขายจะไปถึงสิบล้านเล่ม

เพราะว่าท้ายที่สุดแล้ว ผู้คนก็ไม่ได้โง่เขลาเช่นนั้น

“รอให้ข้าได้เขียนมันออกมา เจ้าก็จะรู้เอง” เซี่ยปิงเผยรอยยิ้มออกมา เขาได้ตัดสินใจแล้ว

God Level Demon | ระบบความเกลียดชังปีศาจ

God Level Demon | ระบบความเกลียดชังปีศาจ

บุคคลที่ 1: “เซี่ยปิง!!! เจ้าขโมยวิทยายุทธของข้าไม่พอ เจ้ายังเอาความเป็นอมตะและคู่หมั้นของข้าไปด้วย เจ้ากับข้าจะได้เห็นดีกัน!”บุคคลที่ 2: “เขาช่างเป็นความอับอายของวงการศิลปะการต่อสู้จริงๆ”บุคคลที่ 3: “ปีศาจ! แม้แต่ลูกกวาดของเด็กเล็กๆก็ไม่เว้น”นักวิทยายุทธต่างๆของดวงดาวหยานหวงที่มีความฝันที่จะหักกระดูกของเจ้าเซี่ยปิงให้เป็นล้านๆชิ้นและดื่มเลือดของเขาให้หมดเซี่ยปิงเกาคาง: “ด้วยคะแนนความเกลียดชังที่มากขนาดนี้ ข้าจะเอาไปใช้ทำอะไรดี ข้าจะแลกเปลี่ยนคัมภีร์ที่ไร้เทียมทาน สิ่งประดิษฐ์จากสวรรค์หรือว่าวิชาบ่มเพาะอมตะ”

Options

not work with dark mode
Reset