“ไม่คาดคิดว่าจะพบเจอคนอื่นๆที่เข้ามาในทวีปโลหิตวิญญาณเช่นกัน?!”
เซี่ยปิงขมวดคิ้ว เขาไม่คาดคิดว่าจะมีเรื่องบังเอิญเช่นนี้ เนื่องจากผู้คนที่เข้ามาทำภารกิจภายในทวีปโลหิตวิญญาณนั้นมีจำนวนที่น้อยมาก เพราะว่าถึงอย่างไรอัตราการตายก็อยู่ในจุดที่น่าสะพรึงกลัว
ยิ่งไปกว่านั้นทวีปโลหิตวิญญาณก็มีขนาดที่ใหญ่มาก มีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล เมืองกระจัดกระจายอยู่ในสถานที่ต่างๆ ต่อให้จะต้องการเจอกันก็ยังคงเป็นเรื่องที่ยากมาก โดยทั่วไปแล้วผู้ที่เข้ามาทำภารกิจภายในทวีปโลหิตวิญญาณนั้นจะไม่ได้พบเจอคนนอกอื่นๆ
ทว่าเขาไม่คาดคิดว่าในสถานที่แห่งนี้จะได้บังเอิญเจอนักวิทยายุทธจากนอกจักรวาลถึง3-4คน
กลุ่มคนเหล่านี้ก็เห็นเซี่ยปิงและหลิวหยูหลานเช่นกัน ทันใดนั้นพวกเขาก็มีความสุขกันอย่างมาก คิดว่าเป็นกำลังเสริม ทว่าเมื่อพวกเขาสังเกตดูดีๆ เซี่ยปิงและหลิวหยูหลานนั้นมีแกนพลังฉีที่อยู่ในระดับสมปรารถนาเพียงเท่านั้น ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับพวกเขา
การที่จะเผชิญหน้ากับหมาป่าเขี้ยวดำจำนวน20ตัวด้วยพลังอำนาจเช่นนี้นั้น มันเป็นความพยายามที่ไร้ประโยชน์ก็ว่าได้
“คำราม!”
ในตอนนี้ หมาป่าเขี้ยวดำตัวหนึ่งได้ส่งเสียงคำรามออกมา คิดว่าเจ้ามนุษย์บัดซบเหล่านี้ที่ปรากฏขึ้นมานั้นเป็นกำลังเสริม สายตาของแต่ละตัวต่างก็เผยให้เห็นถึงแสงสีเลือดที่ส่องประกายออกมา
พวกมันแต่ละตัวต่างก็ตื่นเต้นอย่างมาก คิดว่ามีอาหารเพิ่มขึ้น ไล่ตามมาด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิม เริ่มที่จะก่อให้เกิดสายลมที่รุนแรงพัดเข้ามา ซึ่งแรงลมนั้นน่าอัศจรรย์อย่างมาก ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่อยู่รอบๆเริ่มที่จะหักและล้มลงมา
“สังหารพวกมันซะ”
เซี่ยปิงไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ แต่กลับสั่งการหลิวหยูหลาน สำหรับอสูรดุร้ายเหล่านี้นั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องถึงมือเขา
หลิวหยูหลานยืนอย่างมั่นคง เห็นเพียงแค่ว่ามือทั้งสองของเธอได้ประสานกัน ทันใดนั้นก็ได้แสดงทักษะพลังวิญญาณออกมา ทักษะคลื่นจู่โจมจิตวิญญาณ!
ปัง!
ทันใดนั้นพลังวิญญาณที่น่าสะพรึงกลัวก็ได้ปะทุออกมาจากร่างกายของเธอ ราวกับว่ามันทำปฏิกิริยาตอบสนองกับธรรมชาติก็ว่าได้ พุ่งออกไปสู่กลุ่มของหมาป่าเขี้ยวดำเหล่านี้
หมาป่าเขี้ยวดำเหล่านี้ส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าสมเพชทันที พวกมันรู้สึกเหมือนกับว่าศีรษะของตนเองถูกทุบด้วยค้อนขนาดใหญ่ก็ว่าได้ แม้แต่จิตวิญญาณของพวกมันก็สั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง
เพ่ง เพ่ง เพ่ง พวกมันไม่สามารถที่จะต้านทานพลังอำนาจของการสั่นสะเทือนนี้ได้ อวัยวะภายในได้รับความเสียหายอย่างหนัก จิตวิญญาณล่มสลายอย่างรวดเร็ว
หลังจากไม่กี่ลมหายใจ หมาป่าเขี้ยวดำเหล่านี้ก็ได้ล้มลงไปกับพื้น เลือดไหลออกมาและตายไปอย่างน่าสลด
หมาป่าเขี้ยวดำจำนวนยี่สิบตัวถูกสังหารไปเช่นนี้
“ทรงพลัง!”
ชายหนุ่มหลายคนตกตะลึง ไม่กล้าที่จะเชื่อสายตาของตนเอง เห็นได้ชัดว่าอยู่ในระดับเดียวกัน ทว่าหมาป่าเขี้ยวดำเหล่านี้ไล่ล่าพวกเขาเหมือนกับเป็นหมาข้างถนน แต่ต่อหน้าผู้หญิงคนนี้ กลับเปราะบางอย่างมาก เพียงแค่การโจมตีครั้งเดียว หมาป่าเขี้ยวดำเหล่านี้ก็ถูกสังหารไปทั้งหมด
“ดูเหมือนว่าข้าจะแข็งแกร่งมากขึ้น”
หลิวหยูหลานก็รู้สึกพึงพอใจจากผลลัพธ์ของการโจมตีนี้ หากเป็นก่อนหน้าที่จะได้พบกับเซี่ยปิงนั้น การที่เห็นหมาป่าเขี้ยวดำจำนวนยี่สิบตัวนั้น เธอก็จะไม่สามารถที่จะจัดการกับพวกมันอย่างแน่นอน
ทว่าหลังจากที่ติดตามเซี่ยปิงและเดินทางมาด้วยกัน เธอก็ได้กินเนื้อของอสูรดุร้ายเป็นประจำทุกวัน เสริมสร้างร่างกายของตนเอง หากเทียบกับก่อนหน้านี้นั้น เธอมีความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นมาหลายเท่า สามารถที่จะต้านทานพลังอำนาจทางจิตวิญญาณได้มากขึ้น
อีกทั้งเธอยังรู้สึกได้ถึงความแปลกประหลาดบางอย่าง การที่ตนเองติดตามเซี่ยปิงมานั้น รู้สึกได้ถึงพลังอำนาจที่ลึกลับของเจ้านี่ ทำให้พลังอำนาจทางจิตวิญญาณของเธอเติบโตขึ้นมาไม่รู้กี่เท่า เหมือนกับว่าได้อาบแสงสว่างของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ก็ว่าได้ ทำให้ร่างจิตวิญญาณแห่งสวรรค์ของเธอพัฒนาขึ้นมา
ทว่าเรื่องนี้เธอก็ไม่ได้พูดออกไป ทำได้เพียงแค่แอบสงสัยอย่างเงียบๆ ไม่รู้ว่าในตัวของเจ้าปีศาจต่างถิ่นนี่มีความลับอะไรอยู่ ทำไมการที่อยู่ข้างกายของเจ้านี่ ตนเองถึงได้มีปฏิกิริยาตอบสนองที่แปลกประหลาดเช่นนี้
“ท่าไม่ดีแล้ว ดูเหมือนว่าเจ้าผู้หญิงคนนี้จะเป็นชาวพื้นเมืองของทวีปโลหิตวิญญาณ”
ทว่ากลุ่มผู้คนก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว พวกเขาค้นพบว่าตนเองนั้นหนีเสือปะจระเข้ ต้องรู้ด้วยว่าชาวพื้นเมืองของทวีปโลหิตวิญญาณนั้นมีความเป็นปรปักษ์ต่อนักวิทยายุทธจากนอกจักรวาล
เมื่อใดที่ถูกค้นพบ จะต้องเกิดการต่อสู้อย่างแน่นอน
ตอนนี้เจ้าผู้หญิงคนนี้นั้นน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง สามารถที่จะสังหารหมาป่าเขี้ยวดำจำนวนยี่สิบตัวได้อย่างง่ายดาย จากนั้นการที่คิดจะสังหารพวกเขาเพียงแค่ไม่กี่คนนั้น คาดการณ์ได้ว่าคงจะไม่ใช่เรื่องยาก
ทันใดนั้นพวกเขาก็ต้องการที่จะหลบหนีออกไปทันที
“สหาย ไม่ต้องเกรงกลัวไป ข้าไม่ใช่ผู้คนของชนเผ่าวิญญาณ พวกเจ้าก็คงจะเข้ามาทำภารกิจในทวีปโลหิตวิญญาณเช่นกัน ใช่หรือไม่?” เซี่ยปิงเริ่มพูดขึ้นมา บ่งบอกสถานะของตนเอง บอกว่าไม่ใช่ชาวพื้นเมืองของทวีปโลหิตวิญญาณ
ในเวลาเดียวกันมือขนาดใหญ่ของเขาก็ได้โบกออกไป ทันใดนั้นบนฝ่ามือก็ปรากฏกลุ่มเปลวไฟขึ้นมา
“อะไรนะ?!”
ได้ยินแบบนี้ ทั้ง3-4คนก็รู้สึกมีความสุขทันที ในเมื่อสามารถที่จะควบคุมพลังอำนาจของเปลวไฟได้นั้น จะต้องไม่ใช่ชาวพื้นเมืองของทวีปโลหิตวิญญาณอย่างแน่นอน จะต้องเป็นนักวิทยายุทธที่มาจากนอกจักรวาลเช่นเดียวกันพวกเขา
เพราะว่าท้ายที่สุดแล้ว ผู้คนของชนเผ่าวิญญาณนั้นเชี่ยวชาญในด้านทักษะพลังวิญญาณ สำหรับทักษะอื่นๆนั้น ไม่ได้อยู่ในขอบข่ายของพวกเขา
“ใช่ พวกเราเป็นลูกศิษย์ของนิกายเมฆาทะยาน ครั้งนี้ที่มาที่นี่ก็เพื่อที่จะทำภารกิจของทวีปโลหิตวิญญาณ”
ชายหนุ่มที่สวมชุดคลุมสีเทาได้พูดขึ้นมา “ข้ามีชื่อว่าฉางเซวีย ส่วนทั้งสามคนนี้ก็เป็นลูกศิษย์ในนิกายเมฆาทะยานเช่นเดียวกับข้า พวกเขามีชื่อว่าหวังเฉิน เว่ยฉีและจินเจ๋อ ครั้งนี้ต้องขอบคุณสหายมากที่ได้ช่วยเหลือพวกเราไว้”
“ใช่สิ ไม่ทราบว่าสหายมีนามว่าอะไรหรือ?”
พวกเขาต่างก็มองไปที่เซี่ยปิง
“ข้ามีชื่อว่าอู๋ไท่โต่ว เป็นนักบ่มเพาะอิสระ” เซี่ยปิงกระพริบตา ถึงแม้ว่าทวีปโลหิตวิญญาณนั้นจะอยู่ในการควบคุมของนิกายจำนวนมาก ทว่าก็มีผู้บ่มเพาะอิสระบางคนที่จะเข้ามาเพื่อทำภารกิจเป็นครั้งคราวเช่นกัน
แน่นอนว่าการที่ต้องการเข้ามาในทวีปโลหิตวิญญาณในฐานะนักบ่มเพาะอิสระนั้น ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายที่มหาศาล ทว่าสถานการณ์เช่นนี้ก็มีให้เห็นบ่อยครั้ง ไม่ใช่เป็นเรื่องที่แปลกแต่อย่างใด
“อู๋ไท่โต่ว?!”
ได้ยินเช่นนี้ ฉางเซวียและคนอื่นๆก็มีสีหน้าที่แปลกประหลาดเล็กน้อยพร้อมทั้งมองเซี่ยปิงตั้งแต่หัวจรดเท้า
“เกิดอะไรขึ้น? มีปัญหาอะไรหรือ?” เซี่ยปิงถามอย่างสงสัย
ฉางเซวียไอออกมา “สหายอู๋ ช่างเป็นการเสียมารยาทจริงๆ เพราะว่าชื่อของเจ้า พวกเราจึงนึกได้ถึงเรื่องสำคัญที่โด่งดังภายในอาณาเขตดวงดาวทั้งห้าที่อยู่ในการปกครองของนิกายเมฆาทะยานของพวกเราเมื่อไม่นานมานี้”
“เรื่องสำคัญหรือ? เรื่องสำคัญอะไรกัน?”
เซี่ยปิงแสดงสีหน้าที่งุนงงออกมา
“คือว่า เมื่อไม่นานมานี้ในอาณาเขตดวงดาวทั้งห้าของพวกเรานั้นมีนักต้มตุ๋นที่โด่งดังคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมา เขามีชื่อว่าอู๋ตี่เป็นยอดนักต้มตุ๋นที่ยิ่งใหญ่”
“ใช่ เป็นเจ้านักต้มตุ๋นที่ไร้ยางอายอย่างมาก ไม่มีความละอายใจแม้แต่น้อย ใบหน้าของเขาด้านหนายิ่งกว่าอิฐเสียอีก ชอบที่จะหลอกลวงทายาทของผู้คนระดับสูง ฉ้อโกงเงินของพวกเขาไปนับสิบล้านเหรียญจักรวาล”
“บัดซบจริงๆ เมื่อไม่กี่เดือนมานี้เขาได้ปรากฏตัวขึ้นมาในเมืองภายในเครือข่ายเสมือนจริงและทำการฉ้อโกงครั้งยิ่งใหญ่ ฉ้อโกงเงินไปกว่าพันล้านเหรียญจักรวาล ผู้เคราะห์ร้ายนั้นมีเป็นจำนวนมากกว่าหนึ่งล้านคนเสียอีก เรื่องนี้ได้กลายเป็นข่าวที่โด่งดังไปทั่วทั้งอาณาเขตดวงดาวทั้งห้า ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนมากแค่ไหนที่ต้องการล้างแค้นเขา ทว่าจนถึงตอนนี้เขาก็ไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นมาอีกเลย เงียบหายไปเป็นระยะเวลานาน”
“ใช่ ญาติของข้าก็ถูกเจ้าบัดซบนั่นฉ้อโกงเงินไปเป็นจำนวนหลายแสนเหรียญจักรวาลเช่นกัน ซื้อรองเท้าปลอมมาเป็นจำนวนมาก ทุกๆวันทำได้แต่กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เขานั้นเกลียดชังเจ้าอู๋ตี่นั้นจนถึงไขกระดูกดำ ทุกๆวันเอาแต่สาปแช่งเจ้านักต้มตุ๋นนั่น”
ฉางเซวียและคนอื่นๆพูดออกมาอย่างไม่สบอารมณ์นัก บอกว่าเกลียดชังเจ้าอู่ตี่นั่นอย่างมาก
“ฉ้อโกงเงินไปนับพันล้านเหรียญจักรวาลหรือ? ช่างร้ายกาจริงๆ เจ้านี่เป็นยอดนักต้มตุ๋นที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง” เซี่ยปิงพยักหน้าและรู้สึกเหมือนกับว่าเหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นกับตนเอง “นักต้มตุ๋นเช่นนี้ ทุกๆคนมีสิทธิที่จะลงโทษเขา”
“ใช่ไหม? ดังนั้นหลังจากที่ได้ยินชื่อของสหาย ข้าจึงคิดว่ามันมีความคล้ายคลึงกับเจ้าอู๋ตี่นั่นมาก อีกทั้งคิดว่าเจ้าอาจจะเป็นพี่น้องกับเขา เกือบทำให้พวกเราหวาดกลัว ทว่าหลังจากที่ลองคิดดูดีๆแล้วนั้น มันก็เป็นเรื่องที่บังเอิญเกินไป ก่อนหน้านี้ข้าเกือบที่จะเข้าใจเจ้าผิด ช่างเป็นเรื่องที่น่าอายจริงๆ”
ฉางเซวียยิ้มออกมา
“ไม่เป็นไร ในชีวิตย่อมมีการเข้าใจผิดอยู่บางประการ เพราะว่าท้ายที่สุดแล้วชื่อของผู้คนนั้นก็มักที่จะมีความคล้ายคลึงกันอยู่เสมอ ไม่ใช่เรื่องที่แปลกแต่อย่างใด” เซี่ยปิงพูดออกมา บ่งบอกว่าตนเองนั้นเข้าใจอย่างมาก