Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 46 ลองมาอีกครั้งสิ

บทที่ 46 ลองมาอีกครั้งสิ

“ผมไป?”

เฉินตงหายใจติดขัด มองไปยังกรงเหล็กที่น่าอนาถอย่างเคร่งเครียด

ถึงแม้เขาเร่งอยากจะชนะเฉินเทียนหย่างมาก และให้คุนหลุนฝึกซ้อมเขาอย่างหนักและเหี้ยมโหด

แต่ให้เขาไปแข่งมวยใต้ดินจริงๆ หากเขาไม่รู้สึกหวาดกลัวนั่นคือการตอแหลทั้งเพ

ด้านหลังมีเสียงของคุนหลุนดังขึ้น

“คุณชายครับ ทักษะการต่อสู้ที่แท้จริงจะพัฒนาขึ้นจากการต่อสู้ในสนามจริงครับ หากคุณอยากประลองฝีมือกับเฉินเทียนหย่างภายในหนึ่งเดือน การฝึกฝนที่บ้าคลั่งก็ไม่เพียงพอครับ”

ระหว่างคิ้วของเฉินตงเลิกย่น สายตากลายเป็นแน่วแน่อย่างยิ่ง

แน่นอน เฉินเทียนหย่างฝึกฝนอย่างเชี่ยวชาญที่บ้านตระกูลเฉินมาตั้งแต่เด็ก

ถึงแม้เขาจะไม่พอใจอยู่บ้าง แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเฉินเทียนหย่างที่ผ่านการฝึกฝนอย่างมืออาชีพนั้นแกร่งกว่าเขามาก

ตั้งแต่เด็กเฉินเทียนหย่างได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี อีกทั้งเขาไม่สงสัยเลยว่าตระกูลเฉินต้องส่งคนให้ต่อสู้จริงกับเฉินเทียนหย่างแน่ๆ

ถ้าหากเขาเพียงพึงวิธีการฝึกซ้อมแบบเลือดเย็นอย่างหนัก อย่าว่าแต่ภายในหนึ่งเดือนเลย ถึงจะเป็นหนึ่งปีก็ไม่อาจเอาชนะเฉินเทียนหย่างได้

เรื่องบางเรื่อง ความแตกต่างราวฟ้ากับดิน หากรู้ว่าไม่อาจใช้ความพากเพียรพยายามเอาชนะได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องใช้วิธีเลี่ยงอันตรายถึงจะมีโอกาส

“ได้!”

เฉินตงพูดอย่างหนักแน่นหนึ่งคำ

ภายในโรงยิมมวยใต้ดินมีเสียงดังก้องขึ้นอยู่นาน ตอนนี้เริ่มซาลงแล้ว

การแข่งมวยใต้ดินเช่นนี้ หมัดสะเทือนเนื้อคือท่าที่ทำให้เลือดพุ่งออกมามากที่สุด ซึ่งอาจถึงชีวิตได้เลยทีเดียว

คล้ายกับโคลอสเซียม เมื่อเข้าสู่สนามแข่งสำหรับผู้ชม จะไม่มีคำว่าชีวิต มีเหลือแต่คราบเลือดและการทารุณที่ทำให้ตื่นตาตื่นใจเท่านั้น

แน่นอน สาเหตุที่ทำให้ได้รับความนิยมเป็นล้นพ้นเช่นนี้ เพราะโรงยิมมวยใต้ดินมีการพนันแพ้ชนะนั่นเอง

เมื่อประกาศรายชื่อผู้เข้าร่วมชิงชัยชนะในแต่ละครั้งก็จะเป็นเวลาในการพนันเลือกคนใหม่อีกครั้ง

ซึ่งการจ่ายค่าแทงนั้นขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้นั้นๆ

เมื่อหน้าจอใหญ่แสดงรายชื่อคู่ต่อสู้ยกต่อไป

จากเดิมที่กำลังเสียงดังลั่นในความมืดอยู่นั้นก็ได้กลับกลายเป็นสงบเงียบขึ้นมา

ทุกคนต่างมองหน้าจออิเล็กทรอนิกส์อย่างไม่อยากจะเชื่อ

ตงvsกูหลัง

“ตง?”

เฉินตงมองชื่อของตัวเองก็อดขำไม่ได้ คุนหลุนตั้งชื่อให้เขาได้สะเพร่ามาก?

แต่เมื่อเห็นค่าแทงที่ประกาศออกมาขาก็หัวเราะไม่ออกกันเลยทีเดียว

จ่ายค่าแทงเขาคือ 1ต่อ 10!

จ่ายค่าแทง“กูหลัง”คือ 1 ต่อ 3!

ไม่เพียงเท่านี้ ด้านล่างรายชื่อของกูหลังมีรายงานประวัติการแข่งขันอันยาวเหยียบปรากฏอยู่ด้วย ซึ่งสิ่งที่ดึงดูดสายตาก็คือแข่งสิบนัด

ชนะแปดครั้ง เสมอหนึ่งครั้ง และแพ้หนึ่งครั้ง

ส่วนสำหรับพื้นที่ด้านล่างรายชื่อของเฉินตงนั้นว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย

ความแตกต่างของการจ่ายค่าแทงและประวัติการแข่งขันก็เป็นที่ประจักษ์กันดีอยู่แล้วว่าเกือบไม่ต้องคาดเดาอะไรเลย

แม้กระทั่งเฉินตงที่เพิ่งมาโรงยิมมวยใต้ดินครั้งแรกยังดูออกเลย

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้ชมที่อยู่ในวงการนี้มายาวนานแล้ว

เพล้ง!

เสียงฮือฮาดังขึ้นมา

“มือใหม่?มือใหม่จะลงสนามเหรอ?”

“ค่าแทง 1 ต่อ 10 ไม่ใช่มือใหม่แล้วจะเป็นอะไร?ไม่มีประวัติการแข่งขันก็ต้องปะทะกับกูหลังแล้ว มือใหม่คนนี้ตายชัวร์ๆ”

“ฮ่าๆๆ……เดี๋ยวได้ดูโชว์กูหลังฆ่าคนเป็นแน่ มือใหม่คนนี้ต้องถูกกูหลังฆ่าในกรงเหล็กแน่ๆ”

……

แก๊งๆ!

จากนั้นก็เกิดเสียงดังกึกก้องของระฆังขึ้นมา

การแทงพนันเริ่มต้นขึ้น

ไม่มีใครโง่ การต่อสู้ที่ไม่น่าตื่นเต้นครั้งนี้ ถึงแม้ผลตอบแทนเมื่อแทงกูหลังชนะแล้วจะได้น้อย แต่ก็ต้องชนะอย่างแน่นอน ผู้ที่แทงกูหลังชนะนั้นมีทั้งหมดร้อยละเก้าสิบ

ส่วนร้อยละสิบที่เหลือคือหวังจะเลี่ยงพนันสักครั้ง เพราะ 1 ต่อ 10 นั้นได้คุ้มมากเลย ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อก่อนมือใหม่ก็เคยชนะมาก่อนเช่นกัน ถึงแม้จะน้อยมาก แต่ก็ยังมีอยู่จริง

“คุณชาย”

คุนหลุนยื่นหน้ากากสีขาวให้เฉินตง

เฉินตงพยักหน้ารับหน้ากากมาสวม

เขามาที่โรงยิมมวยใต้ดินก็เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่อสู้จริง ซึ่งการไม่เปิดเผยตัวตนคือสิ่งที่ดีที่สุด

จากการประกาศของกรรมการนอกกรงเหล็ก

เฉินตงสูดหายใจเข้าลึกๆ ภายใต้เสียงอึกทึกของผู้ชม เขาเดินเข้าไปในความมืดมิด บนหัวมีแสงสว่างของไฟ เดินเข้ามาจนอยู่ภายในกรงเหล็ก

จากนั้นกรรมการประกาศให้กูหลังลงสู่สนาม ทันใดนั้นทั้งสนามเต็มไปด้วยเสียงตะโกนที่ครึกครื้น

เฉินตงก็เห็นรูปร่างลีนคนหนึ่ง ผู้ชายเปลือยท่อนบนเผยกล้ามเนื้อสีบรอนซ์เป็นมัดๆค่อยๆเดินเข้ามาในกรงเหล็ก

หน้าตาที่แสนจะธรรมดา เกือบจะผอมแห้ง แต่ดวงตาคู่นั้นดุจหมาป่าดุร้าย ใต้หางตาข้างขวามีรอยแผลเป็นรูปตะขาบมาถึงบริเวณขมับ

เฉินตงกับกูหลังสบตากัน รู้สึกแข็งทื่อและขนแผ่นหลังตั้งขึ้นมา

หัวใจเต้นตึกตักเร็วขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้

เสียงตะโกนของผู้ชม แสงไฟที่แสบตา ยังมีกลิ่นอายที่น่าเกรงขามของกูหลังที่แผ่ออกมา

ณ ขณะนี้ ความตื่นเต้นอันแรงกล้าทำให้เฉินตงรู้สึกหวาดหวั่นเล็กน้อย

นี้เป็นครั้งแรกที่เขาจะสู้จริงๆกับคนอื่น อีกทั้งเมื่อสักครู่ก็เพิ่งเห็นการต่อสู้ที่นองเลือดอยู่หมาดๆ

เสียงนกหวีดดังขึ้น

กูหลังที่อยู่ตรงข้ามโค้งตัวคำนับ ราวกับกระสุนปืนพุ่งทะยานมาหาเฉินตง

ไม่มีคำพูดท้าทายใดๆ และไม่มีกิริยาที่ไร้ประโยชน์

ด้านในกรงเหล็กต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย

การกระทำและคำพูดที่ไม่สำคัญสามารถตัดสินว่าใครจะมีเลือดท่วมตัวและกลิ้งไปนอนอยู่กับพื้นได้เลย

“คุณชาย……”

นอกกรงเหล็กที่มืดมน คุนหลุนเรียกอย่างเป็นห่วงหนึ่งประโยค

ด้วยประสบการณ์จากการเป็นทหารเลี่ยงตายมาหลายปี เขารู้ว่าด้านในกรงเหล็กเฉินตงเป็นรอง กูหลังเป็นต่ออย่างเห็นได้ชัดเจน

ยิ่งไปกว่านั้น คุนหลุนสังเกตเห็นความตื่นเต้นอันแรงกล้าของเฉินตงได้

ปัง!

หมัดที่ไร้กระบวนท่าใดๆ

เฉินตงก็รู้สึกว่าบริเวณใบหน้ามีค้อนมหึมาทุบลงมา เกิดเสียงน่าอนาถ ในสมองเกิดเสียงวงๆๆ จากนั้นก็ล้มมาอยู่กับพื้น

เลือดสดไหลออกมาจากลำคออย่างระงับไม่ได้

ไม่รอให้เขาตอบสนอง สายตาเลือนรางก็เห็นเท้าของกูหลังกำลังถีบมาทางใบหน้าของเขาอย่างรวดเร็ว

เฉินตงเอาสองมือไปบดบังใบหน้าด้วยสัญชาตญาณ

ปัง!

เสียงแตกระเบิดดังขึ้น เฉินตงเดินสะเปะสะปะไปข้างหลังแล้วชนเข้ากับกรงเหล็กด้านบน

การจู่โจมที่ทรงพลังทำให้เขากระอักเลือดออกมาหนึ่งครั้ง หยดเลือดแปดเปื้อนบนหน้ากากขาว

กรีด!

คราบเลือดสดกระตุ้นให้ผู้ชมตื่นตาตื่นใจจนต้องตะโกนร้องออกมาเสียงดัง

“ผมประเมินคุณสูงไปแล้ว”

เวลานี้กูหลังผู้เป็นต่อไม่ได้รีบร้อนจู่โจมต่อ เขาสามารถดูความสามารถของเฉินตงออกจากการปะทะในเวลาอันสั้น

คนตรงหน้าอ่อนหัดยังเป็นเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอยู่เลย!

หรืออาจเคยประลองฝีมือกับคนจริงๆเป็นครั้งแรก

ไม่เช่นนั้นการตอบสนองที่ทึ่มราวกับไม้แกะสลักรูปไก่ ช่างยากต่อการเข้าใจเหลือเกิน

ยิ้มอย่างเหยียดหยาม“คุณมาชกมวยหรือมาให้ผมชกกันแน่”

เฉินตงเช็ดคราบเลือดที่ปาก เขาถูกกูหลังชกจนหน้าครึ่งซีกบวมช้ำไปหมด

และเมื่อกี้ใช้สองมือบังเท้าของกูหลัง เวลานี้ปวดราวกับกระดูกแตกร้าวยังไงอย่างนั้น

เขากัดฟันแน่น พยายามอดกลั้นความเจ็บปวดสุดกำลัง จ้องเขม็งกูหลังที่อยู่ตรงหน้า

กูหลังหยอกล้อ เขาไม่รู้สึกว่ามีอะไรไม่ถูกต้อง

หากเป็นแบบนี้ต่อไป เขาต้องถูกตีจนตายอยู่ในกรงเหล็กแห่งนี้แน่ๆ

หรือมีคุนหลุนอยู่ เขาคงไม่ถูกตีจนตาย แต่จุดจบต้องน่าอนาถมากๆเลยทีเดียว

ซึ่งไม่ใช่ผลที่เขาอยากได้

ทันใดนั้นเขานึกถึงคำพูดของคุนหลุนหนึ่งประโยค

“สงบนิ่ง!ต้องสงบนิ่งถึงขีดสุด!มีเพียงความสงบถึงจะสามารถพบจุดบกพร่องของศัตรูได้ โจมตีครั้งเดียวก็เอาให้ถึงตายไปเลย

ซึ่งทักษะการต่อสู้ก็มีเทคนิคสำหรับฆ่าคนได้ด้วย ใช้ท่าไม้ตายท่าเดียวในความเงียบสงบก็เพียงพอแล้ว!”

“ฮู๊ว……”

หายใจออกแรงๆหนึ่งเฮือก เฉินตงค่อยๆหลับตาลง

“หืม?”

กูหลังจอมขี้แหย่รู้สึกสงสัยขึ้นมา

ภายใต้ความมืดมน คุนหลุนก็ขมวดคิ้วขึ้นมา

หลังจากหลับตาลง เฉินตงพยายามปรับการหายใจ เพื่อใช้การหายใจให้อารมณ์ของตนเป็นปกติ

ไม่นาน เขาก็ไม่รู้สึกว่าที่นี่เสียงดังหนวกหูและไม่รู้สึกแสบตาไฟบนหัวอีกต่อไป

ทุกอย่างสงบเงียบลง เขาก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมา

จากใบหน้าที่ว้าวุ่นและเคร่งเครียดเล็กน้อย บัดนี้หนักแน่น สงบและลึกล้ำเป็นอย่างมาก เขาอยู่ใต้หน้ากากสีขาว แต่ยังสามารถชวนให้กระวนกระวายขึ้นมาได้

เฉินตงยิ้มบางๆ“ลองมาอีกครั้งสิ”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset